ตอนที่ 5 สะสมได้ 900 ปีแล้ว การรวมตัวของนักเรียนเขตหยางเฉิง
"ฮะๆ เอาล่ะ"
หลินซานได้ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของเขานั้นออกมมาด้วยความมั่นใจ
โจไคเอ๋อเองก็มีสีหน้าที่มุ่งมั่นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสี่คนร่วมมือกันนั้นจะมีโอกาสสูงมากที่จะชนะได้
และตงรุ่ยเองในฐานะวิญญาจารย์สายป้องกันเพียงคนเดียว ก็ได้เดินไปข้างหน้าพวกเขาอย่างรู้หน้าที่
เย่เฉินเองก็ยิ้มเล็กน้อย และหอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาพร้อมกับควันสีดำที่หนาทึบ
...
ในช่วงเวลาตอนเย็น.
“หื่อออ ข้าเหนื่อยมากแล้วล่ะ”
ที่ชั้นบนดาดฟ้านั้น โจไคเอ๋อ นั่งทรุดตัวลงกับพื้น โดยไม่กังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์เทพธิดาของเธอเหมือนอย่างที่เธอทำในตอนเช้าอีกต่อไป
หลินซานและตงรุ่ยเองก็ต่างก้มตัวลงและหอบกันอย่างหนัก
หลังจากการฝึกการต่อสู้จริงในวันนี้ เย่เฉินเองก็เหนื่อยล้าด้วยเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว เขานั้นยังอยู่ในระดับ 11 เพียงเท่านั้น แม้ว่าหลิงเหว่ยจะบีบลดระดับของเขาให้เป็นวิญญาจารย์ ในฐานะปรมาจารย์วิญญาณแล้วก็ตาม แต่ว่าประสบการณ์การต่อสู้และการตอบสนองของเขานั้นไม่ได้ถูกบีบอัดลงมาด้วย และเขายังคงมีมันอยู่เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับโจไคเอ๋อและอีกสามคนแล้ว เย่เฉินนั้นก็อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
“พวกเจ้าเหนื่อยกันไวจังเลยนะ ยังไม่ค่ำเลยเนี่ย”
หลิงเหว่ยนั่งบนก้อนหินอย่างสบายๆ และพูดพร้อมด้วยรอยยิ้ม “แล้วมาต่อกันพรุ่งนี้นะ”
"อา?"
มีเสียงโอดครางดังขึ้นมาในทันที
ตงรุ่ยหัวเราะอย่างขมขื่น: "อาจารย์หลิง พรุ่งนี้เราเลื่อนไปก่อนดีไหม อาการบาดเจ็บของข้ายังไม่หายดีเลยอ่ะ"
ขณะที่เขาพูดนั้น เขาก็ลูบหน้าข้างซ้ายของเขาที่เขียวจากการถูกเตะในการฝึกก่อนหน้านี้
“ใช่แล้ว ข้าเองก็เหนื่อยมากเลยล่ะ”
หลินซานสูญเสียความเย่อหยิ่งของเขาไปแล้วด้วยเช่นกัน สำหรับวิญญาจารย์มือใหม่แล้ว ความหนักในการฝึกฝนนั้นมักจะไม่สูงมากนัก
“โอ้ พวกเจ้าเหนื่อยกันมากแล้วใช่ไหมล่ะ? ไม่เป็นไร งั้นพรุ่งนี้ก็มาหยุดกันสักวันหนึ่งนะ”
หลิงเหว่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย: "แต่ขอบอกไว้หน่อยล่ะว่า การเข้าทดสอบของค่ายฝึกพิเศานั้นยากกว่านี้มากเลยล่ะ"
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ตงรุ่ยและหลินซานก็หยุดพูดทันที
โจไคเอ๋อซึ่งนั่งอยู่ข้างๆเย่เฉินก็หันศีรษะของเธอ ดวงตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชม: "เย่เฉินเจ้าน่าทึ่งมากเลยล่ะ เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บเลยหลังจากผ่านการฝึกต่อสู้มาทั้งวันน่ะ"
“ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่เฉินจะฝึกฝนร่างกายมาก่อนที่จะปลุกวิญญาณยุทธ์ของเขามาอย่างดีเลยใช่ไหมล่ะ?” ตงรุ่ยกล่าว
ในตอนท้ายของวัน ทุกคนนั้นต่างเริ่มคุ้นเคยกับเขา และเนื่องจากความแข็งแกร่งของเย่เฉิน ตงรุ่ยจึงตั้งใจเรียกเขาว่าพี่ใหญ่เฉิน
เย่เฉินพยักหน้า หลักสูตรส่วนใหญ่ก่อนปลุกวิญญาณยุทธ์นั้นล้วนมุ่งเน้นไปกับการฝึกร่างกายและทักษะทางกายภาพ
ในหลักสูตรเหล่านี้ เย่เฉินนั้นเป็นอันดับหนึ่งในชั้นเรียนมาโดยตลอด
มิฉะนั้น การต่อสู้อันหนักหน่วงในวันนี้คงไม่อึดอย่างที่เห็นอีกต่อไป
หลังจากพูดคุยกันสั้นๆ ทุกคนก็ไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหารเย็นกัน
และในค่ำคืนนี้ เย่เฉินนั้นนอนหลับสนิทมาก
...
