Chapter 409 ความหนาแน่นพลังวิญญาณ 30 เท่า
“เมื่อสวรรค์คิดจะมอบภาระกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับคนผู้หนึ่ง อย่างแรกคนผู้นั้นจะต้องผ่านความทุกข์ใจแสนสาหัส เหนื่อยล้าเข้าไปถึงเอ็นและกระดูก.....”คำพูดของระบบที่ดังก้องในหูของจุนซ่างเซียวทันที.
จุนซ่างเซียวที่แทบทนไม่ไหว “เจ้าหุบปากได้รึยัง?”
ระบบเอ่ย “เสริมพลังค่ายกลมานานแล้ว แม้นว่าจะเหนื่อยเล็กน้อย ทว่าด้วยพลังใจของโฮสน์แล้วไม่มีปัญหา.”
ต้องกล่าวยอสักหน่อย.
“เจ้าสำนัก.”
หลิวหซ่านซี“เจ้าสำนักอ้าปากเร็วเข้า.”
“อ้าม!”
จุนซ่างเซียวที่อ้าปาก.
หลิวหว่านซีที่นำเก้าอี้เล็ก ๆ พร้อมกับขึ้นไปยืน แล้วคีบอาหารด้วยตะเกียบในจานป้อนเข้าปากจุนซ่างเซียว.
อร่อย โคตรอร่อยเลย.
จุนซ่างเซียวที่กล่าวชม “ตู้ตู้ ฝีมือของเจ้าพัฒนาขึ้นไปอีกแล้ว หากเข้าร่วมการแข่งขันเทพอาหาร เจ้าต้องได้ชนะแน่!”
หลิวหว่านซีที่เผยท่าทางประหลาดใจเอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนักรู้เรื่องการแข่งขันเทพอาหารด้วยอย่างงั้นรึ?”
เฮ้ย.
มีการแข่งขันรายการนี้ด้วยอย่างงั้นรึ?
“เอิ่ม.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วได้ยินมาบ้างเล็กน้อย.”
หลิวหว่านซีที่ดวงตาเป็นประกาย “นี่คืองานประลองระดับทวีปเลยนะ งานดังกล่าวต้องเป็นปรมาจารย์อาหารแท้ถึงจะเข้าร่วมได้.”
“น่าเสียดายว่า เส้นทางนี้ของข้ายังอีกไกล.”
“นอกจากนี้ จะต้องได้รับชัยชนะเลิศในการแข่งขันอาหารของจังหวัดซีเหนียนหยาง และได้ตำแหน่งหนึ่งในสิบ ถึงจะได้ตั๋วเข้าร่วมประลองเทพอาหาร.”
“เจ้าสำนัก.”
หลิวหว่านซีที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น เอ่ยออกมาว่า “การเข้าร่วมงานแข่งเทพอาหาร และงานประลองปรมาจารย์อาหาร เป็นความฝันตั้งแต่ยังเด็กของตู้ตู้เลย.”
“เดี๋ยว...”
จุนซ่างเซียวเอ่ยเสียงเบา “ตะเกียบเจ้าไปทางใหนนะ.”
หลิวหว่านซีที่หันหน้ากลับมามอง พบว่านางที่คีบเนื้อหมูไปชี้ที่จมูกของเจ้าสำนักแล้ว!
“อ๋า!”
นางที่ตื่นตกใจ กล่าวออกมาว่า “เจ้าสำนัก ข้าขอโทษ!”
จะให้กล่าวล่ะก็.
ทำไมหลิวหว่านซีถึงต้องมาป้อนอาหารจุนซ่างเซียว?
เพราะว่ามือทั้งสองของเขานั้นประทับแผ่พลังไปยังค่ายกลเพื่อทำให้ม่านพลังสเถียร ทำให้ไม่มีมือแม้แต่จะกินอาหารนั่นเอง.
จุนซ่างเซียวที่เคี้ยวข้าว เอ่ยออกมาว่า “งานประลองอาหารที่จังหวัดซีเหนียนหยางเริ่มตอนใหน?”
“อีกครึ่งปี.”หลิวหว่านซีเอ่ย.
จุนซ่างเซียว “รอให้ใกล้ถึงวัน เปิ่นจั้วจะนำเจ้าไปเข้าร่วม เจ้าจะต้องได้รับตั๋วเข้าประลองเทพอาหารแน่นอน.”
ด้วยโลลิน้อยเอาการเอางาน ทำอาหารให้กับศิษย์ทุกคนแม้แต่ตัวเองในทุก ๆ วัน ควรได้รับการตอบแทน ในเมื่อเป็นความฝันของนาง เจ้าสำนักจะต้องช่วยเหลือนางเป็นธรรมดา!
เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง ร่วมสร้างฝันด้วยกัน.
นี่คือข้อความโฆษณาหนึ่งของเขาในเมือง.
“จริงรึ?”หลิวหว่านซีที่ตื่นเต้น.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “จริงสิ.”
หลิวหว่านซีที่ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก แทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ เตรียมพุ่งเข้ากอดจุนซ่างเซียว.
“ช้าก่อน!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วควบคุมค่ายกลอยู่!”
หลิวหว่านซีที่ยั้งเท้า เผยยิ้มพราย “ข้าจะไม่ทำให้เจ้าสำนักผิดหวังแน่นอน จะต้องคว้าตั๋วเข้าร่วมการแข่งขันเทพอาหารให้ได้!”
“ไม่ใช่แค่ได้ตั๋วเข้าร่วมเท่านั้น.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง แม้แต่รายการแข่งขันทำอาหาร จะต้องได้ที่หนึ่งด้วย!”
“ตกลง!”
หลิวหว่านซีเอ่ยอย่างหนักแน่น “ต้องได้ที่หนึ่ง!”
จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “นี่คือข้อตกลงระหว่างเรา เจ้าต้องพัฒนาการทำอาหารของเจ้าให้ดี.”
หากไม่เพราะว่ามือทั้งสองต้องคงสภาพม่านพลัง เขาคงจะลูบหัวโลลิน้อยอย่างเอ็นดูแน่.
......
“ใช่ ตรงนั้นล่ะ อ๋า สบายจริง ๆ.”
“ไม่ ๆ แรงกว่านั้นนิดหน่อย.”
“อ๊าก แรงไปแล้ว เจ้าจะฉีกเนื้อเปิ่นจั้วรึไง!”
ภายในค่ายกลปิดแยก จุนซ่างเซียวที่ยืนยืดมือสองข้างไปด้านหน้าประทับค่ายกล โดยมีซูเซียวโม่ ลี่เฟย เถียนซีที่คอยนวดหลังและไหล่ให้กับเขา.
เฮ้อ.
โชคดีที่มีศิษย์.
อย่างไรก็ตาม คราแรกที่ปวดเมื่อยเพียงแค่ไหล่.
สี่วันหลังจากนั้น ทั่วร่างที่เริ่มเป็นเหน็บชา ขอบตาที่ช้ำดำ.
เพียงแค่ยืนนิ่ง ไม่สามารถขยับได้เลย หากเป็นบางคนคงจะบาดเจ็บอย่างแน่นอน!
ห้าวัน.
ตาของจุนซ่างเซียวที่ปรือ ๆ ทรงผมยุ่งเหยิง ท่าทางดูอนาถเป็นอย่างมาก.
หกวัน.
จุนซ่างเซียวที่ยืนขาสั่น ไร้ชีวิตชีวา ปากที่บ่มพึมพำ “เหลือวันหนึ่ง...อีกวันหนึ่ง...”
เป็นการทดสอบของสวรรค์ให้กับบุรุษที่จะรับผิดชอบหน้าที่อันยิ่งใหญ่โดยแท้จริง ความทุกข์ใจแสนสาหัส เหนื่อยล้าเข้าไปถึงเอ็นและกระดูก อดอยากจนผ่ายผอม ยากจนข้นแค้นไม่มีจะกิน อ๊าก!
......
จุนซ่างเซียวที่ยืนค้ำพยุงค่ายกล ตระหนักได้ว่าตัวเองพร้อมจะล้มแทบทุกเวลาได้เลย.
ทุกอย่างที่จ่ายไปย่อมได้รับผลตอบแทน.
เขาที่ต้องเสริมพลังยับยั้ง ให้ค่ายกลปกปิดแสงสว่างที่เจิดจ้าไม่ให้รั่วออกไปข้างนอกให้ใครได้เห็น.
หากไม่มีม่านพลังของจุนซ่างเซียวแล้วล่ะก็.
แสงเจ็ดสีที่เจิดจรัสนี้ สามารถมองเห็นไปจนถึงเมืองชิงหยางอย่างแน่นอน.
เจ็ดวัน!
จุนซ่างเซียวที่อดทนแบกรับเกินกว่าคนทั่วไปจะทนได้ บนท้องฟ้าลวดลายของแสงสว่างที่ยังคงหมุนวนอย่างบ้าคลั่งเริ่มอ่อนแรงลง.
ฟู่ ฟู่ ซูม ----
กลุ้มก้อนของแสงสว่างที่ออกมาจากรอยแตกของพื้นกระจายไปทั่วอากาศ ปกคลุมทั่วค่ายกลปิดแยก.
ในเวลาต่อมา.
แสงที่เจิดจ้าแสบตานั้นค่อย ๆ มืดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งหายไปทั้งหมด.
เหล่าเหว่ยเอ่ย “ปรากฏการณ์ฟ้าดิน พลังวิญญาณฟื้นคืนจบแล้ว เจ้าสำนักไม่ต้องเสริมพลังอีกต่อไปแล้ว.”
“พรึด โครม!”
สิ้นเสียงเหล่าเหว่ย จุนซ่างเซียวที่ร่างกายอ่อนร่าง ไหลเป็นโคลนฟุบลงบนพื้น.
ยืนเจ็ดวันไม่ขยับ ไม่หลับไม่นอน ไม่เคยพัก แม้แต่แผ่พลังวิญญาณออกมาตลอด เกรงว่าครั้งนี้ได้ทำตัวเท่สมใจแล้ว.
ฟิ้ว!
ค่ายกลปิดแยกที่ไม่ได้เสริมพลัง ม่านพลังที่ใสบางยืดยาวออกไปหลายพันจั้งที่ใสกระจ่างแล้ว.
แม้นว่าปรากฏการณ์ฟ้าดินจะจบแล้ว ทว่าบนรอยแยกของพื้นดินนั้น ยังมีพลังฟ้าดินแผ่ออกมาไม่หยุด.
“พลังวิญญาณบริสุทธ์มาก!”จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยความตกใจ.
เหล่าเหว่ยเผยยิ้ม “นี่เพียงแค่เริ่มต้น รออีกสักพัก แล้วเจ้าสำนักจะประหลาดใจ.”
“งั้นรึ?”จุนซ่างเซียวที่กล่าวด้วยความประหลาดใจ.
เหล่าเหว่ยเอ่ย “เจ้าสำนักสามารถยกเลิกค่ายกลปิดแยก ให้พลังวิญญาณแผ่ไปทั่วเทือกเขาไท่กู่เจิ้งได้แล้ว.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่เริ่มปลดค่ายกลปิดแยก.
ตามที่เหล่าเหว่ยเอ่ย.
สามวันหลังจากนี้ พลังวิญญาณที่แผ่ออกมาเรื่อย ๆ เริ่มกระจายออกไปจนปกคลุมทั่วเทือกเขาไท่กู่ และจะสูงกว่าก่อนหน้านี้สิบเท่า!
หากเป็นเช่นนั้น ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งไม่จำเป็นต้องใช้ค่ายกลรวมวิญญาณเลย สามารถดูดซับพลังวิญญาณจากทั่วทุกสารทิศในสำนักได้.
หากแต่ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้จบเท่านั้น.
พลังวิญญาณที่ยังแผ่พุ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.
สิบวันผ่านมา พลังวิญญาณที่ปกคลุมทั่วสำนักไท่กู่เจิ้งนั้น เพิ่มขึ้นมากกว่าปรกติถึง 20 เท่า!
“ด้วยความหนาแน่นของพลังวิญญาณขนาดนี้ เท่ากับสามารถดูดซับพลังวิญญาณหนึ่งวันเท่ากับยี่สิบวันเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องที่สุดยอดมาก.”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
เขาและศิษย์ ด้วยพลังบ่มเพาะและรากวิญญาณ ตลอดจนทรัพยากร เวลานี้ไม่ได้ด้อยกว่าเหล่ายักษ์ใหญ่ของทวีปชิงหยุนแล้ว.
ตอนนี้ พลังวิญญาณ 20 เท่า สามารถตัดผ่านระดับได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่ก้าวกระโดดโผทยานอย่างแน่นอน.
เจ้าสำนักจุนที่เริ่มสำรวจ พลังวิญญาณที่เพิ่มพูนขึ้นนี้ เขาและศิษย์จะต้องพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว อนาคตของเขาช่างงดงามจริง ๆ!
“เจ้าสำนัก!”
หลี่ชิงหยางที่เข้ามารายงาน “ค่ายกลรวมวิญญาณยกระดับขึ้นด้วย ตอนนี้พลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นกว่าก่อนหน้าถึง 30 เท่า!”
“จริงรึ?”
จุนซ่างเซียวที่ตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที.
ขณะที่เขาก้าวเข้ามาในค่ายกลรวมวิญญาณ เป็นความจริงที่พลังวิญญาณด้านในนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก!
ระบบเอ่ย “ค่ายกลรวมวิญญาณระดับต้น เป็นการรวมพลังวิญญาณจากเทือกเขาไท่กู่ ตอนนี้พลังวิญญาณเพิ่มพูนขึ้น แน่นอนว่าย่อมทำให้ด้านในนั้นมีความหนาแน่นของพลังวิญญาณมากขึ้นเป็นธรรมดา.”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
จุนซ่างเซียวที่ท้าวสะเอวหัวเราะดังสนั่น “พลังวิญญาณหนาแน่น 30 เท่า บ่มเพาะหนึ่งวันเท่ากับบ่มเพาะปรกติสามสิบวัน ไม่มีอะไรสุดยอดไปกว่านี้อีกแล้ว!”
“สุดยอดจริง ๆ.”
ระบบเอ่ย “ทว่าเรื่องนี้หากคนด้านนอกรู้เข้าล่ะก็ จะต้องนำมาซึ่งภัยพิบัติอย่างแน่นอน.”
ระบบที่กล่าวขัดคอท่าทางตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้าของจุนซ่างเซียวเอาไว้!