ตอนที่แล้วตอนที่ 38 งานเลี้ยง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 40 ประธาน Worster

ตอนที่ 39 ความโกรธของ ถัง จื้อตง


“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน เธอสวยมาก?”

“อ่า..ใช่! สวยมากจริงๆ เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นสาวสวยแบบนี้ ว้าว.. เธอดูสวยกว่าดาราด้วยซ้ำ”

“ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอก็หน้าตาดีเหมือนกันนะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย สองคนนี้เป็นใครกันแน่?”

“เดี๋ยวก่อนนะ ผู้หญิงคนนี้ฉันรู้สึกคุ้นๆ ..เหมือนจะเคยเห็นที่ไหน?”

เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ในคืนนี้ดูมีความสดใส มีเสน่ห์ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจของใครหลายๆ คนไปอย่างไม่ต้องสงสัย

การปรากฏตัวของเธอ เรียกได้ว่าดึงดูดสายตาของคนส่วนใหญ่ไปได้ในทันที

ในหมู่พวกเขา ถานห่าว และคุณชายลู่ รวมถึงคนอื่นๆ เองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

“ทำไมพวกนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” ถานห่าว อดจะพูดถามขึ้นอย่างตกใจไม่ได้

“ใครจะไปรู้ บางทีคาดว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวง ได้เชิญ ดอกไม้งาม เซี่ย มาก็ได้ ดังนั้นเธอถึงมาที่นี่”

“ส่วน ..ซูเหวิน แน่นอนก็แค่อยากได้ประโยชน์จึงติดตามมาด้วย!”

หลังจากตกตะลึง คุณชายลู่ ก็เกิดมีความคิดบางอย่างเลยจงใจพูดออกไปแบบนั้น

ในความเป็นจริง หลังจากเหตุการณ์ในโรงภาพยนตร์ครั้งล่าสุด เขาเองก็ได้รู้แล้วว่าตัวตนของ ซูเหวิน นั้นคือ ประธาน ของโรงแรมฮิลส์

ดังนั้น การที่ ซูเหวิน มาปรากฏตัวที่นี่ บางทีอาจได้รับเชิญมาก็ได้ และสำหรับเขาแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร

แต่ในขณะนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่บอกกับ ถานห่าว ..เกี่ยวกับเรื่องนี้

เพราะเขารู้ดีว่า ถานห่าว มีปัญหากับ ซูเหวิน มาก่อน แล้วทําไมไม่ใช้มือของอีกฝ่ายเข้ายั่วยุ ซูเหวิน ล่ะ?

และเป็นไปตามคาด.. พอได้ยิน คุณชายลู่ พูดแบบนี้ ใบหน้าของ ถานห่าว ก็เผยให้เห็นสีหน้าเหี้ยมเกรียมขึ้นทันที

จากนั้นเขาก็นำ คุณชายลู่ และคนอื่นๆ ไปยังทิศทางที่ ซูเหวิน อยู่

ขณะเดียวกันทางด้าน ซูเหวิน..

หลังจาก ชุน อวี้เหม่ย พา ซูเหวิน และเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เข้ามาในห้องโถง เธอมองซ้ายมองขวา แต่ไม่พบคนจากตระกูลถัง เธอจึงรีบหันมามอง ซูเหวิน และคนอื่นๆ พร้อมกล่าวขอโทษว่า : “คือไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นคะ เพราะพอดีว่า ประธานถัง ยังอยู่ที่นี่เมื่อสักครู่นี้ แต่ตอนนี้เขาหายไปได้อย่างไร?”

“ท่านประธานซู คุณหนูเซี่ยคะ ฉันจะออกไปตามหา ประธานถัง สักครู่ พวกคุณพักอยู่ที่นี้รอชั่วครู่นะค่ะ และเดี๋ยวฉันกลับมา..”

เมื่อกล่าวเช่นนั้นไป ชุน อวี้เหม่ย ก็โค้งคำนับเล็กน้อยต่อ ซูเหวิน และเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว

ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา ย่อมไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกเดินไปมารอบๆ อย่างสบายๆ

ในเวลานี้ ถานห่าว และคุณชายลู่ ก็เดินมาถึงหน้า ซูเหวิน และเข้ามาหยุดขวางทางพวกเขา

“ซูเหวิน นายมาทำอะไรที่นี่ แล้วนี่ใครมันปล่อยให้คนอย่าง..แก เข้ามา?”

เมื่อ ถานห่าว เข้ามาดักขวางทางข้างหน้า เขาก็มอง ซูเหวิน ด้วยสีหน้าไม่พอใจทันที แล้วชักถามพลางยิ้มเยาะอีกฝ่าย

อีกทั้งน้ำเสียงของเขาฟังดูไม่เป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย ทำราวกับเป็นเจ้าของที่นี่

“อย่างไรกัน..เรา มาไม่ได้เหรอ?”

ซูเหวิน พูดถามไปแบบเนิบๆ ดูติดตลกด้วยซ้ำ

“แน่นอน แล้วนี่แก.. มันไม่ดูสถานะของตัวแกเองเลย” ถานห่าว ตอบด้วยสีหน้าเย็นชา

ส่วน เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็ถึงกับตกตะลึงแล้ว..

เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้มาพบเจอเพื่อนร่วมชั้นที่นี่ และยังเป็นสองคนที่เธอเกลียดที่สุด นั่นจึงทำให้เธออดจะขมวดคิ้วไม่ได้ : “มันมากเกินไปไหม แล้วการที่เรามา หรือไม่มามันเกี่ยวข้องอะไรกับคุณด้วย?”

“เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ใจเย็นๆ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คุณ”

“คุณเป็นถึงลูกสาวของ ประธานเซี่ย เซี่ย เฉิงตง แน่นอนว่าย่อมมีสถานะอันสูงส่ง และเราเองเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณได้มาเข้าร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวงของเรา”

พอได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้ ถานห่าว ก็พูดพลางหัวเราะทันที

แต่แล้วเขาก็หันไปมอง ซูเหวิน อีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ารังเกียจออกมาอย่างเด่นชัด : “แต่ ซูเหวิน คนนี้มันนับเป็นตัวตนอะไรกัน เขามันเป็นได้แค่ไอ้คนจนๆ เท่านั้น แล้วคนแบบนี้สมควรที่จะอยู่ในสถานที่เช่นนี้?”

“ต้องรู้ก่อนว่าที่นี่คือ โรงแรมฮิลส์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงของบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวงของเรา อีกอย่างแต่ละคนที่เข้ามาที่นี่ก็ล้วนแต่มีหน้ามีตากันทั้งนั้น”

เสียงพูดของ ถานห่าว เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ และมันได้ดึงดูดผู้คนจํานวนมากให้หันมามองดูทางนี้ในทันที

และนี่มันก็คือ สิ่งที่เขาต้องการ.. ให้เป็น

เมื่อก่อน ซูเหวิน มีเรื่องทะเลาะกับเขาที่มหาลัยมาโดยตลอด ตอนนี้อีกฝ่ายยังได้รับความรักจาก ดอกไม้งาม เซี่ย ดังนั้นเขาเองก็รู้สึกโกรธเกลียดอีกฝ่ายทันทีตั้งแต่แรกเห็นหน้า

มาวันนี้มีโอกาสทำให้อีกฝ่ายต้องอับอายขายหน้า แล้วคิดหรือว่าเขาจะปล่อยโอกาสดีๆ เช่นนี้ ไปได้?

แต่ในทางกลับกัน คุณชายลู่ เมื่อมาถึงหน้า ซูเหวิน เขากลับไม่ได้พูดอะไรออกไปเลยสักคํา

นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า ประธาน ของโรงแรมแห่งนี้ ก็คือ ซูเหวิน เดี๋ยวถ้าหากตัวตนของเขาถูกเปิดเผย คนที่จะถูกตบหน้าก็จะกลับเป็นตัวเขาเอง แล้วทําไมเขาต้องหาเรื่องใส่ตัวเองด้วย?

ตอนนี้หากได้นั่งอยู่บนภูดูเสือสู้กัน(1) มันคงจะวิเศษไม่น้อยจริงๆ ว่ามั้ย?

ในขณะนี้ ถานห่าว ที่เห็นว่ามีคนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกภูมิใจ และซึ่งมันได้เพิ่มความหยิ่งยโสของเขามากขึ้น

เขามอง ซูเหวิน และยิ้มเย็นชาก่อนจะพูดไปว่า : “ซูเหวิน นี่ไม่ใช่สถานที่ที่แกควรมา และฉันขอแนะนําให้แกรีบไสหัวออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงความอับอาย…”

เมื่อเผชิญกับความอัปยศอดสู ซูเหวิน กลับไม่ได้จริงจังอะไรกับเรื่องนี้มากนัก

เขาแค่สงสัย เลยถามไปว่า : “ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าคุณสั่งให้ฉันออกไปในฐานะอะไร?”

“ถ้าตัวคุณเองได้รับเชิญจาก ฮุยหวง งั้นคุณเองก็อยู่ในฐานะแขกคนหนึ่ง แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ให้ฉันออกไป”

“แต่ถ้าคุณบอกว่าคุณเป็นคนมาจาก ..ตระกูลถัง แซ่คุณก็ไม่ได้แซ่ถัง?”

ถานห่าว พูดอย่างภาคภูมิใจไปว่า : “ฉันไม่ใช่แซ่ถังจริงๆ แต่ ถัง จื้อตง จากตระกูลถัง เป็นพี่เขยของฉัน แค่นี้ฉันก็ถือได้ว่าเป็นครึ่งหนึ่งของตระกูลถังแล้ว”

“งั้นไหนแกลองพูดอีกครั้งสิว่า ฉันคนนี้มีสิทธิ์จะไล่ให้แกออกไปหรือไม่?”

พอคําพูดนี้หลุดออกมา ทันที ซูเหวิน ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย ..จริงๆ

ถัง จื้อตง เป็นพี่เขยของเขา?

ซูเหวิน เหมือนจําได้แล้ว ..จะว่าไปแล้ว ภรรยาของ ถัง จื้อตง ก็แซ่ถาน เหมือนจะมีชื่อว่า ถานเชี่ยน และเธอมักจะอุ้มเด็กทารกคนหนึ่งอยู่บ่อยๆ

กลายเป็นว่า เธอ กับถานห่าว เป็นพี่น้องกัน?

โลกก็.. ช่างกลมจริงๆ

“โอ้.. ประธานซู คุณมาแล้ว”

“เมื่อกี้นี้ต้องขอโทษจริงๆ ครับ พ่อของผมเป็นโรคความดันโลหิต และเมื่อสักครู่ท่านรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย ผม กับแม่เลยส่งท่านไปพักผ่อนที่ห้องก่อน เลยไม่สามารถออกมารอต้อนรับคุณได้ ต้องขออภัยด้วยจริงๆ!”

เมื่อ ซูเหวิน กำลังประหลาดใจกับความสัมพันธ์ระหว่าง ถานห่าว กับตระกูลถัง

ในที่สุด ชุน อวี้เหม่ย ที่เพิ่งจากไปก็กลับมาถึงพร้อมกับครอบครัวถัง..

ถัง จื้อตง อธิบายเหตุผลที่จากไปอย่างสุภาพ กลัวว่าจะเป็นการทําให้ ซูเหวิน ไม่พอใจ

“ไม่เป็นไร มันถูกต้องแล้ว เรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดเช่นนี้ไม่อาจมองข้ามได้”

“และมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่พวกคุณมาเร็ว ไม่งั้นแขกมาใหม่อย่างผมอาจจะถูกไล่ออกไปแล้ว”

ซูเหวิน ยิ้มเยาะพลางกล่าวออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“หื้ม…?”

“ประธานซู คุณพูดถึงเรื่องอะไรกัน?” ถัง จื้อตง ตกตะลึง

แต่ก่อนที่ ซูเหวิน จะทันได้กล่าวอธิบายอะไรออกไป ถานห่าว ที่อยู่ข้างๆ จึงตัดสินใจจุดชนวนไปพร้อมกับกล่าวพลีชีพตนเองไปว่า : “พี่เขย นั่นคุณกำลังทําอะไรนะ ทําไมถึงต้องสุภาพกับไอ้ซูเหวิน มันขนาดนั้นด้วย?”

“ไอ้นี่มันเป็นแค่คนจนๆ คนหนึ่ง คู่ควรอะไรกับงานเลี้ยงที่บริษัทเราจัดขึ้นด้วย แล้วเมื่อกี้ผมก็กําลังจะขับไล่มันออกไป!”

ถานห่าว พูดด้วยสีหน้าเหยียดหยามอีกฝ่ายอย่างรุนแรง และเขาไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังสร้างปัญหาใหญ่แค่ไหน

..เป็นไปตามคาด, ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา

ไม่เพียงแต่ ถัง จื้อตง เท่านั้น หญิงชราแห่งตระกูลถัง และถานเชี่ยน ซึ่งเป็นพี่สาว ต่างก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ ถานห่าว ด้วยความประหลาดใจ และแสดงสีหน้าออกมาราวกับไม่เชื่อ… ในสิ่งที่ตนเองได้ยิน

“คุณ... เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ คุณต้องการขับไล่ ประธานซู ออกไป!?”

สีหน้าของ ถัง จื้อตง อึมครึมทันที และเขาถามออกไปด้วยเสียงทุ้มต่ำอย่างถึงขีดสุด

“เกิดอะไรขึ้น พี่เขย? ไอ้นี่มันก็เป็นแค่คนที่ไม่มีนัยสําคัญอะไรเท่านั้น ทำไมเราไม่ไล่มันออกไปเลยล่ะ?”

“และไอ้คนจนๆ คนหนึ่ง สมควรไหมที่จะเข้ามาร่วมงานเลี้ยงที่บริษัทของเราจัดขึ้น…”

จนถึงตอนนี้ ถานห่าว ดูเหมือนจะไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ และยังคงพูดออกไปอย่างมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาต่อมา

“เพียะ!”

เสียงตบที่คมชัดดังขึ้น…

เสียงนี้ดังมากจนทุกคนรอบข้างได้ยิน..

ทันใดนั้นทุกคนก็มีสีหน้าตกใจ

“แกมันมาพูดเรื่องบ้าอะไร?”

“แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้ามาไล่ ประธานซู ออกไปจากที่นี่ ฉันคิดว่าแกมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หรือว่านี่ แกคิดฉันคนนี้โง่มาก?”

ถัง จื้อตง มองไปที่ ถานห่าว และอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไปด้วยความโกรธ ด้วยน้ำเสียงอันเย็นยะเยือก

“ถ้าแกมันไม่อยากอยู่ที่นี่ งั้นก็ไสหัวออกไปซะ อย่าทำให้ฉันอับอายที่นี่!”

ถัง จื้อตง ยังคงดุด่าออกไปด้วยความโกรธ เขารู้สึกเหมือนว่าปอดของเขามันกำลังจะระเบิด

ก่อนหน้านี้ ตระกูลถัง เคยทำให้ ประธานซู ขุ่นเคือง เมื่อพบเจอกันครั้งแรก ในที่สุด คราวนี้พวกเขาก็คว้าโอกาสนี้มาไว้ได้แล้ว.. และโดยคิดจะใช้โอกาสนี้ลดความขัดแย้ง และสร้างมิตรภาพใหม่กับอีกฝ่าย

แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าน้องภรรยาจะทำให้ความสัมพันธ์กลับต้องมาตึงเครียดยิ่งขึ้น แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร!?

“เสี่ยวห่าว นายมันไม่ใช่เด็กแล้วนะ แล้วนี่คิดไหมว่าทำอะไรลงไป?”

“เธอช่วยหยุดสร้างปัญหาให้กับตระกูลถัง ของเราสักทีได้ไหม?”

แม้แต่แม่ของ ถัง จื้อตง ก็กล่าวสั่งสอน ถานห่าว ด้วยสีหน้าน่าเกลียด และทัศนคติของเธอดูยิ่งมาจะยิ่งมีแต่จะแข็งกร้าวมากขึ้น

ถานห่าว เวลานี้รู้สึกสับสน

เขาจับสัมผัสแก้มที่รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก โดยไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองจะถูกตบตี และแถมเขายังถูกพี่เขยตบตี ..ต่อหน้าทุกคน

(1)[นั่งอยู่บนภูดูเสือสู้กัน (坐山观虎斗)] - เป็นคำอุปมาถึงทัศนคติของผู้ยืนดูต่อการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายแล้วใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่ว่า (รอโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด