ตอนที่ 19 แข่งราคา (เปิดให้อ่านฟรีวันที่ 29/02/2567)
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง
เสียงเหล็กกระทบกันดังขึ้นท่ามกลางฝูงชนมากมายที่เดินขวักไขว่ ก่อนที่โซ่เหล็กในมือหญิงสาวคนนึงจะชี้ไปยังทิศทางที่ทำนายออกมาได้ นางจึงรีบเดินมุ่งหน้าไปทันที
นางคือหยางเสีย เป็นผู้สืบทอดของ หานเว่ยหลี่ ชายชราที่ถูกยกย่องว่าเป็นนักล่าสมบัติและนักตรวจสอบสิ่งล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งทวีปซีคแห่งนี้ มีผู้คนมากมายต่างต้องการมอบของล้ำค่าเพื่อทำความรู้จักกับอาจารย์ของนาง เพียงให้ได้มิตรภาพแม้เพียงนิดเดียวก็ยังดี
“สมบัติอยู่ข้างหน้านี้เอง ถึงโซ่วิญญาณศักดิ์จะไม่สามารถบอกได้ถึงรายละเอียดของสมบัติหรือระยะทางที่จะไปถึง แต่ก็นับว่าโซ่วิญญาณนี้เป็นของล้ำค่ามากแล้ว” หยางเสียพึมพัมออกมาพลางก้าวเดินไม่หยุด
หลังเดินตามทาง ผ่านร้านค้ามากมาย นางก็พบว่าข้างหน้าเป็นมุมหนึ่งของตลาดกลางแห่งนี้ ที่ไม่ค่อยจะมีร้านค้าดีๆหรือผู้คนผ่านมามากนัก แต่สิ่งที่เห็นทำให้หญิงสาวร้อนใจขึ้นมาทันที เพราะมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบสมบัติที่โซ่วิญญาณของนางนำทางพามาเจอ
“หยุด! ถอยออกไปซะ หินสองก้อนนั้นเป็นของข้า!” ความจริงแล้วนางก็ไม่รู้หรอกว่าของชิ้นไหนเป็นสมบัติที่ตามหา แต่ต้องมีสักชิ้นในร้านของชายแก่เบื้องหน้าแน่ๆ นางจะยอมให้คนขายของท่าทางซอมซ่อแย่งไปได้ยังไงกัน!
“แต่ข้ามาก่อน เจ้ามาทีหลัง ควรจะรู้มารยาทเสียบ้างนะ” ชายซอมซ่อเบื้องหน้ากล้าเถียงกลับมา ทำให้หญิงสาวมีอารมณ์ขึ้นมานิดหน่อย
“ไม่เอาน่าพี่ชาย ของที่ขายอยู่ในแผงนี้ล้วนไม่ได้มีค่าอะไร พี่ชายซื้อไปก็ทำเงินไม่ได้หรอก” นางได้แต่ยิ้มแล้วกล่าวอย่างเป็นมิตร
“ถ้าเจ้าว่าอย่างนั้น จะมาซื้อทำไมล่ะ?”
“พอดีข้าชอบช่วยเหลือผู้คน เห็นว่าท่านลุงคนนี้เหมือนจะขัดสน เลยอยากช่วยซื้อ แล้วข้าก็ชอบเก็บของเก่าด้วย” หยางเสียได้แต่แต่งเรื่องขึ้นมาเพิ่มเพื่อให้ดูมีเหตุผล
“ข้าก็ชอบเหมือนกัน เพราะงั้นไม่ต้องพูดมากหรอก ท่านลุง ข้าซื้อทุกอย่างในแผงนี้ ท่านขายเท่าไหร่” เย่ซีเลิกสนใจหญิงงามท่าทางเพี้ยนๆตรงหน้าแล้วมากล่าวถามกับชายแก่ที่เป็นเจ้าของแผงแทน ถึงแม้หญิงเบื้องหน้าของเขาจะงดงามเป็นอย่างมากเขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจ
“พ่อหนุ่ม ของพวกนี้ไม่ได้มีค่าอะไร ถ้าท่านต้องการข้าคิดแค่สองร้อยเหรียญทองก็พอแล้ว” ชายแก่ตอบด้วยรอยยิ้ม
“นี่เงินของท่าน” เย่ซีได้ยินดังนั้นจึงทำเป็นค้นหาเงินในรถเข็นก่อนจะเรียกถุงเรียญทองออกมาจากแหวนมิติ แล้วเอามายื่นให้ชายชรา
“เดี๋ยวก่อน เจ้ากล้าเมินข้า? ไม่รู้รึไงข้าเป็นใคร?” เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่สนใจตัวเขาเลย หยางเสียจึงเริ่มอดทนไม่ไหวขึ้นมา
“โอเคๆ เจ้าต้องการอะไรอีก เป็นบ้ารึไง?” เย่ซีที่เริ่มรำคาญจึงหันกลับไปถาม
“เจ้าสิเป็นบ้า ทั้งโคตรเจ้าเป็นบ้า!” หยางเสียตะโกนด่า
“ข้าให้สิบผลึกเลย ขายให้ข้าดีกว่า” ในฐานะศิษย์ของหานเว่ยหลี่ นางจะยอมเสียหน้าได้ยังไง แถมนี่ยังเป็นสมบัติอะไรสักอย่างอีก
“อยากแข่งความร่ำรวย? ข้ารับคำท้า ข้าให้ร้อยผลึก!” เย่ซีไม่สนใจ เกทับไปทันที
“ข้าให้ 150!” หยางเสียใส่ต่อ
“500!” เย่ซีไม่สน เปิดราคาสูงหลายเท่าตัว
“550..” หยางเสียเริ่มใจเสีย นางไม่ได้มีเงินมากมายนัก ที่พกติดตัวมาก็มีราวหนึ่งพันผลึกเท่านั้น แถมของชิ้นนี้ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร จะคุ้มค่าเงินไหม นางไม่กล้าเสี่ยงเกินไป
“800!” เย่ซีใส่ต่อ
“ข.. ข้า ข้าให้ 820” หยางเสียเสนอต่อ แต่เสียงเริ่มสั่นแล้ว
“1,000! ดูสิเจ้าจะสู้ต่อไหม” เย่ซีหันไปยักคิ้วให้ ท่าทางกวนประสาท
“...” นางอยากรู้สึกร้องไห้ออกมานัก เงินก็ไม่พอสู้เขา แถมยังเสียหน้าอีก ดีที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เอ่ยชื่อตัวเองหรืออาจารย์ออกไป ไม่งั้นคงย่ำแย่ยิ่งกว่านี้
“ข้าไม่สนแล้ว เจ้าจะซื้อก็ซื้อไป แต่ข้าขอดูหน่อยจะได้หรือไม่?” ว่าแล้วนางก็สะบัดหน้าหนี แต่ไม่ไปไหน ยืนมองอยู่อย่างเดิม ในใจต้องการรอดูว่าชายท่าทางซอมซ่อเบื้องหน้าจะมีผลึกมากขนาดนั้นจริงไหม
“พะ.. พวกท่าน นี่มันเกินไป เกินไปมากจริงๆ ข้ารับไว้ไม่ไหวหรอก” ชายชรารีบคุกเข่าให้ทันที
ชาวบ้านธรรมดาแบบเขาทั้งชีวิตก็มีแต่ใช้เหรียญทองแดง นานๆทีมีเงินเก็บมากเข้าก็ถึงจะใช้เหรียญเงิน ยิ่งเหรียญทองทั้งชีวิตไม่เคยได้สัมผัส ที่ตั้งราคาไปก่อนหน้านี้ในใจก็แค่รู้สึกว่าของที่ตกทอดมาหลายชั่วอายุคนของตระกูลสมควรจะมีค่ามาก จึงตั้งไปหลายร้อยเหรียญทอง แต่เวลานี้กับมีคนต้องการซื้อด้วยเงินมากถึงหลายร้อย หลายพันผลึก จะไม่ให้เขาหวาดกลัวได้อย่างไร
