บทที่ 12 : สามตระกูลใหญ่ปรากฏตัว, เย่ว์รู่ชวงเคลื่อนไหว
บทที่ 12 : สามตระกูลใหญ่ปรากฏตัว, เย่ว์รู่ชวงเคลื่อนไหว
เสียงคำรามกึกก้องอย่างไม่หยุดหย่อน
เเละทุกคนก็จดจำเสียงนี้ได้ในทันที
นั่นไม่ใช่เสียงของผู้อาวุโสของตระกูลเย่หรอกเหรอ….เเถมในตอนนี้เข้าดูเหมือนกำลังพูดกับผู้นำตระกูลชู?
เป็นไปได้ไหมว่าสามตระกูลหลักที่นำโดยตระกูลชู กำลังจะเริ่มการกวาดล้างตระกูลเย่?
เมื่อคิดเช่นนี้, ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกตกใจ…..เเละในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมด้านนอกถึงได้ร้างนักในวันนี้!
…….
ณ คฤหาสน์ของตระกูลเย่ในยามนี้
เหล่าผู้อาวุโสทั้งห้าที่นำโดยผู้อาวุโส สูงสุดได้มองไปที่ประตูคฤหาสน์ที่พังทลายลง….และจ้องมองไปที่สมาชิกผู้มีอำนาจของสามตระกูลหลักที่กระโดดเข้ามา
อีกด้าน, เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสตระกูลเย่….ชูเหรินซินก็เลือกที่จะเพิกเฉยมัน
สายตาไม่แยแสของเขากวาดไปทั่วตระกูลเย่ และกลับไปหาผู้อาวุโสสูงสุด
“เย่เหว่ยหวู่ ตั้งแต่วันนี้จะไม่มีตระกูลเย่ในมณฆลเมฆาอัศนีอีกต่อไป!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ คนของตระกูลเย่ต่างก็โกรธแค้น
ความตั้งใจของอีกฝ่ายชัดเจนอย่างมาก….นั่นคือพวกเขาต้องการทำลายตระกูลเย่!
เเละเมื่อได้ยินเช่นนี้, ผู้อาวุโสสูงสุดก็หัวเราะด้วยความโกรธ
“นั่นคือความเห็นของเจ้าคนเดียวงั้นสิ?”
ชูเหรินซินยิ้มอย่างเย็นชา "มันคือความเห็นของพวกเรา!"
สายตาอันอันเยือกเย็นของผู้อาวุโสสูงสุดกวาดไปทั่วใบหน้าของผู้นำสามตระกูลหลัก…..เเละมันฉายชัดไปด้วยความเย็นชา
อย่างไรก็ตามในใจของเขาตอนนี้….เขารู้สึกกดดันอย่างมหาศาล
เขารู้ว่าตระกูลเย่กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ และหากพวกเขาไม่สามารถก้าวผ่านอุปสรรคนี้ได้….คราวนี้ตระกูลเย่ก็อาจจะถึงจุดจบที่แท้จริง
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ยินยอม
เพราะเมื่อนึกถึงเย่จื้อซิน และเย่จือหลาน….ลูกหลานทั้งสองผู้มีพรสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัวที่ไม่มีใครเทียบได้
ถ้ามีเวลาก็อยากจะให้พวกเขาได้มีโอกาสเติบโต
ในอนาคตไม่ต้องพูดถึงมณฆลเมฆาอัศนีเลย…..แม้แต่ราชวงศ์ต้าเซี่ยทั้งดินแดนก็อาจจะไม่สามารถหยุดยั้งตระกูลเย่ของเขาได้
เเต่น่าเสียดายที่ความเป็นจริงอันโหดร้ายไม่ได้ให้โอกาสพวกเขาเลย!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้, เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้วางใจอย่างมีความหมาย….ส่งสัญญาณให้เขาแจ้งให้เย่หวู่ชางหาทางพาเด็กๆหนีออกไป
แต่น่าเสียดาย ในขณะที่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กำลังจะเคลื่อนไหว หัวหน้าตระกูลหวัง, หวังหวางซินก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมเอาดาบจ่อคอผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้น
“เย่เหว่ยหวู่ อย่ามากเล่ห์นัก….ทั้งสามตระกูลหลักได้วางกับดักในมณฆลเมฆาอัศนีไว้หมดแล้ว ไม่มีทางที่สมาชิกตระกูลเย่คนใดสามารถหลบหนีไปได้!”
หลังจากพูดจบ หัวหน้าตระกูลทั้งสามก็โบกมือและตะโกนพร้อมกัน
"ฆ่า!"
สิ้นเสียงตะโกนนี้ สมาชิกที่แข็งแกร่งของสามตระกูลหลักก็เริ่มโจมตีทันที
เเละสมาชิกผู้แข็งแกร่งของตระกูลเย่ก็ต่อสู้กลับโดยไม่ลังเลใจ
ในชั่วพริบตา, เหล่าคลื่นพลังทั้งดาบเเละกระบี่บินว่อน
ไม่กี่นาทีก็เริ่มมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน
เเต่น่าประหลาดที่ผู้เสียชีวิตมากกว่านั้นคือฝั่งสมาชิกผู้มากฝีมือของสามตระกูลหลัก
ฉากนี้ทำให้ทั้งสามตระกูลเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น
แน่นอนว่าที่เป็นเเบบนี้ต้องขอบคุณทักษะระดับปฐพีที่เย่หวู่ชางคอยสนับสนุน, เช่นเดียวกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์เช่นกัน
ความแตกต่างระหว่างทักษะระดับกลางและระดับสูงย่อมสร้างความเเตกต่างได้อย่างมาก…ไม่ต้องพูดถึงความแตกต่างระหว่างทักษะระดับลึกล้ำและระดับปฐพีเลย
……
ณ ขณะนี้
หัวหน้าตระกูลทั้งสามเริ่มมองหน้ากัน
เเละร่องรอยของความไม่สบายใจก็เกิดขึ้นในใจของพวกเขา
“ไม่เลวนี่ เย่เหว่ยหวู่, เเต่น่าเสียดายที่ตระกูลเย่ของเจ้าขาดผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์!”
หลังจากพูดจบ, ด้านหลังของทั้งสามคน ก็มีผู้ฝึกตนกว่าสามสิบคนโผล่ขึ้นมา…..เเถมแต่ละคนยังเปล่งรัศมีของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
ในหมู่พวกเขา, กลิ่นอายของผู้นำทั้งสามตระกูลนั้นน่ากลัวที่สุด….พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่จุดสูงสุดระดับที่เก้าของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์แล้ว
การระเบิดของออร่าในคราวนี้สร้างความประหลาดใจให้กับกองกำลังที่ซ่อนตัวและเฝ้ามองอยู่ใกล้ๆ (ไทยมุง)
“มีปรมาจารย์มากมายเผยตัวออกมา, ดูเหมือนว่าตระกูลเย่จะลำบากเเล้ว!”
“เเละนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีบางส่วนที่ซ่อนอยู่ตามทางออกต่างๆในมณฆลเมฆาอัศนี เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกตระกูลเย่หลบหนีได้!”
"ดูเหมือนว่าวันนี้ตระกูลเย่จะถึงคราวจบสิ้นแล้วแล้ว!"
“ตระกูลเย่มีผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์เพียงห้าคนเท่านั้น, มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะรอดจากผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์มากมายขนาดนี้ได้!”
“เว้นแต่จะมีบุคคลที่แข็งแกร่งจากตระกูลเย่ว์มาช่วย!”
“ลืเรื่องนี้ไปได้เลย, ตอนนี้ตระกูลเย่ว์กำลังมุ่งความช่วยเหลือไปที่องค์ชาย…..พวกเขาไม่มีทางสนใจความเป็นความตายของตระกูลเย่อย่างเเน่นอน!”
"ถูกต้อง, ดูเหมือนว่าตระกูลเย่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเเล้ว!"
“ไม่อยากเชื่อว่าตระะกูลที่ครั้งหนึ่งที่เคยยิ่งใหญ่ในมณฆลเมฆาอัศนี จะต้องถึงคราวสูญสิ้นแล้ว!”
เมื่อเห็นสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลเย่, ผู้คนรอบๆก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
……
ณ ขณะนี้ในลานบ้าน
หลังจากเห็นผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์ของอีกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม….ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเย่ก็รีบดำเนินการทันที
“ตระกูลเย่ไม่สามารถถูกโค่นได้ พวกเจ้าจงลุกขึ้นมา!”
สิ้นเสียงคำรามจากผู้อาวุโสสูงสุด, ทันใดนั้สมาชิกหลายคนของตระกูลเย่ก็รวมตัวกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละหกคน….จากนั้นก็รวบรวมพลังวิญญาณของพวกเขาไว้ในที่เดียว เเละก่อตัวเป็นค่ายกลเล็กๆได้
คนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นผู้ฝึกตนขั้นปลายของอาณาจักรควบแน่นแกนกลาง
เมื่ออาศัยค่ายกลนี้, พวกเขาก็พอที่จะสามารถเผชิญหน้าโดยตรงกับเหล่าผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์ได้
ผู้ฝึกตนระดับอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์ไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ในระยะเวลาหนึ่ง
เเละฉากนี้ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ
"สมกับตระกูลเย่, มรดกที่ตกทอดของพวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ!"
"ด้วยการอาศัยค่ายกลลึกลับนี้ พวกเขาสามารถต่อต้านผู้ฝึกตนระดับอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์ได้เกือบยี่สิบคน….นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน!"
"เเต่น่าเสียดาย, ที่ค่ายกลนี้มีผลเฉพาะกับผู้ฝึกตนอาณาจักรควบแน่นแกนกลางเท่านั้น….ไม่งั้นแล้วหากผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์ทั้งห้าร่วมมือกัน, พวกเขาก็จะมีพลังที่จะสามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนขั้นอาณาจักรปราการสวรรค์ได้”
“เเละสถานการณ์ทั้งหมดนี้ก็จะถึงคราวพลิกกลับได้อย่างสมบูรณ์!”
“ใช่ ตอนนี้พวกเขาทำได้เเค่ยืดเวลาออกไปได้เพียงครึ่งก้านธูปเท่านั้น…..เมื่อเวลาหมดลง ค่ายกลก็จะพังทลายลงโดยอัตโนมัติเนื่องจากการหมดลงของพลังวิญญาณ!”
ในขณะนี้, ทุกคนต่างตระหนักถึงข้อดีและข้อเสียของค่ายกลนี้เช่นกัน
สำหรับผู้อาวุโสทั้งห้าที่เหลือ, พวกเขาแต่ละคนใช้พลังของตนเองเพื่อดึงผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธ์หนึ่งหรือสองคน
เเละต้องขอบคุณทักษะจากการฝึกปรือของพวกเขา…..ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะสามารถต้านทานคนในระดับเดียวกันได้มากที่สุดเพียงคนเดียวเท่านั้น
ผู้อาวุโสเย่เหว่ยหวู่ก็ไม่ธรรมดา, ด้วยการฝึกฝนของเขาที่อยู่บนจุดสูงสุดของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ระดับที่เจ็ด
แต่เขากลับสามารถต้านทานผู้นำตระกูลทั้งสามคนที่อยู่ในขั้นที่เก้าของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ได้
อย่างไรก็ตามในขณะนี้….เขาก็เริ่มต้องถอยทีละนิดและไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป
“เย่เหว่ยหวู่….ตระกูลเย่ของเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ, เเต่พวกเราก็อยากรู้นักว่าเจ้าจะอดทนได้นานแค่ไหน”
หลังจากพูดจบ, หัวหน้าตระกูลทั้งสามก็รวมพลังกันและเริ่มการโจมตี จนผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเย่กระอักเลือดและลอยออกไป
ในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสอีกสี่คนก็ทนไม่ไหวถูกผลักจนตัวลอยออกไปเช่นกัน
เมื่อเห็นสิ่งนี้, ทุกคนก็รู้ว่าตระกูลเย่จบสิ้นแล้ว
ปากของชูเหรินซินขดเป็นรอยยิ้ม เผยให้เห็นความสำราญ….ตราบใดที่ตระกูลเย่ถูกสังหาร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของตระกูลเย่ก็จะเป็นของเขา
"ตาย!" ด้วยเสียชูเหรินซิน
การโจมตีด้วยทักษะการต่อสู้ระดับล้ำลึกขั้นสูงสุด, ฝ่ามือสลายวายุ ก็พุ่งไปที่ใบหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดโดยตรง
ในขณะนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเย่กำลังมองดูฝ่ามือที่กำลังวาดผ่านอากาศด้วยความไม่เต็มใจ
เขายังไม่ทันได้เห็นความรุ่งโรจน์ของตระกูลเย่เลย…..เเล้วเขาจะต้องมาตายแบบนี้จริงๆหรือ!
…….
ณ เวลานี้เองที่ทุกคนต่างเบือนหน้าออกไป
ตระกูลเย่จบสิ้นแล้ว!
ทุกคนคิดเเบบเดียวกันว่าผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเย่จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
เเต่ทันใดนั้นเอง, ปราณดาบอันทรงพลังก็ปรากฏขึ้นจากอากาศอย่างรวดเร็ว
ฉัวะ!
ความคมที่น่าสะพรึงทำให้ฝ่ามือสลายวายุของชูเหรินซินแตกสลาย …..ทั้งยังทำให้เขาต้องล่าถอยกลับไป
"นั่นใคร?"
ชูเหรินซินคำรามด้วยความโกรธ, เขาไม่เคยคาดหวังเลยว่าจะมีคนกล้าเข้ามาแทรกแซงในยามนี้
เเละในเวลานี้เอง
จู่ๆร่างที่สง่างามก็ก้าวออกมาจากอากาศ, ร่อนลงสู่ใจกลางสมรภูมิ
………………