ตอนที่ 30 : แรนช์เตรียมพร้อมเรียบร้อย
เดิมทีผู้คุมสอบเฟอร์ราตมีความมั่นใจอย่างยิ่ง
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้การ์ดเวทมนตร์และคาถาส่วนใหญ่ได้ แต่เขาก็ยังสามารถจัดการไฮพีเรียนผู้อยู่ระดับสามได้ตามต้องการ
แต่ตอนนี้.
เนื่องจากความเจ็บปวดทั่วร่างกายและความโกรธแค้นที่สะสมอยู่ในหัวใจตั้งแต่เขาถูกอีกฝ่ายใช้คาถาเงียบงัน เขาจึงไม่มีสมาธิไปจัดการกับไฮพีเรียนอยู่ครู่หนึ่ง
แต่ไม่ว่าจะไฮพีเรียนหรืออะไรอย่างอื่นก็ตาม มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
เฟอร์ราตรู้เพียงว่าไม่ว่าผลสอบสุดท้ายของวันนี้จะเป็นเช่นไร ถ้าเขาไม่สังหารแรนช์ เดือนนี้เขาก็จะนอนไม่หลับ!
ทางด้านอีกฝั่ง
หลังจากที่ตระหนักว่าความเกลียดชังทั้งหมดของผู้คุมสอบเฟอร์ราตพุ่งตรงมาหาเขา แรนช์ก็เริ่มสับเกียร์หมาวิ่งทันที
ในเวลาเดียวกัน เขาไม่ลืมที่จะหยิบการ์ดการรักษาที่ล้มเหลวซึ่งไม่อยู่ในสถานะคูลดาวน์ออกมาและร่ายมันใส่เฟอร์ราต
ทรมานต่อไป.
แม้ว่าในขณะนี้เฟอรร์ราตจะไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่ในเวลานี้ เมื่ออารมณ์ของคนคนหนึ่งถูกกระตุ้นจนระเบิดออกมา คำพูดหลายพันคำก็สามารถกลับสู่ธรรมชาติดั้งเดิมกลายเป็นการแสดงออกได้ ตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถอ่านสภาพอารมณ์ที่แท้จริงของเฟอร์ราตผ่านทางสีหน้าได้ —
ถ้าวันนี้ฉันไม่ฆ่าแก ฉันคงเป็นลูกผู้ชายโดยเปล่าประโยชน์!
หลังจากชะงักไปชั่วคราว เฟอร์ราตก็เร่งความเร็วจนดูคล้ายกับดาวหางโดยไม่ลังเล กลายเป็นสายลมบ้าคลั่งควบไปทางแรนช์!
“อย่าแม้แต่คิดที่จะเข้าใกล้เขา!”
ร่างไฮพีเรียนยืดหยุ่นได้ราวกับเงาและแทบจะกลมกลืนไปกับทุ่งหญ้า เหลือเพียงดวงตาที่เย็นชาของเธอ เหมือนม่านตาของแมงป่องพิษเท่านั้นที่จ้องมองไปยังเฟอร์ราต
ภารกิจที่แรนช์มอบหมายให้เธอคือการถ่วงเวลาเฟอร์ราตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ถูกสลัดทิ้งไปในทันที
ภายใต้สถานการณ์การต่อสู้ในปัจจุบัน เฟอร์ราตซึ่งถูกแรนช์แทรกแซงอย่างรุนแรงไม่สามารถเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อไฮพีเรียนได้อีกต่อไป
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เฟอร์ราตก็จะยิ่งตกอยู่ในสภาวะปั่นป่วนมากขึ้นเท่านั้น
กริชหางแมงป่องเปล่งประกายเย็นเยียบภายใต้เมฆดำทะมึนราวกับยมทูตในคืนที่หนาวเหน็บ
บนที่ราบอันกว้างใหญ่ไอเลวินแห่งนี้ เฟอร์ราตและไฮพีเรียนเริ่มต้นการไล่ล่าอันน่าทึ่ง
...
ในห้องประชุมของสถาบันนักปราชญ์
“แต่พวกเขาจะเอาชนะได้ยังไง?”
