ตอนที่ 22 ความสงสัยของพ่อแม่ของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย
“เมื่อกี้นี้ เสี่ยวหยาง โทรมา บอกว่าพบตัวตนของ ซูเหวิน ชัดเจนแล้ว และเขากำลังจะมาที่นี่ทันที”
“แล้วบังเอิญเมื่อตอนเช้าคุณเองบอกว่าจะมาช็อปปิ้งที่นี่ไม่ใช่เหรอ ผมก็เลยโทรหาคุณ โดยผมคิดว่าเราทุกคนควรดูด้วยกัน”
ที่โต๊ะทํางาน ชายวัยกลางคนคนหนึ่งพูดด้วยรอยยิ้มพลางอ่านเอกสารไปด้วย
แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะนั่งอยู่ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขา ..มีบุคลิกที่ไม่ธรรมดา
เขาเป็นพ่อของ เซี่ย ซินเหยา เซี่ย เฉิงตง และยังเป็นประธานของ ฮั่วซิน กรุ๊ป
เมื่อไม่กี่วันก่อน เซี่ย เคอหมิง ได้โพสต์ข่าวความสัมพันธ์ของ เซี่ย ซินเหยา ลงไปในกลุ่ม VX ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้กับคนในครอบครัวอย่างมาก
เนื่องจากวันนั้น เซี่ย เฉิงตง และภรรยามีธุระจนกระทั่งกลับบ้านไปในตอนกลางคืนถึงได้รู้เรื่องนี้ ทั้งนี้.. ทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะตกใจ
นี่.. อะไรเงียบๆ ไป อยู่ดีๆ ก็จะย้ายไปอยู่กับคนอื่นแล้ว อีกอย่างเรื่องกะทันหันเช่นนี้มันไม่สอดคล้องกับอุปนิสัยของลูกสาวของพวกเขา พวกเขาจึงเริ่มเป็นกังวลว่า ลูกสาว.. อาจถูกคนอื่นหลอกได้
ดังนั้นในคืนนั้น สวี่หยุน จึงโทรไปหาลูกสาวของเธอ แล้วจึงรู้ว่าเป็นการเข้าใจผิดกัน
แต่ เซี่ย เฉิงตง ไม่ไว้วางใจ เขาก็ยังได้ส่งคนออกไปตรวจสอบ และนั่นจึงทำให้เห็นฉากในปัจจุบัน
แม้ว่าลูกสาวของเขาจะมีความรักจริงๆ ก็ตาม ..ไม่เป็นไร สิ่งสําคัญคือต้องตรวจสอบสถานะของอีกฝ่าย และดูว่ามีอะไรที่ไม่ดีบ้างหรือไม่
ระหว่างพูดคุยกันก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นก็เห็นชายหนุ่มในชุดสูทคนหนึ่งเดินเข้ามา
ชายหนุ่ม ทักทาย คุณนายเซี่ย ด้วยความเคารพก่อน จากนั้นจึงหันมาหา เซี่ย เฉิงตง พร้อมกับส่งซองเอกสารที่มีข้อมูลฉบับหนึ่งไปให้
“ประธานเซี่ย ข้อมูลของ ซูเหวิน ที่ท่านต้องการ เราตรวจสอบแล้ว และข้อมูลทั้งหมดที่ว่าอยู่ในนี้ครับ”
“เป็นอย่างไร.. ผู้ชายคนนั้นคือเพื่อนร่วมชั้นของ เสี่ยวเหยา หรือเปล่า?”
เซี่ย เฉิงตง รับเอกสารมาแล้ว อดไม่ได้ที่จะถาม
“ครับ ประธานเซี่ย ซูเหวิน และลูกสาวของท่าน เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันจริงๆ ทั้งคู่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทียนเวย แต่…”
ชายหนุ่มคนนั้นกำลังจะพูด แต่เขาดูเหมือนลังเลที่จะพูดออกไป..
“แต่อะไร? ซูเหวิน คนนั้นชอบลูกสาวของฉัน สารภาพรักกับลูกสาวฉันทุกวัน ไล่ตามเธออย่างดุเดือดว่างั้น?”
เซี่ย เฉิงตง หัวเราะเย้ยหยันออกมาเบาๆ ให้กับการคาดเดาของตน
นั่นเพราะมันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้.. ใครก็บอกว่าลูกสาวเขาสวยทั้งนั้น อีกทั้งเธอยังสืบทอดรูปลักษณ์จากเขา และภรรยาไปอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วเช่นนี้มันก็ดูเป็นเรื่องธรรมดามากที่เธอจะถูก เพื่อนร่วมชั้นชายไล่ตามอยู่บ่อยครั้ง
“เอ่อ..”
“ประธานเซี่ย.. สถานการณ์มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ท่านพูดทุกประการ”
“หากว่าไปตามสิ่งที่ผมได้ยินมาจากเหล่านักศึกษาที่ต่างพากันบอกตรงกันว่า ..เป็น คุณหนูเซี่ย ที่ชอบ ซูเหวิน คนนั้น เลยส่งชานมแก้วหนึ่งไปให้กับอีกฝ่ายทุกวัน เพื่อแสดงความ.. ชื่นชม”
ชายหนุ่มคนนั้น อธิบาย
“หืม...?”
“คุณว่าไงนะ?”
“คุณบอกว่าลูกสาวของฉันแสดงความ ..ชื่นชม และยังส่งชานมให้กับอีกฝ่าย ทุกวัน?”
เซี่ย เฉิงตง ทําสีหน้าตกตะลึง และแทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ได้
ล้อเล่นอะไร?
เซี่ย ซินเหยา ลูกสาวของเขา เรื่องภูมิหลังครอบครัว เรื่องความงดงามของเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง..
เธอสวยถึงขนาดนี้ ผู้ชายคนไหนจะไม่เชื่อฟัง หากเธอพูดออกมาสักประโยค?
และเธอ.. ยังจำเป็นต้องริเริ่มไล่ตามคนอื่น ส่งชานมให้กับคนอื่นในทุกๆ วัน?
“บ้าน่า มันเป็นเรื่องจริงเหรอ?”
เซี่ย ชิวเยี่ยน ก็ติดตาม สวี่หยุน เข้ามาใกล้ๆ เธอถึงกลับเบิกตากว้าง และถามออกไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“เรื่องนี้เชื่อถือได้ไหม?”
เมื่อเทียบกับทั้งสองคนนั้นแล้ว สวี่หยุน แม่ของ เซี่ย ซินเหยา กลับดูสงบกว่ามาก
เธอเป็นผู้หญิง เคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน และเธอย่อมเข้าใจผู้หญิงในช่วงกำลังมีความรักดี
อย่าเพิ่งมองว่าลูกสาวของเธอ เย็นชา และทำตัวห่างเหินจากผู้ชาย กลับกันตัวเธอเองมองว่า เพียงแค่เธอยังไม่ได้พบเจอคนที่ ‘ใช่’ คนที่เหมาะสมเท่านั้น
พอเมื่อพบแล้ว เธอก็จะไม่แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ มากนัก และอาจมีความกระตือรือร้น และกล้าหาญมากขึ้น ..เหมือนอย่างตอนนี้
“แน่นอนไม่มีปัญหา เราได้สอบถามนักศึกษามาหลายคนเพื่อตรวจสอบความเป็นจริงของเรื่องนี้โดยเฉพาะ”
ชายหนุ่มคนนั้น ตอบอย่างมั่นใจ
ทันทีที่เขาพูดจบ เซี่ย เฉิงตง ก็ได้แกะเปิดซองเอกสารตรงหน้า
ครึ่งนาทีต่อมา เมื่อเขาเข้าใจข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับ ซูเหวิน อย่างคร่าวๆ สีหน้าของเขาก็ดูตื่นเต้นยิ่งกว่าเมื่อกี้นี้อีก
“ประธานโรงแรมฮิลส์ นี่มัน…”
เมื่อดูข้อมูลที่อยู่ในมือ เซี่ย เฉิงตง ก็สับสนอีกครั้ง
ซูเหวิน คนนี้อายุยังน้อย ..คาดไม่ถึงว่าจะเป็น ประธานของ โรงแรมฮิลส์ แล้ว และนี่เรื่องจริงหรือ?
แถม.. ยังซื้อมาเมื่อไม่นานมานี้
แต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่สําคัญที่สุด สิ่งที่สําคัญที่สุดคือ พ่อแม่ ของ ซูเหวิน เป็นคนธรรมดาจริงๆ ซึ่งมันขัดต่อสามัญสํานึก
“เหลาเซี่ย เกิดอะไรขึ้น? โรงแรมฮิลส์ อะไรทำไม?”
สวี่หยุน ที่ฟังอยู่รู้สึกสับสน และอดไม่ได้ที่จะถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“คุณลองดูนี่สิ..”
เซี่ย เฉิงตง ส่งเอกสารในมือให้กับภรรยาโดยตรง
และหลังจากอ่านข้อมูล สวี่หยุน ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ และตกตะลึงไปทันที
“ซูเหวิน คนนี้ซื้อโรงแรมฮิลส์จริงๆ แต่ดูเหมือนครอบครัวเขาจะธรรมดามาก”
สวี่หยุน ที่เห็นก็พูดออกมาด้วยความประหลาดใจไม่แพ้กัน
“ตระกูลซูนี้.. ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาแล้ว อาจเป็นเพราะพ่อแม่ของ ซูเหวิน ไม่อยากเปิดเผยมากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงซ่อนตัวตนเอาไว้”
เซี่ย เฉิงตง คาดเดา
แม้ว่า โรงแรมฮิลส์ จะด้อยกว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ฮั่วซิน กรุ๊ป มาก แต่ก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดหลายหมื่นล้านหยวน
การซื้อบริษัทแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรหากไม่มีภูมิหลังครอบครัวที่เข้มแข็ง?
“ลองถาม พี่สาวเหยา ดูไหมคะ บางทีพี่สาวอาจจะรู้อะไรบางอย่างก็ได้?”
เซี่ย ชิวเยี่ยน ที่อยู่ข้างๆ หลังจากเห็นข้อมูลของ ซูเหวิน แล้ว ก็กล่าวแนะนําขึ้นมา
“นั่นเป็นความคิดที่ดี..”
“พวกเขาอยู่ใกล้ชิดกัน และบางที เสี่ยวเหยา อาจจะรู้อะไรบางอย่าง”
เซี่ย เฉิงตง พยักหน้า มองภรรยาแล้วพูดว่า : “นี่ก็ใกล้เที่ยงพอดี เสี่ยวเหยา ควรเลิกเรียนแล้ว ทำไมคุณไม่ลองโทรไปหาลูกล่ะ และถามถึงสถานการณ์นี้”
เขาไม่ใช่คนที่ขี้สงสัยคนอื่น และก็ไม่ใช่คนที่ชอบสร้างปัญหาให้ตนเองวุ่นวาย
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ตัวตนของ ซูเหวิน คนนี้ มันแปลกเกินไป อีกทั้งยังใกล้ชิดกับลูกสาวของเขามาก ดังนั้น เซี่ย เฉิงตง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะระมัดระวังมากขึ้น
“อืม.. ก็ดี”
สวี่หยุน พยักหน้า และหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรออกไปหาลูกสาวทันที
อีกด้านหนึ่ง เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ที่เพิ่งเลิกเรียน ก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเธอ..
“เสี่ยวเหยา แม่ถามอะไรลูกหน่อยสิ ลูกมีคนที่ชอบแล้วใช่ไหม?”
ทันทีที่ต่อสาย เสียงของ สวี่หยุน ก็ดังขึ้น
“เอ่อ...คุณแม่ นี่คุณแม่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันคะ?”
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย มีสีหน้าสับสนทันที
ก่อนที่บทสนทนาจะเริ่มต้นขึ้น(ยังไม่ทันได้คุยกันเลย) คุณแม่ ก็โยนคำถามที่เล่นเอาเธอแทบจะตั้งตัวไม่ทัน..
จากนั้นเธอก็เหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างโกรธเคืองไปว่า : “ต้องเป็น เสี่ยวหมิง แน่ๆ เลยใช่ไหมค่ะ เด็กนั่นพูดเรื่องบ้าอะไรอีกแล้ว?”
ครั้งที่แล้วก็เป็นเพราะ ลูกพี่ลูกน้อง ปากมาก ทําให้คนในครอบครัวคิดว่าเธอจะไปอยู่กับคนอื่นแล้ว บางทีไม่แน่ว่าครั้งนี้ ผู้ชายคนนั้น อาจคิดสร้างเรื่องบ้าๆ ขึ้นมาอีก
“ไม่ใช่เขา แต่พ่อของลูกได้ส่งคนไปตรวจสอบบางอย่าง..”
“และนี่ลูกยังจะพยายามปิดบังเราอีกเหรอ?”
“ส่วน ซูเหวิน ที่ได้ชวนลูกไปที่ร้านเหม่ยซือ เฟอร์นิเจอร์ ซิตี้ ในครั้งที่แล้ว ลูกชอบเขามากจนถึงขนาดส่งชานมไปให้กับเขาที่มหาลัยทุกวันเรื่องนี้ มันจริงหรือเปล่า?”
สวี่หยุน พูดออกไปแบบโกรธๆ แต่กลับแอบแฝงไปด้วยความรู้สึกขบขัน
“อา...”
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ตกใจแล้ว เธอไม่นึกเลยว่าแม้แต่เรื่องนี้ก็ถูกคนในครอบครัวรู้แล้ว?
เซี่ย ซินเหยา รู้สึกปวดหัวอยู่พักหนึ่ง…
เรื่องซื้อเตียงในครั้งที่แล้ว เธอก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งวันเพื่ออธิบายให้คนในครอบครัวเข้าใจ มาคราวนี้หากถ้าจะอธิบายให้ชัดเจน มัน ..อาจจะยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
“คุณแม่คะ อย่าได้กังวลมากเกินไปนะ ในส่วนเรื่องส่งชานมนั้นก็จริง แต่ว่า…”
แต่ก่อนที่เธอจะทันพูดจบ แม่ของเธอก็ตัดบทพูดของเธอโดยตรงว่า : “โอเค ยอมรับมาแบบนั้นก็ดีจะได้ไม่ต้องมาอธิบายอะไรให้มาก ชอบก็พูดออกมาว่าชอบ และนี่เราบอกกับพ่อแม่ตัวเองยังมีอะไรให้อายอีก?”
“อีกอย่าง แม่ไม่ได้จะโทรมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่แค่อยากจะถามกับลูกว่า ลูกรู้ไหมว่า ซูเหวิน เป็นประธานของ โรงแรมฮิลส์?”
จู่ๆ ทันใดนั้น เธอก็เปลี่ยนเรื่อง…