บทที่ 1 การอัญเชิญเทพปกรณัม
“องค์ชายฉินจวินผู้ถูกเนรเทศ ... จากอาณาจักรเฉียนเยว่ ...”
ฉินจวินในชุดนักโทษสีขาวทรุดตัวนั่งลงบนเกวียนคุมขังเหมือนขอทานโดยมีม้าดำแข็งแกร่งสองตัวลากเกวียนไปข้างหน้า ทำให้ร่างของเขาสะเทือนดั่งระลอกคลื่นไปกับเกวียน
ตอนนี้อารมณ์ของฉินจวินแทบพังทลาย
แม่งเอ้ย!
นึกไม่ถึงเลยว่าฉันจะข้ามเวลามาเป็นทาสชั้นต่ำแบบนี้
ขณะที่พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า ใบหน้าของฉินจวินที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกคอยกวาดสายตามองไปรอบๆโดยมีทหารองครักษ์สิบห้านายที่ตอนนี้กำลังบังคับเกวียนคุ้มกันเขาไปตามหุบเขาที่เปลือยเปล่าทั้งสองด้านสูงหลายสิบฉื่อ พื้นดินก็เต็มไปด้วยกรวดไม่มีพืชสักต้น สภาพแวดล้อมทั้งหมดดูรกร้างอย่างหาที่เปรียบมิได้
ที่แห่งนี้ค่อนข้างดูมีศิลปะ ทั้งลมตะวันตกและม้าผอมๆบนถนนโบราณ
“ฉันไม่อยากข้ามเวลามา...”
ในตอนที่ตื่นลืมตาขึ้นขณะที่ผลอยหลับไปในออฟฟิศ เขากำลังเลิกงานพร้อมเดินออกจากอาคารบริษัทไปได้ไม่ถึงห้าก้าวก่อนมีบางอย่างพุ่งมากระทบเข้าที่หน้าผากทำให้รู้สึกวิงเวียน วินาทีต่อมาการมองเห็นของเขาก็ดับไปก่อนจะฟื้นคืนสติกลับมาปรากฏตัวในเกวียนของนักโทษ ขณะเดียวกัน ความทรงจำที่ไม่ใช่ของเขาก็ไหลเวียนเข้ามาในหัวยิ่งทำให้เขาแทบอยากจะร้องไห้
ตอนนี้ เขาอยู่ในร่างขององค์ชายสามแห่งอาณาจักรเฉียนเยว่ที่มีชื่อและนามสกุลเดียวกัน ตามความทรงจำของร่างกายนี้ นี่คือโลกที่เต็มไปด้วยเทพเจ้าและปีศาจ โลกที่ไม่รู้ว่ากว้างใหญ่แค่ไหนและอาณาจักรเฉียนเยว่ก็เป็นเพียงน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเท่านั้น
แม้เขาจะเกิดมามีฐานะเป็นถึงองค์ชาย แต่พรสวรรค์ในการกลั่นลมปราณของชายผู้นี้นั้น กลับอยู่แค่ระดับกลางๆ เทียบไม่ได้กับพี่น้องของเขาโดยสิ้นเชิง
การกลั่นลมปราณคืออะไร
คือการดูดซับพลังแห่งสวรรค์และโลกเพื่อเสริมสร้างร่างกายแลจิตวิญญาณของคุณ ผู้ที่ประสบความสำเร็จอันใหญ่หลวงจะสามารถเคลื่อนภูเขาและทะเล ไปจนกระทั้งคว้าดาวหรือย้ายดวงจันทร์ได้
เจ้าของร่างนี้อายุสิบหกปี มีความสามารถในการกลั่นลมปราณเพียงขั้นกลาง และเพิ่งอยู่ในชั้นที่สองของอาณาจักรกลั่นลมปราณ ไม่มีความสามารถทางการเมือง และแทบไม่มีโอกาสได้ขึ้นครองบัลลังก์ แต่เขาเป็นคนที่หัวแข็งมากจนทำให้องค์ชายห้าขุ่นเคือง ไม่นานมานี้เขาก็เพิ่งถูกฉินอวี๋ใส่ร้ายป้ายสีเรื่องยักยอกเงินจากคลัง พอจักรพรรดิรู้เข้าก็โกรธถึงกับสั่งปลดตำแหน่งให้ไปอยู่ชายแดนเพื่อใช้แรงงาน
แน่นอนว่าในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย ชายผู้นี้ยังไม่เป็นที่พอพระทัยของจักรพรรดิ
“ให้ตายเถอะ โลกนี้มันอันตรายเกินไป ฉันอยากกลับบ้าน”
ฉินจวินคิดด้วยใบหน้าอันโศกเศร้า เขาไม่ได้โดนฟ้าผ่าหรือรถชนจนเดินทางข้ามเวลามาหรอกนะ
ไร้หลักวิทยาศาสตร์สิ้นดี
ชีวิตการทำงานเพิ่งเริ่มต้น เพื่อนร่วมงานสาวสวยก็เพิ่งบอกรักเขา จุดสุดยอดของชีวิตอยู่ตรงหน้า แต่ทุกอย่างกลับมาจบสิ้น
ฉันไม่โอเค
ฉินจวินไม่พอใจเอามากๆที่โชคไม่ดีในการเดินทางข้ามเวลามา แถมอีกไม่ช้า เขาก็จะต้องทำงานหนักเยี่ยงทาสและถูกบังคับให้ทำงานหนักไปตลอดชีวิตอีก
แม้โลกนี้จะมีเทพและปีศาจอยู่มาก แต่พลังกลั่นลมปราณของเขากลับอยู่แค่ชั้นที่สอง ซึ่งไม่สามารถแม้แต่จะจัดการกับทหารที่อยู่รอบตัวเขาได้เลยด้วยซ้ำ แล้วจะพูดถึงการบ่มเพาะลมปราณให้กลายเป็นเซียนได้อย่างไร
แม้เขาจะอยู่ในร่างเด็กคนนี้ก็จริงแต่ฉินจวินไม่ใช่เด็กแล้ว ความคิดของเขาโตเป็นผู้ใหญ่ซึ่งไม่ว่าโลกนี้จะน่าทึ่งเพียงใดก็ไม่เกี่ยวอะไรกับสถานการณ์ปัจจุบันของเขา
“ติ๊ง! เปิดใช้งานระบบตำนาน”
“ติ๊ง! ระบบตำนานผูกพันธะกับโฮสต์แล้ว”
“ติ๊ง! เนื่องจากระบบตำนานเพิ่งเปิดใช้งานเป็นครั้งแรก ผู้เป็นโฮสต์จะได้รับรางวัลเป็นโอกาสสุ่มอัญเชิญเทพและปีศาจ”
ทันใดนั้น เสียงที่ไม่มีใครได้ยินก็ดังขึ้นในหัวของเขา
ฉินจวินตกใจมากจนเกือบจะกระโจนขึ้นยืน
ระบบตำนานคืออะไร
“ระบบตำนานเกิดจากความมีชีวิตของเต๋า ผู้เป็นโฮสต์สามารถอัญเชิญเทพและปีศาจได้ทุกเดือนโดยอาศัยระบบตำนาน ในขณะเดียวกัน การเรียกใช้เพื่อความสำเร็จแต่ละครั้งยังสามารถสุ่มจับรางวัลที่ไม่จำกัดเพียงประเภทเดียว อาจเป็นแบบฝึกพลังยุทธ์ สมบัติแห่งสวรรค์ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่รางวัลประเภทอื่นๆ ขึ้นอยู่กับโชคของผู้เป็นโฮสต์”
เสียงลึกลับนั้นยังคงดังขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่สนใจฉินจวินที่กำลังผงะกับสิ่งที่ได้ยิน ในชีวิตนี้เขาเคยได้อ่านนวนิยายแนวจินตนาการมากมายมานับไม่ถ้วน นิยายแนวระบบสตรีมก็ด้วย แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีวันนี้
เขาเอามือหยิกแก้มตัวเองโดยไม่รู้ตัว เจ็บ!
มันเป็นความจริง
“ฟู่ องค์ชายงี่เง่าคนนี้หยิกตัวเองว่ะ”
“ฮ่าฮ่า ข้าขำจะตายอยู่แล้ว คงสิ้นหวังมากจนบ้าไปแล้ว”
“น่าสมเพชจริงๆ บังอาจทำให้องค์ชายห้าขุ่นเคือง”
“องค์ชายห้าไม่เพียงเก่งกาจ แต่ยังมีเล่ห์เหลี่ยมที่ร้ายกาจมากอีกด้วย ไม่นานภายภาคหน้าคงได้ขึ้นครองบัลลังก์อย่างแน่นอน”
“คนในราชวงศ์นี่ช่างโหดเหี้ยมเสียจริง พี่น้องกันเองแท้ๆยังสามารถให้ร้ายได้”
พวกทหารที่อยู่รอบๆคุยกันให้แซ่ด และส่วนใหญ่คำพูดของพวกเขาก็เป็นการเย้ยหยันฉินจวินอีกด้วย
ในประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องยากมากที่ทายาทจักรพรรดิรุ่นต่อไปจะถูกลดตำแหน่งไปอยู่ชายแดน
ฉินจวินที่ได้ยินเรื่องพวกนี้โกรธมาก เขารีบถามในใจ “ระบบ ฉันจะอัญเชิญเทพและปีศาจได้อย่างไร”
“ติ๊ง! เราจะเริ่มสุ่มเลือกเทพและปีศาจ ตอนนี้”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่สุ่มได้ ต้าจี๋ ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง”
“ต้าจี๋จาก เฟิงเฉินหยั่นอี้” (วีรคติเรื่องสถาปนาเทพเจ้า)
“เผ่าพันธุ์: ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง”
“ระดับการบ่มเพาะ: ชั้นที่ห้าของอาณาจักรปรับแต่งความว่างเปล่า”
“พลังวรยุทธ: อาคมจิ้งจอกสวรรค์, เสน่ห์อาคม”
“พลังโดยกำเนิด: ร่างแท้จริงของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง”
“ความภักดี: 90 (เต็ม 100)”
“คำเตือนพิเศษ หากความภักดีของเทพและปีศาจต่ำกว่า 0 พวกเขาจะทรยศโฮสต์”
ฉินจวินตกตะลึงกับชุดของเสียงในหัวของเขา อะไรกันว่ะเนี้ย
ต้าจี๋อย่างนั้นหรือ
จากวีรคติเรื่องสถาปนาเทพเจ้าอีก
นั่นมันตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าจีนไม่ใช่เหรอ
“แล้วไหนล่ะคน บอกว่าสุ่มมาแล้วทำไมไม่เห็นมีการเคลื่อนไหวอะไรเลยล่ะ” ฉินจวินถามอย่างกระวนกระวายใจ ไม่ใช่ว่าฉันหลอนที่ได้ยินแล้วคิดไปเองหรอกนะ
“ต้าจี๋จะปรากฏในอีกไม่ช้า แต่เพื่อเป็นการย้ำเตือนโฮสต์ ว่าเทพและปีศาจที่อัญเชิญมานั้นเป็นเพียงการจำลองข้อมูลในตำนานเท่านั้น พวกเขาไม่มีความทรงจำเดิมจะมีเพียงความทรงจำของโลกใบนี้ที่ระบบป้อนให้เท่านั้น หวังว่าโฮสต์จะไม่ติดขัด”
ฉินจวินมีความสงสัย เขาจะยังไม่เชื่อเต็มที่หากยังไม่ได้เห็นต้าจี๋ปรากฏตัว
หากตำนานถูกสร้างขึ้น พวกเขาจะสามารถจริงจังได้หรือ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดถึงความทรงจำเกี่ยวกับร่างกายตอนนี้ของตัวเอง เขาก็อดที่จะรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ โลกนี้เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดและภูตผีปีศาจอย่างกับในเทพนิยาย
บางทีระบบตำนานอาจมีอยู่จริง
“ถ้าเช่นนั้น ข้าสามารถเรียกซุนหงอคงราชาวานร ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่เทียบสวรรค์ เอ้อหลางเจิ้นจุน เทพแห่งสงครามและพระพุทธเจ้าตถาคตได้หรือไม่”
“ได้”
“นักพรตเต๋าซานชิงล่ะได้ด้วยไหม”
“ได้”
“โฮ้ววว ฉันชักอยากจะจัดการโลกแห่งเทพและปีศาจนี้แล้วซิ”
ฉินจวินรู้สึกตื่นเต้นทันที หากเขาเรียกผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานออกมาได้จริงๆ เขาก็จะปกครองอาณาจักรเฉียนเยว่และพิชิตโลกทั้งใบได้ในไม่กี่นาทีนะซิ
“นั่นขึ้นอยู่กับโชคของโฮสต์ ตัวละครในตำนานนั้นมีมากเกินไป บางทีโฮสต์อาจตายก่อนได้อัญเชิญตัวละครที่ต้องการเรียก”
ระบบไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้คนเป็นโฮสต์เสียกำลังใจ แต่เขาก็ลืมนึกถึงเรื่องตลกร้ายพวกนี้ไปเลย ถึงอย่างไร เหตุการณ์ความน่าจะเป็นเหล่านั้นก็ถือว่าต่ำมากที่จะถูกระบบตำนานกำจัด ดังนั้นยังต้องพึ่งโชคอีกหรือ
พวกมันต้องถูกกำจัด
ฉินจวินตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น โซ่เหล็กที่มือและเท้าของเขาก็สั่นตามไปด้วยจนทำให้เกิดเสียงกุ๊กกิ๊ก
ขณะนั้นเอง ทหารองครักษ์และเกวียนคุมขังก็หยุดกะทันหันจนทำให้ฉินจวินถึงกับเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย พวกทหารต่างพากันชักกระบี่ออกมาทีละคนราวกับว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับอันตรายบางอย่าง
ทหารเหล่านี้เป็นองครักษ์ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีโดยราชวัง ระดับการบ่มเพาะล้วนอยู่ในชั้นที่ห้าของอาณาจักรกลั่นลมปราณ ไม่ว่าใครที่เป็นหนึ่งในบรรดาทหารเหล่านี้ต่างก็สามารถเอาชนะฉินจวินให้กองลงกับพื้นได้อย่างง่ายดาย ยิ่งเรื่องความสามารถในการรับรู้ของพวกเขานั้นก็ไกลเกินกว่าที่ฉินจวินจะเทียบได้
ด้วยทหารฝีมือดีเหล่านี้ก็เพียงพอแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันชั่วร้ายขององค์ชายห้าฉินอวี๋ ที่เลือกคนพวกนี้มาคุ้มกันเขาให้ไม่มีโอกาสหลบหนีได้
หัวเราะคิกคัก—
จู่ๆ เสียงหัวเราะที่ชวนขนลุกก็ดังขึ้นทำให้ผู้คนต่างหันมองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจก่อนปรากฎเงาสีขาวลอยร่อนลงมาราวกับเทพธิดาถูกขับไสในชุดเสื้อผ้าแลผ้าคลุมขนสัตว์สีขาวราวดั่งหิมะบนไหล่นวลเนียน ชายกระโปรงบางพลิ้วไหวไปพร้อมกับชายเสื้อตามสายลมเผยให้เห็นรูปร่างอันงดงามภายใต้ผมสีดำขลับรับกับใบหน้าสวยใสแลนัยตาเจ้าเล่ห์ดุจดั่งเจ้าเหมียวจนน่าพิสมัยก่อนที่ใบหน้าอันบอบบางนั้นจะกวาดมองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
หายนะทั้งประเทศชาติและประชาชนทั้งปวง
ซู่ต้าจี๋!