ตอนที่แล้วตอนที่ 16 คำขอโทษจากตระกูลถัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 พี่สาวพนักงานขายคุณต้องการจะสื่ออะไร???

ตอนที่ 17 คุณชายหลี่ พร้อมแล้วที่จะสอนบทเรียนแก่อีกฝ่าย


“ภารกิจเสริม คุณสามารถทําหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าไม่ทําคุณจะสูญเสียรางวัลเงินสด 30 ล้านไป โฮสต์ โปรดเลือกด้วยตนเอง”

“นอกจากนี้ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ในฐานะที่เป็นหนึ่งในชนชั้นสูงของเมืองม่อ และเธอที่ได้มาจากตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ อีกทั้งในเมืองม่อแห่งนี้ เธอยังอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่คล้ายกับวิลล่าที่ระบบได้มอบให้แก่โฮสต์”

“เธออยู่มาหลายปีแล้ว ย่อมต้องรู้เป็นอย่างดีว่า วิลล่า แบบนี้ต้องการเฟอร์นิเจอร์อะไร และควรเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ประเภทใด ดังนั้นเพื่อที่คุณจะได้ไม่ขาดทุน การพา เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ไปด้วยจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง”

ระบบ อธิบาย..

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้…”

ซูเหวิน ลูบคางตัวเอง คําพูดฟังดูมีเหตุผล.. และเงินสด 30 ล้านก็ใช่ว่าจะเปล่าประโยชน์!

“รับภารกิจ” ซูเหวิน ตอบรับทันที

จากนั้นเขาก็มองไปที่ ผู้จัดการเฉิง แล้วพูดว่า : “แล้วสถานที่ทำงานของภรรยาคุณ?”

“ถนนเฟิงหลิน ฝั่งย่านการค้าครับ”

พูดพลาง ผู้จัดการเฉิง ก็หยิบโปสการ์ดใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้ ซูเหวิน ดูเหมือนเมื่อก่อนเขาจะหาลูกค้าให้กับภรรยาได้ไม่น้อยจริงๆ…

“อืม.. ถ้ามีเวลาผมจะไปดู” ซูเหวิน พูดพร้อมกับยื่นมือไปรับการ์ดมา...

หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนต่างๆ แล้ว เขาก็ขับรถกลับไปที่มหาวิทยาลัย

ทันทีที่พอก้าวเข้าประตูมหาลัยเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมห้องให้รีบกลับไปที่หอพักโดยเร็ว

ซูเหวิน ที่ไม่รู้ว่าทำไม เขาจึงตรงไปที่หอพักโดยตรง

ทันทีที่เขากลับมาถึง เพื่อนร่วมห้องหลายคนก็รุมเข้ามามองเขาทันที มองซ้าย มองขวาซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับจำเขาไม่ได้

“สุดยอด สุดยอดเกินไปแล้ว เหลาซู ตอนนี้ฉันยิ่งชื่นชมนายมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!”

“นายมันก็ได้แค่ชื่นชม แต่ฉันนี่แมร่ง รู้สึกอิจฉาแทบจะตายอยู่แล้ว ไอบ้าเอ๊ย!”

“ไหนนายลองบอกพวกเรามาตามตรงทีสิ นาย กับเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ไปถึงขั้นไหนแล้ว?”

เพื่อนร่วมห้องหลายคนพออ้าปากก็ทําให้ผู้คนรู้สึกสับสนจริงๆ..

“เดี๋ยว ขั้นไหนอะไร?” ซูเหวิน เอาตรงๆ เขาไม่เข้าใจ

“ให้ตายเหอะ… ยังมาแกล้งทำเป็นไม่รู้ ไหนใครมันขับรถ Aston Martin ออกจากมหาลัยไปเมื่อคืน แล้วไปรับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย?”

เฉินหมิง ถามอย่างเค้นคออีกฝ่าย

“..รู้ได้ยังไง?” ซูเหวิน ประหลาดใจแล้ว

“ยังจะมาถามอีกว่ารู้ได้ยังไง พวกฉันก็เห็นจากคลิปวิดีโอนี้ยังไง เชี้ยเอ้ย เหลาซู คราวนี้นายแมร่งกลายเป็นเทพบุตรไปแล้ว”

จูเหยี่ยน กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“ใช่! Aston Martin เป็นรถซุปเปอร์คาร์อันดับต้นๆ ของโลก ทั้งมันยังมีมูลค่าหลายสิบล้าน!”

“ดูนี่.. ทุกคนกําลังคาดเดาว่า เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย กำลังเลี้ยงนาย โดยมอบรถหรูคันหนึ่งให้กับนายไป เหลาซู ไหนแกสารภาพกับพวกเรามาตามตรง ไอ้ซุปเปอร์คาร์คันนั้น เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ให้แกยืม หรือว่าเธอมอบให้กับแกกันแน่?”

แม้แต่ เหอ เหวินเฟิง คนที่ไม่ค่อยชอบเรื่องซุบซิบนินทา ตอนนี้ก็ยังถามมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอยากรู้…

ปรากฏว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะที่ ซูเหวิน ขับรถออกจากประตูมหาลัยเพื่อไปรับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ไปดูหนัง ก็ได้ถูก นักศึกษาคนหนึ่งในที่เกิดเหตุถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ได้ และนำไปเผยแพร่ลงในฟอรั่มของมหาลัย

ในเวลาไม่ถึงวันก็เกิดความโกลาหลขึ้นบนฟอรั่ม พร้อมกับการเดาเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ มากมาย

ในที่สุด ซูเหวิน ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รถซุปเปอร์คาร์ของเขา ถูกทุกคนเข้าใจผิดว่าเป็นของขวัญจาก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย?

และเขาถูก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เลี้ยงดู? ซูเหวิน ไม่รู้ว่าเขาจะยิ้มหัวเราะ หรือจะร้องไห้ก่อนดี

อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้สึกว่าการปกปิดตัวตนของตัวเองจากพี่น้องไม่ใช่เรื่องที่ดี ดังนั้นเขาจึงพูดไปว่า : “ดีแล้ว ที่พวกนายไม่เดาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าไป Aston Martin คันนั้นไม่ได้มาจาก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย แต่เป็นของฉันเอง”

ซูเหวิน พูดตามความจริง

เฉินหมิง : “......”

จูเหยี่ยน : “......”

เหอ เหวินเฟิง : “......”

“เหลาซู เพื่อน.. นายมีไข้หรือเปล่านะ? ขอถามหน่อยเหอะ นี่นายมันกำลังเพ้อบ้าอะไร?”

เฉินหมิง ตกใจเล็กน้อย

“ไอ้บร๊าาา นั่นมันรถหรูมูลค่ากว่า 40 ล้านหนวน แม้แต่คนรวยก็แทบไม่มีปัญญาหาซื้อได้ แล้วแกมันจะไปเอาเงินจากไหนซื้อมา?”

จูเหยี่ยน ก็มีสีหน้าพูดไม่ออกเช่นกัน และนึกไปว่าเขากำลังล้อเล่นอยู่

“ฉันไม่ได้โกหกพวกนาย รถคันนั้นมันเป็นของฉันจริงๆ และฉันเพิ่งซื้อมันมาไม่นานนี้เอง”

ซูเหวิน กล่าวอีกครั้ง

เริ่มต้นเขาไม่ได้ตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับพี่น้องทันที เพราะกลัวว่าทุกคนจะตกใจมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะรอโอกาสที่เหมาะสมแล้วค่อยบอก แต่เมื่อเหตุการณ์มันมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็รู้สึกว่าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปิดซ่อนอะไรแล้ว

เขารีบเช็ดเหงื่อก่อนจะพูดไปว่า : “จริง ๆ แล้วฉันมีลุงคนที่สองอยู่คนหนึ่ง…”

ขณะเดียวกัน บริเวณสนามเด็กเล่นของมหาลัย..

คุณชายหลี่ กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับเพื่อนสองสามคน โดยกำลังคุยอะไรบางอย่างกันอยู่

“คุณชายหลี่ คุณเตรียมที่จะสอนบทเรียน ไอ้ซูเหวิน นั่นยังไง?” ทันใดนั้นก็มีคนถามขึ้นมา

ปรากฎว่าทุกคนกําลังพูดคุยเกี่ยวกับ ซูเหวิน และคนที่เพิ่งพูดเมื่อกี้เป็นเพื่อนคนหนึ่งของ คุณชายหลี่

เวลานี้ หลี่ อวี้เฟิง กลับมีสีหน้ามืดครึ้ม แล้วพูดว่า : “ครั้งที่แล้วเรื่องของ ฟาง ซินอี๋ ทําให้เขาตั้งคำถามกับฉัน มาตอนนี้เขาได้ไล่ตาม ดอกไม้งาม เซี่ย แล้วคิดหรือว่าฉันจะทําให้มันสมหวัง?”

ขณะพูดไปอย่างนั้น คุณชายหลี่ ก็หัวเราะ และยิ้มหยันออกมาอย่างดูถูก

นับตั้งแต่ทิ้ง ฟาง ซินอี๋ ไป เขาก็เก็บกลั้นความโกรธในใจนี้มาโดยตลอด และที่มาของความโกรธนี้ก็คือ ซูเหวิน…

ผู้ชายคนนี้ มองดูเรื่องตลกระหว่างเขา กับฟาง ซินอี๋ ในร้านอาหารวันนั้น และเขาจะมาแสร้งทําเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปได้ยังไง?

และเพิ่งเมื่อวานนี้เองที่เขาทราบข่าวว่า ดอกไม้งาม เซี่ย ส่งรถหรูให้กับ ซูเหวิน แน่นอนว่าเขาย่อมเกิดความโกรธแค้น และความอิจฉาในใจขึ้นมาอย่างไม่รู้จบ

ต้องรู้ก่อนว่า.. เขาได้ไล่ตาม ดอกไม้งาม เซี่ย มานานแค่ไหนแล้ว แต่.. ดอกไม้งาม เซี่ย เธอกลับไม่เคยแม้แต่จะมองมาที่เขาด้วยซ้ำ

แต่ ซูเหวิน ไอ้คนจนนั่น ทำไม.. เพราะอะไรมันถึงได้รับความรักจาก ดอกไม้งาม เซี่ย?

และแม้กระทั่งรถหรู เธอก็ไม่ลังเลที่จะส่งให้กับมัน ทำไม??

“มันถึงเวลาที่จะสอนบทเรียนให้กับไอ้สารเลวนั้นแล้ว ผู้ชายคนนี้มันเพิ่งปีนขึ้นไปบนยอดกิ่งไม้สูง(1)ของ ดอกไม้งาม เซี่ย และมันคงกําลังรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก!”

“ใช่! ครั้งที่แล้ว ไอ้ซูเหวิน มันกล้าทําให้คุณอับอายในร้านอาหาร และมันถึงเวลาของเราที่จะให้สีมัน(2) เพื่อให้มันรู้ว่าใครควรยุ่ง และใครไม่ควรยุ่งด้วยได้..”

พอได้ยินว่า คุณชายหลี่ ต้องการสั่งสอนบทเรียนแก่ ซูเหวิน ทุกคนก็ต่างส่งเสียงเชียร์กันอย่างพร้อมเพรียง

ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ไม่ชอบเห็น ซูเหวิน และดอกไม้งาม เซี่ย เดินไปด้วยกัน

อีกทั้งพวกเขายังอิจฉา ซูเหวิน ที่ได้รถหรู..

ตอนนี้มีคนช่วยพวกเขาสอนบทเรียนแก่ ซูเหวิน แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีความสุขไปกับมัน ..เป็นธรรมดา

นอกจากนี้ คุณชายหลี่ ยังเป็นนายน้อยคนโตแห่ง กลุ่ม ไฮเทค โฮลดิ้ง กรุ๊ป ถ้าต้องการลม ก็จะได้ลม ถ้าต้องการฝน ก็จะได้ฝน(3) ทั้งการส่งลูกน้องไม่กี่คนไปสอนบทเรียน ซูเหวิน มันก็ใช่ว่าเรื่องยากอะไรจริงมั้ย?

หลี่ อวี้เฟิง พยักหน้า และพูดอย่างเย็นชาว่า : “พวกนายเตรียมรอดูกันได้เลย..”

“คุณจะสอนบทเรียนมันที่ไหน?” มีคนถามอย่างสงสัย

“วางใจได้ ฉันไม่โง่พอที่จะลงมือที่นี่ มี ฟาง ซินอี๋ อยู่ ยังจะกลัวว่าฉันจะจัดการกับมันข้างนอกไม่ได้หรือไง?”

“เฮ้ๆ ไม่ใช่ว่าคุณทิ้งเธอไปแล้วเหรอ?” ทุกคนประหลาดใจ

“ฉันทิ้งเธอไปแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะใช้งานเธอไม่ได้ ทั้งหมดมันก็แค่เรื่องของเงิน เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เงินไม่สามารถแก้ไขได้ยังไง..”

คุณชายหลี่ ได้หัวเราะ และพูดมันออกมาอย่างมั่นใจ ราวกับว่าเขามีแผนการอยู่ใจแล้ว...

........

ถนนเฟิงหลิน ฝั่งย่านการค้า..

ย่านการค้า เฟิงหลิน ตั้งอยู่บนถนนวงแหวนที่สามของเมืองม่อ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่คึกคักที่สุดในย่านนี้

ตรงหน้ามีอาคารหลังหนึ่งที่ไม่สูงนัก แต่ลักษณะภายนอกกลับมีความพิเศษอย่างมาก ตรงกลางนั้นมีคําว่า ‘เหม่ยซือ เฟอร์นิเจอร์ ซิตี้’ ซึ่งทำให้ยิ่งดูสะดุดตามากขึ้น และนี่คือสถานที่ที่ ผู้จัดการเฉิน แนะนำมา

ทันใดนั้นก็เห็นรถ Aston Martin คันหนึ่งที่ดูหล่อเท่เอามากๆ ได้ขับตรงเข้ามาทางนี้อย่างช้าๆ และเข้าจอดอยู่ในลานจอดรถข้างๆ จากนั้นเห็น ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา ลงมาจากรถ

“เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย วันนี้รบกวนคุณมากจริงๆ ที่ให้มาช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์กับผม”

ทันทีที่ ซูเหวิน เพิ่งลงจากรถ เขาก็มองไปที่ ดอกไม้งาม เซี่ย แล้วกล่าวอย่างขอโทษเธอ

เมื่อไม่กี่วันก่อน ครั้งเขาไปรับมอบวิลล่า ระบบได้มอบหมายภารกิจเสริม โดยขอให้เขาเชิญ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย มาเลือกเฟอร์นิเจอร์ด้วยกัน ดังนั้นเมื่อวาน ซูเหวิน จึงรวบรวมความกล้าพูดกับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่า อีกฝ่าย.. จะตรงไปตรงมา และตอบรับคำของเขาอย่างรวดเร็ว

“ไม่เป็นไร และอีกอย่างฉันเองก็ถือว่ามาเที่ยวเล่นด้วย”

เซี่ย ซินเหยา ยิ้มเล็กน้อย และพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

ซูเหวิน โทรมาขอให้เธอช่วยดูเฟอร์นิเจอร์ให้ เธอก็มีความสุขมากแล้ว และเพราะคําเชิญของอีกฝ่ายนั้นเอง เธอจึงเลือกแต่งตัวมาสวยเป็นพิเศษด้วยซ้ำ

วันนี้เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดงอมชมพูอ่อน จับคู่กับกางเกงผ้าไหม แบบไอซ์ สลิค(Ice Silk) สไตล์สบายๆ กระเป๋าที่สะพายบนไหล่ยังคงเป็นกระเป๋าสีชมพูใบนั้น ให้ความรู้สึกสดใส

และการปรากฏตัวของเธอก็กลายเป็นทิวทัศน์ที่สะดุดตาที่สุดในย่านการค้าสายนี้ไปอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งผู้คนที่ผ่านไปมาต่างพากันมองมาด้วยความประหลาดใจ

ซูเหวิน เวลานี้ควรดีใจที่ตัวเองสูงพอดี 180 ซม. ร่วมกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาแล้ว เหมาะสมพอที่จะยืนเคียงข้างกับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย มิฉะนั้นเขาอาจจะทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าเป็น โฉมงาม กับเจ้าชายอสูร ไปอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้…

(1)[ปีนขึ้นไปบนยอดกิ่งไม้สูง (攀高枝儿)] - หมายถึง การผูกมิตรหรือเป็นญาติกับผู้ที่มีสถานะทางสังคมสูงกว่าตนเอง เพื่อหวังผลประโยชน์

(2)[ให้สี, เติมสีสัน (给点颜色看看)] - หมายถึง ลงโทษ สอนบทเรียน หรือแสดงความแข็งแกร่งของคุณต่ออีกฝ่าย

(3)[ถ้าต้องการลมก็จะได้ลม ถ้าต้องการฝนก็จะได้ฝน (要风得风,要雨得雨)] - อธิบายว่า ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังอธิบายถึงบุคคลที่มีความสามารถ และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด