ตอนที่ 44 คำขอของ หยางหยิง
“ป้าหยาง พูดจริงจังไปไหม ใครบอกว่าต้องคบหากับใครบางคนเมื่อเข้าเรียนมหาลัย?”
“มีไปก็อาจเรียนได้ไม่ดี รอให้เรียนจบก่อนแล้วได้งานทํา ค่อยมาพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้ดูก็ได้?”
ซูเหวิน คิดไม่ออก เลยพูดตามความคิดในใจของเขาออกมา
“ได้งานทำ?”
“นายมันยังเด็กเกินไป ท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่ได้เข้าสู่สังคม ทั้งไม่รู้ว่าการจ้างงานตอนนี้มันยากแค่ไหน?”
เฉินเหว่ย ส่ายศีรษะ และไม่ลืมที่จะกล่าวโจมตีอีกครั้ง
“ใช่! เมื่อกี้เรายังบอกว่าถ้าคุณเรียนจบแล้วให้คุณมาทํางานกับ อาเหว่ย แต่ที่ไหนคุณกลับไม่เต็มใจ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้มีกี่คนที่อยากจะประจบน้องชายฉัน? และขอบอกเลยว่า ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว!”
เฉิน เสี่ยวเยว่ ก็กล่าวออกไปอย่างไม่พอใจ
“โอ้.. โอเค ผมรับรู้ถึงความเมตตาของคุณแล้ว แต่ผมมีบริษัทของตัวเอง ให้ผมติดตาม พี่เหว่ย พวกคุณคิดว่ามันเป็นไปได้มั้ยล่ะ?”
ซูเหวิน พูดติดตลกเล็กน้อย และพูดมันออกไปอย่างช้าๆ
พอทันทีที่คําพูดนี้หลุดออกมา ผู้ชมทั้งหมดก็แทบจะเป็นใบ้ไป
อย่าว่าแต่ครอบครัวเฉินเลย ขนาดพ่อกับแม่ของเขาเองก็ยังตกใจเหมือนกัน
พวกเขารู้เพียงแค่ว่าช่วงนี้ลูกชายหาเงินได้มากมายจากการเปิดร้านออนไลน์ แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะมีบริษัทเป็นของตัวเองแล้ว
“นายเป็นนักศึกษา ..กลับเปิดบริษัท?”
ใบหน้าของ เฉินเหว่ย เต็มไปด้วยความสงสัย
“ถูกต้อง เสี่ยวเหวิน ไม่ใช่ว่าฉันจะพูดดูถูกคุณหรอกนะ แต่ดู.. ดูสภาพความเป็นอยู่ของบ้านพวกคุณก่อน ตรงไหนที่เหมือนบอกว่าตัวเองเปิดบริษัทได้…”
“ถ้าคุณมีเงินเปิดบริษัทจริงๆ แล้วคุณจะเช่าบ้านที่ทรุดโทรมแบบนี้อยู่ไปเพื่ออะไร?”
เฉิน เสี่ยวเยว่ ก็ไม่เชื่อเช่นกัน
เธอไม่ชอบคนที่ชอบแสร้งตบหน้าตัวเองจนบวมอ้วนที่สุด
“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้..”
“และอ้าา.. พวกคุณพูดได้ไม่เลว บ้านหลังนี้ทรุดโทรมจริงๆ ดังนั้นผมจึงซื้อวิลล่าที่ อ่าว ไห่หยุน และพร้อมแล้วที่จะพาพ่อกับแม่ไปอยู่ที่นั่น”
เมื่อเผชิญกับข้อสงสัย ซูเหวิน เขายังคงสงบ และพูดอย่างใจเย็นออกไป
ทันใดนั้น เฉินเหว่ย และเฉิน เสี่ยวเยว่ ก็ทําหน้าสีงงงวย
“อ่าว ไห่หยุน?”
“ซูเหวิน เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ นายบอกซื้อวิลล่า ที่อ่าว ไห่หยุน?”
