บทที่ 2 อัปเกรดสองระดับติดต่อกัน
“เจ้าพวกมดปลวก กล้าดีอย่างไรขังนายข้า วันนี้แม้พวกเจ้าต้องตายตกนรกก็ยังไม่สาสมเสียด้วยซ้ำ”
ต้าจี๋กวาดสายตาสวยคมมองไปยังเหล่าทหารองครักษ์พร้อมยิ้มหวานหยดย้อย แม้รอยยิ้มนั้นจะงดงามจนน่าทึ่ง แต่สิ่งที่พูดกลับทำให้ผู้คนถึงกับรู้สึกหนาวเหน็บไปยันขั้วหัวใจ
ฉินจวินยังคงมองต้าจี๋อย่างไม่อาจวางตา นางสวยมากเมื่อเทียบกับดาราหญิงที่เขาเห็นในทีวียังโลกก่อนที่จากมา ดาราพวกนั้นแทบไม่อยู่ในระดับเดียวกับนางเลย ความงดงามของนางราวกับออกมาจากม้วนภาพ
“บังอาจนัก! เจ้าเป็นใคร กล้าขัดขวางองครักษ์ของอาณาจักร”
หัวหน้าองครักษ์ของจักรวรรดิพูดเสียงทุ้ม แม้พวกเขาจะทึ่งในความงามของนาง แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะระมัดระวังตัวมากขึ้น
กลิ่นอายของต้าจี๋ทำให้เหล่าชายผู้แข็งแกร่งถึงกับสั่นสะท้าน ขนาดกับแม่ทัพของอาณาจักรพวกเขายังไม่เคยรู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้
ชั้นที่ห้าของอาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่า
ฉินจวินไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับระดับอาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่า เพราะผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรเฉียนเยว่ มีเพียงผู้บ่มเพาะระดับอาณาจักรเปลี่ยนแปลงมนุษย์เท่านั้น
ในความทรงจำของร่างกายนี้ การฝึกเป็นเซียนแบ่งออกเป็นระดับอาณาจักรกลั่นลมปราณ, ก่อสร้างรากฐาน, แก่นทองคำและเปลี่ยนแปลงมนุษย์ แต่ละอาณาจักรแบ่งออกเป็นเก้าชั้น ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรเฉียนเยว่คือหนานเหมิง แม่ทัพใหญ่แห่งเจิ้งกั๋วที่อยู่ในระดับแรกของอาณาจักรเปลี่ยนแปลงมนุษย์ ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยใช้กระบี่ตัดผ่านภูเขาสูงสามสิบห้าฉื่อด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และตำนานของเขาก็เลื่องลือไปทั่วอาณาจักร ถึงกับทำให้อาณาจักรอื่นๆรอบข้างต้องหวาดกลัว
ว่ากันว่าราชวงศ์อยู่เหนืออาณาจักร แม้การปกครองจะคล้ายกัน แต่ความแข็งแกร่งนั้นแตกต่างกันมาก ฉินจวินเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับราชวงศ์มาบ้างเท่านั้น และข้อมูลเฉพาะก็ไม่ชัดเจนนัก
แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด
สิ่งสำคัญตอนนี้คือต้าจี๋นั้นแข็งแกร่งกว่าหนานเหมิง แม่ทัพใหญ่แห่งเจิ้งกั๋ว
และไม่มีคู่ต่อสู้ใดทัดเทียมได้
ฉินจวินรู้สึกตื่นเต้นแต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สบายใจ “ระบบ อาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่าอยู่เหนืออาณาจักรเปลี่ยนแปลงมนุษย์หรือไม่”
“ใช่ อาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่าอยู่เหนืออาณาจักรเปลี่ยนแปลงมนุษย์”
ฉินจวินพอใจอย่างมาก เขามองไปที่ต้าจี๋จนเริ่มหลงใหลมากขึ้นเรื่อย ๆ
พอต้าจี๋โบกแขนเสื้อของนาง เหล่าทหารองครักษ์ทั้งสิบห้าคนก็รับรู้ถึงพลังลึกลับที่ไม่อาจหยุดยั้งได้พุ่งตรงเข้าหาพวกเขาทันทีจนเหล่าทหารองครักษ์ทั้งหมดปลิวออกไปและคุกที่ฉินจวินถูกคุมขังอยู่ก็ระเบิดแตกออกทำให้แท่งเหล็กต่างพุ่งหมุนออกไปคนละทิศละทาง
เป็นอิสระ!
ฉินจวินหายใจเข้าลึกแล้วเก็บอาการความตื่นเต้นของตัวเองก่อนจะยืนขึ้น
ฉันเพิ่งเดินทางข้ามเวลาและคิดว่าชีวิตใหม่จะต้องน่าสังเวชมาก แต่คิดไม่ถึงว่าการเปิดใช้งานระบบตำนานจะออกจากปัญหาได้โดยตรง
“นายท่านของข้า เป็นอะไรหรือไม่”
ต้าจี๋เดินมาหาฉินจวิน ใบหน้าและรูปร่างของนางงดงามอย่างกับภาพลวงตา กลิ่นหอมจางๆที่ลอยเข้ามาปะทะจมูกทำให้เขาถึงกับเสียสมาธิ
แคร่ง!
ต้าจี๋กระชากโซ่ข้อมือและข้อเท้าที่พันธนาการฉินจวินออกไปอย่างง่ายดาย
“ข้าสบายดี” ฉินจวินกล่าวอย่างพยายามสงบสติอารมณ์
ในวีรคติเรื่องสถาปนาเทพเจ้า เดิมทีต้าจี๋เป็นหญิงใจดีและงดงาม แต่นางถูกปีศาจจิ้งจอกเก้าหางฆ่าและเข้าครอบงำระหว่างทางเข้าไปในพระราชวัง ซึ่งในเวลาต่อมานางก็ได้กระทำสิ่งชั่วร้าย
แต่ต้าจี๋ที่อยู่ตรงหน้าเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ต้าจี๋ดั้งเดิม เพราะเผ่าพันธุ์ของนางคือปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง
ในหนังสือต้นฉบับต้าจี๋มีการแสดงน้อยมาก และความทรงจำของนางในรุ่นต่อๆ ไปก็มีแต่ความหายนะและโหดร้าย ความแข็งแกร่งของนางไม่ได้รับความสนใจสักเท่าไหร่
แต่ก็ไม่คิดว่านางจะมีความแข็งแกร่งระดับชั้นที่ห้าของอาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่า มันยากที่จะจินตนาการว่าความสามารถอันทรงพลังในตำนานเหล่านั้นน่ากลัวเพียงใด
ซุนหงอคงราชาวานรสามารถเดินทางได้หลายพันไมล์ในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว เมื่อนึกถึงความเร็วแบบนั้น ฉินจวินก็ถึงกับแอบจิ๊ปากด้วยความพึงพอใจ
เส้นผ่านศูนย์กลางของอาณาจักรเฉียนเยว่ ไม่ถึงหนึ่งแสนแปดพันไมล์ด้วยซ้ำ
“สู้กับข้า”
หัวหน้าองครักษ์เช็ดเลือดที่มุมปากแล้วชักกระบี่พุ่งเข้าหาต้าจี๋ เขาเร็วมากจนคนธรรมดาแทบไม่มีเวลาตอบสนอง อย่างน้อยที่สุดก็ฉินจวินนี่แหละที่ไม่สามารถต้านทานได้
ซูต้าจี๋กดมือของนางลงแล้วหัวหน้าองครักษ์ของจักรพรรดิก็ล้มลงต่อหน้านาง
บูม!!!
ต้าจี๋ก้าวเท้าขวาเหยียบไปที่หลังของหัวหน้าองครักษ์และพื้นก็แตกเป็นเสี่ยงๆราวกับใยแมงมุม หัวหน้าองครักษ์หยุดชะงักก่อนกระอักเลือดออกมา ดวงตาของเขาหย่อนยานจนลมหายใจเริ่มอ่อนแรง
“ให้ตายเถอะ จะแข็งแกร่งไปไหน”
ฉินจวินหนังตากระตุกเมื่อได้เห็น แม้นางจะดูบอบบางแต่ไม่คิดว่าพลังจะรุนแรงขนาดนี้
บางทีหากเป็นพวกที่อยู่ในระดับเดียวกันความแข็งแกร่งของนางอาจด้อยกว่าก็ได้ แต่ถึงอย่างไรการเผชิญหน้ากับพวกมดปลวกระดับอาณาจักรกลั่นลมปราณ ความแข็งแกร่งของนางก็ถือว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง
“เจ้าไปก่อน”
ฉินจวินจ้องไปที่หัวหน้าองครักษ์ของจักรวรรดิก่อนพูดกับต้าจี๋ นางก้าวออกไปอย่างเชื่อฟัง
เมื่อเขามาถึงตรงหน้าของหัวหน้าเหล่าองครักษ์ ฉินจวินก็นั่งยองๆ แล้วสะแยะยิ้มอย่างไม่มีพิษมีภัย
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ ใครเสียสติ”
“เจ้า! คนไร้ประโยชน์… จักรพรรดิ…”
ใบหน้าแดงก่ำมองที่ฉินจวินด้วยสายตาขุ่นเคือง สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ให้กับต้าจี๋และตอนนี้ยังถูกฉินจวินเยาะเย้ยกลับจนรับรู้ถึงความภาคภูมิใจที่ถูกเหยียบย่ำ
เพี้ยะ!
ฉินจวินตบหน้าเขาเข้าอย่างจังจนทำให้เขาถึงกับชะงักไปด้วยความตกใจ จะตายอยู่แล้วยังกล้าบังอาจเยาะเย้ยคนอย่างข้า
ด้วยการตบนัดนี้ หัวหน้าองครักษ์ของจักรพรรดิที่เหลือลมหายใจเพียงเฮือกสุดท้ายก็สิ้นชีวิตลงทันที
“ติ๊ง! สังหารทหารระดับชั้นที่ห้าของอาณาจักรกลั่นลมปราณ รับห้าสิบคะแนนประสบการณ์”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้เปิดใช้งานเทมเพลตโปรไฟล์”
อะไรกันว่ะเนี่ย...
คะแนนประสบการณ์คืออะไร เทมเพลตโปรไฟล์อีก
ฉินจวินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ในขณะเดียวกันจะมีแหล่งความร้อนพุ่งออกมาจากร่างกายเขา
ไม่นานจากนั้นม่านแสงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
“โฮสต์: ฉินจวิน”
“เผ่าพันธุ์: มนุษย์”
“ระดับการบ่มเพาะ: ชั้นแรกของอาณาจักรกลั่นลมปราณ (150/200 คะแนนประสบการณ์)”
“สายเลือด: ไม่มี”
“พลังเวทย์: ไม่มี”
“พลังวรยุทธ: กลั่นลมปราณ (ขั้นกลาง)”
“อัญเชิญเทพและปีศาจ: ต้าจี๋”
ให้ตายเถอะ!
รู้สึกเหมือนเล่นเกมออนไลน์ยังไงยังงั้น
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ เสียงของระบบดังขึ้นในหัวเขาด้วยเวลาที่เหมาะสม
“เนื่องจากโฮสต์มาจากโลกในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้โฮสต์ปรับตัวได้ ระบบจึงถูกแปลงเป็นแบบดิจิทัลในลักษณะของเกมบนโลก”
“จุดประสงค์ของระบบตำนานคืออะไร” ฉินจวินถามอย่างกังวลใจ
ไม่มีของดีตกลงมาจากฟ้าได้
ฉินจวินซึ่งทำงานมาหลายปีรู้เรื่องนี้ดีและระบบตำนานไม่สามารถฝึกฝนเขาได้โดยไม่มีเหตุผล
“โฮสต์อ่อนแอเกินไป ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะทราบเป้าหมายสูงสุดของระบบได้ในตอนนี้”
ฉินจวินพูดไม่ออกกับประโยคนี้ที่ทำให้เขาถึงกับยืนนิ่งไปชั่วขณะ ซึ่งคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากต้องทิ้งความกังวลนี้ไว้เบื้องหลัง
ชีวิตก็แบบนี้ เมื่อทนไม่ไหวก็จงสนุกไปกับมัน
“จัดการพวกที่เหลือให้อยู่ในสภาพไร้ความสามารถ จากนั้นปล่อยให้ข้าสังหารพวกเขาเอง”
ฉินจวินลุกขึ้นและออกคำสั่งด้วยความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ต้องฆ่าใครสักคนแต่ในโลกที่ป่าเถื่อนเช่นนี้เขาจะใจอ่อนให้ใครไม่ได้
องครักษ์ของจักรพรรดิกลุ่มนี้ถูกส่งมาโดยองค์ชายห้าฉินอวี๋ และตอนนี้กองทัพองครักษ์ของจักรพรรดิทั้งหมดก็อยู่ในมือของฉินอวี๋ซึ่งเทียบเท่ากับเป็นศัตรูของเขา นอกจากนี้ องครักษ์ของจักรพรรดิเหล่านี้ยังรังแกเขามาตลอดทาง ดังนั้น ฉินจวินย่อมไม่ปล่อยให้เสือกลับภูเขา
ประสิทธิภาพของต้าจี๋รวดเร็วมาก ภายในเวลาไม่ถึงสามวินาทีองครักษ์ที่เหลือทั้งหมดก็ไปนอนกองอยู่บนพื้นเหมือนหมาตาย กระดูกของพวกเขาแตกเป็นชิ้นๆจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ฉินจวินระงับความขุ่นเคืองในใจก่อนจะดึงกระบี่ยาวของหัวหน้าทหารองครักษ์ออกมา และจบชีวิตพวกเขาด้วยมือของตนเอง
“ติ๊ง! สังหารทหารระดับชั้นที่ห้าของอาณาจักรกลั่นลมปราณ รับสี่สิบคะแนนประสบการณ์”
“ติ๊ง! สังหารทหารระดับชั้นที่ห้าของอาณาจักรกลั่นลมปราณ รับสาบสิบห้าคะแนนประสบการณ์”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ในการทะลวงไปสู่ชั้นที่สามของอาณาจักรกลั่นลมปราณ”
......
เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นไปพร้อมกับการตายของคนทีละคนๆ ทหารองครักษ์ทั้งสิบสี่คนทำให้เขาก้าวสู่ชั้นที่สี่ของอาณาจักรกลั่นลมปราณอย่างง่ายดาย พลังที่แท้จริงพลุ่งพล่านในร่างกายทำให้เขาแทบอยากจะกรีดร้อง
มีความสุข...
ปลาคาร์พกระโดดข้ามประตูมังกร
ฉินจวินรู้สึกตื่นเต้นเอามากๆ ตอนนี้เขารู้สึกว่าสามารถหักต้นไม้ที่หนาเท่าต้นขาได้ด้วยหมัดเดียว
อัปเกรดสองระดับติดต่อกัน!
ด้วยความเร็วนี้ แรงงานอย่างฉันก็ได้เป็นยอดมนุษย์