Chapter 410 ไร้ประโยชน์จริง ๆ

ด้วยระบบสาดน้ำเย็นเข้าใส่ ทำให้เขาเงียบหุบปากไปในทันที.

เพียงแค่พื้นที่รอบ ๆ เทือกเขาไท่กู่ที่มีพลังวิญญาณเหนือกว่าปกติ 20 เท่า แค่นี้ก็ทำให้เหล่ากลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ น้ำลายสอแล้ว.

ดังนั้น เขาจำเป็นต้องหาวิธีในการปกปิด.

“เพราะอ่อนแอ.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวทอดถอนใจ “ไม่เช่นนั้น ทำไมต้องกลัวคนอื่น.”

คนธรรมดาไม่ผิด ผิดที่มีหยก.

ทว่า ปรกติหากตัวเขาไม่ท้าท้ายเหล่ากลุ่มอิทธิพล อีกฝ่ายก็ไม่ควรที่จะมาหาเรื่องเขาเช่นกัน.

จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ในห้องหนังสือ ครุ่นคิดหาวิธีแก้ไข.

“ใช่แล้ว!”

ดวงตาของเขาที่เป็นประกายขึ้นในทันที “ไม่ใช่ว่าข้ามีค่ายกลที่สามารถควบคุมพลังวิญญาณอยู่หรอกรึ?”

ตอนนี้ทั่วทั้งเทือกเขาไท่กู่ ไม่ว่าพื้นที่ใดก็มีพลังวิญญาณสูง.

พื้นที่กว้าง โอกาสที่คนอื่นจะล่วงรู้ก็ยิ่งมีมากกว่าปรกติ.

หากเขาสามารถควบคุมได้ ก็รวบรวมมันเอาไว้ในจุด ๆ หนึ่ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโอกาสในการพบก็จะลดลง.

นอกจากนี้.

พลังวิญญาณที่หนาแน่นนี้ ไม่จำเป็นต้องกระจายไปทั่วเทือกเขา ควบคุมไว้ในพื้นที่เป็นจุด ๆ เช่น พื้นที่บ่มเพาะ หรือสวนสมุนไพรก็พอแล้ว.

“เหล่าเหว่ย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ามีความเห็นอย่างไร?”

เหล่าเหว่ยที่ครุ่นคิด เอ่ยออกมาว่า “เทือกเขาไท่กู่มีพลังวิญญาณหนาแน่นจริง ๆ เตะตาคนอื่นได้ง่าย หากเจ้าสำนักควบคุมไว้ในพื้นที่ต้องใช้ ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว.”

“ตกลง.”

จุนซ่างเซียวที่เริ่มทำงานหนักอีกครั้ง.

จากนั้นเขาก็วางค่ายกลปิดแยกบนบริเวณที่ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา จากนั้นก็เชื่อมเป็นทางยืดขยายมายังบางจุดของสำนัก จากนั้นก็ทำเป็นทางผ่านไปยังพื้นที่ค่ายกลรวมวิญญาณ จากนั้นก็ขยายยืดยาวไปยังสวนสมุนไพร ไปยังพื้นที่ต่าง ๆที่ต้องการพลังวิญญาณสนับสนุน.

จากนั้น.

เทือกเขาไท่กู่เจิ้งที่มีพลังวิญญาณสูงขึ้น ก็คืนกลับสู่สภาพปรกติช้า ๆ.

ทว่าค่ายกลรวมวิญญาณ ด้วยการมีพลังวิญญาณสนับสนุน ทำให้พื้นที่ด้านในมีความเข้มข้นสามสิบเท่าเหมือนเดิม.

และพื้นที่สมุนไพรเองก็มีพลังวิญญาณสูงหล่อเลี้ยงเช่นกัน ทำให้วัตถุดิบสมุนไพรเติบโตเร็วกว่าเดิม.

แน่นอน.

จุนซ่างเซียวที่ยืดขยายต่อพื้นที่ไปยังรังหมาป่าเฮอริเคนด้วย.

เพื่อว่าจะได้ทำให้พวกมันได้รับการซึมซับพลังวิญญาณ ยกระดับความแข็งแกร่งของพวกมันขึ้นด้วย.

หลังจากยุ่งวุ่นวายอีกสองวัน ยกเว้นพื้นที่พิเศษ แม้แต่ภายในสำนักไท่กู่เจิ้ง พลังวิญญาณก็คืนกลับสู่ปรกติ.

ถึงจะมียอดฝีมือผ่านเข้ามาในสำนัก ก็จะไม่รู้ว่าพื้นที่แห่งนี้เกิดปรากฏการณ์พลังวิญญาณฟื้นคืน.

“เรียบร้อย.”

หลังจากเสร็จสิ้นธุระแล้ว จุนซ่างเซียวก็เข้ามาในค่ายกลรวมวิญญาณ บ่มเพาะอยู่ชั่วขณะ รับรู้ว่าพลังวิญญาณที่ดูดซับเข้ามานั้นเหนือกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้เขาเผยยิ้มออกมา.

ความหนาแน่นพลังวิญญาณสามสิบเท่า จะทำให้เขาและศิษย์ยกระดับได้เร็วขึ้นอีก!

“......”

เขาที่เผยท่าทางสงสัย“ค่ายกลรวมวิญญาณสิบเท่า หากด้านนอกหนาแน่น 20 ด้านในเป็นสามสิบ ทว่าหากข้างนอกมีความหนาแน่นมากว่า 20 เท่า พลังวิญญาณด้านในไม่เพิ่มขึ้นมากกว่าสามสิบเท่าหรอกรึ?”

ระบบเอ่ย “ค่ายรวมวิญญาณระดับต้น มีขีดจำกัดเพียงแค่ 30 เท่า.”

เหมือนกับยันต์แห่งพลังระดับต้น ที่เพิ่มพลังขึ้นห้าเท่า ทว่าก็ไม่สามารถเกินเพดานของพลังที่กำหนดไว้ได้.

“กล่าวให้ถูก”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ต้องการให้พลังวิญญาณสูงกว่านี้ ก็ต้องใช้ค่ายกลรวมวิญญาณที่สูงกว่านี้สินะ.”

กล่าวจบ เขาที่นำตำราค่ายกล 32 ประตูวิญญาณออกมา.

เขาไม่ได้มองไปยังระดับทั่วไป เขาที่ตรวจสอบระดับกลาง ซึ่งพบค่ายกลรวมวิญญาณระดับสูงขึ้นเช่นกัน และคำอธิบายออกมาว่าสามารถรวมพลังวิญญาณได้ 50 เท่า.

“พลังวิญญาณปรกติเพิ่ม 20 เท่า ระดับทั่วไปเพิ่มขึ้น 30 เท่า แล้วระดับกลางเพิ่มขึ้น 50 เท่าหรือไม่?”

“โฮสน์ต้องการ.”

ระบบที่กล่าวเหน็บ “ค่ายกลรวมวิญญาณเพื่อรวบรวมพลังวิญญาณเท่านั้นรึ? อย่าลืมว่าเทือกเขาไท่กู่เพิ่งยกระดับพลังวิญญาณ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะหล่อเลี่ยงค่ายกลระดับสูงได้พอ.”

จุนซ่างเซียวที่ไม่สนใจระบบ พยายามศึกษาค่ายกลระดับกลาง ทว่ายิ่งมองก็ทำให้เขาตาลาย.

ท้ายที่สุดเขาก็จำเป็นต้องเก็บตำรา 32 ประตูวิญญาณกลับเข้าไปในแหวน “ข้าเป็นเพียงอาจารย์ค่ายกลระดับต้น ไม่สามารถสร้างค่ายกลระดับกลางได้ในเวลานี้.”

ระบบเอ่ย “พอใจแล้วสินะ.”

“ใช่.”

ก่อนหน้านี้ 10 เท่า ยกระดับเป็น 30 เท่า นี่ยังไม่พอใจอีกรึ?

หลังจากครุ่นคิดไปมา เขาก็กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง.

......

ค่ายกลรวมวิญญาณที่เพิ่มระดับขึ้น ทำให้ศิษย์ของเขาได้กำไรเป็นอย่างมาก มีคนเข้ามาบ่มเพาะกันมากมาย.

ก่อนหน้านี้บ่มเพาะหนึ่งวันเท่ากับคนอื่นบ่มเพาะ10 วัน ในเวลานี้เข้ามาบ่มเพาะ 1 วันเท่ากับคนทั่วไปบ่มเพาะ 30 วัน ดังนั้นศิษย์ของเขาที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ระดับต่ำ ตอนนี้บ่มเพาะเพียงแค่วันสองวันด้านใน ก็สามารถตัดผ่านระดับกันได้เป็นจำนวนมาก.

จุนซ่างเซียวที่บ่มเพาะอย่างเอาจริงเอาจังเช่นกัน.

แกนพลังในร่างของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลอดจนเม็ดยารวมวิญญาณสนับสนุนอีก ไม่ถึงเดือนเขามั่นใจว่าจะตัดผ่านระดับไปยังบรรพชนยุทธ์ขั้นที่หกได้อย่างแน่นอน.

“ไม่เลวเลย.”

ระบบเอ่ย “ด้วยความเร็วนี้ ถึงจะเป็นยอดพรสวรรค์ของทวีปชิงหยุน ก็ต้องยังต้องใช้ศิลาวิญญาณเข้าช่วย ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางตัดผ่านระดับหนึ่งขั้นในหนึ่งเดือนได้.”

“ใช่แล้ว ศิลาวิญญาณ!”

จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบไปพบเหล่าเหว่ย เอ่ยออกมาว่า “พลังวิญญาณฟื้นคืน ตอนนี้ควรจะมีเหมืองศิลาวิญญาณปรากฏขึ้นแล้วรึไม่?”

“ถูกแล้ว.”เหล่าเหว่ยเอ่ย.

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางตื่นเต้นออกมา “เหมืองอยู่ที่ใหน?”

เหล่าเหว่ยเอ่ย “พื้นที่พลังวิญญาณหนาแน่นที่สุด ด้านล่างจะต้องมีสายแร่ศิลาวิญญาณ เจ้าสำนักก็ควรจะขุดที่ตรงนั้น.”

จุนซ่างเซียวไม่ลังเลเลย เขาที่เรียกหลี่ชิงหยางและอีกหลายคน นำจอบและพลั่ว มุ่งไปยังพื้นที่พลังวิญญาณฟื้นคืน และเริ่มขุด.

การขุด ไม่ใช่ขุดลงไปเพียงสองสามฉื่อ(0.33) ทว่าจะต้องขุดลงลึกมากกว่า 500 เมตร ใต้พื้นที่มีน้ำเจิ่งนอง จนเสื้อผ้าที่เปื้อนดินเปื้อนโคลนเต็มไปหมด.

จุนซ่างเซียวและศิษย์ยังคงขุดออกไปรอบ ๆ เป็นหลุมเข้าไป สุดท้ายแล้วก็พบกับศิลาขนาดเท่ากับหัวแม่โป้งมือเป็นเหมือนกับหยกที่เรียบรื่น.

นี่คือศิลาวิญญาณ!

นอกจากนี้ยังเป็นสมบัติของสวรรค์และปฐพีอีกด้วย!

“เจ้าสำนัก!”

หลักจากเปิดหน้าดิน ก็พบกับศิลาวิญญาณหลายพันก้อนด้านล่าง ส่องประกายแสงระยิบระยับ เจียงเซี่ยที่แววตาลุกวาวขึ้นมาทันที “หากสามารถขุดออกมาได้มากเท่าไหร่ สำนักพวกเราจะต้องพัฒนาไปอีกขั้นแน่นอน!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “จะดีจะร้ายเจ้าก็เป็นกษัตริย์ยุทธ์ สุขุมหน่อย”

เพราะเป็นกษัตริย์ยุทธ์ จึงเข้าใจถึงความสำคัญของศิลาวิญญาณมากกว่าปกติ ทำให้เขาตื่นเต้นจนออกนอกหน้านั่นเอง.

เหล่าเหว่ยกล่าว “เจ้าสำนัก การขุดศิลาวิญญาณนั้นจะต้องระวังให้มาก หากว่ามันแตกหรือเป็นรอยรั่วล่ะก็ พลังวิญญาณด้านในจะสลายหายไป.”

“ไม่ได้ยินเหรอ.”

จุนซ่างเซียวที่เอ่ยออกมาว่า “การขุดคราวนี้ จะต้องระวังให้มาก ใครทำแตก ต้องอดอาหารสองวัน!”

“รับทราบ!”

ศิษย์ทุกคนที่ตะโกนรับเสียงดัง.

ซูเซียวโม่ที่ถือพลั่วเล็ก ๆ จากนั้นก็เริ่มแซะดินออกทีละน้อย อย่างระมัดระวัง ทว่ากับกระแทกไปยังศิลาวิญญาณก้อนหนึ่ง.

ฟู่---

พลังวิญญาณที่พ่นออกมาจากด้านใน ลอยสลาย รวมตัวกันเป็นหมอกแสงขึ้นบนอากาศ.

จบกัน.

ซูเซียวโม่ที่โอดครวญในใจ “อดข้าวสองวัน.”

เหล่าเหว่ยเร่งรีบเอ่ยกล่าวออกมา “พลังวิญญาณยังไม่สลายหายไปทั้งหมด รีบดูดซับ เอาไว้ให้ได้มาก.....”

ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ ก็หยุดลงในทันที.

ซูเซียวโม่และลี่เฟยตลอดจนศิษย์คนอื่น ๆที่ดูดซับหมอกพลังงาน ปากที่อ้าข้างสูดอย่างแรง.

เหล่าเหว่ยที่แทบล้มทั้งยืน เจียงเซี่ยที่เข้าร่วมอย่างคาดไม่ถึง แย่งดูดซับพลังจากลุ่มศิษย์.

กษัตริย์ยุทธ์ นับว่าร้ายกาจจริง ๆ!

“เจ้าสำนัก....”

เหล่าเหว่ยที่อยู่ด้านข้างกำลังจะเอ่ยอะไร ทว่าจุนซ่างเซียวหายไปแล้ว.

เขาที่หันไปตามสัญชาติญาณ เห็นเจ้าสำนักที่ยืนอยู่บนหมอก ถูกเหล่าศิษย์ที่สูดเข้าหาอย่างรุนแรง.

ในหลุม.

เจ้าสำนัก ที่ถูกอาวุโสสูดจนตัวลอยเข้าหา เป็นภาพที่ดูกระอักกระอวนเป็นอย่างมาก....