ตอนที่แล้วบทที่ 5 อัญเชิญสุนัขเสี้ยวเทียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 การสืบทอดทักษะ

บทที่ 6 เดสเซิร์ทอีเกิลแสดงพลัง


“อาณาจักรอมตะสวรรค์คืออาณาจักรที่อยู่เหนืออาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่างั้นหรือ”

ฉินจวินถามในใจ ขณะเดียวกันก็กวาดสายตาไปรอบๆด้วยความสงสัยว่าเจ้าสุนัขเสี้ยวเทียนในตำนานจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

ฉางห่าวและฉางเฉียนเฉียนก็รู้สึกกระวนกระวายไปด้วยเมื่อเห็นเขาหันมองไปรอบๆอย่างกับมีศัตรูอยู่แถวนี้อีก

“ถูกต้อง”

ระบบถนอมคำพูดดั่งทองคำ แต่ฉินจวินก็อดไม่ได้ที่จะถามอีก “แล้วมีอาณาจักรที่อยู่เหนืออาณาจักรอมตะสวรรค์หรือไม่”

“ไม่มีความเห็น”

ฉินจวินชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าระบบจะหยิ่งไปหน่อยหรือ

จากนั้นเขาก็ถามต่อ “ฉันจะตรวจสอบข้อมูลของฉันได้อย่างไร แล้วสุนัขเสี้ยวเทียนจะมาเมื่อไหร่”

สุนัขเสี้ยวเทียนแข็งแกร่งเกินไป

เป็นองครักษ์ที่เหนือชั้นสุดๆ

เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นสุนัขเสี้ยวเทียน

ทันทีที่คำถามของเขาจบลง ม่านแสงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

“โฮสต์: ฉินจวิน”

“เผ่าพันธุ์: มนุษย์”

“ระดับการบ่มเพาะ: ชั้นที่สี่ของอาณาจักรก่อสร้างรากฐาน (121/4000 คะแนนประสบการณ์)”

“สายเลือด: ไม่มี”

“พลังเวทย์: ไม่มี”

“พลังวรยุทธ: กลั่นลมปราณ (ระดับกลาง)”

“อัญเชิญเทพและปีศาจ: ต้าจี๋ สุนัขเสี้ยวเทียน”

เขาทำแบบนี้มาแล้วและไม่มีใครสามารถเห็นเทมเพลตโปรไฟล์ได้นอกจากตัวเขาเอง

ตอนนี้เขาไม่หวังคะแนนประสบการณ์สี่พันคะแนนเพื่ออัปเกรด แต่ต้องรู้ว่ามีเหล่าผู้บ่มเพาะอัจฉริยะระดับอาณาจักรแก่นทองคำไม่มากนักในอาณาจักรเฉียนเยว่  แม้แต่ผู้บ่มเพาะระดับอาณาจักรก่อสร้างรากฐานก็มีเพียงไม่กี่คน แล้วเกือบทั้งหมดก็เป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับคัดเลือกจากกองกำลังของตระกูล

“ตราบใดที่โฮสต์ต้องการเทมเพลตโปรไฟล์จะปรากฏขึ้นเมื่อใดก็ได้ สำหรับสุนัขเสี้ยวเทียนจะปรากฏต่อหน้าคุณภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง”

คำตอบของระบบทำให้หัวใจที่กระสับกระส่ายของฉินจวินสงบลง ถ้ามันเป็นของคุณ คุณจะหนีไปไหนไม่ได้ หลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพักเขาก็เดินมายันร่างของเสี่ยวโหวและคลำหาสมบัติที่มีในตัวเขาอยู่พักหนึ่ง สังหารสัตว์ประหลาดและอัปเกรดพลังสมบัติ ตอนนี้ก็ได้เวลาสัมผัสซากศพแล้ว

ยกเว้นกระบี่ยาวสิบฟุตในตัวเสี่ยวโหวก็ไม่มีสิ่งของล้ำค่าอื่นใดติดตัวมาด้วยเลย

“นายท่าน แหวนเก็บของของเขา”

เมื่อเห็นใบหน้าผิดหวังของฉินจวิน ต้าจี๋ก็นึกขึ้นได้ ทันทีที่นางพูดถึงสิ่งนี้ดวงตาของฉินจวินก็สว่างขึ้น แล้วสิ่งที่ว่านี้คือ... เขารีบเปิดมือของเสี่ยวโหวก่อนจะเห็นแหวนหยกที่นิ้วกลางบนมือขวาของเขาพร้อมกับดึงแหวนหยกนั้นออกมาทันที

ความทรงจำของร่างนี้มีแต่เรื่องสนุกสนานและไร้สาระ ความเข้าใจหรือข้อมูลเกี่ยวกับการบ่มเพาะความเป็นอมตะมีน้อยมาก ฉินจวินจึงได้แต่สาปแช่งเจ้าของร่างนี้อยู่ในใจ ไร้ประโยชน์สิ้นดี

“ตอนนี้เจ้าของมันได้ตายไปแล้ว นายท่านสามารถเป็นเจ้าของแหวนนี้ได้โดยหยดเลือดเจ้าของคนใหม่มันลงไป”

ต้าจี๋กล่าวซ้ำ นางเห็นว่าฉินจวินเป็นผู้บ่มเพาะตัวน้อยที่กำลังแสวงหาประสบการณ์และความรู้พื้นฐานหลายอย่างก็ยังมีไม่พอจึงได้แนะนำ

ฉางห่าวกับฉางเฉียนเฉียนถึงกับพูดไม่ออก พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาสามารถทะลวงผ่านมาถึงระดับอาณาจักรก่อสร้างรากฐานได้อย่างไร

ต้องเป็นคนบ้าที่หมกมุ่นเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนตั้งแต่เด็กอย่างไม่ต้องสงสัย

ฉางเฉียนเฉียนคิดว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน มิฉะนั้นเขาหรือจะกล้าปากดีกับนางเช่นนี้ ขนาดพวกเด็กหนุ่มธรรมดาๆที่นางเคยเจอยังถึงกับตัวสั่นขาอ่อนเมื่อเห็นนางเดินเฉียดใกล้แต่ฉินจวินกลับต่างออกไป

ฉินจวินยกนิ้วชี้ขวาขึ้น เขามองคิดทบทวนอยู่สักพักเพราะทำใจลำบากที่จะกัดนิ้วตัวเอง ขนาดยังไม่กัดนิ้วตอนนี้ยังทะลวงไปถึงชั้นที่สี่ของอาณาจักรก่อสร้างรากฐาน แล้วเขายังจะต้องกัดนิ้วนี้ไปทำไมกัน

ขณะกำลังคิดชั่งใจอยู่นั้น ต้าจี๋ที่ยืนมองอยู่ข้างๆก็เดินเข้าใกล้เขาด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ก่อนจับมือที่เขาลังเลดึงใส่ปากอิ่มของนางแทน ทำเอาฉินจวินถึงกับขาอ่อนตัวสั่นใจเต้นตุ๊บตั๊บไม่เป็นจังหวะ

ส่วนฉางห่าวกับฉางเฉียนเฉียนที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ตลอดก็ได้แต่เบิกตากว้าง เป็นภาพและการกระทำที่ทำเอาทึ่งจริงๆ

แม้ฉางห่าวจะดูทึ่งกว่าใครดวงตาถึงได้แดงก่ำไปด้วยความโกรธและอิจฉาขนาดนั้น

บัดซบ!

ผู้ชนะในชีวิตจริง

เขาทั้งมีความสามารถและมีหญิงงามคอยอยู่เคียงข้าง ทำไมชายถึงสองคนกลับได้มีความแตกต่างกันเช่นนี้ ฉางห่าวเย้ยหยันตนเองในใจ

ตอนที่เขาได้เห็นต้าจี๋เป็นครั้งแรก ฉางห่าวถึงกับตกตะลึงพร้อมประทับใจในความงามของนางเวลาเดียวกัน ยิ่งตอนนี้ พอได้เห็นต้าจี๋กัดฉินจวินด้วยความอ่อนโยน มันยิ่งทำให้เขาเจ็บปวด

“ใช้ได้แล้วเจ้าค่ะ” ต้าจี๋คลายปากบางของนางออกอย่างช้าๆเมื่อเห็นว่านิ้วชี้ของเขามีเลือดไหล ส่วนฉินจวินก็รับรู้เพียงว่าตนเองกำลังล่องลอยอยู่บนก้อนเมฆ ความรู้สึกที่เหมือนถูกไฟช็อตจากนิ้วในตอนนี้กลับทำให้เขารู้สึกประทับใจไม่รู้ลืม

เขารีบสะบัดหัวดึงสติและหลุดออกจากผวังอย่างรวดเร็วก่อนกดนิ้วชี้ลงบนแหวนเก็บของ

แหวนเก็บของ เป็นแหวนที่มีพื้นที่ภายในว่างกว้าง ซึ่งใช้ในการจัดเก็บสิ่งของโดยเฉพาะ

พื้นที่ภายในของแหวนเก็บของเสี่ยวโหวประมาณยี่สิบตารางเมตร หลังมันจดจำเจ้าของใหม่ด้วยหยดเลือด ฉินจวินก็จดจ่อกับวิธีเก็บและนำสิ่งของออก เขาหยิบปืนพกเดสเซิร์ทอีเกิลกับกระบี่ขนาดใหญ่ของเสี่ยวโหวใส่มันเข้าไป

ด้วยความแปลกใหม่ เขาเลยลองหยิบปืนพกเดสเซิร์ทอีเกิลกลับออกไปออกมาเป็นสิบๆครั้งเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่เกิดสถานการณ์ที่น่าอับอายและไม่ผิดพลาดจนไม่สามารถหยิบเอาปืนพกเดสเซิร์ทอีเกิลออกมาได้ในตอนจะใช้มันเมื่อต้องการ

อัศจรรย์จริงๆ

  

ฉินจวินอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญด้วยความตื่นเต้นว่าโลกของเทพและปีศาจเป็นไปตามอย่างที่หวังไว้ เช่นแหวนเก็บของมีอยู่จริงและมันยังพิสูจน์ให้เห็นถึงจินตนาการอันล้นเหลือของมนุษย์บนโลก

เมื่อเห็นสีหน้าอันปลาบปลื้มใจจนเกือบน้ำตาซึมออกมาของเขา ฉางเฉียนเฉียนก็ถึงกับยกมือกุมหน้าผากตัวเอง ส่วนมุมปากของฉางห่าวก็ยังคงกระตุกด้วยความขัดแค้นใจ

อย่างไรเขาก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่ง แม้แหวนเก็บของจะทำให้เขาดูแปลกไปอย่างกับคนไม่เคยเห็นไปหน่อยก็เถอะ

“เอาล่ะ พวกเจ้าไปได้แล้ว”

พอนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพังบวกกับรู้สึกถึงสายตาแปลกๆของพวกเขา ฉินจวินจึงพูดขึ้นด้วยความเย็นชาต่างจากหัวใจอันร้อนรุ่มเมื่อได้มองสบตากับต้าจี๋อีกครั้ง

ต่อไปต้าจี๋จะได้ช่วยข้าอาบน้ำ (เสียงสั่น)

คนโง่ไปจากที่นี่ซะ ไป๊!

ชั่วครู่แห่งค่ำคืนในฤดูใบไม้ผลิมีค่าล้ำเท่าพันตำลึงทอง

“ข้าข้อเท้าแพลง คืนนี้จะขอพักที่นี่ด้วย”

ฉางเฉียนเฉียนกล่าวด้วยน้ำเสียงสมเพช ส่วนฉางห่าวก็ยังไม่อาจละสายตาไปจากต้าจี๋ได้ ความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ของนางยังคงทำให้เขาหลงใหลไม่ลืม เขาจะจากไปแบบนั้นได้อย่างไร

หลังคิดเรื่องนี้แล้วฉางห่าวก็เอ่ยขึ้นอย่างมีเหตุผล “เสี่ยวโหวยังมีทหารกลุ่มหนึ่งอยู่ใต้บัญชา พวกเขาไล่ล่าและตามฆ่าเราก่อนหน้านี้ ดังนั้นเราต้องอยู่คอยสู้กับเจ้า”

เสียงนั้นดังก้องแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเหล่าทหารจำนวนมากที่สื่อออกมาอย่างชัดเจน

น่าเสียดายที่ต้าจี๋ไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ นางหันไปถามฉินจวิน “นายท่าน ให้ข้าจัดการกับพวกเขาหรือไม่”

ฟู่—

ฉางห่าวแทบกระอักเลือด เทพธิดา เจ้าจะใจร้ายกับข้าไปถึงเมื่อไหร่

ฉินจวินอดคิดไม่ได้ส่วนใจของฉางห่าวก็สั่นสะท้านเมื่อได้เห็นความทะเยอทะยานที่แสดงออกมาจากดวงตาของนาง ให้ตายเถอะ นางคงไม่อยากทำจริงๆหรอกนะ

ทันใดนั้น ต้าจี๋ก็กล่าวเสริมขึ้นอีก “มีทหารกลุ่มหนึ่งกำลังมาหาเราจริงๆ”

“เจ้าไปจัดการสิ”

ฉินจวินหันไปพูดกับฉางห่าว ทั้งสองคนโกรธมากจนแทบจะกระอักเลือดกับคำพูดเย่อหยิ่งของเขา ทำไมเจ้าบ้านี่ช่างไม่เป็นมิตรเลย

แน่นอนว่าฉินจวินแค่ล้อเล่น ในสายตาของเขายังไงทหารของเสี่ยวโหวต่างก็มีค่าประสบการณ์ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางพลาดให้พวกเขาลงมือเองแน่นอน

แต่เขาไม่มีความแค้นทางใจในการสังหารทหารที่เลวทรามเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย

นับตั้งแต่การกบฏของเสี่ยวโหว เขาก็ได้นำเหล่าทหารก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบในอาณาจักรเฉียนเยว่  แม้นายพลหนานเหมิงจะตามไปจัดการเขาได้แต่ก็ปล่อยให้เขาหนีไปได้เสมอ ซึ่งมันยิ่งทำให้องค์จักรพรรดิเจ็บแค้นและเกลียดชังเขาเสียยิ่งกว่าอะไรดี

ไม่นาน เหล่าทหารยี่สิบถึงสามสิบนายก็โผล่พ้นออกมาจากป่าฝั่งตรงข้ามของทะเลสาบ ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาต่างกัน ต่ำสุดคือชั้นที่สองของอาณาจักรกลั่นลมปราณและผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่เกินชั้นที่หกของอาณาจักรกลั่นลมปราณ

“พวกมันอยู่นั่น”

“ช้าก่อน ดู! นั่นไม่ใช่ศพนายพลเหรอ”

“บ้าจริง ใช่จริงๆด้วย”

“ท่านนายพลตายแล้วหรือ”

จู่ๆ เหล่าทหารพวกนั้นก็แตกตื่นก่อนจะมองไปที่ฉินจวินกับคนอื่นๆด้วยความกลัวทั้งหมดที่มี

ต่างจากฉางห่าวกับฉางเฉียนเฉียนที่ดูตื่นเต้นมาก ก่อนหน้านี้พวกเขากลัวทหารเหล่านี้เพราะยังมีเสี่ยวโหวคอยสั่งการ แต่ตอนนี้ เสี่ยวโหวตายไปแล้ว ทหารเหล่านี้จึงไม่ต่างอะไรกับลูกแกะในสายตาพวกเขา

ขณะนั้นเองฉินจวินก็หยิบปืนพกเดสเซิร์ทอีเกิลออกมา หลังความแข็งแกร่งของเขาทะลวงเข้าสู่อาณาจักรก่อสร้างรากฐานแล้ว ประสาทสัมผัสของเขาก็ยิ่งเหนือกว่าคนทั่วไปจนสามารถมองเห็นคู่ต่อสู้ได้อย่างชัดเจนจากระยะหลายสิบเมตร

ปัง ปัง ปัง……

ลูกกระสุนที่พุ่งแหวกอากาศส่งเสียงดังหวีดหวิวออกมาจนพวกทหารเหล่านั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนองต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น พวกเขาถูกยิงเลือดกระเด็นจากปืนพกเดสเซิร์ทอีเกิลที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ พอมันได้รับพลังที่แท้จริงจากผู้ใช้ คุณภาพและปริมาณของปราณจึงเหนือกว่าเหล่าทหารระดับอาณาจักรกลั่นลมปราณ

เหล่าทหารในระดับอาณาจักรกลั่นลมปราณไม่สามารถต้านทานมันได้เลย

“ติ๊ง! สังหารทหารในชั้นที่สามของอาณาจักรกลั่นลมปราณ รับยี่สิบห้าคะแนนประสบการณ์”

“ติ๊ง! สังหารทหารในชั้นที่สี่ของอาณาจักรกลั่นลมปราณ รับยี่สิบเก้าคะแนนประสบการณ์”

……….

ระบบแจ้งเตือนดังขึ้นในใจของฉินจวินทีละศพๆ เขาไม่แปลกใจและยังคงยิงออกไปอย่างใจเย็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด