Chapter 425 นี่มันคุณภาพระดับอะไรกัน อ๊ากก!
เซียวจุ้ยจื่อที่มีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง ทว่ากับไม่สามารถต้านแรงดีดของ AK47 ทำให้เขายิงพลาดเป้าเกือบทั้งหมด.
จุนซ่างเซียวที่รับปืนมา กล่าวออกมาว่า “เขายิงกันแบบนี้.”
ปัง ปัง ปัง!
ปืนที่ยิงรัวออกไปติดต่อกัน แม้นว่าแรงดีดจะมาก ทว่าเขาก็ยังคงยืนอย่างมั่นคง.
ในโลกเดิมแม้นว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ใช้ AK47 จริง ทว่าในเกมนั้นเขาใช้ไม่รู้กี่ครั้ง นี่เป็นอาวุธที่เขาใช้บ่อยเป็นอย่างมาก.
แน่นอน.
เป้าคราวนี้ที่ระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ
ไม่เพียงแค่เป้า ทว่ารอบ ๆ ยังได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง.
“เฮ้อ.”
จุนซ่างเซียวที่กระหน่ำยิงจนพอใจ จากนั้นก็คลายนิ้ว กล่าวเสียงเบา “หากมีแมกกาซียาวกว่านี้ คงจะดี.”
“เจ้าสำนัก.”
เซียวจุ้ยจื่อที่คิดครู่หนึ่ง กล่าวออกมาวา “ขอข้าลองอีกครั้ง.”
จุนซ่างเซียวที่นำ AK47 ในแหวนมิติออกมาส่งให้เขา ”ปืนนี้เป็นของเจ้า.
เซียวจุ้ยจื่อมีฝีมือในการยิงที่ยอดเยี่ยม ทว่าจำเป็นต้องสาธิตให้เขาดูก่อน หากว่าเขาสามารถต้านแรงดีดได้ ก็จะทำให้เขาสามารถล๊อกเป้าและยิงได้อย่างแม่นยำ.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ทดสอบให้คุ้นเคยแล้วจะสามารถยิงได้อย่างไม่มีปัญหา.”
“ครับ.”
เซียวจุ้ยจื่อที่ไม่กินเนื้อย่างแล้ว เขาที่ออกไปทดสอบยิงปืนยังพื้นที่เปิด.
จากนั้น เขาที่ทดสอบจนสามารถรับแรงดีดได้อย่างสมบูรณ์ แม้แต่ยิงออกไปติดต่อกัน 40 ลูกอย่างไม่มีปัญหา.
ทว่า 40 ลูกที่ยิงออกไปนั้น ไม่จำเป็นต้องยิงเข้าไปจุดเดียวกันก็ได้.
เซียวจุ้ยจื่อที่ทดสอบหลายครั้ง ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เจ้าสำนัก ปืนนี้ แม้นว่าพลังทำลายจะเทียบกับสไนเปอร์รูปแบบ 88 และ AWM ไม่ได้ ทว่ามันสามารถยิงออกไปได้เร็ว และยิงติดต่อกันได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่ต้องเน้นความแม่นยำสูง เจ้าควรรู้ว่ามันเน้นยิงเป็นจำนวนมาก.”
“ชิงหยาง.
เขาตะโกน “เจ้าควรลองดู.”
“ครับ.”
หลี่ชิงหยางที่วางเนื้อเสียบไม้ จากนั้นก็รับ AK47.
เขาที่ศึกษาท่าทางจากเซียวจุ้ยจื่อก่อนที่จะเหนี่ยวไก ปังปังปัง แม้นว่าจะไม่เข้าเป้าเลย ทว่าก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียง.
ก่อนหน้านี้ เขาและซูเซียวโม่เคยทดสอบสไนเปอร์รูปแบบ 88 กับเซียวจุ้ยจื่อ ทว่าเขายิงไม่แม่นเอาซะเลย กล่าวได้ว่าไม่ใกล้เคียงเลยด้วยซ้ำ.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “หลังจากนี้ปืนนี้เป็นของเจ้า ค่อย ๆฝึกฝน ไม่จำเป็นต้องแม่นยำที่สุด เพียงแค่โจมตีได้รวดเร็วที่สุดก็พอ.”
“ครับ!”
ลี่ชิงหยางที่ตอบรับ เริ่มศึกษาการยิงกับศิษย์น้องเซียว รับฟังประสบการอย่างถ่อมตัว.
จุนซ่างเซียวที่เดินไปใกล้ลู่เชียนเชียนและเอ่ยออกมาว่า “ต้องการหรือไม่?”
สตรีชุดงดงามราวกับเทพธิดา แม้นว่าจะงดงามแต่กับเย็นชา หากนางใช้ปืน AK47 ยิงกระหน่ำ ภาพที่เห็นดูเหมือนว่าจะน่าตื่นเต้นเล็กน้อย.
น่าเสียดาย.
ลู่เชียนเชียนเอ่ย “เจ้าสำนัก ข้าชอบจัดการปัญหาด้วยกระบี่มากกว่า.”
แม้นว่าจะปฏิเสธ ทว่าน้ำเสียงของนางไม่เย็นเยือบเหมือนเมื่อก่อน เวลานี้เหมือนอ่อนโยนมากขึ้น.
ลู่เชียนเชียนที่เปลี่ยนไปไม่น้อย ปรกตินางจะเงียบตลอดทั้งวัน แม้แต่เผยความเย็นชาขับไล่คนพันลี้ออกมา.
แน่นอน.
ภูเขาน้ำแข็งแม้นว่ายากจะละลาย ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะละลายไม่ได้.
“ซิงเฉิน.”
จุนซ่างเซียวที่จ้องมองไปยังเย่ซิงเฉิน กล่าวออกมาว่า “เจ้าต้องการหรือไม่?”
“เจ้าสำนัก.”
เย่ซิงเฉินเอ่ย “ข้าชอบจัดการปัญหาด้วยหมัด.”
มารดาเถอะ.
เจ้าคนนี้มันเท่มากไปแล้ว!
โชคดีที่ซูเซียวโม่และลี่เฟยไม่ปฏิเสธ ไม่เช่นนั้นเขาคงขายหน้าเล็กน้อย.
เย่ซิงเฉินรู้ว่า อาวุธดังกล่าวนั้นนับว่ามีพลังที่ยอดเยี่ยม ทว่าเขากับชอบหมัดและอาวุธทั่วไปในการจัดการศัตรูมากกว่า.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วมีทักษะหมัด เจ้าต้องการหรือไม่?”
“ไม่....”
เย่ซิงเฉินที่ตกใจ ก่อนที่จะเปลี่ยนคำพูดทันที “ต้องการ!”
สำหรับราชันต์รัตติกาล.
เขาต้องเผยท่าทางอหังการตลอดเวลาออกมา.
จุนซ่างเซียวที่ส่งหมัดถล่มปฐพีให้กับเขา จากนั้นก็มอบให้หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อด้วย.
มีเพียงลู่เชียนเชียนและโจวหงที่เขาไม่ได้มอบให้.
นี่คือเพลงหมัดธาตุหยาง ไม่เหมาะกับสตรี.
ส่วนโจวหงเป็นมือกระบี่ ไม่ฝึกฝนวิชาหมัดอยู่แล้ว.
กล่าวตามตรง สำหรับศิษย์หญิงใหญ่สำนักไท่กู่เจิ้ง ทรัพยากรยุทธ์ที่ได้รับประจำเดือน คงมีเพียงทักษะน้ำแข็งและอุปกรณ์ที่เหมือนกับกำไลน้ำแข็งเท่านั้นที่เหมาะกับนาง.
ทักษะยุทธ์ที่รีเฟรชได้ก่อนหน้านี้ ก็มีแสงเจ็ดสีทำลายล้างและคมเพลิงวิญญาณแผดเผา ที่เหมาะกับผู้ชายมากกว่า.
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกเสียใจเล็กน้อย.
แม้นว่าลู่เชียนเชียนจะเย็นชา ทว่าด้วยการรู้จักตลอดหนึ่งปีมานี้ เขาบอกได้ว่านางไม่ใช่คนไร้หัวใจ.
หนำซ้ำ.
ตั้งแต่ที่เขาข้ามโลกมา ที่แทบไม่ต่างจากคนง่อย อยู่ในสภาพอนาถเป็นอย่างมาก โชคดีที่นางเข้าร่วมสำนัก.
แม้นว่านางจะเย็นชา เก็บความรู้สึก ทว่าเขาที่ได้รับแต้มสนับสนุน 1 แต้ม เปิดร้านค้าระบบ และยังได้ของขวัญมือใหม่ จนกระทั่งตั้งรากฐานขึ้นมาได้ในที่สุด.
หากไม่มีนางในวันนั้น คงไม่มีเขาในวันนี้แน่.
กล่าวได้ว่า ด้วยการที่นางเข้าร่วมสำนักครั้งนั้น จึงทำให้เขาสามารถที่จะก้าวมาถึงตรงนี้ได้.
หากนางไม่เข้าร่วมในเวลานั้น ยังจะมีใครสมัครเข้าร่วมสำนักเขาอีกล่ะ.
จากนั้นการเข้าร่วมงานรับศิษย์ร้อยสำนัก หากไม่เพราะว่าพบเจอกับหลี่ชิงหยาง คงไม่สามารถรับศิษย์กลับมาได้มากมาย ดูเหมือนว่าชีวิตของเขาจะมีโชคอยู่ด้วย.
จุนซ่างเซียวที่คิดย้อนหลัง หากคิดดูให้ดี หากลู่เชียนเชียนไม่ปรากฏ แล้วเขาจะสามารถยกระดับสำนักไท่กู่เจิ้งมาถึงขั้นนี้รึ?
ดังนั้น แม้นว่านางจะเย็นชา ปากคอเราะร้าย แต่เขาก็ไม่เคยถือสานางเลย.
ศิษย์หญิงใหญ่ของข้า.
ถึงแม้นว่าเขาจะลำเอียงบ้าง แล้วมีปัญหาอะไรล่ะ?
“เชียนเชียน.”
จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนศิลายักษ์ เอ่ยออกมาว่า “เปิ่นจั้วมีกระบี่หานมั่งระดับกลาง มีคุณสมบัติธาตุน้ำแข็งที่เหมาะกับเจ้า.”
“แน่นอน.”
เขาที่ใช้อำนาจ “นี่คือคำสั่งของเปิ่นจั้ว.”
ลู่เชียนเชียนที่ต้องการปฏิเสธ จำต้องรับกระบี่หานมั่งมา.
บังเอิญที่นางยื่นมือออกมา จุนซ่างเซียวเห็นกำไลน้ำแข็งในข้อมือของนางโดยบังเอิญ เขาที่กล่าวออกไปว่า “เจ้ายังสวมกำไลนั่นอยู่รึ?”
ลู่เชียนเชียนที่ดวงตาสั่นส่ายไปมา ก่อนที่จะปกปิดแขนเสื้อของนางทันที จากนั้นก็กระโดดออกไป ปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียว ราวกับว่าต้องการรักษาระยะห่างกับเจ้าสำนักเอาไว้.
“เมื่อไหร่นางจะเปิดใจที่เย็นชานี้ซะที.”
จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะนำตำราหมัดถล่มปฐพีออกมา ก่อนที่จะเริ่มศึกษาอย่างระมัดระวัง.
“ติ๊ง!”
ในเวลานั้นเสียงของหอหลอมอุปกรณ์ก็ดังขึ้น รองเท้าเหยียบเมฆาก็สำเร็จแล้ว.
......
ในเวลาเดียวกันขณะที่จุนซ่างเซียวพูดคุยกับลู่เชียนเชียนอยู่นั้น เย่ซิงเฉินที่เปิดตำราหมัดออกมาดู ก่อนที่จะอุทานออกมาเบา ๆ “วิชาหมัดนี้หากสำเร็จขั้นสุด ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าทักษะระดับศักดิสิทธิ์ขั้นต้นเลย!”
เป็นความจริง.
ทักษะหมัดถล่มปฐพีนั้นเป็นวิชาที่ได้จากร้านค้าระบบ ง่ายที่จะฝึกฝน ด้วยพรสวรรค์และความเข้าใจของเย่ซิงเฉิน สามารถบอกระดับของมันได้ในทันที.
ขณะที่เขาเตรียมจะศึกษา บังเอิญจ้องมองไปยังเจ้าสำนัก สายตาของเขาชะงักงัน.
เขาเห็นอะไร?
เขาเห็น จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนศิลายักษ์ ก่อนที่จะถอดร้องเท้าออกมา.
ต่อหน้าสาธารณะชน นี่เขาถอดรองเท้าโดยไม่แยแสคนอื่นเลย.
กับคนที่เป็นประมุขสำนัก ทำเช่นนี้ อ๊าก!