บทที่ 12: เพื่อนบ้านใหม่
บทที่ 12: เพื่อนบ้านใหม่
เสียงก่อสร้างและเสียงต้นไม้โค่นก็ดังมาจากยอดเขาใกล้เคียงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากซูฟ่าน
“ห้ะ มีศิษย์ใหม่เลือกมายอดเขาที่ห่างไกลเช่นนี้ด้วยหรอ? ข้าหนีมาที่นี่เพราะต้องการความสงบ แล้วเขามาที่นี่เพื่ออะไรกัน?”
ขณะที่ซูฟ่านสงสัยว่าจะไปเยี่ยมดีหรือไม่ ค่ายกลก็ส่งเสียงระฆังแจ้งเตือนดังขึ้น
“นั่นใช่เจ้าเด็กเหลือขอหวังยู่หลุนรึเปล่านะ? เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้วที่เขาไม่ได้มาพบข้าเลย”
ซูฟ่านเปิดช่องว่างเล็กๆ บนค่ายกลของเขา
ทันทีที่ช่องว่างเปิดออก เสียงที่ไพเราะราวกับระฆังเงินก็ดังขึ้น
“สามี ข้ามาหาท่านแล้ว!”
ซูฟ่านเห็นร่างที่สวยงามกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของเขาโดยตรง
“เว่ยหยุน ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ได้?” ซูฟ่านรู้สึกได้ทันทีว่าวันคืนแห่งความสงบของเขากำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
“สามี เพื่อที่จะได้พบท่าน ข้าจึงได้ฝึกตนจนมาถึงขอบเขตฝึกปราณขั้นสี่เลยนะ!”
จางเว่ยหยุนพูดและหมุนตัวโชว์ซูฟ่าน
“……”
เธอหมุนตัวเพื่อโชว์การฝึกตนหรอ? หรือเธอแค่หมุนตัวเฉยๆ?
หลังจากหมุนตัวโชว์ต่อหน้าซูฟ่านแล้ว จางเว่ยหยุนก็กอดเขาอีกครั้ง
“สามีข้า ท่านสบายดีไหม?”
“มีผู้อาวุโสคนหนึ่งบอกว่าข้ามีร่างกายวิญญาณและต้องการจะพาข้าเข้าสู่นิกายชั้นใน แต่ข้าก็ปฏิเสธไป”
ซูฟ่านถูกหญิงสาวกอดเอาไว้แน่นจนหน้าแดง
“ฮ่าฮ่า เว่ยหยุน เจ้านี่แรงเยอะจริงๆ จะว่าไปเจ้าคือคนที่เลือกยอดเขาข้างๆ ข้าใช่รึเปล่า?” ซูฟ่านถาม
“ใช่แล้ว ข้าถามคนไปตั้งเยอะกว่าจะได้รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน”
สีหน้ามีความสุขของจางเว่ยหยุนทำให้ซูฟ่านลังเลเล็กน้อยที่จะผลักไสเธอกลับไป
“ยังไงก็เถอะ พ่อของข้าบอกว่าสักวันหนึ่งเมื่อท่านว่าง ก็ให้ท่านเอาของขวัญมาหมั้นข้าด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เหมาะ นั่นคือสิ่งที่พ่อข้าพูดไว้” จางเว่ยหยุนกล่าวอย่างมีความสุข
“ลุงจางไม่เคยทำข้าผิดหวังเลยจริงๆ เอาล่ะ ไว้เรามาพูดถึงของขวัญหมั้นกันในภายหลังเถอะ เจ้าเข้าสู่ขอบเขตฝึกปราณขั้นสี่ได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน? เจ้าได้เรียนรู้วิชาอะไรมา?”
“ครั้งสุดท้ายที่ข้าเห็นเจ้า เจ้าก็ยังอยู่ที่ขอบเขตฝึกปราณขั้นสามเท่านั้นเอง”
ซูฟ่านพาจางเว่ยหยุนไปที่ศาลาแล้วถาม
“โอ้ใช่”
“ข้าก็ฝึกวิชานทีวิญญาณ, วิชาตัวเบา, วิชาลูกบอลเพลิง, วิชาขี่ลม, วิชาโล่วิญญาณน้ำ, วิชาหอกน้ำแข็ง และก็วิชาฝ่ามืออัสนี”
“ข้าเรียนรู้ทั้งหมดนี้โดยทันที” จางเว่ยหยุนหรี่ตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าว
“น่าทึ่งมาก น่าทึ่งมาก เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้าอีก” ซูฟ่านอุทาน เขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
'โคร๊ก~~~~'
กระเพาะของจางเว่ยหยุนส่งสัญญาณว่าจำเป็นต้องได้รับอาหาร
“สามี ข้าหิวแล้ว”
จางเว่ยหยุนมองไปที่ซูฟ่านอย่างน่าสงสาร ตั้งแต่ขึ้นสู่ขอบเขตฝึกปราณขั้นสี่ เธอก็ยุ่งอยู่กับขั้นตอนต่างๆ ทั้งการเลือกที่อยู่และการสร้างที่พักอาศัย ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงยังไม่ได้กินอะไรเลยตลอดทั้งวัน
“รอสักครู่”
ซูฟ่านหันหลังกลับเข้าไปในครัว ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็นำอาหารทำเองสามจานออกมาพร้อมกับชามข้าววิญญาณ
“อ้า! มันคือข้าววิญญาณจริงๆ ด้วย สามี ท่านดีกับข้ามากจริงๆ” จางเว่ยหยุนกล่าวอย่างมีความสุข
ในขณะนี้ ซูฟ่านก็สูดหายใจเข้าลึก นี่เป็นนิสัยติดตัวเขาเมื่อเขากำลังจะพูดบางสิ่งที่สำคัญ
“ เว่ยหยุน ข้าปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนดั่งน้องสาวมาโดยตลอด และในตอนนั้น ข้าก็แค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้น
“การเลือกสามีเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเด็กผู้หญิง ข้าคิดว่าข้าไม่เหมาะที่จะเป็นสามีของเจ้าหรอก” ซูฟ่านกล่าวอย่างจริงจัง
ในขณะนี้ จางเว่ยหยุนซึ่งกำลังกินอย่างตะกละตะกลามก็วางตะเกียบลงและก้มศีรษะลงโดยไม่พูดอะไร น้ำตาของเธอค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาทีละหยด
เมื่อเห็นการแสดงออกที่น่าสงสารของเธอ มันก็ทำให้ซูฟ่านรู้สึกผิด
“ฮรึก~ สามีของข้าไม่ต้องการข้าอีกต่อไปแล้ว~ ฮืออ~”
“แงงง~” จางเว่ยหยุนร้องไห้เสียงดัง เธอเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยที่ถูกทิ้ง
ซูฟ่านทนดูฉากนี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องใจดีสู้เสือ เขาไม่สามารถถอยกลับและปล่อยให้ปัญหานี้ยืดเยื้อต่อไปได้ เขาเลือกที่จะทุกข์ใจระยะสั้นดีกว่าต้องมาเสียใจระยะยาว
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
“ฮืออ~” จางเว่ยหยุนยังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม
“เว่ยหยุน หยุดพักแล้วกินข้าวก่อนเถอะ”
“แงงง~~” จางเว่ยหยุนล้มตัวลงไปนอนกองกับพื้นและยังคงร้องไห้ต่อไป
สองชั่วโมงต่อมา
ซูฟ่านมองไปที่จางเว่ยหยุนที่ยังคงแผดเสียงร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง
“เว่ยหยุน เราคุยกันก่อนได้ไหม” ซูฟ่านพูดอย่างช่วยไม่ได้
“ฮือออ~~ สามีของข้าไม่ต้องการข้าแล้ว” จางเว่ยหยุนเพิกเฉยต่อซูฟ่านและพูดต่อขณะกำลังร้องไห้
ซูฟ่านรู้สึกอยากจะทุบหัวเธอให้สลบเพื่อให้เธอสงบปากสงบคำลงสักที
สามชั่วโมงต่อมา
“ฮรึก~ ฮืออ~~”
“เว่ยหยุน ข้าไม่เคยบอกเลยว่าข้าไม่ต้องการเจ้า”
ในขณะนี้ จางเว่ยหยุนก็มองไปที่ซูฟ่านด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
“แสดงว่าท่านยังต้องการให้ข้าเป็นภรรยาท่านอยู่ใช่ไหม?”
“ก็..”
ซูฟ่านยังพูดไม่จบแต่แล้ว..
“ฮือออ~~ สามีของข้ายังคงไม่ต้องการข้า ฮือออ~~”
“ถ้าข้าให้ของขวัญหมั้นกับพ่อเจ้า แค่นั้นก็พอใช่ไหม?”
ในท้ายที่สุด ซูฟ่านก็สู้เสือไม่ไหว
จางเว่ยหยุนหยุดร้องไห้ทันที
“สามีของข้า ท่านต้องรักษาคำพูดของท่านนะ~” จางเว่ยหยุนลุกขึ้นจากพื้น ปัดเศษฝุ่นออกจากร่างกาย นั่งลงบนเก้าอี้ดีๆ หยิบชามข้าววิญญาณที่ยังกินไม่เสร็จขึ้นมาแล้วนั่งกินต่อ
“สามี อาหารเหล่านี้ค่อนข้างเย็นแล้ว เรารีบกินกันเถอะ”
ซูฟ่านมองไปที่จางเว่ยหยุนและรู้สึกเหมือนถูกหลอก
“ใครเป็นคนสอนวิชานี้ให้กับเจ้ากัน?” ซูฟ่านถามโดยทันที
“แน่นอนว่าต้องเป็นแม่ของข้า” จางเว่ยหยุนตอบกลับโดยทันที
ซูฟ่านมองไปที่จางเว่ยหยุนแล้วหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นเขาก็จุดไฟขึ้นที่ปลายนิ้วและอุ่นอาหารทั้งสี่จานให้อุ่นขึ้น
“หลังกินอาหารเย็นเสร็จแล้วก็พาข้าไปที่ยอดเขาของเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าจัดการมันให้เรียบร้อยเอง” ซูฟ่านส่ายหัวและยอมรับชะตากรรมของเขา
“ขอบคุณนะสามี”
“เอาล่ะ ในอนาคตเจ้าต้องเปลี่ยนชื่อเรียกข้าด้วย เจ้าเพียงเรียกข้าว่าพี่ฟ่านก็พอ” ซูฟ่านกล่าว
“ได้เลยสามีที่รัก” จางเว่ยหยุนยิ้มและพยักหน้าตกลง
หลังอาหารเย็น ซูฟ่านนึกว่าเขาจะต้องแบกเธอบินกลับไปยังยอดเขา แต่ท้ายที่สุดแล้ว กลับกลายเป็นว่าเธอสามารถตามความเร็วของเขาได้ทันอย่างง่ายดาย
กลางอากาศ ซูฟ่านรู้สึกประหลาดใจในขณะที่เขามองจางเว่ยหยุนที่ติดตามเขามา วิชาตัวเบาและวิชาขี่ลมของเธอกำลังจะทะลุผ่านขั้นกลางแล้ว
แม้ว่าซูฟ่านจะเชี่ยวชาญวิชาต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็รู้ดีว่าสำหรับผู้ฝึกตนทั่วไปแล้ว การฝึกสักวิชาให้เชี่ยวชาญนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
“ดูเหมือนว่าพรสวรรค์ในการฝึกตนของภรรยาข้าจะค่อนข้างสูงเอาการ” ซูฟ่านคิดกับตัวเอง
ในขณะนี้ ซูฟ่านก็สร้างผนึกมือด้วยมือข้างเดียว และในทันใดนั้น เขาก็พุ่งตัวออกไปราวกับลูกธนูที่พุ่งออกมาจากสายรั้งและมุ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง
“เว่ยหยุน ตราบใดที่เจ้าสามารถตามข้าทันได้ ข้าจะสอนวิชาใหม่ให้กับเจ้า เจ้าสนใจไหม?”
คำพูดของซูฟ่านทำให้จางเว่ยหยุนมีพลังขึ้นมาทันที
“สามี ท่านพูดแล้วนะ!”
จู่ๆ ความเร็วของจางเว่ยหยุนก็เพิ่มขึ้นมาเป็นอย่างมากในชั่วพริบตา..