ตอนที่ 25 คุณไม่ปล่อยให้ฉันมีชีวิตที่ดี ฉันก็จะไม่ปล่อยให้คุณมีชีวิตที่ดีเช่นกัน
“บูม!”
การโจมตีที่อันทรงพลัง และแสนจะหนักหน่วง
ด้วยการชกเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้จมูกของอีกฝ่ายถึงกับหัก
หมัดของคนปกติ มีน้ำหนักเพียง 60 ถึง 100 กิโลกรัมเท่านั้น
ส่วนหมัดของ ซูเหวิน หลังจากผ่านการยกระดับแล้ว ออกแรงไปอย่างน้อยก็ 300 กิโลกรัม ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่ามันทรงพลังแค่ไหน
ควบคู่ไปกับความเร็ว และการตอบสนองที่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปหลายเท่า การต่อสู้ครั้งนี้สำหรับ ซูเหวิน แล้ว ..ไม่นับว่าเป็นภัยคุกคามด้วยซ้ำ
หลังจากล้มไปได้คนหนึ่งแล้ว เขาก็ไม่ได้คิดจะหยุดแม้แต่น้อย..
เขาหลบคนหนึ่ง และก้าวเข้าไปเตะอีกคนหนึ่ง ในขณะที่หลีกเลี่ยงการโจมตีของ ชายฉกรรจ์ อีกคนที่พุ่งเข้ามาจากข้างๆ
“ปัง.. ผัวะ ผัวะปัง!!!”
“ปัง ปัง ปัง!!!”
ทันใดนั้น ทั้งร้านอาหารก็ตกอยู่ในความโกลาหล มีคนล้มลงกับพื้น บ้างก็ลอยกระโดดขึ้นไปในอากาศ…
เสียงปะทะ เสียงแตกหัก เสียงครวญครางอันแสนเจ็บปวด ดังขึ้นมาตามลำดับ
หนึ่งนาทีต่อมา
ด้วยเสียง ‘อ๊าาก’ ชายฉกรรจ์คนสุดท้ายก็ได้ถูก ซูเหวิน ล้มลงไปด้วย ..เช่นกัน
เมื่อมองดูอีกครั้ง พวกบอดี้การ์ดที่เมื่อกี้ยังหยิ่งผยอง ต่างพากันทรุดตัวลงกับพื้น แล้วพากันส่งเสียงกรีดร้องครวญครางออกมาทีละคน
ขณะนี้ ทุกคนทั้งร้านต่างตกใจมาก
พวกเขามองไปที่ ซูเหวิน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ทุกคนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าภายใต้สถานการณ์ที่จํานวนคนแตกต่างกันมาก ชายหนุ่มคนนี้จะสามารถโค่นล้มคนจํานวนมากแบบหนึ่งต่อสี่ ..ได้
มัน.. เป็นไปได้ยังไง?
“แก…”
หลี่ อวี้เฟิง ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เวลานี้มีสีหน้าแข็งทื่อไปแล้ว
การต่อสู้ระหว่าง ซูเหวิน กับบอดี้การ์ดของเขาเมื่อกี้เขาเห็นหมดแล้ว
ตอนนี้.. เขาไม่เข้าใจว่า ซูเหวิน มันทําได้อย่างไร เขาจัดการกับชายร่างใหญ่สี่คนที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีเวลาให้คิดอีกแล้ว..
เมื่อเขารู้สึกตัวอีกที ซูเหวิน ที่ไม่รู้ว่าวิ่งเข้ามาอยู่ข้างหน้าเขาตั้งเมื่อไหร่ แล้วเขาก็เห็นอีกฝ่ายหวดเท้าเตะใส่เขาทันที
“อ๊าาากก!”
มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นอีก 1 ครั้ง
คุณชายหลี่ ที่เมื่อกี้ยังคงยืนอยู่ดีๆ ถูกเตะลอยออกไปแล้ว
แรงเตะอันทรงพลังพาเขาลอยละลิ่ว ปลิวละล่องไปชนกับโต๊ะเก้าอี้ด้านหลัง พร้อมกับมีเสียงที่ดังขึ้น ปัง.. โครมคราม โต๊ะแตกเป็นเสี่ยงๆ ทันที
หลังจาก คุณชายหลี่ ลอยปลิวห่างออกไป เขาดูเหมือนจะขยับตัวเพียงระยะสั้นๆ และทิ้งตัวลงกับพื้น อย่างนุ่มนวล…
เจ็บ! มันเจ็บมาก!
หลี่ อวี้เฟิง ไม่เคยรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน มันราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบเข้าที่ท้องของเขา
แม้แต่การตะโกนร้องที่เจ็บปวดออกมา ..ก็กลายเป็นความฟุ่มเฟือย (หมายถึงอยากกรีดร้องแต่ก็กรีดร้องไม่ได้)
เมื่อมองไปที่ ซูเหวิน แม้ว่าเสื้อผ้าบางส่วนอาจจะดูไม่เรียบร้อยไปบ้าง แต่เขากลับดูดีกว่าอีกฝ่ายเยอะมาก
เมื่อมองดูฉากตรงหน้า ฟาง ซินอี๋ และจ้าวเชี่ยน ก็ตกตะลึงไปแล้ว
พวกเธอมอง ซูเหวิน ราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาด และพวกเธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเก่งขนาดนี้
ชั่วขณะหนึ่ง กลับรู้สึกว่าฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้น.. มันกลับดูตลก และไร้สาระมาก
หลังจาก ซูเหวิน แก้ปัญหา คุณชายหลี่ เสร็จแล้ว เขาก็หันไปมอง ฟาง ซินอี๋ และจ้าวเชี่ยน
“คุณ...คุณต้องการจะทำอะไร?”
เมื่อเธอมองดู ซูเหวิน ที่เหมือนกับปีศาจร้าย.. กำลังเดินย่างกายเข้ามาหาตัวเอง ฟาง ซินอี๋ และเพื่อนสนิทของเธอที่เมื่อกี้ยังแสร้งทำเป็นเก่ง โอ้อวดอํานาจตนเองอยู่ กลับเกิดกลัวจนแข้งขาอ่อนไปแล้ว
“คุณ... คุณอย่าเข้ามานะ ฉัน..ฉันจะลบวิดีโอ และฉันจะไม่โพสต์ลงในฟอรั่ม”
จ้าวเชี่ยน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
ตอนนี้เธอเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองไปยั่วยุคนแบบไหนเข้า
ถ้ารู้ก่อนล่วงหน้าว่า ซูเหวิน เก่งขนาดนี้ ต่อให้ทุบตีเธอจนตายเธอก็ไม่คิดหาญกล้า เข้าไปยั่วยุอีกฝ่าย!
อย่างไรก็ตาม ซูเหวิน เหมือนจะไม่ได้ยินเสียงร้องขอความเมตตาจากฝ่ายตรงข้ามเลย เขากลับเดินตรงไปเผชิญหน้ากับคนคู่..
เขาเหลือบมองไปที่ ฟาง ซินอี๋ ก่อนแล้วจึงมองไปที่ จ้าวเชี่ยน
“ส่งมือถือมา..” ซูเหวิน พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเฉยชา
แม้ว่าน้ำเสียงนี้จะธรรมดา ดูไม่ยินดียินร้าย แต่ก็เหมือนว่าจะทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่น ..ขึ้นมาได้
“โอเค.. ฉัน..ฉันจะให้มือถือคุณ”
เมื่อมองดวงตาที่เย็นชาของอีกฝ่าย จ้าวเชี่ยน ก็ไม่สงสัยเลยว่าตราบใดที่เธอปฏิเสธ จุดจบของตัวเธอเองคงจะไม่ดีไปกว่า คุณชายหลี่ และคนอื่นๆ
เธอจึงเอื้อมมือออกไปอย่างสั่นเทา รีบมอบมือถือให้อีกฝ่ายอย่างเชื่อฟัง
“พวกคุณคิดจริงๆ เหรอว่าแค่วิดีโอนี้จะข่มขู่ผมได้?”
ซูเหวิน ที่รับโทรศัพท์มาจากมือของอีกฝ่าย ก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงราบเรียบ
“บอกตามตรง ไม่ว่าวิดีโอนี้จะถูกลบหรือไม่ สำหรับผมมันไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก”
“แต่การที่พวกคุณพยายามถ่ายวิดีโอเพื่อข่มขู่ แบล็กเมล์ผม ซึ่งนี่มันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผมอย่างร้ายแรง หากไม่แจ้งความ มันก็คงจะดูไม่เหมาะสมกับสิ่งที่พวกคุณทํา…”
“และคลิปวิดีโอในโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ มันจะเป็นหลักฐานที่แน่นหนาที่สุดที่ผมจะฝากไว้กับตำรวจ ส่วนพวกคุณก็รอถูกดำเนินคดีเถอะ!”
พูดไปเช่นนั้น ซูเหวิน ก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา กดโทรออกไปหาตำรวจ
ฟาง ซินอี๋ และจ้าวเชี่ยน ตกตะลึง
ทั้งสองมอง ซูเหวิน และเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อในสายตาของพวกเขา
เดิมทีพวกเธอคิดว่า ซูเหวิน จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อลบวิดีโอที่อยู่ข้างในเท่านั้น แต่พวกเธอไม่คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะโทรแจ้งตํารวจ
ด้วยวิธีนี้ สิ่งต่างๆ ..ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา
“ซูเหวิน ขอร้องล่ะ ท้ายที่สุดแล้วทุกคนก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แล้วนี่คุณจําเป็นต้องทําถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ใช่ อย่างไรก็ตาม พี่ซินอี๋ ก็เคยเป็นอดีตแฟนเก่าของนาย นายเองก็ปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
จ้าวเชี่ยน เองเริ่มตื่นตระหนกขึ้นแล้ว
ต่อให้ตีเธอให้ตาย เธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งต่างๆ มันจะพัฒนาไปในทิศทางนี้
เธอทำหน้าที่แค่ ..ถ่ายวิดีโอ แม้ว่าผู้บงการจริงๆ จะเป็น ฟาง ซินอี๋ แต่เธอก็ไม่สามารถหนีจากการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ได้
“ตอนนี้.. เพิ่งจะมาคิดว่าเราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน พวกคุณไม่คิดว่ามันสายเกินไปหน่อยเหรอไง?”
“และทั้งหมด นั่นเป็นเพราะผมมีความสามารถในการป้องกันตัวเอง เกิดถ้าเป็นคนอื่น ..เกรงว่าคงจะถูกพวกคุณทุบตีจนต้องรีบหามเข้าโรงพบาบาลไปแล้ว”
ซูเหวิน ยิ้มหยัน
ระหว่างการพูดคุย สายที่โทรออกไปก็เชื่อมต่อแล้ว
ซูเหวิน จึงบอกเล่าทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นภายในร้านอาหารเมื่อครู่นี้อีกครั้ง และรอคนจากสถานีตํารวจมาถึง..
แม้ว่าที่นี่จะมีคนที่ได้รับบาดเจ็บจากเขามากมาย แต่ ซูเหวิน ก็ไม่ได้ดูตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
และเนื่องจากมีคนมากมายรายล้อมพวกเขาอยู่ และเห็นอยู่อย่างชัดเจนว่า เขา.. แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้น และซึ่งการป้องกันตนเองมันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วน คุณชายหลี่ ที่เป็นผู้บงการ กลุ่มอันธพาลพวกนี้ ยิ่งไม่มีจุดยืนอะไรที่จะพูดด้วยได้
ถ้า คุณชายหลี่ ต้องการจะฟ้องร้องเขา เขาก็จะดำเนินการฟ้องร้องกลับอีกฝ่ายไปด้วยว่า จ้างคนมารุมทำร้ายเขา!
หลังจากแจ้งตํารวจแล้ว เขาก็ค้นหาในสมุดรายชื่ออีกครั้ง และพบหมายเลขโทรศัพท์ของ ฉาง จางไค รองประธานของโรงแรมฮิลส์ จึงกดโทรออกไปทันที
ไม่ถึงสิบวินาที อีกฝ่ายก็รับสาย
“ประธานจาง คุณเป็นรองประธานของโรงแรมฮิลส์ คุณคงต้องมีสายสัมพันธ์มากมาย คุณช่วยผมหาทนายความสักหลายคนให้หน่อยได้ไหม?”
“ขอแบบดีที่สุด เงินไม่ใช่ปัญหา”
ซูเหวิน พูดอย่างช้าๆ
“เอ่อ.. ประธานซู ท่านต้องการอยากหา ทนาย?”
“ฮ่าฮ่าๆ งั้นท่านก็โทรมาถูกคนแล้ว ผมมีเพื่อนทนายที่รู้จักดีอยู่สองคนพอดี”
“อีกอย่างพวกเขาสองคนนี้ก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการทนายความ พวกเขาอยู่ในระดับสูงสุด และมีอัตราการชนะคดีที่สูงมาก เมื่อพวกเขาดำเนินการ ย่อมแน่นอนว่าเราจะได้รับผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว”
การได้ช่วยเหลือ ท่านประธานคนใหม่ รองประธาน ฉาง จางไค แทบไม่ได้คิดฝันถึง ดังนั้นเขาจึงได้รีบพูดออกไปทันที
“งั้นผมคงต้องรบกวนคุณแล้ว..”
“คุณโทรหาเพื่อนทนายของคุณ ให้พวกเขามาที่นี่ทันที ที่อยู่คือ…”
ซูเหวิน ได้บอกที่อยู่เฉพาะของร้านอาหารไป
เมื่อเห็นว่า ซูเหวิน แจ้งตํารวจจริงๆ และแถมยังติดต่อทนายความอะไรนั้นด้วย มันดูเหมือนกับว่า.. เขาไม่ได้แสร้งทำเลย
ฟาง ซินอี๋ และจ้าวเชี่ยน ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จู่ๆ ก็มีสีหน้าซีดลงทันที
เรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆ มันพัฒนามาถึงขั้นนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่า นี่.. มันเกินความคาดหมายของพวกเธอไปแล้ว
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ทําให้พวกเธอต้องติดคุก แต่ก็อาจต้องเผชิญกับการชดเชยทางการเงิน และแม้กระทั่งประวัติของพวกเธอเองอาจด่างพร้อยไปด้วย
เมื่อคิดถึงตรงนี้ อารมณ์ของทั้งคู่ก็จมลงไปสู่ก้นเหว ก้นบึ้งเบื้องล่างแล้ว...