ตอนที่ 13 ภาพยนตร์สยองขวัญ
“ประธานซู?”
“ประธานของพวกคุณ.. แซ่ซู ตั้งแต่เมื่อไหร่? คุณจ้าว ฉันเรียนมาน้อย ดังนั้นคุณอย่าได้มาโกหกฉัน”
สีหน้าของ คุณชายลู่ จมลง และเขาพูดอย่างไม่พอใจออกไป
เขา และคุณจ้าว ได้พบปะกันในงานเลี้ยงครั้งหนึ่ง และเขาทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างสนุก ดังนั้นเขาจึงได้รู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับ โรงแรมฮิลส์
“ไม่ใช่อย่างนั้น!”
“คุณชายลู่ คุณคงยังไม่รู้..”
“เมื่อหลายวันก่อนมีชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อ ซูเหวิน เข้าซื้อโรงแรมฮิลส์ของเรา และได้มีการลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการไปเมื่อวานนี้ ดังนั้น ตอนนี้ชายหนุ่มคนนี้จึงกลายเป็นท่านประธานคนใหม่ของเรา”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อ คุณจ้าว จึงรีบอธิบายออกไปอีกครั้ง
“คุณพูดอะไร.. เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?”
“เดี๋ยวนะ.. คนที่ซื้อโรงแรมฮิลส์ของพวกคุณไป มีชื่อว่า ซูเหวิน? และนี่คุณบอกว่า เขาชื่อ ซูเหวิน งั้นเหรอ?”
คุณชายลู่ ขมวดคิ้ว และเริ่มสงสัยว่าเมื่อกี้นี้ เขาได้ยินผิดไป ..หรือเปล่า
“เอ่อ…ครับ ใช่ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เขาคนนี้ชื่อ ซูเหวิน และยังเป็นนักศึกษาอยู่ใช่ไหม!”
“อ้า.. จริงสิ จะว่าไปก็ใช่ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ คุณชายซูเหวิน คนนี้ก็เหมือนกับคุณเช่นกัน ดูเหมือนเขาจะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทียนเวยด้วย”
คุณจ้าว ยังคงพูดอะไรบางอย่างอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ แต่ คุณชายลู่ ตอนนี้ ..ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินอะไรเลย
เพราะในขณะนี้ เขา.. เบิกตากว้างแล้ว
มันเหมือนกับฟ้าผ่าลงตอนกลางวันแสกๆ ในหัวของเขาตอนนี้ได้ยินแต่เสียงดังหึ่งๆ และเขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น...
........
อีกด้านหนึ่ง ภายในโรงภาพยนตร์ที่ 8
“กรี๊ดดด~”
หน้าจอ IMAX ขนาดใหญ่ที่มีแสงสีดำกระพริบวูบไหลไปมาอย่างต่อเนื่อง และบนแถวที่นั่งของผู้ชมภายในโรงภาพยนตร์แห่งนี้ก็จุคนได้หลายร้อยคนเลยทีเดียว
ฉากที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ทําให้ผู้ชมรู้สึกหวาดกลัวจนต้องเอามือกุมหัว และกรีดร้องออกมาอยู่บ่อยครั้ง
ที่น่าแปลกใจคือ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ที่ค่อนข้างกลัวในการดูหนังสยองขวัญแบบนี้เสมอ วันนี้เธอกลับดูสงบไปอย่างไม่คาดคิด
และแม้แต่ความกลัวเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่มีให้เห็น
แต่ถ้าคุณมองดูดีๆ ก็จะพบว่า สายตาของ ดอกไม้งาม เซี่ย เวลานี้ไม่ได้อยู่บนหน้าจอเลย แต่กลับดูเหมือน เธอ.. กำลังเหม่อลอยอยู่มากกว่า
สำหรับดอกไม้งาม เซี่ย แล้ว.. คืนนี้เป็นคืนที่น่าตกใจมากเกินไปจริงๆ
ซูเหวิน เพื่อนร่วมชั้นที่ธรรมดา และแสนจะเรียบง่ายในความประทับใจของทุกคน จู่ๆ ตัวตนของเขาในวันนี้ก็กลายเป็นปริศนาไปอย่างไม่คาดคิด.. ซึ่งเรื่องนี้มันทําให้เธอรู้สึกสับสนจริงๆ
แต่ดีที่เธอไม่ใช่คนที่คิดอะไรให้มาก ในสิบกว่านาทีต่อมาเธอก็กลับมาสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้อีกครั้ง
..ท้ายที่สุดแล้ว เธอเองก็ได้ตั้งตารอที่จะดูภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องที่กำลังเล่นอยู่ตรงหน้าเธอ มานานแล้ว
เซี่ย ซินเหยา จึงตัดสินใจว่า ดูภาพยนตร์ให้จบก่อน แล้วค่อยว่ากัน
จากนั้นเธอก็เพ่งความสนใจไปที่หน้าจอ
ในช่วงเวลานี้เองที่ฉากที่น่ากลัวที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ปรากฏขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ และเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็ตกใจมากจนแทบจะกระโดดขึ้น..
“กรี๊ดดด~”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างรวดเร็วข้างๆ ซูเหวิน
ทันทีหลังจากนั้น เขาก็รู้สึกถึงเพียงร่างกายที่อ่อนนุ่มมากๆ แนบเข้ามา จากนั้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จางๆ ที่ทําให้ผู้คนรู้สึกมัวเมา มันก็ได้หลั่งใหลเข้ามาทางจมูก ซึ่งทำให้เขารู้สึกหลงใหลไปกับมันไป.. อย่างบอกไม่ถูก
นี่ยังไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด…
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ซูเหวิน พบว่าปากของเขาดูเหมือนจะสัมผัสเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง เมื่อเขาตอบสนอง เขาจึงพบว่าที่แท้มันเป็นหน้าผากนวลของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ...
ซึ่งมันช่างหอมหวาน และนุ่มนวลจริงๆ
“ช..ใช่ คือผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ใบหน้าของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที และเธอรีบผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดของ ซูเหวิน อย่างรวดเร็ว
พระเจ้า! เธอทำอะไรลงไป?
จูบเมื่อกี้…
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย อายมาก และแทบรอไม่ไหวที่จะหารอยแตกบนพื้นเพื่อจะซุกตัวเข้าไป
โชคดีที่ในโรงภาพยนตร์ทั้งโรงมืด และไม่มีใครมองเห็นใครได้อย่างชัดเจน
กอปรกับเมื่อกี้ทุกคนกรีดร้องตกใจไปกับฉากในภาพยนตร์ และไม่ได้สังเกตเห็นพวกเขา.. ดังนั้นเธอจึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเห็น เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย มีท่าทางตื่นตระหนก ซูเหวิน จึงยิ้มแล้วพูดว่า : “ถ้าคุณกลัว ก็พยายามโน้มตัวเข้าหาผม หรือซบหน้ากับไหล่ผมได้เลย”
ซูเหวิน กล่าวอย่างจริงจัง
“อืม... ขอบคุณนะ!”
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เม้มปาก ทั้งใบหน้าเธอเวลานี้ยังคงแดงอยู่
เธอยังคงสัมผัสถึงความอบอุ่นตรงหน้าผากได้อยู่ ทั้งมันราวกับว่าจูบนั้นยังคงอยู่.. ที่เดิม
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ดูภาพยนตร์กันต่อ..
ต้องบอกว่าภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องที่กำลังออกฉายอยู่นี้ทําได้ดีจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็น ซาวด์แทร็ก บรรยากาศ หรือทักษะการแสดงของนักแสดง ทุกอย่างดูลงตัวมาก ยิ่งไปกว่านั้นความน่าสยดสยองก็เอาไปเต็มสิบ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คนจำนวนไม่น้อย รู้สึกหวาดกลัว
โดยเฉพาะกับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย…
ในความเป็นจริงแล้วเธอก็เหมือนกับเพื่อนสนิทที่กลัวมากๆ เวลาดูภาพยนตร์สยองขวัญ ซึ่งพวกเธอก็ถูกจัดให้อยู่ในประเภท กลัวแต่ชอบดู
นี่ก็ทําให้ทุกครั้งที่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เห็นฉากที่น่ากลัว เธอก็อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าหา ซูเหวิน
แม้แต่มือข้างหนึ่งก็ยังจับค้างไว้ที่ปกเสื้อของอีกฝ่ายแล้ว ทั้งใบหน้าเล็กๆ ของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะฝังแนบเข้าไปกับอกของอีกฝ่าย ราวกับว่าเธอกลัวว่าจะมีใครเข้ามาทำร้ายเธอ..
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย สาบานว่าเธอไม่ได้ตั้งใจทําสิ่งที่ดูคลุมเครือนี้ ตามที่เพื่อนสนิทของเธอพูดจริงๆ แต่จริงๆ แล้วเธอแค่รู้สึกกลัวมากเลยทำมันลงไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น
เมื่อเทียบกับเธอแล้ว ซูเหวิน เวลานี้เขากลับรู้สึกอึดอัดมากกว่า…
หากมีผู้หญิงที่มีหน้าตาล้มเมืองอย่าง เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เข้าใกล้คุณเช่นนี้ เกรงว่าแม้แต่ หลิ่วเซี่ยฮุ่ย (ชายที่มีคุณธรรม และมีจิตใจแน่วแน่มั่นคง, 柳下惠) ก็แทบจะกดใจตัวเองเอาไว้ไม่อยู่เช่นกัน!
ในขณะนี้.. เขารู้สึกว่าความสนใจของเขาไม่สามารถมุ่งเน้นไปที่ภาพยนตร์ได้เลย
สิ่งที่เขามองเห็นในสายตาตอนนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเงาร่างของเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย
ทั้งหมดที่เขาสัมผัสได้คือความรู้สึกนุ่มนิ่มจาก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย
ทั้งหมดที่เขาได้กลิ่นคือ กลิ่นหอมที่เล็ดลอดออกมาจากร่างบางตรงหน้า…
ซูเหวิน รู้สึกว่าตัวเขาถูก เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย โอบกอดรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม และร่างกายของเขาตอนนี้รู้สึกชา ราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปทั่วร่างกาย (ประมาณ เสียวซ่าน)
“ฟู่ว!”
ซูเหวิน แอบถอนหายใจอย่างลับๆ หรือนี่คือที่เรียกว่า ความทรมานอันแสนหวานในตำนาน ..หรือเปล่านะ?
ด้วยเหตุนี้ เวลาจึงผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว..
ในที่สุดภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จบลง ทุกคนก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็ได้ทยอยกันเดินออกไปข้างนอกอย่างคึกคัก ส่วน ซูเหวิน กับเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็เดินติดตามคนกลุ่มใหญ่ออกไปด้วยเช่นกัน
เมื่อทั้งสองมาถึงล็อบบี้ของโรงภาพยนตร์ ก็พากันลงมาที่ชั้นล่าง เมื่อเดินออกมาแล้ว และได้สัมผัสกับสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่านเข้ามา เซี่ย ซินเหยา จึงรู้สึกเหมือนได้ตื่นขึ้นจากบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัว ..เมื่อครู่นี้
“คุณโอเคไหม? เมื่อกี้ผมเห็นว่าคุณดูกลัวไม่เบาเลย”
เมื่อนึกถึงภาพก่อนหน้านี้ที่ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ตกใจ หวาดกลัวจนตัวสั่นไปหมด ซูเหวิน จึงได้หันไปถาม เซี่ย ซินเหยา ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่... ไม่เป็นไร”
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ส่ายศีรษะ และพอนึกไปถึงสิ่งที่ตัวเองทํากับ เพื่อนร่วมชั้น ซู ในโรงภาพยนตร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง
ในตอนนี้ ระบบได้ส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในใจ(หัว)ของ ซูเหวิน...