“ท่านไม่ต้องคิดมากหรอก ท่านสมควรได้รับแล้ว เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของตระกูลท่าน และเพื่อหลานสาวของท่านด้วย” เย่ซียิ้มให้คนชายชรา
“นี่คือเงินของท่าน รับไว้สิ” ชายหนุ่มทำเป็นเดินไปหยิบกระสอบขนาดใหญ่ใบหนึ่งกลับมาให้ ด้านในเต็มไปด้วยผลึกนับพัน ผลึกเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ฝึกตนใช้ในการฝึกตนได้ ล้วนหาได้จากแหล่งขุดตามธรรมชาติต่างๆ แต่แหล่งขุดเกือบทุกที่ก็มักจะถูกจับจองโดยอาณาจักรไปแล้ว
“ขอบพระคุณท่านมากขอรับ ขอบคุณ ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย” ชายชราก้มกราบเย่ซีไม่หยุดจนชายหนุ่มต้องไปช่วยพยุงตัวขึ้นมา
“ท่านชื่ออะไรขอรับ ข้าน้อยชื่อฝู่เป้อ” ชายชราถามชายหนุ่มตรงหน้า
“เย่ซี ท่านกลับบ้านเถอะ เอาผลึกไปฝากธนาคารเข้า จะได้ไม่ตกเป็นเป้าสายตาผู้คน” ชายหนุ่มเตือนด้วยความหวังดี แต่ถ้าไม่มีเคล็ดวิชาลับหรือสิ่งของวิเศษในการตรวจหาสมบัติก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าในถุงกระสอบเก่าๆนี้จะเต็มไปด้วยผลึก
“ถ้ามีวาสนาต่อกัน เราค่อยพบกันใหม่” เย่ซีกล่าวอำลาชายชราที่เดินเข็นรถเก่าๆพร้อมกระสอบผลึกกลับไป เขาไม่ได้บอกหรอกว่าในถุงนั้นมีอยู่สองพันผลึก
“เจ้า ให้ข้ายืมดูสิ่งของเหล่านั้นหน่อยจะได้หรือไม่?” หยางเสียกล่าวออกมาด้วยท่าทีที่สุภาพมากขึ้น
“เชิญ” เย่ซีก็ไม่ได้ติดใจอะไร ปล่อยให้หญิงสาวไปหยิบจับตามใจชอบ
ตลอดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะตรงจุดนี้แทบไม่มีผู้คนผ่านไปมา เขาจึงวางใจว่าชายชราน่าจะกลับไปอย่างปลอดภัย แถมเมืองนี้ก็มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี แทบไม่มีเรื่องโจรผู้ร้ายเกิดขึ้นเลย
ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่นั่งยองๆอยู่ตรงพื้นอย่างละเอียด นางมีผิวขาวราวหยวกกล้วย ใบหน้างดงามแต่แฝงไว้ด้วยความซุกซน เรือนผมสีฟ้ายาวสลวยเข้ากับชุดสีฟ้าอ่อนเป็นอย่างดี ใครได้พบเห็นนางเข้าก็คงอยากเฝ้าถนุถนอม คอยเอาอกเอาใจ
“ข้า ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาพบกับของสิ่งนี้เข้า...” หญิงสาวกล่าวออกมาหลังจากดูของทุกชิ้นเสร็จแล้ว ในมือของนางมีหินกลมสองก้อนถือไว้
“เจ้าก็มองออกด้วยรึ?” ชายหนุ่มสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะไอ้หินสองก้อนนี้เขาลองส่งพลัง ใช้จิตเพ่ง หรือทำยังไงก็มองไม่ออกว่ามันเป็นของวิเศษ ถ้าไม่มีระบบตรวจสอบV2 เขาก็คงไม่อาจแยกแยะได้
“ข้าก็มองไม่ออกเหมือนกัน!!”