Chapter 408 พลังวิญญาณฟื้นคืน วันนี้.
พหุบารนีพลังวิญญาณฟื้นคืนก่อนหน้านี้ จุนซ่างเซียวที่ได้ใช้ค่ายกลปิดแยกปกคลุมเอาไว้แล้ว แต่คาดไม่ถึงเลยว่า มันจะปรากฏขึ้นอีก นอกจากนี้ยังเลยออกมานอกพื้นที่เป็นอาณาเขตกว้างขวางกว่าเดิมมาก.
ไม่มีวิธีอื่นใด.
เขาทำได้เพียงแค่ขยายพื้นที่ของค่ายกล เพื่อปกปิดพื้นที่เกิดปรากฏการณ์ให้ครอบคลุมเท่านั้น.
“เจ้าสำนัก.”
เหล่าเหว่ยที่เข้ามาภายในค่ายกล จ้องมองไปยังแสงเจ็ดสีที่กระจายไปทั่ว “วันที่พลังวิญญาณฟื้นคืน ไม่น่าจะเกินครึ่งเดือน.”
“จริงรึ?”
จุนซ่างเซียวที่คาดหวัง.
พลังวิญญาณฟื้นคืน จะช่วยทำให้ยกระดับพลังฟ้าดินของสำนักไท่กู่เจิ้ง และยังทำให้มีเหมืองศิลาวิญญาณอีกด้วย ซึ่งจะทำให้สำนักเติบโตก้าวกระโดดขึ้นไปอีก.
“เพื่อความปลอดภัย.”
เหล่าเหว่ยที่เอ่ยแนะนำ “ทางที่ดีเจ้าสำนักควรที่จะสร้างค่ายกลปิดแยกล้อมรอบทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด ไม่ให้ใครสามารถมองเห็นได้.”
“มีเหตุผล.”
เช้าวันถัดมา จุนซ่างเซียวที่เริ่มวางค่ายกลปิดแยกไปทั่วเทือกเขา.
สองสามวันมานี้ พื้นที่ปิดแยกกินพื้นที่ถึง 40-50 ลี้.
“เหล่าเหว่ย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เสร็จแล้วทำอย่างไร?”
“เหมือนเดิม.”เหล่าเหว่ยเอ่ย “รอเวลาให้พลังวิญญาณฟื้นคืน.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่มีเวลาว่างระหว่างรอ บ่มเพาะพลังยุทธ์ ตลอดจนฝึกฝนวิถียุทธ์.
หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ เอง ก็กำลังฝึกฝนวิชาใหม่สองวิชา แม้นว่าจะไม่ก้าวไปถึงระดับสูง ทว่าก็สามารถแสดงผลได้แล้ว.
......
ที่หลังเขา.
ที่ด้านหน้าเป็นกำแพงภูเขา.
จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่ห่างออกมาสิบเมตร ทั่วร่างแผ่ไอร้อนออกมา เพลิงประณีตที่ลุกโชนขึ้นมาทันที ก่อนที่จะรวมตัวเป็นฝ่ามือเพลิง!
ตูมมม ----
บนกำแพงภูเขาที่เกิดระเบิดเสียงดังกึกก้อง พลังอำนาจเปลวเพลิงได้ทิ้งรอยเอาไว้เอาไว้ได้ ผนังภูเขาที่ถูกสับกินลึกเข้าไป 5-6 เมตรในทันที รอยไฟที่ไหม้เป็นเขม่าดำอีกด้วย.
ระบบเอ่ย “พลังโจมตีของโฮสน์ น่าจะมีพลังราว ๆ 600,000 จิน พัฒนาขึ้นมาอีกเล็กน้อย.”
จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา “ทักษะที่เพิ่มพลังขึ้น 150,000 จิน เพียงแค่นี้ก็ทรงพลังแล้ว หากก้าวไปถึงขั้นสุด พลังไม่ต่อต้านสวรรค์เลยรึ?”
ต่อต้านสวรรค์:???
ระบบที่ราวกับราดน้ำเย็นเข้าใส่ “ด้วยพลังบ่มเพาะของโฮสน์และความเข้าใจวิถียุทธ์เวลานี้ เป็นเพียงความสำเร็จเล็กน้อย การจะเข้าใจขั้นสุดนั้น อย่างน้อยก็ต้องก้าวไปถึงให้ถึงระดับกษัตริย์ยุทธ์.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าไม่ควรจะขัดคอข้าเลย?”
“แต่ว่าข้ากล่าวเป็นความจริง.”
ระบบเอ่ย “หากโฮสน์ไม่ต้องการได้ยิน หลังจากนี้ข้า ก็จะพูดให้โฮสน์ฟังเหมือนเดิม.”
“ตามชอบเลยท่าน.”
จากนั้นจุนซ่างเซียวที่ทดสอบทักษะแสงเจ็ดสีทำลายล้างต่อ หลังจากควบรวมแสงสีแดงชาตได้ก็โจมตีออกไป สร้างรูวงกลมขนาดใหญ่ขึ้นที่ผนังภูเขา ลึกเข้าไปกว่า 20 เมตร!
คมเพลิงวิญญาณแผดเผานั้น เป็นรอยฟัน พลังทำลายขอบเขตกว้าง.
ส่วนแสงเจ็ดสีทำลายล้างนั้น พลังทำลายล้างสูง พลังทำลายในเชิงลึก.
หลังจากทดสอบหลายครั้ง จุนซ่างเซียวก็พบเข้ากับปัญหา.
แม้นว่าทักษะทั้งสองนั้นจะทรงพลังมาก แต่กับใช้พลังวิญญาณจำนวนมาก โดยเฉพาะแสงเจ็ดสีทำลายล้างนั้นกินพลังไม่ธรรมดาเลย!”
“ด้วยพลังวิญญาณที่ข้ามี อย่างน้อยคงใช้แสงเจ็ดสีทำลายล้างได้ 5-6 ครั้ง.”
ส่วนคมเพลิงวิญญาณแผดเผาหากต้องการพลังโจมตีที่มาก ก็ต้องใช้เวลาที่มากขึ้นในการรวมพลัง และไม่สามารถใช้ซ้ำ ๆ กันได้ เทียบกับคมวิญญาณที่ใช้โจมตีได้นับไม่ถ้วน แม้นว่าจะกินพลังวิญญาณน้อยแต่ น่าเสียดายขาดแค่เพียง มีพลังโจมตีไม่รุนแรงนัก.
“ดังนั้น.”
ระบบเอ่ย “หากทักษะพลังวิญญาณ คมวิญญาณ ปรับปรุงให้ทรงพลังมากขึ้น จะทำให้กลายเป็นทักษะที่ร้ายกาจมาก..”
“ไม่ผิด.”จุนซ่างเซียวเห็นด้วย.
แม้นว่าคมวิญญาณจะมีระดับต่ำ ทว่าระดับพลังบ่มเพาะที่เพิ่มขึ้น อันตรากลืนกินพลังวิญญาณก็ยิ่งลดต่ำ ลง หากไม่ใช่เพราะพลังโจมตีไม่ได้สูงนัก คงเป็นทักษะที่สมบูรณ์แบบ.
ส่วนคมเพลิงวิญญาณแผดเผาและแสงเจ็ดสีทำลายล้าง แม้นว่าจะทรงพลังร้ายกาจมาก ทว่าหากมีพลังไม่เพียงพอจะถึงขีดจำกัดร่างกายได้โดยง่าย.
“ต้องการยกระดับคมวิญญาณให้ได้จริง ๆ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“ลืมมันซะ.”
ระบบเอ่ย “โฮสน์มีความเข้าใจวิถียุทธ์แค่หางอึ่ง ถึงจะเป็นปราชญ์ยุทธ์ยังยากจะทำสำเร็จเลย ไม่ต้องเอ่ยเลยว่านี่คือทักษะที่ต้องเชื่อมต่อกับสวรรค์และปฐพีด้วย.”
“เจ้าดูแคลนข้า!”
“โทษที ข้ากล่าวความจริง.”
“ไปให้พ้นหน้าข้าเลย!”
......
จุนซ่างเซียวที่กำลังฝึกฝนวิชายุทธ์ เหล่าศิษย์เองก็ด้วยเช่นกัน.
โดยเฉพาะหลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อตลอดจนศิษย์สายในคนอื่น ๆ เพราะมีพรสวรรค์ที่สูง ทำให้สามารถใช้ทักษะยุทธ์ของวิชาใหม่ได้อย่างราบรื่น.
ในเวลานี้ พวกเขาที่สามารถใช้พลังได้อย่างคล่องแคล่ว.
โดยเฉพาะเย่ซิงเฉินที่โดดเด่นที่สุด เขาที่สามารถเข้าใจแสงเจ็ดสีทำลายล้างได้อย่างยอดเยี่ยม แม้แต่เหนือกว่าจุนซ่างเซียวด้วย.
หนึ่งในอดีตราชันย์ยุทธ์ ไม่มีอะไรต้องสงสัย.
อย่างไรก็ตามเพราะว่าเขาไม่ได้มีร่างกายธาตุเพลิง ทำให้คมเพลิงวิญญาณแผดเผานั้นอ่อนด้อยกว่าจุนซ่างเซียวมาก.
......
“ฟู่ ฟู่!”
ไม่กี่วันผ่านมา เหล่าเหว่ยที่เฝ้ามองพื้นที่ค่ายกลปิดแยกหลายสิบลี้ แสงเจ็ดสีที่ขยายออกมาอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อเนื่อง.
แสงเจ็ดสีที่ส่องสว่างราวกับดวงตะวัน สว่างจ้ารอบ ๆ พื้นที่ด้านในราวกับแดนเทพ.
“เจ้าสำนัก.”
เหล่าเหว่ยเอ่ย “พลังวิญญาณฟื้นคืน วันนี้!”
แววตาของจุนซ่างเซียวที่ปรากฏประกายเปลวเพลิงลุกโชนทันที.
“ฟิ้ว.”
ภายในค่ายกลปิดแยก ปรากฏเจียงเซี่ยอีกคน ที่กล่าวอย่างคาดหวัง “ไม่คาดคิดว่าชั่วชีวิตนี้ จะได้เห็นการฟื้นคืนของพลังวิญญาณ.”
ตั้งแต่เหตุการณ์ประลองเป็นตาย เขาที่หมกตัวอยู่ในหอคอยเก็บประสบการณ์ แทบจะกินนอนอยู่ด้านในเลยก็ว่าได้.
“ฟู่ ฟู่!”
แสงเจ็ดสีที่เจิดจ้าที่ปะทุขึ้นมา เข้าปะทะกับค่ายกลปิดแยก.
โชคดีที่เหล่าเหว่ยกล่าวเตือนให้ขยายพื้นที่ค่ายกลล่วงหน้า ไม่เช่นนั้น คงไม่สามารถกักเก็บแสงที่เจิดจ้านี้เอาไว้ได้แน่!
แค๊ก แค๊ก แค๊ก-
ในเวลานั้น ราวกับคลื่นที่ซัดสาดกำแพง.
พื้นที่ตรงกลางค่ายกลนั้น มีกลุ่มก้อนพลังวิญญาณที่ปะทุขึ้น จนทำให้พื้นดินเวลานี้แตกแยกออกไปเป็นบริเวณกว้าง กลายเป็นรอยใยแมงมุมกระจายไปทั่ว.
หากมองลงมาจากพื้นดิน ก็จะพบว่ารอยแยกนั้นเป็นลวดลายอย่างหนึ่งที่คล้ายกับวงเวท!
“พลังวิญญาณฟื้นคืน!”
เหล่าเหว่ยกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น “พลังวิญญาณฟื้นคืนจริง ๆ!”
ฟู่! ฟู่!
ขณะกล่าวนั้น พื้นดินก็แตกแยก แสงเจ็ดสีที่ส่องสว่างมากยิ่งขึ้น แม้นแต่พุ่งขึ้น ปะทะเข้ากับม่านพลังค่ายกลด้านบน.
แสงเจ็ดสีที่พวยพุ่งออกมานั้น กลายเป็นเมฆแสงที่ทรงพลังลามออกไปเรื่อย ๆ!
“เจ้าสำนัก!”
เหล่าเหว่ยที่เอ่ยกล่าวออกมาว่า “เสริมพลังค่ายกลเร็วด้านบนเร็วเข้า!”
จุนซ่างเซียวที่ตระหนักได้ว่าสถานะการณ์ไม่ค่อยดีนัก ยื่นมือสัมผัสม่านพลังเชื่อมต่อกับค่ายกล แผ่พุ่งพลังวิญญาณเสริมพลังม่านค่ายกลอย่างเร่งด่วน.
เสริมออกไปมากเท่าใด?
มากกว่า 1000 จั้ง!
“บัดซบ!”
จุนซ่างเซียวที่เสริมพลังค่ายกลอย่างจริงจัง หน้าผากที่หลั่งเหงื่อออกมา “พลังที่ปะทุออกมานี้ มันรุนแรงขนาดนี้ได้อย่างไร!”
เมฆแสงที่กระจายหมุนวนไปรอบ ๆ ท้องฟ้าอย่างรวดเร็วสร้างลวดลายวงเวทขนาดใหญ่ขึ้น.
นี่คือพลังวิญญาณฟื้นคืน.
ทว่าไม่ใช่ลวดลายของเหล่าอาจารย์ค่ายกลที่สร้างขึ้น เป็นปรากฏการณ์ของสวรรค์และปฐพี.
ลวดลายอาคมที่ปลุกพลังวิญญาณส่วนลึกจากใต้ผืนปฐพีขึ้นมา.
เหล่าเหว่ยเอ่ย “พลังวิญญาณฟื้นคืนนั้น จะเป็นเช่นนี้ติดต่อกันไป ดังนั้นเจ้าสำนักจะต้องเสริมม่านพลังให้แข็งแกร่ง อย่าให้ปรากฏการณ์นี้ออกไปด้านนอกได้เด็ดขาด.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “แล้วเกิดขึ้นนานเท่าไหร่?”
“อย่างน้อยก็เจ็ดวัน.”
“อะไรนะ?”
จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโตขึ้นมาทันที.
เสริมพลังติดต่อกันเจ็ดวัน นี่เปิ่นจั้วไม่แห้งหมดแรงตายไปก่อนรึ?!