ตอนที่ 20 การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ทำให้คุณโกรธได้ (1)
“โปรดดูทางนี้คะ, Wedge Dining โต๊ะรับประทานอาหารไม้โอ๊ค เป็นรุ่นที่มีดีไซน์ดูเรียบง่าย, แต่ผ่านการออกแบบที่ทันสมัยมาก …”
“ส่วนทางด้านนี้ เรายังมีโต๊ะไม้มะฮอกกานีที่สร้างขึ้นด้วยไม้พะยูงแดงขนาดใหญ่ที่ล้ำค่ามากๆ จับคู่กับเก้าอี้ไม้มะฮอกกานี 6 ตัว ราคา 210,000 หยวน”
“Fletcher โต๊ะรับประทานอาหารแบบหมุนที่มีชิ้นส่วนมากกว่า 5,000 ชิ้นส่วนกระบวนการทางกลมีความซับซ้อนมาก แถมราคายังสูงมากด้วย โดยมันมีราคามากกว่า 500,000 หยวน …”
คุณหลิว ได้กล่าวแนะนำให้กับทุกคนได้ฟัง
เฟอร์นิเจอร์ไม้เหล่านี้มาจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งหมดล้วนมีความประณีต และราคาก็ไม่ถูกเลยจริงๆ
ในเวลานี้ คุณชายเซวีย ก็พูดขึ้นว่า
“โต๊ะหมุนของ Fletcher ตัวนี้ดูดีมาก ฉันต้องการมัน”
โต๊ะกลมนี้แม้จะแพง แต่ก็ถูกใจเขามากเช่นกัน
เมื่อได้รับโอกาสโชว์ความแข็งแกร่งต่อหน้า คุณเซี่ย แน่นอนว่าเขาต้องแสดงความฟุ่มเฟือยอย่างไม่เห็นแก่ตัวให้อีกฝ่ายได้เห็น (การใช้ชีวิตหรูหรา)
“โอเคคะ คุณชายเซวีย ฉันจะให้คนไปจัดเตรียมไว้ให้กับคุณ”
คุณหลิว รีบกล่าวอย่างรวดเร็ว
วันนี้นับว่าเธอโชคมากที่ได้พบเจอลูกค้ารายใหญ่ถึงสองคนพร้อมกัน และในใจของเธอเวลานี้ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง
และหลังจาก เซวีย ชิงเสวีย ซื้อเฟอร์นิเจอร์เสร็จ เขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ
ในมือเขามีเงินอยู่สามล้าน โต๊ะกลมนี้มีราคาเพียง 500,000 กว่าๆ เท่านั้น สําหรับเขาแล้ว มันนับเป็นอะไรได้?
ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดแซว ซูเหวิน ว่า : “คุณชายซู คุณเองก็ต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ด้วยไม่ใช่หรือ พนักงานของที่นี่เองก็แนะนำสิ่งต่างๆ ไปให้มากมายขนาดนี้แล้ว ไม่มีของที่คุณชอบเลยเหรอ?”
“ใช่แล้ว คุณชายซู เฟอร์นิเจอร์ที่พนักงานแนะนําไปเมื่อกี้ไม่ถือว่าแพงเลย สู้คุณเลือกสักชิ้นดีไหม?”
คุณชายอู๋ ก็มองไปที่ ซูเหวิน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มออกมา
แต่สิ่งที่ทําให้พวกเขาผิดหวังก็คือ ซูเหวิน ไม่ได้แสดงท่าทางอับอายใดๆ เลย เขากลับยิ้มแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า : “เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ดูดีมากจริงๆ และคุ้มค่าที่จะซื้อมาก”
“พี่หลิว ขอรุ่นที่คุณเพิ่งแนะนําไปทั้งหมดมาให้ผมชุดหนึ่ง”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา คุณชายเซวีย และคุณชายอู๋ ก็ตกใจโดยตรง
พวกเขามองไปที่ ซูเหวิน ด้วยความไม่เชื่อ และสงสัยว่าหูของพวกเขาได้ยินอะไรผิดไปหรือไม่..
แม้แต่ เซี่ย เคอหมิง ก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่า ซูเหวิน คนนี้จะรวยมาก
“เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้รวมกันแล้วไม่ถูกเลย ประเมินแล้วน่าจะมีมากกว่าหนึ่งล้าน คุณแน่ใจหรือว่าต้องการจะซื้อมัน”
เซวีย ชิงเสวีย ขมวดคิ้ว เขาสงสัยมาก
คุณชายอู๋ ก็เช่นเดียวกัน และเขายังรู้สึกว่าอีกฝ่ายจงใจตีหน้าตัวเองให้ดูอ้วน ..หรือเปล่า (แสร้งทำเป็นหน้าใหญ่)
“มันค่อนข้างแพงมากจริงๆ แต่มันก็แค่การซื้อเฟอร์นิเจอร์ ขอแค่มันถูกใจคุณก็พอแล้ว”
ซูเหวิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
วิลล่าของเขาใหญ่ขนาดนั้น หากไม่ซื้อของมากๆ ก็ไม่ได้ แล้วการจะปล่อยให้บ้านดูว่างเปล่าก็ไม่ได้อีก คุณว่าจริงไหม?
ด้วยคำพูดนี้ประโยคเดียว คุณชายเซวีย และคุณชายอู๋ ก็รู้สึกจุกทันทีจนพูดไม่ออก
ใบหน้าของ เซวีย ชิงเสวีย ยิ่งเขียวช้ำขึ้นไปอีก
ฉันใช้เงินไป 500,000 กว่าๆ เพื่อซื้อโต๊ะกลมมา ตอนแรกคิดว่าได้แสดงตัวท่ามกลางทุกคน แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะใจกว้างขนาดนี้ ส่วนตัวเองก็กลับดูด้อยลง ..ไปทันที
“ที่นี่คุณมีเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นอีกไหม?” เซวีย ชิงเสวีย มองไปที่ คุณหลิว และถามอีกครั้ง
“แน่นอนว่า มีคะ พวกเรายังมีของล้ำค่าที่จัดแสดงอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ เชิญทุกท่านตามมาดูทางนี้ได้เลยค่ะ”
คุณหลิว กล่าวทันที แล้วพาทุกคนไปอีกฝั่งหนึ่ง
ทางด้านนี้มีสินค้าใหม่หลายรายการ มีตั้งแต่ขนาดสั้นสุด 5 เมตร และมีขนาดยาวสุด 7 เมตรขึ้นไป
มันมีลักษณะภายนอกที่งดงามมาก และการออกแบบที่ดึงดูดสายตาของผู้ชมได้ ซึ่งหากบรรยายมันว่า หรูหรา.. ก็ไม่ผิดเลยจริงๆ
“ฉันจะขอแนะนำให้กับทุกท่านนะคะ!”
“โต๊ะไม้ยาวตัวนี้ ถูกทำขึ้นมาจากไม้สนแดงชั้นดี มีความยาว 5.5 เมตร กว้าง 1.2 เมตร มีราคาขายอยู่ที่กว่า 1.2 ล้านหยวน…”
“......”
“......”
“ยังมีโต๊ะไม้ทางนี้ ยาว 6.2 เมตร กว้าง 1.4 เมตร มีลายน้ำ ถูกแกะสลักออกมาอย่างประณีต ซึ่งโต๊ะตัวนี้ทำขึ้นมาจากไม้หวงฮวาหลีแท้(黄花梨木, พะยูงไหหลำ) และมันมีราคามากกว่า 1.35 ล้าน…”
คุณหลิว กล่าวแนะนำขณะเดิน
“คุณชายซู คุณชายเซวีย พวกคุณชอบโต๊ะตัวไหนบอกฉันก็พอคะ ทางเรา เหม่ยซือ เฟอร์นิเจอร์ ซิตี้ มีทีมงานขนย้ายมืออาชีพ ทุกสินค้าจะถูกแพ็คส่งถึงบ้าน ไม่จําเป็นต้องให้พวกคุณทําเอง…”
คุณหลิว กล่าวเสริมต่อไป
“เสี่ยวเซวีย คฤหาสน์ที่พ่อของนายเพิ่งซื้อให้ที่โครงการ เฉิงชื่อห่าวถิง อันหรูหรา ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ห้องหนึ่งนั้น มันไม่ใช่ว่าขาดโต๊ะกลางในห้องนั่นหรอกเหรอไง สู้ซื้อมันไปไว้ดีกว่ามั้ย?”
คุณชายอู๋ ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมา
ประโยคสั้นๆ นี้จงใจเปิดเผยความร่ำรวยของครอบครัวเซวีย และในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ คุณชายเซวีย ได้แสดงอีกครั้ง
“อืม.. นายพูดมีเหตุผล”
คุณชายเซวีย ยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ เขามอง คุณหลิว แล้วพูดไปว่า : “ฉันต้องการโต๊ะไม้ยาวที่ทำจากไม้หวงฮวาหลี มันเหมาะพอดีสำหรับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ของฉัน”
คุณชายเซวีย ยกยิ้มอย่างมีความสุข และความเชื่อมั่นมันก็ได้กลับมาบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เขาพ่ายแพ้ให้กับ ซูเหวิน แต่คราวนี้เขาต้องกู้หน้าของตัวเองกลับคืนมา
ขณะเดียวกัน ซูเหวิน กลับหันไปมองด้านข้าง แล้วพูดถามว่า : “อันนี้ทํามาจากอะไร?”
สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าคือโต๊ะไม้ยาวที่สวยงามอย่างเห็นได้ชัดเจน ราวกับว่ามันถูกฝังด้วยเพชรจำนวนนับไม่ถ้วน
ด้านหนึ่งของมันเป็นแบบโค้ง ปลายอีกด้านหนึ่งกลับถูกยกสูงกว่าครึ่งเมตร ด้านบนแกะสลักด้วยลายมังกร และนกฟีนิกซ์ ซึ่งมันสวยงามมากๆ…
“คุณชายซู วิสัยทัศน์ของคุณช่างไม่เหมือนใครจริงๆ โต๊ะไม้ยาวตัวนี้ทํามาจากไม้จินสื่อหนาน(金丝楠木, หนานมู่สีทอง) โต๊ะตัวนี้นับได้ว่าเป็นตัวเอกของร้านเหม่ยซือ เฟอร์นิเจอร์ ซิตี้ ของเรา มีความยาว 7.5 เมตร และกว้าง 1.5 เมตร”
“ไม้จินสื่อหนานถือว่าเป็นราชาแห่งไม้อยู่แล้ว และนับประสาอะไรกับโต๊ะไม้ตัวนี้ที่ถูกแกะสลักด้วยไม้จินสื่อหนานทั้งชิ้นที่แทบจะบอกได้เลยว่าหาได้ยากมาก ด้วยเนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงมาก ดังนั้นราคาก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นราคาขายของมันจึงอยู่สูงถึง 3.1 ล้าน…”
คุณหลิว พูดอย่างช้าๆ โดยไม่คิดว่า คุณชายซู จะซื้อ เพราะอย่างไรก็ตามมันแพงเกินไปจริงๆ
ใช้เงินมากกว่าสามล้านเพื่อซื้อโต๊ะไปไว้ในโถงตัวหนึ่ง ไม่ว่าโต๊ะนี้จะสวยงามแค่ไหน แต่ก็ดูเหมือนจะยอมรับได้ยากไปสักหน่อย…
“ผมต้องการมัน…”
แต่ทันทีที่เธอพูดจบ ซูเหวิน ก็พูดขึ้น
น้ำเสียงของเขาดูปกติ ธรรมดามาก.. มันราวกับเขากำลังพูดว่าคืนนี้จะกินอะไรดี ง่ายๆ แบบนี้
ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ คุณชายเซวีย และคนอื่นๆ เท่านั้น แม้แต่ คุณหลิว เองก็ตกตะลึง จากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาด้วยความปีติยินดี และรีบพูดว่า : “เข้าใจแล้วคะ คุณชายซู”
ในขณะนี้ อารมณ์ของ คุณหลิว ตื่นเต้นมาก
คุณต้องรู้ก่อนว่า โต๊ะตัวนี้ถูกวางไว้ในห้องจัดแสดงตั้งแต่ต้นปี และไม่มีใครสนใจมันมาเกือบครึ่งปีได้แล้ว แต่ในวันนี้ในที่สุดก็มีลูกค้ารายใหญ่นำมันออกไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังถูกขายออกไปจากมือเธอด้วย พนักงานร้านคนอื่นๆ ที่รู้เรื่องนี้คงจะอิจฉาแทบตายแน่ๆ
เธอประมาณการคร่าวๆ บวกกับโต๊ะไม้หนานมู่นี้ วันนี้เธอขายเฟอร์นิเจอร์ได้มากกว่า 20 ชิ้น โดยมียอดขายเกือบ 6 ล้านหยวน ค่าคอมมิชชั่นที่เธอจะได้คงประมาณหลาย 100,000 หยวน
ขอบอกตามตรงเลยว่า เธอไม่เคยได้รับค่าคอมมิชชั่นที่สูงขนาดนี้ตั้งแต่เธอเข้ามาทํางานกับบริษัท
คุณหลิว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น เหลาเฉิง คนดี เขาชักชวนธุรกิจใหญ่ขนาดนี้มาให้เธอจริงๆ
และดูเหมือนว่าคืนนี้เธอจะต้องให้รางวัลสามีคนดีของเธอเสียแล้ว…
“คุณชายซู จริงๆ คุณไม่เห็นจำเป็นต้องฟุ่มเฟือยขนาดนี้เลย ยิ่งกว่านั้นการซื้อเฟอร์นิเจอร์ครั้งนี้ คุณก็เสียเงินไปไม่น้อยเลย จริงมั้ย?”
เมื่อเทียบกับ คุณหลิว แล้ว อารมณ์ของ เซวีย ชิงเสวีย ก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น เขามอง ซูเหวิน และถามออกไปด้วยสีหน้ามืดมนมาก
ซูเหวิน คนนี้ดูใจกว้างกว่าเขาทุกครั้งที่ลงมือ เขาจึงเริ่มสงสัยมากว่าอีกฝ่ายรวยจริง หรือแกล้งทำเป็นวางท่ากันแน่
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันเข้าใจ ประโยคต่อไปของ ซูเหวิน กลับทําให้เขารู้สึกโกรธมาก
เห็นแต่เพียง ซูเหวิน เขาแค่ยกยิ้ม แล้วกล่าวออกไปอย่างไม่แยแสว่า : “มันไม่ใช่เงินมากอะไร และมันก็แค่ 4 ล้านเท่านั้นเอง…”
ชื่อตอนเป็นสำนวนครับ
(1)[คนเราถ้าเทียบกับคนอื่นแล้วจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ (人比人,气死人)] - เมื่อผู้คนอาศัยอยู่ในโลกนี้ สถานการณ์ หรือโอกาสของพวกเขาก็ย่อมแตกต่างกันมากจนยากที่จะเปรียบเทียบได้ หมายความว่าคนต้องคิดอย่างเปิดเผย และไม่ควรเปรียบเทียบกับคนอื่นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า อย่างอุปมาที่ว่า แข่งเรือแข่งพายได้ แต่แข่งบุญวาสนาไม่ได้