ตอนที่ 258 กองยานดาบเทวะของกองทัพเทพอนันต์(ฟรี)
ตอนที่ 258 กองยานดาบเทวะของกองทัพเทพอนันต์
ห่างจากเมืองลัวอาและที่ตั้งของประตูมิติโลกสมบูรณ์แห่งที่ 2 ราว ๆ 2 วัน กองยานเหาะขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมากำลังเดินทางตรงไปยังเมืองหลวงของสหพันธรัฐ
กองยานเหล่านี้ถูกเรียกว่ากองยานดาบเทวะ ซึ่งเป็นชื่อของกลุ่มปฏิวัติที่ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้เรียกตัวเองว่ากลุ่มปฏิวัติอีกแล้ว แต่เรียกว่ากองทัพเทพอนันต์
ไม่มีใครรู้ความหมายของชื่อนี้ แต่หลายคนคาดเดาว่ามันจะต้องเกี่ยวกับเบื้องหลังของกลุ่มปฏิวัติแน่นอน
กองยานดาบเทวะของกองทัพเทพอนันต์ประกอบไปด้วยยานเหาะเรือธง 1 ลำที่ใหญ่มากกว่า 4,800 เมตร ยานประจัญบานขนาด 1,600 เมตรอีก 10 และยานเหาะลาดตระเวนขนาด 300 เมตร อีก 50 ลำและยานเหาะพิฆาตขนาด 150 เมตรอีก 100 ลำ
พลังของกองยานระดับนี้สามารถถล่มได้ทั้งโลก แม้แต่สหพันธรัฐก็ยังตื่นตะลึงและคิดว่ากลุ่มปฏิวัติซ่อนความแข็งแกร่งได้ดีเกินไป
สงครามที่ผ่านมาราวกับเป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ตอนนี้พวกเขากำลังเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ
สหพันธรัฐเองก็ไม่อาจจะนิ่งนอนใจได้เช่นกัน เมื่อค้นพบกองยานของกลุ่มปฏิวัติพวกเขาก็เรียกกำลังทั้งหมดมารวมที่ศูนย์กลางพร้อมกับกองยานที่เตรียมตัดสินเป็นตายกับกลุ่มปฏิวัติ
แต่น่าแปลกกองยานของสหพันธรัฐที่มีขนาดไม่ได้เล็กไปกว่ากันเลยกลับไม่เดินทางมาโจมตีกองยานดาบเทวะของกองทัพเทพอนันต์เลือกที่จะสร้างแนวรับและปกป้องเมืองหลวงสหพันธรัฐแทน
ผู้คนที่ได้รับข่าวนี้ต่างก็คาดเดาว่าเมืองหลวงสหพันธรัฐมีบางสิ่งที่มีค่ามาก แม้แต่สหพันธรัฐยังเลือกจะใช้กำลังทั้งหมดปกป้องที่นี่ไว้
ถ้ากองยานดาบเทวะของกองทัพเทพอนันต์เลือกจะโจมตีเมืองหลวงระดับรัฐต่าง ๆ ที่สหพันธรัฐครอบครองไม่มีทางที่เมืองเหล่านั้นจะต่อต้านได้แน่นอน แต่กองยานก็ไม่คิดจะสนใจเมืองเหล่านั้นและเลือกจะบินต่อเนื่องไปยังเมืองหลวงแทน
ประชาชนทั้งหมดแทบจะอพยพออกจากเมืองหลวงและเมืองใกล้เคียงกันอย่างหวาดกลัว สงครามไม่มีความปรานี กระสุนก็ไม่มีตาเช่นกัน
เมื่อโจมตีออกมาก็มีแต่การทำลายล้างกัน ใครเข้าไปขวางก็มีแต่ตายเท่านั้น
“เร็วรีบไปจากที่นี่ทั้งสองฝ่ายบ้าไปแล้ว”
“เมืองหลวงแห่งนี้จบสิ้นแล้ว”
“สหพันธรัฐและกองทัพเทพอนันต์กำลังทำลายล้างกันเอง พวกเขาไม่คิดจะต่อสู้กับมอนสเตอร์แล้วหรือยังไง”
“ใครจะสนใจกันตอนนี้”
“พวกเรามาพนันกันใครจะชนะและกลายเป็นผู้ปกครองเผ่าพันธุ์มนุษย์กัน”
“ไปไกล ๆ เลย”
...
ที่ยานเหาะเรือธงดาบเทวะ
“นายท่านแซมสันมีรายงานด่วนมาจากเมืองลัวอาขอรับ”
แซมสันในสภาพแก่ชราจับไม้เท้ากำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของโถงเรือเหาะ นี่คือหนึ่งในบัลลังก์ทั้ง 7 แต่นอกจากเขาแล้วบัลลังก์ที่เหลือกลับไร้ซึ่งผู้นั่งอยู่
“เกิดอะไรขึ้น หรือว่าสหพันธรัฐลอบโจมตีเมืองลัวอาแล้ว”
“เปล่าขอรับ หลังจากทราบเรื่องกองยานดาบเทวะกำลังมุ่งหน้าไปหา พวกเขาก็สั่งถอนกำลังทั้งหมดกลับไปปกป้องเมืองหลวงในทันที”
“แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ลัวอาถึงส่งข่าวฉุกเฉินมา”
“นายท่านโปรดดูนี่” ชายคนนั้นเปิดภาพขึ้นมาเป็นภาพโฮโลแกรมที่ฉายภาพถึงเหตุการณ์บุกโจมตีที่มหาวิทยาลัยแร็คน่าร์
“มีคนบุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนที่สองของมหาวิทยาลัยแร็คน่าร์และโจมตีที่นั่นสร้างความเสียหายจำนวนมากมีตัวทดลองตายไปมากกว่ากว่าครึ่งคนที่เหลือคนสาหัสและจับกลับมาได้อย่างปลอดภัยราวบางส่วนเท่านั้น แต่ว่าดูเหมือนจะมีคนหนึ่งที่เป็นเป้าหมายในการบุกโจมตีครั้งนี้ อีลิก บุตรชายของอีคอนผู้อำนวยการสำนักงานเหนือมนุษย์ประจำเมืองปลายฝน”
แซมสันเผยท่าทางประหลาดใจและรู้สึกสนใจขึ้นมาในทันที
ไม่รอช้าแซมสันควบคุมภาพที่ฉายและขยายเพื่อดูเหตุการณ์อย่างละเอียด ก็เป็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ที่ลอบเข้าไปที่หอพักจนถึงเข้าไปที่พื้นที่ส่วนที่สอง
ส่วนภาพการต่อสู้กับเหนือมนุษย์ชุดเกราะทั้งสามไม่แน่ชัด มีเพียงภาพระยะไกลเท่านั้น
“เราตรวจสอบแล้ว เหมือนสองคนนั้นจะมีทักษะปลอมแปลงและลอบเข้ามากับเจ้าหน้าที่คุ้มกันที่ขนทรัพยากรเข้ามา เรื่องนี้ยืนยันแล้ว เพราะเจอกับสองคนนั้นถูกทำให้สลบและทิ้งไว้ที่ด้านนอกมหาวิทยาลัย ผู้บุกรุกทั้งสองใช้ตัวตนปลอมแอบลักลอบเข้าไปที่หอพัก ส่วนเข้าไปได้อย่างไรสันนิษฐานว่าเกี่ยวกับความสามารถลึกลับในการเปลี่ยนตัวเองเป็นหมอก แต่ที่น่าสนใจคือชื่อที่พวกเขาค้นหาในคอมพิวเตอร์”
“เจน ซันเดอร์ กับอีลิก บุตรชายของอีคอน”
แซมสันหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องมองภาพของสองผู้บุกรุกอย่างพินิจ หลังจากผ่านไปสักพักก็เหมือนจะคิดอะไรออก
“สั่งให้เขาไล่ล่าและจับทั้งสามกลับมาให้ได้ เรื่องการตายส่งศพทั้งหมดไปไว้สำหรับทดลองเก็บเกี่ยวร่างพรสวรรค์ไว้ให้ดีด้วย”
“ครับ พวกเราเก็บเกี่ยวร่างพรสวรรค์ทั้งหมดไว้แล้ว แต่ว่ายังมีอีกปัญหาร่างพรสวรรค์ชุดเกราะไก่มายาจากทั้ง 12 นักษัตรถูกผู้บุกรุกเหล่านั้นขโมยไปด้วย”
“พรสวรรค์ไก่มายามีพลังอ่อนแอสุดในร่างพรสวรรค์ทั้ง 12 ไม่ต้องไปสนใจมันมาก ให้เอาผู้มีพลังพรสวรรค์พันตาไปช่วยเหลือ สามารถมองเห็นผ่านมายาพวกนั้นได้แน่นอน”
“ครับ”
หลังจากเจ้าหน้าที่จากไปแล้ว แซมสันก็กล่าวขึ้นมา “ดูเหมือนเขาจะมาตามหาเธอแล้ว”
แซมสันที่เหมือนกับพูดกับตัวเอง แต่กลับไม่ใช่ เพราะไม่นานหลังจากนั้นก็มีเสียงพูดที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังบัลลังก์
“เขาไม่ใช่เขา ข้าไม่ใช่เด็กคนนั้น ไม่เกี่ยวอะไรกัน”
“ถึงอย่างไรก็เถอะ เขาจะตามเจ้ามาแน่นอน เจ้าสามารถควบคุมมันได้หรือยังตราประทับในตัวนะ”
ตอนนั้นเองเจ้าของเสียงก็เผยตัวออกมาจากด้านหลังของบัลลังก์ด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ ใบหน้าที่โผล่มานั้นคือเจน แต่แววตากลับไม่ใช่แน่นอน
“ห่วงเรื่องของเจ้าเถอะ”
“ข้าแค่กังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงของเรา”
“ไม่จำเป็นข้าคือองค์หญิงเทพอสูรเมื่อข้าฟื้นพลังขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่มีพลังใดที่หยุดข้าได้อีก” เจนเผยใบหน้าที่เชื่อมั่น มันไม่ได้มาจากการลำพองใจ แต่มาจากความมั่นใจในส่วนลึกของจิตใจ
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” แซมสันเอ่ยเสียงเบา ก่อนจะหลับตาลงช้า ๆ และเอ่ยพึมพำ “ข้าสัมผัสได้ถึงเขาแล้ว สหายทุกคนก็เหมือนจะมาร่วมสนุกด้วยแล้ว”
เจนเผยแววตาเหยียดหยามไปทางแซมสัน ‘พวกเจ้ามันไม่ต่างจากแมลงสาบ’
แม้จะเอ่ยดูแคลน แต่องค์หญิงเทพอสูรก็ระวังขึ้นมาเรื่อย ๆ เมื่อเข้าใกล้เมืองหลวงสหพันธรัฐ เธอไม่คิดจะประมาทเหมือนเช่นในอดีตอีกแล้ว
‘แต่ก่อนอื่นต้องจัดการกับสิ่งที่อยู่ในร่างกายซะก่อน’
...
โลกสมบูรณ์แห่งที่ 2
หลังจากหนีออกมาจากมหาวิทยาลัยแร็คน่าร์ได้ ลุคและคามิลก็บินไม่หยุด แต่ว่าคามิลกลับเจอปัญหา เธอต้องแบกอีลิกที่หนักมาตลอดทาง เลยทำให้เสียพละกำลังไม่น้อยจึงต้องหาที่หยุดพัก
สถานที่หยุดพักที่ดีที่สุดกลับปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว มันคือเหมืองแร่ที่ลุคและคามิลปลอมตัวเข้ามาก่อนหน้านั้น
พวกเขาทั้งสามลงไปยังด้านล่างของเหมืองแร่โดยที่ไม่มีใครได้ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ก่อนจะหาโพรงถ้ำที่ใหญ่พอให้ทั้งสามคนได้พักอย่างสบาย
“อีลิกนายควรพักที่นี่ก่อน นี่ยา” คามิลหยิบยาที่เคยได้มาจากลุคส่งให้กับน้องชาย
“ขอบคุณพี่สาว” อีลิกรับยามาและดื่มมันลงในทันที แต่หลังจากดื่มลงไปแม้พลังจะฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่ก็พบว่าคลื่นพลังกลับไม่ได้เสถียรขึ้นมาเลย
ทั้งลุคและคามิลก็สัมผัสคลื่นพลังของอีลิกได้เช่นกัน
“คลื่นพลังของนายแปลกมาก เกิดอะไรขึ้น” ลุคถามด้วยความสนใจ ขณะที่ใช้สัมผัสของตัวเองตรวจสอบอีลิกอย่างละเอียด คลื่นพลังของลุคบริสุทธิ์มาก มากจนไม่มีใครในระดับ B เทียบกับเขาได้เลย ดังนั้นอีลิกที่เป็นเหนือมนุษย์ระดับ C จึงถูกเขาตรวจสอบคลื่นพลังได้อย่างง่ายดาย
อีลิกอธิบาย “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน หลังจากถูกจับเข้าไปในหลอดทดลองพวกมันก็เหมือนกลั่นพลังออกไปจากร่างกายของผม ผมรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังที่โดนบังคับฉีกกระชากออกไป แต่ว่าสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือพลังพรสวรรค์ ผมอธิบายไม่ถูก แต่พลังพรสวรรค์เหมือนจะอ่อนแอลงคล้ายกับว่ามันถดถอยลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่โดนดูดพลังออกไป”
ลุคเดาว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการทดลองแยกส่วนพลังพรสวรรค์ทำให้ทิ้งผลกระทบถาวรไว้ในร่างของอีกฝ่าย
คามิลเองก็พอคาดเดาได้เช่นกันและเผยสีหน้ากังวลออกมา ผลกระทบจากการที่คลื่นพลังไม่เสถียรร้ายแรงมาก เพราะถ้าไม่สามารถควบคุมและรักษาคลื่นพลังไว้ได้ก็เท่ากับไม่สามารถยกระดับพลังได้อีก แถมบางทีพลังอาจจะค่อย ๆ ถดถอยลงไปเรื่อย ๆ จนอาจจะกลายเป็นคนธรรมดาด้วย
ส่วนที่ว่าอีลิกทำไมยังรักษาระดับ C ไว้ได้นั้นก็เกราะเขาพึ่งถูกทดลองไม่กี่วันเท่านั้น
“บางทีคลื่นพลังที่เสียหายอาจจะคล้าย ๆ กับการใช้คลื่นพลังเกินกว่าระดับของตัวเอง ส่งผลไปถึงสมองและแหล่งกำเนิดคลื่นพลัง แต่เราไม่อาจจะทำอะไรโดยบุ่มบ่ามได้ ไว้รอกลับไปค่อยหาสาเหตุอีกที”
คามิลพยักหน้าเป็นด้วยกับคำพูดของลุค ถ้ามันเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดคลื่นพลังเธอจะต้องระวังเป็นอย่างมาก
ลุคเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้
“แม้จะเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดคลื่นพลัง แต่ก็ไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่รุนแรงถึงขนาดทำลายแหล่งกำเนิดคลื่นพลังแบบเจน นายยังสามารถใช้คลื่นพลังได้ ถ้าสามารถหาทางเติมพลังได้ก็ใช้พลังได้ ไม่รู้ว่าจะได้ผลไหม แต่นายลองใช้สิ่งนี้ดู”
เขาเอาไอเทมออกมาชิ้นหนึ่ง มันคือไอเทมร่างพลังพรสวรรค์ฟื้นฟูพลังงานระดับ C ออกมา ไอเทมชิ้นนี้ได้มาจากพวกนักวิจัยในพื้นท่าส่วนที่สอง ถึงจะไม่ใช่ของสมบูรณ์ แต่ก็แสดงพลังของพลังพรสวรรค์ฟื้นฟูพลังงานได้อย่างแน่นอน
“คุณได้รับไอเทมร่างพลังพรสวรรค์ฟื้นฟูพลังงานระดับ C (ไม่สมบูรณ์) ผลพิเศษสามารถฟื้นฟูพลังงานของร่างกายกลับมาได้ในทันทีต่อหนึ่งวัน”
ไอเทมชิ้นนี้เหมือนกับเข็มฉีดยา ด้านในมีของเหลวพลังงานอยู่ ถ้าฉีดเข้าไปแล้วจะใช้เวลาคูลดาวน์ 1 วันของเหลวด้านในก็จะกลับขึ้นมาเต็มอีกครั้งและสามารถฉีดเข้าไปไหมได้
“นี่ทั้งหมด 3 เข็มพอให้ใช้ได้ 3 ครั้ง”
คามิลรีบรับมาก่อนจะฉีดให้กับอีลิก ไม่นานคลื่นพลังของอีลิกก็ฟื้นคืนขึ้นมาในทันที แม้จะเป็นการฟื้นฟูที่คล้ายกับยาฟื้นฟู แต่หลักการนั้นต่างกัน
ยาฟื้นฟูคือสารอาหารบริสุทธิ์ที่เข้าไปในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายดูดซับและฟื้นฟูได้เร็วขึ้น เหมือนกับการกินอาหาร เพียงแต่ยาฟื้นฟูมีสารอาหารที่หน้าแน่นกว่าอาหารทั่วไป
แต่ไอเทมร่างพรสวรรค์ฟื้นฟูพลังงานนั้นกลับเป็นการฉีดคลื่นพลังที่ไร้เจ้าของเข้าไปในร่างกายโดยตรง พอเข้าไปในร่างกายแล้วอีลิกก็สามารถใช้มันได้อย่างง่ายดายเหมือนกับพลังงานของตัวเอง
ทำให้ข้ามขั้นตอนไป ต่อให้คลื่นพลังจะไม่เสถียรและสูญเสียคลื่นพลังไปได้เรื่อย ๆ แต่ก็คลื่นพลังที่ฟื้นขึ้นมาเท่ากับการเติมเต็มคลื่นพลังงานในทันที
ต่อให้คลื่นพลังจองอีลิกไม่เสถียรและสลายพลังไปเรื่อย ๆ มันก็ไม่มีทางสลายเร็วกว่าพลังที่ถูกเติมเข้ามาและพลังที่อยู่นั้นพอจะให้อีลิกใช้ปีกปีศาจบินได้ครึ่งวันอย่างไม่มีปัญหา