ตอนที่แล้วตอนที่ 29 อาหารมื้อนี้มีรสชาติจริงๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 31 ผลการพิจารณาคดีของ ฟาง ซินอี๋

ตอนที่ 30 พบกับตระกูลถัง ..อีกครั้ง


“คุณว่าไงนะ เติมเงิน 1 ล้าน?”

ทันทีที่ ซูเหวิน พูดจบ คู่รักคู่นั้นก็มีสีหน้าตกตะลึงทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะกล้าขนาดนี้

“คุณสามารถมีเงินมากขนาดนี้?” ผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามพูดอย่างไม่เชื่อ

ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาเลย แม้แต่หญิงสาวพนักงานแคชเชียร์ที่กำลังรับใช้ ซูเหวิน และคนอื่นๆ ก็ต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจมาก

เดิมทีเธอคิดว่าตอนที่ชายหนุ่มคนนี้เพิ่งเข้ามาที่ร้านอาหาร เป็นเพราะถูกคู่รักคู่นั้นพูดจึงรู้สึกอับอายต่อหน้าผู้คน เลยจงใจเลือกโต๊ะระดับไฮเอนด์เพื่อกู้หน้าตัวเอง

โดยไม่คิดเลยว่าตอนนี้อีกฝ่ายต้องการสมัครสมาชิกที่ต้องเติมยอดเงินขั้นต่ำ 1 ล้าน จริงๆ…

สําหรับคนรวยจริงๆ แล้ว เงินล้าน ไม่ถือว่าเป็นอะไรด้วยซ้ำ แต่สําหรับคนธรรมดามันย่อมไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย ชายหนุ่มคนนี้.. มีเงินขนาดนั้นไหม?

“มันแค่เงินเล็กน้อย”

ซูเหวิน พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ และมองอย่างไม่แยแส

ทันใดนั้น เขาก็หยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วส่งให้กับ พนักงานแคชเชียร์ จากนั้นรูดบัตร!

“โอเคคะ, ท่าน..”

พนักงานแคชเชียร์ไม่กล้าเพิกเฉย รีบนำบัตรสมาชิกสีขาวที่มีรูปลักษณ์สวยงามออกมาทันที จากนั้นรูดบัตร CCB (China Construction Bank) เพื่อเติมยอดเงินเข้าไป

แน่นอนว่าการเติมเงินสําเร็จในเวลาเพียงชั่วไม่กี่อึดใจเท่านั้น และเงินจำนวนหนึ่งล้านเติมเข้าบัญชีแล้ว

“คะ ..ท่าน การเติมเงินสำเร็จแล้ว”

“จากนี้ไป ท่านเป็นสมาชิกที่มีเกียรติสูงสุดของ ภัตตาคาร เซียนผิ่นซวน ของเราแล้วค่ะ”

“เมื่อครู่ ท่านได้ใช้จ่ายเงินไปทั้งหมด …หยวน หักตามส่วนลด 8.5% เหลือเพียง …หยวน ยอดเงินคงเหลืออยู่ที่ ….หยวน และนี่คือบัตรของท่านคะ กรุณาเก็บรักษาให้ดีๆ”

เมื่อพนักงานแคชเชียร์เติมเงินเสร็จก็นำบัตรซูพรีมไปรูดใช้จ่ายในครั้งนี้อีกครั้ง

จากนั้นได้ยื่นบัตรธนาคาร บัตรสมาชิกระดับซูพรีมให้กับ ซูเหวิน ด้วยความเคารพ

ซูเหวิน ส่งเสียง “อืม” ออกมา และรับบัตรทั้งสองใบคืน

เมื่อมองไปที่บัตรซูพรีมใบนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจ

อย่ามองว่า บัตรซูพรีม ใบนี้ยังมียอดเงินเหลือกว่า 900,000 หยวน เพราะพอมาคิดดูแล้ว ..มัน ดูไม่คุ้มเลย

ลองคิดดูถ้ากินแบบนี้ไป โดยใช้จ่ายครั้งละหลายหมื่นหยวน แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่สามารถใช้จ่ายได้หลายครั้ง

แม้ว่าคุณจะเข้ามาเดือนละครั้ง แต่พอหนึ่งปีผ่านไป ก็อาจไม่มีเงินเหลืออยู่เลยในนั้น (ผู้แปล.. คิดว่า บัตรอาจจะใช้ได้แค่ครั้งเดียว มั้งครับ)

“ใช่แล้ว ท่านสุภาพบุรุษท่านนี้ โปรดรอสักครู่คะ ท่านได้เติมยอดเงิน 1 ล้านกับทางเรา เดี๋ยวผู้จัดการของเราจะมาเพื่อมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กับท่านค่ะ”

พนักงานแคชเชียร์กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

ขณะเดียวกันเธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความถึงผู้จัดการให้อีกฝ่ายรีบมาโดยเร็ว…

“ยังมีของขวัญอีก?”

ซูเหวิน รู้สึกประหลาดใจ แล้วจากนั้นก็พยักหน้าทันที

มีของขวัญมาให้ฟรีๆ แบบนี้ เขาย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว

ในขณะนี้ คู่รักที่เมื่อกี้ยังคงมีสีหน้าภาคภูมิใจอยู่ และพนักงานที่ยืนอยู่ข้างๆ ซูเหวิน ต่างอดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าตกตะลึง

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่า ชายหนุ่ม ..คนนี้จะมีเงินล้านจริงๆ

เงินหนึ่งล้านบอกว่ามากก็มาก บอกว่าน้อยก็น้อย…

แม้จะพิสูจน์ไม่ได้ว่า ซูเหวิน เป็นคนรวยจริงๆ แต่อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่คนจนอย่างที่คู่รักคู่นั้น ..พูดถึงแล้ว

“เป็นไง? เห็นไหมว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่มีเงิน แล้วไหนคุณกำลังดูถูกใคร?”

จูเหยี่ยน มองไปที่คนทั้งคู่ ในที่สุดก็สามารถโต้แย้งอีกฝ่ายได้แล้ว

“ฮึ มันจะอะไรก็แค่เงินหนึ่งล้านแค่นั้น แฟนฉันจะเอาออกมาเท่าไหร่ก็ได้ แล้วมันนับเป็นอะไรได้?”

ผู้หญิงตรงข้ามยังคงปากแข็งอยู่

ในระหว่างที่ทุกคนกําลังโต้เถียงกันอยู่นั้น ไม่ไกลนัก ผู้จัดการร้านอาหารก็กําลังเดินมาทางนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับข้อความจากพนักงานแคชเชียร์แล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เดินมาคนเดียว ยังมีคนกลุ่มหนึ่งติดตามอยู่ข้างๆ เขามาด้วย

คนกลุ่มนี้แต่งตัวดี อีกทั้งยังมีบุคลิกที่โดดเด่น พวกเขาราวกับคนระดับสูง และแม้แต่ผู้จัดการก็เอียงตัวให้ด้วยความเคารพ มองปราดเดียวก็รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา..

“เสี่ยวถิง คุณบอกว่าใครเติมเงิน 1 ล้านเมื่อกี้?”

หลังจากผู้จัดการคนนั้นมาถึง เขาได้มองไปที่พนักงานแคชเชียร์ แล้วถามทันที

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะพูดจบ กลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขากลับมองดู ซูเหวิน ด้วยความประหลาดใจ

“ประธานซู บังเอิญจริงๆ ไม่คิดเลยว่าคุณจะมาทานอาหารที่ เซียนผิ่นซวน ด้วย”

“อา ใช่ ...ใช่ ดูเหมือนว่าตระกูลถังของเรา กับประธานซู จะมีโชคชะตาต้องกันจริงๆ”

ใบหน้าของใครหลายคนแสดงสีหน้าประจบสอพลอทันที

“เป็นพวกคุณ บังเอิญจริงๆ”

ซูเหวิน มองคนที่อยู่ตรงข้าม และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน แต่เขาก็ยังพูดออกไปด้วยสีหน้าสงบ

หลายคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น นอกจากเพื่อนบ้านของ ซูเหวิน ในวิลล่า เขตอ่าว ไห่หยุน ซึ่งก็คือ ครอบครัวถัง ที่เขาพบเมื่อไปที่ อ่าว ไห่หยุน เป็นครั้งแรก

ไม่เพียงแต่ ถัง จื้อตง เท่านั้น หญิงชราตระกูลถัง และหญิงสาวที่อุ้มลูกน้อยคนนั้นก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

และคนที่เพิ่งพูดเมื่อกี้ คือ ถัง จื้อตง และหญิงชราตระกูลถัง

“นี่ยังไง.. พวกคุณรู้จักกันเหรอ?”

ผู้จัดการมองดูลูกค้าที่มีเกียรติที่เขาต้อนรับด้วยตนเอง กำลังพูดคุยอยู่กับ ..ชายหนุ่ม คนหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะสงสัยเลยพูดถามออกไป

“แน่นอนว่ารู้จักสิ แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่ ประธานซู เขาก็เป็นประธานของ โรงแรมฮิลส์ และเป็นเพื่อนบ้านของฉันที่ วิลล่า ในเขตอ่าว ไห่หยุน พูดไปแล้วเราทุกคนก็เป็นเพื่อนบ้านกัน”

ถัง จื้อตง ยิ้มหัวเราะออกมา และอธิบายอย่างเปิดเผย

ส่วนคนที่ไม่รู้ก็คิดไปว่าพวกเขา ดูคุ้นเคยกันมาก!

ทันทีที่คําพูดนี้หลุดออกมา นอกจาก ซูเหวิน และพรรคพวกของเขาแล้ว คนอื่นๆ ก็มอง ซูเหวิน อย่างไม่อยากจะเชื่อ ทั้งนี้ดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

“เชี้ยยย ให้ตายเหอะ มันคือเรื่องจริง? คุณอย่ามาล้อเล่นกับผมนะ ประธานถัง!”

ผู้จัดการร้านอาหารสอบถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ฮิลส์ ซึ่งคือเครือโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศ โดยมีมูลค่าตลาดนับหลายหมื่นล้านหยวน

แม้ว่า ภัตตาคาร เซียนผิ่นซวน ของพวกเขาจะมีชื่อเสียงมากในเมืองม่อ แต่เมื่อเทียบกับ ฮิลส์ แล้ว พวกเขาเปรียบได้กับ พ่อมดเล็กเจอพ่อมดใหญ่ เท่านั้น (1)

“ผู้จัดการเสิ่น เราก็รู้จักกันมาตั้งนานแล้วนะ, ผู้แซ่ถังคนนี้ เหมือนคนชอบโกหกคนอื่นหรือ?”

ถัง จื้อตง กล่าวสีหน้าจริงจัง แฝงไปด้วยความไม่พอใจ

ผู้จัดการอึ้งไปทันที

ช..ใช่! ถัง จื้อตง คนนี้เป็นใคร.. นั่นคือ ประธานใหญ่ของบริษัท เทคโนโลยี ฮุยหวง แล้วทําไมต้องพูดโกหกต่อหน้าเขา?

ชั่วขณะหนึ่ง ผู้จัดการมองไปที่ ซูเหวิน ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพ

จากนั้นเขาดูเหมือนจะคิดอะไรได้ รีบพูดทันทีว่า : “ซู... ประธานซู สันนิษฐานว่าเมื่อกี้คุณคงเติมเงินไปหนึ่งล้าน และกลายเป็นสมาชิกระดับซูพรีมของเราแล้ว ใช่ไหมครับ?”