อาจารย์คนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะสงสัยเมื่อเห็นว่าแรนช์หยิบการ์ดเวทมนต์ทั้งหมดของเขาออกมา
แม้ว่าสถานการณ์ในขณะนี้จะหยุดชะงักลงชั่วคราวก็ตาม
แต่ชัดเจนว่าสภาวะชะงักงันนี้คงอยู่ได้ไม่นาน
ไฮพีเรียนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อขัดขวางเฟอร์ราตและป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้แรนช์
ส่วนแรนช์ก็เริ่มร่ายคาถาขณะเคลื่อนที่โดยใช้มือยาวๆ ของเขาทรมานเฟอร์ราตต่อไปให้ได้มากที่สุด
แต่เฟอร์ราตสามารถทำพลาดได้นับไม่ถ้วน ในขณะที่ไฮพีเรียนและแรนช์ทำพลาดได้เพียงครั้งเดียว
แม้ว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด แต่ระยะห่างระหว่างเฟอร์ราตกับแรนช์ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ใช้เวทมนตร์ลมอย่างต่อเนื่องกำลังหดลงอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
ไม่มีทางที่พวกเขาจะยื้อมันไว้ได้นานถึงสามสิบนาทีอย่างแน่นอน
ตราบใดที่แรนช์ถูกกำจัดโดยเฟอร์ราต เมื่อไม่มีคาถาเงียบงันและการแทรกแซงทางจิต ไฮพีเรียนก็จะพ่ายแพ้แบบทันที
“หลังจากที่แรนช์ร่ายเวทย์รักษาจำนวนมาก เขาก็เปิดเผยความจริงที่ว่าเขาไม่ใช่ประเภทสวนกลับการโจมตี”
“เฟอร์ราตสามารถฆ่าเขาได้โดยไม่ต้องคอยพะวงอีกต่อไป”
โดยธรรมชาติแล้วอาจารย์ที่คุ้นเคยกับเฟอร์ราตนั้นชัดเจนดี ว่าเหตุใดตอนแรกเฟอร์ราตจึงไม่ต้องการโจมตีแรนช์ผู้ซึ่งอาจมีการ์ดเวทมนตร์ที่ไม่รู้จัก
จากระดับของเขาในตอนนี้ แรนช์สามารถผูกมัดการ์ดเวทมนตร์ทั้งหมดใด้ยี่สิบใบเท่านั้น
จนถึงตอนนี้เขาใช้การ์ดคาถารักษาไปแล้วสิบหกใบ
นี่ค่อนข้างเกินความคาดหมายของอาจารย์แทบทุกคน
ส่วนอีกสี่ใบที่เหลือ เป็นที่รู้กันว่ามี [การสื่อสารที่เป็นมิตร] ระดับสองหนึ่งใบ และที่ว่างที่เหลือก็ไม่น่าจะพอให้ผูกมัดการ์ดที่ทรงพลังอย่างการย้อนกลับการโจมตี
“พวกเขาเอาชนะไม่ได้ พวกเขาไม่สามารถหยุดการเข้าใกล้ของเฟอร์ราตได้เลย”
เมื่อเห็นสถานการณ์บนหน้าจอที่ไฮพีเรียนเกือบจะขัดขวางเฟอร์ราตได้หลายครั้ง แต่เฟอร์ราตก็ตัดสินใจพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจ อาจารย์ในห้องประชุมทุกคนก็รู้ว่าการต่อสู้ดิ้นรนซ้ำแล้วซ้ำเล่ากำลังจะจบลงแล้ว
“เว้นแต่ว่าการ์ดใบสุดท้ายของแรนช์จะเป็นไพ่ตาย”
“ไม่น่าเป็นไปได้”
“ถ้ามันสามารถเปลี่ยนสถานการณ์การต่อสู้ได้ เขาก็น่าจะใช้มันไปนานแล้ว”
ไม่มีใครทราบว่าแรนช์ยังมีการ์ดเวทมนตร์เหลืออีกหรือเปล่า
แต่.
อาจารย์ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างรู้ดีว่าไม่ว่าการ์ดเวทมนตร์ระดับหนึ่งหรือระดับสองจะทรงพลังขนาดไหน และเงื่อนไขการใช้งานจะเข้มงวดเพียงใด มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะการโจมตีของเฟอร์ราตผู้อยู่ระดับห้าได้ภายในคราวเดียว
เสียงที่น่าตกใจราวกับโลหะกระแทกกันในหน้าจอดึงดูดความสนใจของอาจารย์ในห้องประชุมได้อีกครั้ง
พวกเขาทั้งหมดต่างมองไปยังสนามรบที่กำลังจะปิดฉากลง
ไฮพีเรียนซึ่งกำลังไล่ตามเฟอร์ราตอยู่บนทุ่งหญ้า เธอเล็งไปที่หัวของเฟอร์ราตแล้วขว้างมีดบินแต่จู่ๆ ก็ถูกโล่เวทมนตร์หักเหทิศทางไป
ดวงตาของเธอมีประกายตกตะลึง แต่เธอก็กลับมาเฉยเมยอย่างรวดเร็วเหมือนแมลงพิษเจ้าเล่ห์ในทุ่งหญ้าที่เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างฉับพลัน
หากโยนอีกไม่กี่ครั้ง ไม่นานโล่ก็จะแตก
คาถาเล็กๆ ที่เฟอร์ราตสามารถใช้ได้ตอนนี้ต่างก็ติดคูลดาวน์ และในไม่ช้าเขาก็จะต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากเธออีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม.
ขณะที่เธอถอนอาวุธออก เฟอร์ราตก็หยุดกะทันหัน
แม้ว่าเฟอร์ราตจะไม่หันกลับมามองไฮพีเรียนที่กำลังไล่ตามเขา แต่ไฮพีเรียนกลับรู้สึกเหมือนถูกกักขังด้วยสัมผัสแห่งเวทมนตร์
ภายใต้กรงขังนี้ ไฮพีเรียนรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
เฟอร์ราตดูเหมือนจะสังเกตเห็นในระหว่างการปะทะที่ผ่านมาว่าทุกครั้งที่เธอถอนอาวุธออก จุดอ่อนบางอย่างก็จะถูกเปิดเผยออกมาเช่นกัน
แต่ในขณะนี้เฟอร์ราตไม่อาจตัดสินได้อย่างมีเหตุผล แต่ด้วยความโกรธ เขาจึงใช้สัญชาตญาณการต่อสู้เพื่อคว้าโอกาสที่ดีที่สุดในการเอาชนะไฮพีเรียน
ก่อนที่ไฮพีเรียนจะสามารถตอบสนองได้ทัน เวทมนตร์ธาตุลมก็พุ่งออกมาจากเฟอร์ราตราวกับใบมีดอันคมกริบ กวาดร่างไฮพีเรียนกระเด็นออกไป
มันเป็นเพียงเวทมนตร์ธาตุลมเล็กๆ ระดับหนึ่ง แต่ในสภาพเกรี้ยวกราดของเฟอร์ราต มันกลับระเบิดออกมาด้วยพลังที่ไฮพีเรียนไม่อาจต้านทานได้!
หลังจากนั้นเฟอร์ราตก็ออกวิ่งอย่างบ้าคลั่งอีกครั้งไปยังทิศทางของแรนช์!
“ให้ตายเถอะ!”
ไฮพีเรียนปลิวมาตกอยู่ที่พื้นอย่างกะทันหัน เธอลุกขึ้นแทบจะทันที กัดฟันไล่ตามเฟอร์ราตต่อ
ในการปะทะเมื่อสักครู่ เฟอร์ราตลดระยะห่างกับแรนช์ได้มากแล้ว
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ต่อให้เธอตามทันก็อาจไม่มีประโยชน์
เจ้าพยาบาลเปียกระดับสองนี่คงจะถูกกำจัดทันทีในเวลาไม่ถึงสองวิจากการโจมตีของนักเวทย์ระดับห้า
แม้ว่าไฮพีเรียนจะเดิมพันทุกอย่างกับแรนช์และทำตามกลยุทธ์ของเขา
แต่สิ่งต่างๆ อุตส่าห์มาถึงจุดนี้แล้ว มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ที่กำลังใกล้เข้ามา
เมฆดำทะมึนกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ ความกดอากาศเริ่มหนักอึ้ง เสียงฟ้าร้องที่ดังอู้อี้ก็เหมือนกับความโกรธของเทพเจ้าที่สะท้อนอย่างต่อเนื่องบนทุ่งหญ้า
แรนช์มองไปยังเฟอร์ราตผู้อยู่ในสภาวะไม่สามารถหยุดยั้งได้กำลังเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ
เขาเดาว่าตัวเองน่าจะกำลังเข้าสู่ระยะการโจมตีด้วยคาถาเล็กๆ ของเฟอร์ราตแล้ว
แรนช์ค่อยๆ หยุดวิ่ง
ประการแรกเขาไม่สามารถวิ่งหนีได้
ประการที่สอง
การเตรียมการทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมแล้ว
แรนช์ลดศีรษะลงอย่างสงบพลางมองดูการ์ดเวทมนตร์ที่ปรากฏบนฝ่ามือของเขา
นี่คือการ์ดเวทมนตร์ที่เขาและทาเลียสร้างขึ้นโดยใช้วัตถุโบราณ [สดุดีแห่งความเมตตา] ซึ่งเป็นสมบัติตกทอดภายในตระกูลของเขา
ทาเลียเองก็เป็นผู้ดำเนินการกระบวนการเกือบทั้งหมด โดยมีเขาเป็นผู้ช่วย
มีเพียงขั้นตอนการวาดภาพและมอบรูปลักษณ์ให้วัตถุอัญเชิญเท่านั้นที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบหลัก
ผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายของการ์ดใบนี้ไม่เพียงแต่เกินความคาดหมายของแรนช์เท่านั้น แต่ยังทำให้ทาเลียในฐานะผู้สร้างการ์ดหลักต้องประหลาดใจอีกด้วย
เขารู้ว่านี่เป็นไพ่ตายใบสุดท้ายในการสอบวันนี้
(จบตอน)