เวลาเก้าวันได้พ้นผ่านไปในพริบตา
ในช่วง 9 วันนี้ เย่เฉินและคนอื่นๆ ได้มุ่งเน้นไปที่การฝึกการต่อสู้จริงเป็นส่วนใหญ่
หลังจากการบ่มเพาะอย่างหนักเป็นเวลา 9 วัน ประสบการณ์การต่อสู้ของหลายๆ คนก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก
ในตอนแรกหลิงเหว่ยสามารถรับมือกับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย แต่ค่อยๆ เริ่มรับมือได้ยากขึ้น
สุดท้ายก็เปลี่ยนจาก 1 ต่อ 4 เป็น 1 ต่อ 2
นอกเหนือจากการสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้แล้ว ระดับของเย่เฉินยังได้รับการยกระดับเป็นระดับ 13 แล้วอีกด้วย
และผลส่วนใหญ่นั้น มาจากหินวิญญาณที่มีส่วนช่วยอย่างที่สุด
แน่นอนว่า นอกจากหินวิญญาณที่หลิงเหว่ยมอบให้แล้ว ยังมีการบ่มเพาะของเย่เฉินเองอีกด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว อาศัยพลังวิญญาณบริสุทธิ์ในหินวิญญาณและการต่อสู้ในแต่ละวันเพียงอย่างเดียวนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะอัปเกรด 2 ระดับภายใน 9 วัน
นอกจากเย่เฉินแล้วโจไคเอ๋อและหลินซานเองก็ยังได้รับการเลื่อนระดับเป็นระดับ 12 แล้วอีกด้วย
และตงรุ่ยคนที่มีระดับพลังวิญญาณต่ำสุดก็มาถึงระดับ 10 และดูดซับวงแหวนวิญญาณวงแรกของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย
ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก 1 วันก่อนการทดสอบของค่ายฝึกพิเศษ
และอายุของวงแหวนวิญญาณของเย่เฉินที่ได้สะสมในระบบก็มาจนถึงวันนี้ก็มีอายุ 900 ปีแล้ว
"ปล่อยมันไว้ก่อนเถอะ ค่อยมาใช้มันหลังจากการทดสอบในค่ายฝึกพิเศษเรียบร้อยแล้วก่อนเถอะ"
รถบัสมาแล้ว เย่เฉินพึมพำ
เขาวางแผนที่จะตัดสินใจตามความแข็งแกร่งของคนอื่นในระหว่างการทดสอบของค่ายฝึกพิเศษนี้ หากว่าพวกเขานั้นไม่แข็งแกร่งมากก็จะคงไว้แบบนี้ไปก่อน
และถ้าคู่ต่อสู้นั้นแข็งแกร่งมาก ก็คงจำเป็นต้องใช้มันอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดแล้ว เขามาที่นี่เพื่อมารับกระดูกวิญญาณให้ได้
กระดูกวิญญาณนั้นมีค่ามากเกินไป และวิญญาจารย์ส่วนใหญ่อาจไม่สามารถได้มันจากการล่าสัตว์วิญญาณตลอดชีวิตเลยก็มี
แม้แต่อันที่หมุนเวียนอยู่ภายในตลาดเอง ก็ยังมีคุณสมบัติสำหรับวิญญาจารย์ชั้นนำบางคนเพียงเท่านั้น
แม้ว่าอายุของกระดูกวิญญาณนั้นจะไม่สูงมากนัก แต่ผู้คนก็ยังต่างแย่งชิงกันเต็มที่
แม้ว่าเย่เฉินจะไม่รู้ว่าเหตุใดค่ายฝึกพิเศษสี่เขตปกครองนั้นยื่นเสนอของขวัญราคาแพงเช่นนี้ แต่เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว เขาก็ต้องคว้ามันไว้ให้ได้
อันที่จริงโจไคเอ๋อและคนอื่น ๆ ต่างก็คิดเช่นนั้นด้วยเช่นกัน
บางทีนี่อาจเป็นครั้งเดียวที่จะได้สัมผัสกับกระดูกวิญญาณในช่วงชีวิตนี้ หากไม่ได้พยายามคว้ามันมาให้ได้ในครั้งนี้ก็อาจจะไม่สามารถพบมันได้อีกเลยก็ได้
“เหล่านักเรียนทั้งหลาย ตอนนี้เรามาถึงสนามบินกันแล้วล่ะ ทุกคนพร้อมลงกันได้แล้ว”
ในเวลานี้ หลิงเหว่ยซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าได้กล่าวออกมา
ค่ายฝึกพิเศษสี่เขตปกครองดังกล่าว หมายถึงเขตปกครองทั้งสี่ของมณฑลหนานเจียง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตปกครองเจียงหนาน เขตปกครองหลินเจียง เขตปกครองเป่ยเจียง และหยางเฉิง
ค่ายฝึกพิเศษ 4 เขตปกครองนี้จัดขึ้นโดยเมืองหลวงของ 4 เขตปกครองตามลำดับ และในปีนี้ได้จัดขึ้นที่ซูเฉิง เมืองหลวงของเขตปกครองเจียงหนาน
ซูเฉิงนั้นอยู่ห่างจากหยางเฉิงหลายพันกิโลเมตรเลยทีเดียว
ประกอบกับความจริงที่ว่ามีสัตว์วิญญาณจำนวนมากรบกวนระหว่างการเดินทางของทั้งสองเมือง วิธีเดียวที่จะไปซูเฉิงได้คือขึ้นเครื่องบินรบของทหารเพียงเท่านั้น
เมื่อได้ยินดังนั้น ทั้งสี่คนก็ลงจากรถพร้อมเป้สะพายหลังของพวกเขา
หลังจากลงจากรถบัสแล้ว เย่เฉินก็เห็นรถบัส 2 คันจอดอยู่ไม่ไกล
มันคือโรงเรียนมัธยมหยางเฉิงหมายเลข 1 และโรงเรียนมัธยมหยางเฉิงหมายเลข 4
“นั่นคือรถจากโรงเรียนมัธยมหมายเลข 1 ปีนี้พวกเขามีกัน 8 คนเลยจริงๆ งั้นเหรอ?”
โจไคเอ๋อที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
โรงเรียนมัธยมหยางเฉิงหมายเลข 1 นั้นแข็งแกร่งที่สุด แต่ในปีก่อนหน้านี้มีนักเรียนเพียง 5 หรือ 6 คนเท่านั้น และในปีนี้ก็มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นมาด้วย
“หึหึ จำนวนคนไม่ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งหรอกนะ”
หลินซานพูดเบา ๆ หลังจากฝึกฝนพิเศษมาในก่อนหน้านี้แล้ว เขาก็มั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมากยิ่งขึ้น
ในเวลานี้ นักเรียนที่ดูเย่อหยิ่งทั้งแปดคนของโรงเรียนมัธยมหยางเฉิงหมายเลข 1 ก็สังเกตเห็นอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน
ชายหนุ่มร่างกำยำคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหา
“สวัสดีนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมหมายเลข 3 ข้าเป็นกัปตันของโรงเรียนมัธยมหมายเลข 1 ในครั้งนี้ ข้าฉินเล่ย เรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีไหม?”
ฉินเล่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม