ตอนที่ 11 ดอกไม้งาม เซี่ย เริ่มสงสัยเกี่ยวกับเพื่อนร่วมชั้น ซู
“ให้ตาย.. คุณชายลู่ อุตส่าห์คุยกับเขา แต่ไอ้ ซูเหวิน คนนี้มันกลับกล้าไม่สนใจคุณจริงๆ”
“ใช่ ถามหน่อยในมหาลัยเทียนเวย มีใครหน้าไหนมันกล้าทําแบบนี้กับ คุณชายลู่?”
เมื่อเห็น ซูเหวิน จากไปแบบนี้ เพื่อนสองคนของ คุณชายลู่ ก็อดจะโกรธไม่ได้
พวกเขาอยู่กับ คุณชายลู่ มาก็หลายปี และนี่มันยังเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นคนที่หยิ่งผยองขนาดนี้..
“ฉันเห็นว่าเขาคงยัดหัวหอมใหญ่เข้าในจมูกหมู(1) ก็แค่แสร้งทำ”
คุณชายลู่ ฮึ่มเสียงออกมาอย่างเย็นชา และในที่สุดเขาก็พูดออกมา…
แม้ว่า ซูเหวิน จะขับรถหรู แต่นายน้อยคนนี้ก็ไม่คิดเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
“ใช่.. นั่นคือ ไม่ว่า ซูเหวิน มันจะเจ๋งแค่ไหน จะสู้ คุณชายลู่ ไปได้อย่างไร”
“ดูพวกนั้น คงจะมุ่งหน้าไปที่โรงภาพยนตร์ ฮิลส์ แล้ว และเกรงว่าพวกนั้นคงจะยังไม่รู้ล่ะมั้งว่า คุณจ้าว ผู้จัดการทั่วไปของที่นั่นรู้จักกับคุณ อีกอย่างคุณเองได้เหมารอบที่พวกนั้นไปดูไว้เรียบร้อยแล้ว ..ด้วยการโทรออกไปเพียงครั้งเดียว”
“ก็คือ ดอกไม้งาม เซี่ย กับไอ้ ซูเหวิน นั่น ก็คงทำได้แต่ต้องยืนรอดู นาย.. ก้าวย่างสง่าผ่าเผยเข้าไปในโรงภาพยนตร์ ฮ่าฮ่าๆ…”
สองคนนั้นยิ้มหัวเราะอย่างสนุก และกล่าวยกย่องเพื่อประจบสอพลอ คุณชายลู่
หลังจากได้ฟังคำชมจากพรรคพวกแล้ว, คุณชายลู่ ก็ยกยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ
ความภาคภูมิใจของเขานั้น ไม่เพียงเพราะเขารู้จักกับผู้จัดการทั่วไปของโรงภาพยนตร์ฮิลส์ ..เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเขาได้ติดสินบน(ซื้อ)เพื่อนร่วมห้องของ ดอกไม้งาม เซี่ย และโดยจัดวางสายลับเอาไว้ข้างๆ ดอกไม้งาม เซี่ย
หาก ดอกไม้งาม เซี่ย มีลมพัดใบหญ้าไหว(2) เขาสามารถรู้เรื่องนี้ผ่านสายลับ เพื่อสร้างสถานการณ์ และโอกาสให้กับตัวเองได้ ..ตลอดเวลา
ตัวอย่างเช่นวันนี้.. เมื่อเขารู้ว่า ดอกไม้งาม เซี่ย มีนัดกับ ซูเหวิน เพื่อจะไปดูหนังในคืนนี้ เขาก็ใช้เวลานี้พาเพื่อนๆ ออกมาแอบดักรอที่หน้าประตูมหาลัย
เพียงแต่ไม่คาดคิดว่า วันนี้ ซูเหวิน ไอ้คนจนนั่นมันจะขับรถหรูมาจริงๆ และยังเป็นรถหรูอันดับต้นๆ ของโลกด้วย ซึ่งมันได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากเกินไป…
พอนึกถึงตรงนี้ ในใจของเขาทั้งตกใจ และก็โกรธอย่างมาก
“ไป ตามมันไป”
เขาก็ไม่คิดรอช้า เรียกเพื่อนสองคนขึ้นรถทันที พร้อมกับเหยียบคันเร่งขับออกไปในทิศทางของ โรงภาพยนตร์ ฮิลส์ ทันที
อีกด้านหนึ่ง…
บนถนนในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง รถ Aston Martin สุดเท่ได้วิ่งอยู่บนถนน ทิ้งแสง และเงา เอาไว้เบื้องหลัง…
ซูเหวิน และดอกไม้งาม เซี่ย นั่งอยู่ในรถ บรรยากาศก็ดูแปลกๆ ไปเล็กน้อย
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็พลางหันมามองสำรวจ ซูเหวิน เป็นครั้งคราว ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่มันปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ
ในฐานะที่เป็นหญิงสาวจากตระกูลที่ร่ำรวย และเป็นคุณหนู ของ ฮั่วซิน กรุ๊ป แม้ว่าเธอจะไม่เคยขับรถมาก่อน แต่เธอก็เคยนั่งรถหรูๆ มาแล้วมากมาย รถคันนี้ระดับไหนทำไมเธอจะไม่รู้..
เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย มั่นใจมากว่ารถคันนี้ ต้องมีมูลค่าอย่างน้อย 10 ล้านหยวน
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมชั้น ซู เป็นคนที่ค่อนข้างเรียบง่ายในมหาลัยมาโดยตลอด เขาจะไปมีรถหรูระดับนี้ ..ได้อย่างไร
ข้อนี้ คือสิ่งที่ทําให้เธออยากรู้อยากเห็นมาก..
“คุณเป็นอะไรไป หรือมีอะไรติดอยู่ที่หน้าผม?”
เจออีกฝ่ายมองมาตลอดแบบนี้ ซูเหวิน ก็เกิดสงสัยขึ้นมา
“ไม่.. ไม่มี”
ดอกไม้งาม เซี่ย ตกตะลึงครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ พร้อมกับแก้มขาวนวลของเธอถูกย้อมไปด้วยสีแดงทันที
เมื่อนึกถึงเมื่อกี้ ..ที่ตัวเองจ้องมองผู้ชายคนหนึ่งออกไปตรงๆ เช่นนี้ เซี่ย ซินเหยา ก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงไม่ดีขึ้นมา จึงรู้สึกว่ามันน่าอายมาก!
ระหว่างพูดคุยกันอยู่นั้น รถขับเข้าสู่ถนนใหญ่ และขับเข้าไปในอีกเส้นทางหนึ่ง สิบกว่านาทีต่อมาก็มาถึงลานกว้างอันหรูหราแห่งหนึ่ง
ที่นี่คือ ฮิลส์สแควร์ (Hills Square) ซึ่งเป็นย่านที่คึกคักที่สุดในเมืองม่อ
ที่นี่กล่าวได้ว่าเป็น ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่มีร้านอาหาร และร้านขายเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงมากมาย และยังมีสถานบันเทิงต่างๆ ให้ทุกคนได้พักผ่อนหย่อนใจ โรงภาพยนตร์ฮิลส์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ไม่นานนัก ผู้คนก็ได้เห็นซุปเปอร์คาร์สีดำสุดหรูคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดในลานจอดรถ จากนั้น ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา ก็เดินลงมาจากรถ
“เรา.. ขึ้นไปกันเถอะ”
ซูเหวิน มองไปที่ ดอกไม้งาม เซี่ย แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
เซี่ย ซินเหยา พยักหน้า และเดินเคียงข้างกับ ซูเหวิน เข้าไปข้างใน
พวกเขาได้ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 6 และมาถึงโรงภาพยนตร์
สิ่งที่มองเห็นตรงหน้าก็คือ ห้องโถงสีเหลืองทองอร่ามอันงดงาม..
เมื่อมองไปที่ห้องโถงตรงหน้า แม้แต่นักศึกษาอย่าง ซูเหวิน ที่อยู่ในเมืองม่อ มาตลอดสามปี.. ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
ให้ตาย, ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยมาโรงภาพยนตร์ มาก่อน…
แต่เพียงเขาไม่เคยเจอโรงภาพยนตร์ไหนตกแต่งออกมาอย่างหรูหราได้ขนาดนี้ ซึ่งคือเขาไม่รู้ และตอนนี้ยังกำลังคิดว่าตนเองเข้ามาในโรงแรมอยู่เลย!
“ตั๋วหนังของที่นี่น่าจะแพงมากใช่ไหม?”
ซูเหวิน กล่าวพลางถอนหายใจ
“ไม่หรอก ตั๋วของที่นี่มีราคากว่า 200 หยวน ซึ่งแพงกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็พูดได้ว่า ..ไม่ได้แพงมากนัก”
เซี่ย ซินเหยา พูดออกมาราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร..
ซูเหวิน : “......”
โอเค.. โลกของคนรวยนั้นช่างแตกต่างออกไปจริงๆ
ตั๋วมีราคากว่า 200 หยวน, ถ้าเป็นในโรงภาพยนตร์ทั่วไป 200 หยวนที่ว่า ..เกรงว่าเขาจะซื้อมันมาได้หลายใบแล้ว
ซูเหวิน ส่ายศีรษะ และเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับ ดอกไม้งาม เซี่ย
เพียงแต่ก่อนจะไปถึงเครื่องขายตั๋ว เขาเห็นเพียงชายหนุ่มอายุประมาณ 30 ปี สวมชุดสูทเดินออกมาจากทิศทางของเคาน์เตอร์แคชเชียร์
ชายหนุ่ม เหลือบมองฝูงชนที่กำลังคึกคักรอบๆ ตัวเขา ก่อนจะพูดว่า : “เรียน ลูกค้าทุกท่านที่มาชมภาพยนตร์ ทางเราขอแจ้งให้กับทุกท่านโปรดทราบ เนื่องจากด้วยเหตุผลพิเศษ ภาพยนตร์สยองขวัญในคืนนี้ จะเริ่มฉายในเวลา 20:30 น. …”
ชายหนุ่มในชุดสูทได้พูดออกมา ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากไปในทันที
อย่างไรก็ตาม คําพูดของเขาหยุดลงอย่างกะทันหันก่อนที่จะพูดจบ
จากนั้นเห็นเพียงรูม่านตาของชายหนุ่มในชุดสูท หดตัว และดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง เวลานี้เขาได้มองมาไปในทิศทางของ ซูเหวิน ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ โดยเขาพูดพึมพำออกมาว่า : “ซู... ท่านประธานซู?”
(1)[ยัดหัวหอมใหญ่เข้าในจมูกหมู (猪鼻子插葱)] - ซึ่งเป็นสำนวนพักท้าย (歇后语) ความหมายคือ เพื่อที่จะแสร้งทำเป็น ช้าง (大象) โดยใส่หอมใหญ่เข้าไปในจมูกหมู หรือคือ งวง เปรียบได้ว่าเป็นการ ‘เสแสร้ง’ ใช้อธิบายถึง บุคคลที่เสแสร้ง…
(2)[ลมพัดใบหญ้าไหว (风吹草动)] - หญ้าแกว่งไปมาเมื่อมีลมพัด อุปมา เหตุการณ์มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