Chapter 422 ความเสียใจชาติที่แล้วของราชันรัตติกาล
เรื่องราวการประลองกับนิกายเซิ่งชวน ชนะกว่า 70 ครั้งนั้น ได้กระจายไปทั่วยุทธภพ.
เจ้าสำนักจุนมีความเข้าใจวิถียุทธ์ที่สูงล้ำ แน่นอนว่าศิษย์ของเขาย่อมต้องร้ายกาจเป็นแน่ ทำให้พวกเขาสนใจให้ศิษย์ของตัวเองได้แลกเปลี่ยนฝีมือกัน.
หลายปีก่อน มีหลากหลายสำนักที่ส่งศิษย์ออกมาแข่ง เวลานี้ ในครั้งนี้ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็คาดหวังที่จะสู้กับศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งเป็นอย่างมาก!
โชคดีจริง ๆ.
หลี่ชิงหยาง เซียวจุ้ยจื่อและศิษย์คนอื่น ๆ ที่คาดหวังจะประลองฝีมือกับศิษย์นิกายระดับสูงเป็นอย่างมากด้วย นั่นก็เพราะว่าต้องการจะยืนยันความก้าวหน้าของตัวเอง กับเหล่าศิษย์นิกายระดับสูงที่โดดเด่น ว่าพวกเขาอยู่ในระดับใดท่ามกลางศิษย์นิกายขนาดใหญ่.
ท้ายที่สุดแล้ว กลับเป็นการประลองที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก!
“ตูมมมม!”
บนลานหิน เซียวจุ้ยจื่อที่ใช้หมัดเดียวต่อย เอาชนะศิษย์สายในนิกายซ่างกานได้อย่างง่ายดาย และด้านล่างก็มีคนที่พ่ายแพ้ไปแล้วหกคน!
“......”
เหล่าเจ้านิกายต่าง ๆ ที่มุมปากกระตุก.
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง ชนะติดต่อกันไปเจ็ดคู่แล้ว แทบไม่ได้ใช้ทักษะยุทธ์อะไรออกมา เพียงแค่ใช้หมัดโลน ๆ ก็เอาชนะศิษย์นิกายซ่างกานเพียงไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น!
“ชิงหยาง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ขึ้นไปแลกเปลี่ยนฝีมือกับศิษย์นิกายซ่างกาน.”
“ครับ.”
หลี่ชิงหยางที่ก้าวขึ้นเวที เซียวจุ้ยจื่อ จึงก้าวลงมา.
เจ้านิกายซ่างกานที่ส่งศิษย์ขึ้นไปต่อสู้อีก ท้ายที่สุดก็พ่ายแพ้คนแล้วคนเล่า แพ้อย่างสู้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย.
เพราะว่านี่คืองานแลกเปลี่ยนวิถียุทธ์เทือกเขาหัวซาน เป็นการประลองเชื่อมสัมพันธ์ หลี่ชิงหยางแม้นว่าจะดูเหมือนลงมือหนัก ทว่าการโจมตีของเขาที่เอาชนะอีกฝ่ายได้โดยไม่ได้ทำให้อีกคู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บเลย.
เพียงไม่นาน.
การต่อสู้ห้าคู่ก็ผ่านไป.
นับรวมตอนแรก นิกายซ่างกานที่ส่งศิษย์ขึ้นมา 12 คน พ่ายแพ้สมบูรณ์ ไม่มีใครที่มีโอกาสใกล้เคียงจะชนะได้เลย!
ใบหน้าของศิษย์นิกายซ่างกานกลายเป็นซีดเซียว.
หากว่าสามารถต่อสู้ได้อย่างสูสีกับสำนักไท่กู่เจิ้งแล้วพ่ายแพ้ไป ก็ยังพอทำให้พวกเขายอมรับได้ ทว่าผลการต่อสู้กับอีกฝ่ายพวกเขากับพ่ายแพ้โดยที่สู้ไม่ได้เลย.
เหลือเพียงหนึ่งคนเท่านั้น ที่เวลานี้กำลังถูกจับจ้องจากคนมากมาย.
“เจ้านิกาย.”
ศิษย์คนดังกล่าวเอ่ยออกมาว่า “ศิษย์ยินดีที่จะออกไปต่อสู้!”
“ไป.”เจ้านิกายหลินเอ่ย.
ศิษย์ของนิกายซ่างกานคนสุดท้ายที่ก้าวขึ้นเวที เวลานี้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มากมาย กล่าวพูดคุยเสียงดัง.
“นั่นเจียงเสิ่นซือ!”
“ผังผู้กล้าพรสวรรค์ชั้นมนุษย์ลำดับที่ 89!”
“การประลองสำนักครั้งที่แล้วมีพลังบ่มเพาะอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่เจ็ด เพียงแค่ปีเดียว ก็มีระดับเก้าอาจารย์ยุทธ์แล้วรึ? คู่ควรกับรากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เติบโตได้เร็วมาก.”
จุนซ่างเซียวไม่ได้สนใจว่าจะมีรากวิญญาณแบบใด ทว่าเขาที่เอ่ยกล่าวในใจ “ผังผู้กล้าอย่างงั้นรึ? หรือว่ามีชั้นปฐพีด้วย?”
ระบบเอ่ย “ในทวีปชิงหยุนนั้น มีการจัดลำดับเหล่าผู้มากพรสวรรค์ โดยแยกออกเป็น ระดับสวรรค์ ระดับปฐพี และระดับมนุษย์ จากสูงไปต่ำ.”
“เหล่าผู้เยาว์ที่ได้รับการจัดลำดับในผังผู้กล้านั้น ถึงแม้นว่าจะเป็นชั้นมนุษย์ ก็ถือว่าเป็นสุดยอดพรสวรรค์ของแผ่นดินแล้ว.”
“เป็นเช่นนี่นี่เอง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ยถาม “แล้วข้าจะไปอยู่ในผังได้อย่างไร?”
ระบบเอ่ย “มีเพียงแค่ศิษย์ผู้เยาว์และผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้ แม้นว่าโฮสน์จะมีคุณสมบัติพอ แต่เพราะเป็นเจ้าสำนัก ดังนั้นจึงไม่สามารถถูกนำไปจัดลำดับได้.”
“!”
จุนซ่างเซียวรู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก.
ถึงจะมีการจัดลำดับในต่างโลก แต่ตัวเองไม่สามารถเข้าร่วมได้ ทำให้เขาไม่สามารถทำตัวเท่ได้เลย.
เขาที่รู้สึกไม่ยินดีแม้แต่น้อยเอ่ยออกมาว่า “แล้วมีการจัดลำดับเจ้าสำนักหรือไม่?”
ในเมื่อไม่สามารถเข้าร่วมจัดลำดับผังผู้กล้าได้ จุนซ่างเซียวก็หวังว่าจะได้เข้าร่วมผังเจ้าสำนัก เผื่อว่าจะมีรางวัล หากได้รับชัยชนะเลิศ.
“......”
ระบบเอ่ย “ในทวีปชิงหยุนนั้นไม่มีการจัดระดับเจ้าสำนัก ทว่าก็มีการจัดลำดับกองกำลัง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มอิทธิพลใหญ่ และเหล่ากองกำลังที่ได้รับการประเมินนั้นต่างก็ประลองกันอยู่เป็นประจำ.”
“งั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวดวงตาเป็นประกาย “หากสำนักไท่กู่เจิ้งต้องการเข้าร่วมผังกองกำลังล่ะ?”
“เจ้าถามข้า แล้วข้าจะไปถามใคร?”
ระบบที่เก็บรวบรวมข้อมูลทั่วทวีปชิงหยุน หากแต่ก็ไม่สามารถรู้ได้โดยระเอียดทุกอย่างแน่นอน.
“.”
ระบบที่สาดน้ำเย็นเข้าใจ “ด้วยระดับของสำนักไท่กู่เจิ้งเวลานี้ ต้องการเข้าร่วมผังกองกำลัง เป็นเพียงแค่ฝันเท่านั้น.”
“......”
จุนซ่างเซียวเงียบโบกมือ ”ซิงเฉิน ขึ้นไปประลองกันศิษย์นิกายซ่างกาน.
“ฟิ้ว!”
เย่ซิงเฉินที่ขึ้นไปบนเวที.
เขาที่จ้องมองไปยังเจียงเสิ่นซือ แววตาเผยความดูแคลน “ผังมนุษย์ลำดับที่ 89 ขยะจริง ๆ.”
“......”
เหล่าสำนักต่าง ๆ ที่มุมปากกระตุก.
เหล่าคนที่มีชื่อในผังผู้กล้านั้น แน่นอนว่าต้องมีพรสวรรค์ที่สูงล้ำ ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่เอ่ยว่าขยะ ช่างโอหังจริง ๆ.
อย่างไรก็ตาม หากพวกเขารู้ว่าในชาติที่แล้วของเย่ซิงเฉิน เพียงแค่ 20 ปี ก็อยู่ในผังสวรรค์เป็นหนึ่งในยี่สิบ พวกเขาคงไม่คิดว่าอีกฝ่ายโอหังแน่นอน.
เกี่ยวกับผังผู้กล้า มีมานานหลายพันปีแล้ว และมีการกำหนดอายุด้วยนั่นเอง.
ราชันย์รัตติกาล ที่อยู่ในผังสวรรค์ อันดับที่เก้าคือสถิติดีที่สุด.
ซึ่งเมื่อไหร่ที่อายุเกิน ชื่อจากผังผู้กล้าก็จะถูกลบออกอัตโนมัติ เขายังไม่ได้อันดับหนึ่งก็ถูกลบออกจากผังก่อน.
เหล่าผู้มากพรสวรรค์ ยิ่งมีพรสวรรค์สูงเท่าไหร่ก็จะมีระดับสูงเท่านั้น หากไม่ตกตายไปก่อน คนที่อยู่ในผังผู้กล้านั้น จะต้องก้าวไปถึงจักรพรรดิยุทธ์และปราชญ์ยุทธ์ได้อย่างแน่นอน.
แน่นอน.
ในชาติที่แล้วหากไม่เพราะว่าอายุเกิน เย่ซิงเฉินจะต้องเอาลำดับหนึ่งของผังสวรรค์มาให้ได้แน่ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในความเสียใจของเขาในชาติก่อนเช่นกัน.
ในเวลานี้ได้ยินคนกล่าวถึงผังผู้กล้า ทำให้เขานึกเรื่องนี้ขึ้นได้.
เรื่องที่เสียใจในอดีต.
ชีวิตนี้เขาจะต้องแก้ไขมัน!
ผังสวรรค์ลำดับหนึ่ง ข้าเย่ซิงเฉินจะต้องคว้ามันมาให้ได้!
“ฟู่ ฟู่!”
ในเวลานั้น ทั่วร่างอดีตราชันย์รัตติกาล ที่แผ่กลิ่นอายที่หนักหน่วงออกมา.
เจียงเซี่ยที่ถูกเรียกว่าขยะ คราแรกรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ทว่าเวลานี้กลายเป็นระวังตัว ขึ้นมาในทันที!
คนผู้นี้ แข็งแกร่งมาก!
เย่ซิงเฉินที่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส “อย่าเสียเวลา เข้ามา.”
“วูซซซ!”
เจียงเสิ่นซือที่ปลดปล่อยพลังระดับเก้าอาจารย์ยุทธ์ออกมาเช่นกัน ก่อนที่จะใช้ท้าเท้าที่รวดเร็วพุ่งออกไป.
“ฟิว-”
พลังวิญญาณที่แผ่ปกคลุมทั่วร่าง เห็นเป็นริ้วแสงสายรุ้งพุ่งเข้าไป.
“ตูมมมมม!”
เย่ซิงเฉินที่ก้าวไปด้านหน้า หมัดที่แข็งแกร่งต่อยออกไปยังริ้วแสงที่พุ่งเข้ามา ระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นก็ใช้ท่าเท้าเหยียบเมฆาพุ่งเข้าหา.
ทักษะยุทธ์รึ?
นี่คือทักษะสร้างร่างเงา.
การที่ร่างเงาถูกทำลายไป 2-3 ร่างนั้นไม่มีปัญหาเลย.
ร่างเงาที่ถูกส่งออกไปตัวแรกนั้น เป็นเพียงการหยั่งเชิงและเก็บข้อมูลเท่านั้น.
หากแต่อีกฝ่ายแข็งแกร่ง ทรงพลังมาก.
หมัดตรงที่เหวี่ยงออกมานั้นทำลายร่างเงาของเขาไปในทันที เวลานี้เจียงเสิ่นซือ ทำได้ทำแค่หลบ ไม่กล้าเข้าไปปะทะตรง ๆ.
ความแข็งแกร่งของศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งนั้นไม่ธรรมดา เขารับรู้ก่อนขึ้นเวทีแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะเข้าปะทะตรง ๆได้!
“หมื่นเงาจิตวิญญาณ!”
ร่างเงาของเจียงเสิ่นซือที่แบ่งออกไปยังจุดต่าง ๆ เป็นร่างแสง ที่โจมตีมาจากมุมที่แตกต่างกัน.
น่าเสียดาย ที่พลังจากร่างแยกเงานั้นลดลงเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ตาม แม้นว่าร่างเงานั้น จะมีพลังเท่ากับร่างจริง ต่อหน้าเย่ซิงเฉินแล้ว เพียงแค่หมัดเดียวก็สามารถทำลายให้สลายหายไปในทันทีได้เช่นกัน นี่คือความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง!
เหล่าเจ้านิกายที่มุมปากกระตุก.
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งมีพลังบ่มเพาะอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่เจ็ด ทว่ากับไล่ทุบระดับเก้าอาจารย์ยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย!
“ตูมม!”
เย่ซิงเฉินที่ทำลายร่างแยกเงาของฝ่ายตรงข้าม ด้วยการปล่อยหมัดคมวิญญาณออกไปหลายอันพร้อม ๆ กัน.
ตูมม! ตูมม! ตูมม!
พื้นเวทีที่ระเบิดเสียงดัง พลังวิญญาณและฝุ่นที่ลอยคละคลุ้งกระจายไปทั่ว!