ตอนที่ 38 งานเลี้ยง

“คําพูดนี้ไม่เลวเลย โดยเฉพาะกับคนที่เคยถูกปฏิเสธมาก่อน …ควรเข้าใจความหมายของประโยคนี้อย่างลึกซึ้ง”

“ผมกล่าวได้ถูกต้องใช่มั้ย คุณชายเสิ่น?”

ซูเหวิน เอ่ยเบาๆ พลางย้อนถามอีกฝ่ายโดยไม่แสดงถึงอารมณ์ใดๆ

“นาย…”

เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะพูดแบบนี้ คุณชายเสิ่น ที่เมื่อกี้ยังยิ้มร่าอยู่ตอนนี้เขากลับมีสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว

ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขา หลังจากได้ยินคําพูดนี้แล้ว ก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากขึ้น โดยคิดจะก้าวขึ้นไปสั่งสอนบทเรียนให้แก่ ซูเหวิน

แต่สุดท้าย.. พวกเขาก็ถูกหยุดโดย คุณชายเสิ่น

เขายิ้ม แล้วพูดไปว่า : “มีคนต่างบอกว่า ซูน้อย.. รับมือได้ยากมาก วันนี้ก็ช่างสมกับชื่อเสียงที่ได้ยินมาจริงๆ”

“เอาล่ะ.. แล้วเราจะได้พบกันอีกครั้งในโอกาสหน้า”

หลังพูดจบ เขาก็ได้พาพวกพ้องจากไป

เพียงแต่เมื่อกําลังจะจากไป สายตาของอีกฝ่ายที่ฉายชัดออกมาทีละคน มันราวกับมีเจตนาฆ่าพุ่งเจาะทะลุเข้าไปในร่างของ ซูเหวิน

สําหรับเรื่องนี้ ซูเหวิน ไม่คิดใส่ใจเลยแม้แต่น้อย..

“เอาแล้วไง ให้ตาย.. เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น? คุณชายเสิ่น มาได้อย่างไร แล้ว..เขาคุยอะไรกับ ซูเหวิน?”

“ใช่แล้ว! คุณชายเสิ่น ชอบ ดอกไม้งาม เซี่ย มาตลอด แต่ดอกไม้งาม เซี่ย กลับไปชอบ ซูเหวิน ตอนนี้ คุณชายเสิ่น ปรากฏตัวออกมา มันหมายความว่าอะไร คงไม่ใช่ว่ามาประกาศสงครามกับ ซูเหวิน หรอกใช่ไหม?”

“เป็นไปได้มาก.. โอ้ย เพื่อนร่วมชั้น ซู ครั้งนี้นับว่าโชคร้ายเกินไปจริงๆ เพิ่งจัดการ คุณชายหลี่ ไปได้ไม่นาน นี่กลับต้องมาเผชิญหน้ากับ คุณชายเสิ่น อีกครั้งแล้ว”

ข้างป่าละเมาะเล็กๆ นักศึกษาหลายคนที่ได้เห็นฉากที่ไม่คาดคิดนี้ จึงพากันพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นอย่างออกรสออกชาติ

ในขณะเดียวกัน เมื่อมองดูแผ่นหลังของ คุณชายเสิ่น และคนอื่นๆ ที่จากไป เซี่ย ซินเหยา ก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิด

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”

เมื่อเห็นว่า เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เงียบ ซูเหวิน จึงเอ่ยถาม

“ป..เปล่า”

“ฉันแค่รู้สึกว่ามันแปลกๆ คุณชายเสิ่น บอกเมื่อกี้ว่าเขามาที่นี่ เพราะ คุณชายลู่ ..บอกเขา แต่แล้ว คุณชายลู่ รู้ได้อย่างไรว่าฉันอยู่ที่นี่?”

“มันเหมือนครั้งที่แล้วที่เราไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ด้วยกัน คุณชายลู่ ก็รู้ว่าเราจะไปกันที่โรงภาพยนตร์ไหน ..มันเป็นไปได้อย่างไร?”

เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย อดไม่ได้ที่จะสงสัย

ซูเหวิน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า : “หรือ คุณชายลู่ ส่งใครบางคนมาจับตาดูคุณ แล้วส่งข้อความไปบอกที่อยู่ของคุณกับเขา”

เมื่อได้ยิน เพื่อนร่วมชั้น ซู พูดแบบนี้ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ

ดูเหมือนว่าเธอจะต้องตรวจสอบอย่างจริงจังแล้วว่า มันเกิดอะไรขึ้น…

คืนวันเสาร์…

โรงแรม ฮิลส์, โรงแรมหรูระดับ 7 ดาว

ในฐานะที่เป็นโรงแรมชั้นนําในเมืองม่อ ทําเลที่ตั้งก็ย่อมไม่มีใครเทียบได้

โรงแรมใหญ่แห่งนี้มีความสูงหลายสิบชั้น

ไม่มีใครกล้าพูดว่ามันเป็นตึกที่สูงเป็นอันดับหนึ่งในละแวกใกล้เคียง แต่แน่นอนว่ามันถือได้ว่าเป็นอาคารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ในอันดับต้นๆ ได้อย่างแน่นอน

ไม่นานนัก.. ก็เห็นรถซุปเปอร์คาร์สุดหรูคันหนึ่งขับมาทางนี้ด้วยความเร็ว แล้วหยุดจอดอยู่หน้าโรงแรมทันที

มันคือ Aston Martin ของ ซูเหวิน

วันนี้เป็นวันที่ ซูเหวิน ได้รับเชิญไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวง ดังนั้นเขาย่อมไม่ผิดคําพูด

ทันทีหลังจากนั้น ซูเหวิน ที่สวมเสื้อโค้ทสีดําก็เดินออกมาจากรถพร้อมกับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย

เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ในวันนี้ดูเหมือนเธอจะใส่ใจในการแต่งตัวมาก

ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนที่ขาวสะอาดสะอ้าน บวกกับผมยาวนุ่มสลวยของเธอปกคลุมพาดไหล่ซ้าย

ชุดเดรสกระโปรงลายดอกไม้ที่มีเชือกผูกเอวเน้นให้เห็นรูปร่างของเธอ ดูโดดเด่นขึ้นมา

เมื่อควบคู่ไปกับอารมณ์ที่ยอดเยี่ยมของเธอที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็กแล้ว หากกล่าวว่า เธอ.. เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ดูจะไม่เกินจริงนัก

แม้แต่ ซูเหวิน ก็อดไม่ได้ที่จะทึ่งในความงามของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย

และบนข้อมือของเธอ ตอนนี้ก็กําลังสวมนาฬิกาสีขาวเรือนสวยที่ ซูเหวิน ได้มอบให้กับเธอมาด้วย

ต้องบอกว่ามันเข้ากับชุดของเธอในวันนี้ได้ดีอย่างสุดๆ มัน… ดูดีมาก

“ไปกันเถอะ!”

ทันทีที่ลงจากรถ เซี่ย ซินเหยา ก็ยิ้มหวานน้อยๆ และเดินเข้าหา ซูเหวิน ก่อนจะควงแขนเขาไว้

ในฐานะที่เป็น คุณหนูคนโตแห่ง ฮั่วซิน กรุ๊ป ที่ไหนเธอจะไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยง?

และเธอก็ยังรู้ด้วยว่า ควรทำยังไง…

ในทางกลับกัน.. กลับเป็น ซูเหวิน ที่ไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้งเดียว

กอปรกับ จู่ๆ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ที่พิงตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเช่นนี้.. กลิ่นหอมอ่อนๆ อันน่ารื่นรมย์ก็แพร่กระจายเข้าสู่โพรงจมูกของเขา จนเขาอดไม่ได้ที่จะสูดมันเข้าไป

สักพักหนึ่งกลับทําให้เขาเกิดความคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาในใจ และรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

แต่ดีที่ ซูเหวิน ยังคงมีจิตใจที่มั่นคงอยู่…

หลังจากเขายื่นกุญแจรถให้พนักงานรับรถแล้ว เขา และเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็เดินเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรม

“ยินดีต้อนรับคะ!”

“ยินดีต้อนรับคะ!”

ทันทีที่เขาเข้ามา ซูเหวิน ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

เห็นเพียงทางเข้าห้องโถงขนาดใหญ่ มีหญิงสาวกว่ายี่สิบคนยืนอยู่

พวกเขายืนอยู่ทั้งสองด้านของทางเดิน ดูเหมือนจะมายืนรอต้อนรับแขกโดยเฉพาะ

เมื่อมองเข้าไปข้างในอีกครั้ง

มันเยี่ยมมาก! ล็อบบี้ของโรงแรมหรูหราแบบสุดๆ

เพดานห้องโถงถูกยกสูงกว่าสิบเมตร มีลวดลายพื้นหินอ่อนแบบมาร์เบิลสีดำทอง

โคมไฟระย้าคริสตัลสวารอฟสกี้ขนาดใหญ่ทำให้พื้นส่องแสงแวววาวยิ่งขึ้น

เดิมที ซูเหวิน คิดว่าวิลล่าของเขาหรูหราพอแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าห้องโถงของ โรงแรมฮิลส์ ..แห่งนี้จะหรูหรายิ่งกว่าอีก

เมื่อตอนแรกสร้างขึ้นมานั้น การตกแต่งไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้เงินหรือเปล่านะ?

และไม่นานหลังจากที่ ซูเหวิน และเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เข้ามาถึง หญิงสาวในชุดสูทคนหนึ่งก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

“นี่คือ.. ท่านประธานซู ใช่ไหมคะ?”

หญิงสาวมองไปที่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก่อน หลังจากตกตะลึงไปเล็กน้อย นี่จึงทำให้เธอมองไปที่ ซูเหวิน แล้วกล่าวถาม

“อืม, คุณคือ...” ซูเหวิน ถาม

“ฉันชื่อ ชุน อวี้เหม่ย รองประธานของบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวง ประธานถัง ขอให้ฉันมารอต้อนรับท่านอยู่ที่ห้องโถงล็อบบี้ค่ะ”

“เขาได้บอกว่าพอพบเจอท่านแล้ว ให้พาท่านขึ้นไปทันที”

ชุน อวี้เหม่ย กล่าวตอบด้วยความเคารพ

แต่แล้วทันใดนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย อีกครั้งแล้วพูดว่า : “ขอโทษที่ถือวิสาสะคะ ท่าน... ท่านนี้ คือคุณคือ เซี่ย ซินเหยา บุตรสาวของ ท่านประธานเซี่ย เซี่ย เฉิงตง ประธานกลุ่มบริษัท ฮั่วซิน ใช่หรือเปล่าค่ะ?”

“คะ.. คุณรู้จักฉัน?” เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“แน่นอนคะ คือนับว่าเป็นความโชคดีของฉันที่ได้พบกับคุณในงานเลี้ยงครั้งหนึ่ง”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมรับตัวตนแล้วจริงๆ ชุน อวี้เหม่ย ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง เธอพูดไปว่า : “ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ คนที่มีสถานะอันสูงส่งอย่าง คุณหนูเซี่ย คาดไม่ถึงว่าคุณจะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงของบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวง ของเรา นี่นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และถือได้ว่าเป็นความโชคดีของเราจริงๆ เลยคะ!”

ชุน อวี้เหม่ย พูดกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นมาก

ล้อเล่นน่า ฮั่วซิน กรุ๊ป เป็นบริษัทประเภทใด?

นั่นคือยักษ์อันดับต้นๆ ในเมืองม่อ และนั่นเปรียบได้ดั่งการดำรงอยู่ของยักษ์ใหญ่

แล้วในฐานะที่เป็นลูกสาวคนเดียวของ ท่านประธานเซี่ย ใครๆ ก็สามารถจินตนาการถึงสถานะอันสูงส่งของ เซี่ย ซินเหยา ได้

การเธอมาในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งในแบบทวีคูณให้กับบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวง ของเรา!

“ท่านประธานซู คุณหนูเซี่ย เชิญทางนี้คะ..”

พูดพลาง ชุน อวี้เหม่ย ก็พา ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา ไปที่ลิฟต์ทันที

สักพักเราก็มาถึงที่ชั้น 28 ของโรงแรม ซึ่งเป็นสถานที่ที่บริษัทจัดงานเลี้ยงอยู่

จากนั้นพวกเขาก็ออกจากลิฟต์ และมาถึงห้องโถงกลาง

เมื่อมองไปรอบๆ ห้องโถงทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความคึกคัก และเต็มไปด้วยผู้คน

นอกจากนี้ทุกคนล้วนใส่สูท และรองเท้าหนัง ดูเหมือนแต่ละคนจะมีตำแหน่งสำคัญ และค่อนข้างจะโดดเด่น

“คนไม่น้อยจริงๆ” ซูเหวิน อดอุทานไม่ได้

“ฮ่าฮ่าๆ นั่นแน่นอนอยู่แล้วคะ แต่สิ่งที่พวกคุณเห็นในตอนนี้คือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเรา และเพื่อนนักธุรกิจคนอื่นๆ ที่ทางเราได้เชิญมาค่ะ”

“นอกจากห้องโถงกลางนี้แล้ว ยังมีห้องโถงด้านข้างอีกหลายห้อง รวมถึงห้องส่วนตัวอีกหลายสิบห้องเช่นกัน และพนักงานหลายพันคนของบริษัทเราก็อยู่ที่นี่เช่นกันคะ!”

ชุน อวี้เหม่ย กล่าวตามความจริง

ท้ายที่สุดแล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ค่อนข้างพิเศษสําหรับบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวง

หลังจากผ่านไปสามปี ในที่สุดบริษัทก็มีความก้าวหน้าในด้านพลังงานใหม่ และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จ

เมื่อผลิตภัณฑ์นี้ออกสู่ตลาดแล้ว มันจะต้องเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สําคัญของบริษัทอย่างแน่นอน

และการเชิญพนักงานมาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำก็เป็นสิ่งที่ควรเป็น

หลายคนพูดพลางขณะเดินเข้าไปข้างใน

แต่ในเวลานี้ ซูเหวิน กลับประหลาดใจเล็กน้อย

เพราะเขาพบว่า ถานห่าว ที่ซึ่งต้องการจัดการกับเขาในมหาวิทยาลัยเทียนเวย และได้ถือว่าตัวเองเป็นศัตรูคู่แข่งในด้านความรัก และอีกทั้ง คุณชายลู่ หนึ่งในสี่ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งร่ำรวยก็มาอยู่ที่นี่ด้วย…