เฉินเหว่ย เกือบจะหัวเราะแล้ว
“อ่าว ไห่หยุน เป็นย่านวิลล่าชั้นนําในเมืองม่อ ราคาบ้านที่นั่นสูงถึงหลายร้อยล้าน คนแบบนายสามารถซื้อได้?”
เฉินเหว่ย กล่าวต่อ
แม้แต่พี่สาวของเขา เฉิน เสี่ยวเยว่ ที่กลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยไปแล้วคนนี้ก็ไม่กล้าจินตนาการว่าตัวเองสามารถเข้าไปอาศัยอยู่ใน อ่าว ไห่หยุน ได้
แล้ว.. มันจะเป็นไปได้ไหม สำหรับครอบครัวซู?
หยางหยิง ไม่ได้อยู่ที่เมืองม่อ เธอจึงไม่รู้ว่า อ่าว ไห่หยุน คือที่ไหน แต่จากคำพูดของลูกชายเมื่อกี้นี้ เธอก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เธอจึงยิ้ม และพูดว่า : “อาเหว่ย นี่ทําอะไรอยู่นะ?”
“ในเมื่อ ซูเหวิน มีเงินเปิดบริษัท การซื้อวิลล่าก็ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แน่นอนลูกเองไม่จําเป็นต้องรีบกล่าวปฏิเสธคนอื่นก็ได้”
โดยไม่คาดคิด คราวนี้ หยางหยิง ช่วย ซูเหวิน พูดในสิ่งดีๆ
จากนั้นเธอก็มองไปที่พ่อแม่ของ ซูเหวิน และพูดด้วยรอยยิ้มไปว่า : “กว่างเซิง เจวียนจู ซูเหวิน จากครอบครัวของพวกคุณเองก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน”
“นี่เขาก่อตั้งบริษัทตัวเอง แถมยังซื้อวิลล่าได้อีก ช่างน่าทึ่งมากจริงๆ”
“พวกคุณดูสิ เราต่างก็เป็นเพื่อนบ้านกัน เธอช่วยพาเราไปชมดูวิลล่าของเธอหน่อยได้ไหมล่ะ เพื่อให้ครอบครัวเฉินของเราได้เห็น ได้เรียนรู้ด้วยว่า วิลล่า ที่อ่าว ไห่หยุน ที่ว่านั้นมันเป็นอย่างไร?”
ขณะพูดไปพลาง เธอก็ทําสีหน้าอ้อนวอน
เฉิน เสี่ยวเยว่ ที่ยังรู้สึกประหลาดใจอยู่เมื่อครู่ ที่ว่าทําไม จู่ๆ แม่ถึงช่วย ซูเหวิน พูด..
ที่ไหนกัน.. พอเมื่อได้ยินคำพูดนี้ไปในขณะนี้ เธอก็เข้าใจได้ในทันทีเลยว่า.. แม่กำลังวางแผนเปิดโปงคำโกหกของอีกฝ่าย!
“นี่…”
เป็นไปตามคาด เมื่อพอได้ยิน หยางหยิง พูดแบบนี้ อู๋เจวียน ก็เกิดลังเลเล็กน้อยแล้ว เธอเองไม่รู้ว่าสิ่งที่ลูกชายพูดมันจะเป็นความจริงหรือไม่
ท้ายที่สุดแล้วนั่นคือ วิลล่า ในเขต อ่าว ไห่หยุน ที่ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนรวยอย่างแท้จริงเท่านั้นจะอาศัยอยู่ได้ แล้วแบบนี้ ..ใครจะไปกล้าคิด?
เมื่อเทียบกับแม่ของเขาแล้ว ซูเหวิน กลับดูสงบตั้งแต่ต้นจนจบ
เมื่อเผชิญหน้ากับคําขอของ หยางหยิง ตัวเขาเองจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนอะไรอยู่
แน่นอนว่า.. คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการอยากเปิดเผยตัวเขา
แต่แล้วหากคิดดูอีกที
วิลล่าของเขามีไว้เพื่อเพลิดเพลินกับการอยู่อาศัย แล้วมันไปเกี่ยวข้องอะไรกับคนเหล่านี้?
คิดไปแล้วเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องพาคนอื่นไปที่บ้านของเขาเพื่อพิสูจน์อะไร ส่วนอีกฝ่ายจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ ..แล้วแต่เลย
แต่แล้วทันใดนั้น ระบบก็ส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในใจ(หัว)ของเขา
“ติ๊ง!”
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่กระตุ้นภารกิจสำเร็จ”
“ภารกิจระบบ : ยอมรับคำขอของ หยางหยิง และพาครอบครัวเฉิน ไปที่วิลล่า”
“รางวัลการทำภารกิจ : หุ้นอสังหาริมทรัพย์บนถนนการค้า จิ๋นหฺวา”
“ถนนการค้า จิ๋นหฺวา?”
ซูเหวิน ตกตะลึงไปก่อนในตอนแรก จากนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ
ถนน จิ๋นหฺวา เป็นถนนการค้าที่มีชื่อเสียงในเมืองม่อ ซึ่งมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเป็นจํานวนมากในทุกวัน
ที่สำคัญ.. ในถนนการค้าสายนี้นั่นมีร้านค้าอย่างน้อยหลายร้อยร้าน
ค่าเช่าร้านค้ารายปีเพียงแห่งเดียวก็สูงถึงหลายแสนหยวนแล้ว และถ้ารวมร้านค้าทั้งหมดภายในหนึ่งปีจะได้เป็นเงินจำนวนเท่าไหร่?
เพียงแค่คิด ก็ทำให้ผู้คนมีความสุขแล้ว..
“รับภารกิจ” ซูเหวิน กล่าวทันที
จากนั้น ซูเหวิน เงยหน้ามอง หยางหยิง และคนอื่นๆ ก่อนจะพูดไปว่า : “ในเมื่อพวกคุณอยากไปดู วิลล่า งั้นผมจะพาพวกคุณไปที่นั่นก็ได้..”
ซูเหวิน ทอดถอนหายใจก่อนจะกล่าวออกไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ไปในที่สุด
พอคําพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนก็ถึงกลับตกตะลึง
โดยเฉพาะกับ ..หยางหยิง
เดิมทีเธอพูดแบบนี้เพียงเพื่อทำให้ ซูเหวิน หวาดกลัวเท่านั้น
ซึ่งเธอไม่เคยคิดเลยว่า.. อีกฝ่ายจะเห็นด้วยจริงๆ
นี่เขาไม่กลัวความจริงจะถูกเปิดเผยออกมาหรือยังไง?
“เสี่ยวเหวิน อย่ามาล้อเล่นนะ”
เฉิน เสี่ยวเยว่ กล่าวออกไปด้วยความประหลาดใจ
“ฮ่าฮ่าๆ! พี่เสี่ยวเยว่ ผมจะไปล้อเล่นอะไร?”
“เราทุกคนเป็นเพื่อนบ้านกัน แล้วเหตุใดผมต้องเอาเรื่องนี้มาล้อเล่นกับพวกคุณด้วย?”
“ไปกันเถอะ!”
ซูเหวิน พูดแล้ว เขาก็เดินออกไปที่ประตูทันที
ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวเฉินมึนงงไปหมดแล้ว และไม่เข้าใจว่า ซูเหวิน คิดที่จะทำอะไร
แต่ถึงกระนั้น..
พวกเขายังคงคิดว่า ซูเหวิน แค่พูดเสียงดังขึ้นเพื่อที่จะหลอกลวงคนอื่นเท่านั้น ดังนั้นทุกคนจึงพากันเดินออกจากบ้านด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม.. สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ
เมื่อทุกคนลงมาถึงชั้นล่าง.. พี่น้องตระกูลเฉินก็รู้สึกราวกับถูกตีหัวทันที ฉับพลันพวกเขาก็ได้พากันมีสีหน้าซีดเผือด..
นั่นมันเป็นเพราะพวกเขาพบว่า ณ เวลานี้ ซูเหวิน กําลังขับรถ Koenigsegg อยู่ในซอย ซึ่งเขากำลัง ..กลับหัวรถอยู่
“พระเจ้าเอ้ย นั่นมัน Koenigsegg! มันคือ Koenigsegg จริงๆ มันเป็นไปได้ยังไง?”
“นี่...คือ ตาฉันกำลังพร่าอยู่ใช่หรือไม่? ถึงได้เห็น ซูเหวิน ..ขับ Koenigsegg ..อยู่?”
เฉินเหว่ย และเฉิน เสี่ยวเยว่ มองไปที่รถซุปเปอร์คาร์สุดเท่ สุดหรูที่มีสไตล์ตรงหน้า.. ดวงตาของพวกเขาเองก็ฉายชัดถึงความไม่อยากจะเชื่อออกมา
ทั้งการแสดงออกนี้ของพวกเขานั้น ..มันดูน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าวันสิ้นโลกเสียอีก
“Koenigsegg ที่คุณพูดถึงหมายถึงอะไร?” ทันใดนั้น อู๋เจวียน ก็กล่าวถาม
“Koenigsegg มันก็คือรถซุปเปอร์คาร์สุดหรูรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นในอันดับต้นๆ ของโลก ยิ่งไปกว่านั้นมันถึงกับมีราคาสูงถึง 23.88 ล้านหยวน”
เฉินเหว่ย อธิบายทันที ด้วยน้ำเสียงที่ดูสั่นเทา…
“อะไรนะ 23.88 ล้านหยวน?”
ซู กว่างเซิง ตกตะลึง อู๋เจวียน เองหัวใจแทบเต้นผิดปกติไปในทันที บอกตามตรง.. เธอเกือบที่จะหัวใจวายตายแล้ว
โอ้..พระเจ้า!
23.88 ล้าน มันคือแนวคิดแบบไหนอะไรยังไง?
กรรมกรอย่างพวกเขาทํางานหนักมาตลอดทั้งวันทั้งคืน และอาจจะหาเงินมากขนาดนี้มาไม่ได้ ..ต่อให้ต้องทํางานแบบนี้ไปอีกหลายร้อยปีก็ตาม
อู๋เจวียน ก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน
ส่วนครอบครัวเฉินนั้น พวกเขายิ่งตกใจมากกว่าอีก
เมื่อกี้.. ตอนที่อยู่ชั้นบน ซูเหวิน บอกว่าเขาเปิดบริษัท และได้ซื้อวิลล่า พี่น้องตระกูลเฉิน และหยางหยิง ยังคิดว่าอีกฝ่ายแค่กำลังคุยโวอยู่เท่านั้น..
ไม่คิดเลยว่าพอเพิ่งลงมาถึงชั้นล่างอีกฝ่ายก็ถึงกับทำให้พวกเขาตกใจมากขนาดนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หยางหยิง รีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนจะพูดไปว่า : “ฮ่าฮ่าๆ! รถคันนี้มีมูลค่าเยอะขนาดนี้ มันช่างหรูหราดีจริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่ารถคันนี้เป็นของเขาเอง ..หรือไปยืมคนอื่นมา?”
ได้ยินแม่พูดเช่นนี้ พี่น้องตระกูลเฉิน ก็รู้สึกตื่นขึ้นมาทันที
..ใช่แล้ว!
แม้ว่า ซูเหวิน จะขับรถซุปเปอร์คาร์คันนี้อยู่เวลานี้ แต่มันสามารถอธิบายอะไรได้? และบางทีเขาอาจจะยืมมันมาจากเพื่อนก็ได้?
นอกจากนี้ ซูเหวิน เขายังคงเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่ ในมหาลัยเองก็ย่อมจะต้องมีคนรวยรุ่นสองมากมาย ดังนั้นไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะไปขอยืมรถจากเพื่อนร่วมชั้นมาเพื่อแสร้งทำเป็นอวดก็ได้ใครจะไปรู้.. จริงไหม?