ผู้จัดการถามด้วยความเคารพ

“อืม แคชเชียร์คนนี้บอกว่า เมื่อเติมเงินหนึ่งล้านจะมีของขวัญบางอย่างให้ ดังนั้นผมจึงยังคงยืนรออยู่ ตรงนี้…”

ซูเหวิน พยักหน้า และพูดอย่างช้าๆ ออกไป

“ช…ใช่ครับ คือมีของขวัญ เดี๋ยวผมจะรีบไปหยิบมาให้ทันทีเลยครับ”

ผู้จัดการตอบรับทันที แล้วรีบวิ่งไปหยิบของขวัญอย่างรวดเร็ว โดยกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายล่าช้า

และแน่นอนว่าบทสนทนาระหว่างพวกเขา คู่รักที่อยู่ข้างๆ และพนักงานบริการคนนั้นย่อมได้ยินอย่างชัดเจน

เมื่อมองย้อนกลับไป ตอนนี้สีหน้าของใครหลายๆ คน มันดูน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเมื่อกี้ที่ ซูเหวิน จ่ายเงินล้านเสียอีก

โดยเฉพาะคู่รักคู่นั้น ที่มีสีหน้ามึนงงสับสนไปหมดแล้ว

พวกเขาดูเหมือนจะคิดไม่ออกว่า ชายหนุ่ม ..คนนี้ มีภูมิหลังเช่นนี้

ประธานของ โรงแรมฮิลส์ เขาเป็นคนแบบไหน และร่ำรวยแค่ไหน?

ส่วนพวกเขาที่เพิ่งจะหัวเราะเยาะคนอื่นว่าไม่สามารถกินอาหารมื้อใหญ่ได้…

พอคิดมาถึงจุดนี้ ทั้งสองก็รู้สึกเสียหน้าทันที แล้วจึงรีบออกจากที่นี่ไปด้วยความอับอาย

เดิมทีพวกเขากำลังดูละครดีๆ มาตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่น่าอับอายที่สุด

พนักงานบริการหญิงคนดังกล่าวก็ตกใจไม่แพ้กัน

เสียดายที่ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนธรรมดา โดยคิดว่าอีกฝ่ายเลือกโต๊ะอาหารระดับไฮเอนด์ก็เพื่อรักษาหน้า

แต่ที่ไหนได้.. คนอื่นกลับเป็นประธานของ โรงแรมฮิลส์ ที่มีมูลค่าประมาณหลายสิบ หรือหลายหมื่นล้าน จะสนใจเงินจำนวนเล็กน้อยนี้ทำไม?

ครั้งนี้นับว่าเธอตาบอดแล้วจริงๆ

“ประธานซู วันนี้ไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณที่นี่ ผมเองมีคําขอหนึ่ง ไม่รู้ว่า ประธานซู จะตอบรับ และให้เกียรตินี้ได้หรือไม่?”

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจอยู่นั้น ทันใดนั้น ถัง จื้อตง ก็มองไปที่ ซูเหวิน แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง..

น้ำเสียงของเขาดูระมัดระวัง พร้อมท่าทางเขาเองดูมีความสุภาพอย่างมาก พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ชิดอีกฝ่าย

“คุณมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?”

เมื่อมองเห็นท่าทางลังเลของอีกฝ่าย ซูเหวิน ก็รู้สึกสงสัย..

“อืม…คือไม่เชิง เป็นอย่างนี้ครับ บริษัทของเรากำลังเตรียมจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมฮิลส์ ไม่ทราบว่า ประธานซู คุณสนใจ หรือมีเวลาที่จะมาร่วมงานรึเปล่าครับ?”

ถัง จื้อตง ไม่อุบไว้อีกต่อไป จึงรีบพูดถามออกไปโดยตรง

(1)[พ่อมดเล็กเจอพ่อมดใหญ่ (小巫见大巫)] - เปรียบเทียบของสองอย่าง คนสองคน ของอย่างหนึ่งสู้อีกอย่างหนึ่ง หรือคนหนึ่งสู้อีกคนหนึ่งไม่ได้เลย 

    ตรงๆ คือ เปรียบเทียบว่า ฝ่ายหนึ่งด้อยกว่าอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด