ตอนที่แล้วตอนที่ 17 ชายขายเนื้อ (เปิดให้อ่านฟรีวันที่ 23/02/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19 แข่งราคา (เปิดให้อ่านฟรีวันที่ 29/02/2567)

ตอนที่ 18 ไปตลาดขายสินค้า (เปิดให้อ่านฟรีวันที่ 27/02/2567)


“ถึงจะขายได้ไม่หมด แต่ก็ยังได้มาหลายผลึก” เย่ซีคิดในใจ

พอเขาเอาเนื้อก้อนโตออกมา ชายหน้าบากถึงกับตกใจเข่าแทบทรุด เขาขอเวลาชั่วครู่ก่อนจะไปตามเจ้าของภัตตาคารพงส์เพลิงเข้ามา หลังจากเจรจากันอยู่นาน ทางภัตตาคารก็ให้บัตรทองกับเย่ซี บัตรนี้มีประโยชน์คือจะได้รับส่วนลดทุกเมนูในร้านครึ่งหนึ่ง จองห้องส่วนตัวได้ในทันที สุดท้ายเพราะเนื้อที่เย่ซีมีนั้นจำนวนมันมากเกินไป เขายังมีก้อนใหญ่อีกเกือบยี่สิบก้อน ภัตตาคารซื้อในทีเดียวไม่ไหว

ที่จำนวนมากขนาดนี้ก็เพราะเจ้าสิงโตยักษ์ที่เขาจัดการไปในตอนแรก มันจำกัดขนาดตัวของมันลงเพื่อความสะดวกในการไล่ล่าเจ้าปลาปากเสีย แต่พอมันตายไปร่างมันก็คืนสู่ขนาดที่แท้จริง เกือบเท่ากับเนินเขาเล็กๆลูกหนึ่งได้เลย

ทางภัตตาคารจึงทำสัญญาซื้อขายเป็นรายสัปดาห์แทน โดยจะรับซื้อที่สัปดาห์ละหนึ่งก้อนใหญ่แทน รวมๆแล้วชายหนุ่มได้เงินมาเจ็ดหมื่นผลึก

“รวย รวย รวย เสียดายก็แต่พวกเขี้ยว เล็บ หนัง ทางภัตตาคารไม่รับซื้อ”

“นายท่านลองไปที่ตลาดกลางไหมขอรับ ข้าได้ยินคนพูดกันว่าที่นั่นมีผู้คนวางขายของกันทุกประเภทเลย” ฟิชส่งเสียงมาแนะนำ

“ไปกันเลย!” ชายหนุ่มเข็นรถตรงไปตลาดกลางทันที จะว่าตรงไปก็ไม่ถูก เขาอาศัยถามทางคนที่เดินผ่านไปมาเรื่อยๆจนไปถึงจุดหมายแทน

ตลาดกลางเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนมากมาย แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นชาวเมืองธรรมดา บางคนก็ปูผ้าขายกับพื้น บางคนตั้งร้านขึ้นมาลวกๆ บางคนก็มีรถเข็นมาจอดขาย บางคนก็หอบตะกร้าเดินขายไปมา สินค้ามีอยู่ทุกอย่าง ของกิน ของใช้ ยา อาวุธ ของวิเศษ เคล็ดวิชา หิน ของที่ระบุไม่ได้ แน่นอนว่าทุกอย่างมีทั้งของจริง และ ของปลอม ไม่มีใครมารับผิดชอบให้ทั้งนั้นถ้าซื้อของปลอมไป

“มาซื้อหรือขาย” ชายในชุดหนังกล่าวถามออกมา เมื่อเห็นเย่ซีกำลังจะเดินผ่านประตูซุ้มเข้าตลาดไป

“ข้ามาขายสินค้า” ชายหนุ่มกล่าวตอบ

“10เหรียญเงินต่อหนึ่งวัน ถ้าใช้รถเข็นตั้งร้านด้วยก็เพิ่มอีก5เหรียญเงิน” นี่เป็นเรื่องปกติในการเก็บค่าเช่าที่ของตลาดแห่งนี้ เป็นการเก็บเงินเพื่อเข้าราชวงศ์

ลองคิดดูว่าตลาดแห่งนี้มีเนื้อที่กว้างใหญ่นักกินเนื้อที่ไปเกือบหนึ่งในสามของเขตยี่หลง ผู้คนเดินซื้อขายกันไม่ต่ำกว่าหลักแสนคนต่อวัน ค่าเช่าที่หนึ่งวันจะได้เงินเท่าไหร่ อาณาจักรแห่งนี้มีถึงแปดเขต ทุกเขตก็จะมีตลาดกลางทั้งหมด

“นี่เงิน ข้ามาทดลองขายก่อนหนึ่งวัน” ชายหนุ่มยื่นเงินให้ไป คราวนี้เขาไม่ลืมที่จะแลกเหรียญต่างๆที่จำเป็นต้องใช้มาก่อนแล้ว เขาแลกไปเกือบหนึ่งพันผลึก

“เขียนชื่อร้านลงไป แล้วพกติดตัวไว้ ยามมีทหารเดินตรวจสอบก็ยื่นให้ดู” ชายในชุดหนังยื่นแผ่นไม้ให้ ชายหนุ่มก็รับไปเขียนชื่อร้านเซียนรับจ้าง แล้วห้อยติดข้างรถเข็นก่อนจะเดินเข้าไป

ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง คนเดินพร้อมกันได้นับห้าคน ทุกแห่งหนเต็มไปด้วยร้านรวงเต็มไปหมด ทุกคนพากันขายของอย่างเต็มที่ บ้างก็จริง บ้างก็หลอก ถูกแพงปนกันไป

[ส่งมอบภารกิจ...คนช่างสังเกต]

จะเป็นเซียนต้องมีสายตาที่แหลมคม สังเกตสิ่งต่างๆได้ทะลุปรุโปร่ง จงหาสิ่งของล้ำค่าระดับจักรพรรดิเป็นต้นไปในตลาดแห่งนี้ให้ได้สามชิ้น ไม่จำกัดประเภท

ระยะเวลา : หนึ่งวัน

รางวัล : ระบบตรวจจับสิ่งล้ำค่าในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร

“…”

“แล้วจะได้ขายของไหม?” ชายหนุ่มอดเซ็งกับภารกิจที่ระบบให้มาไม่ได้

ตลาดนี้มีร้านเกือบแสนแห่ง สิ้นค้าแต่ละร้านไม่ต่ำกว่าร้อยชิ้น ให้สุ่มหาของระดับจักรพรรดิ? มันจะบ้ารึไง!

ครึ่งหลัง

“สกิลตรวจสอบของโฮสสามารถอัพเกรดได้ โปรดตรวจสอบในร้านค้า” เสียงระบบดังขึ้น

“ไหน ขอดูหน่อยสิ” เย่ซีเรียกร้านค้าขึ้นมาตรวจสอบดู

อัพเกรด

1.ระบบตรวจสอบ

ความสามารถ : สามารถตรวจสอบทุกสิ่งในรัศมีหนึ่งเมตรรอบตัวได้ตลอดเวลา สามารถเปิด-ปิดความสามารถได้ตามต้องการ ตั้งค่าสิ่งที่ต้องการตรวจสอบได้อย่างละเอียด

ราคา : 50,000 ผลึก

*อาจทำให้ผู้ใช้เกิดความรำคาญจากปริมาณข้อมูลของสิ่งต่างๆที่ตรวจสอบได้

“เออๆ ซื้อก็ซื้อ แพงจริง” ชายหนุ่มกัดฟันแล้วกดซื้อมาทันที

“อัพเกรดเสร็จสิ้น ระบบตรวจสอบV.2” เสียงระบบดังขึ้น

“เปิดใช้งานระบบตรวจสอบ” ชายหนุ่มเรียกใช้ทันที เขาลืมคำเตือนที่มี*ไว้ซะสนิท

“โอ๊ย รำคาญโว้ยย” เพิ่งเปิดใช้งานได้ไม่ถึงห้าวินาที เขาก็ปิดระบบตรวจสอบทันที เพราะมีข้อความเด้งขึ้นมาจากทุกทิศทางไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของอิฐ พลังธาตุในอากาศ จุลินทรีย์ แบคทีเรีย  ปริมาณปราณที่ไหลเวียนอยู่ในทุกจุด ข้อมูลผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างละเอียด ข้อมูลสิ่งของที่ถูกวางเอาไว้ทุกชิ้น ตั้งแต่ประวัติการสร้าง คุณสมบัติ มันมากจนน่ารำคาญจริงๆ

“ตั้งค่า คัดกรองเฉพาะ สมบัติ ของล้ำค่า ของมีค่า อย่างอื่นไม่ต้องแสดง!” หลังได้บทเรียนเขาจึงตั้งค่าให้ละเอียด ก่อนจะเรียกใช้งานระบบตรวจสอบV.2 อีกครั้ง

ชายหนุ่มเดินเข็นรถสำรวจไปทั่ว ของส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับต่ำ บางชิ้นก็เป็นของปลอมที่ทำขึ้นมา บ้างก็เสียหายแล้วเอามาย้อมแมวขาย ไม่มีสักอันที่เป็นของระดับสูง แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ

จนได้มาพบเข้ากับร้านของชายแก่ท่าทางเหมือนยาจกคนหนึ่ง เป็นร้านที่อยู่มุมๆไม่ค่อยจะมีผู้คนเดินผ่านมากนัก ชายแก่วางสินค้าบนผ้าเก่าๆที่มีรอยปะเย็บอยู่เต็มไปหมด ของที่ขายก็มีอยู่ไม่ถึงสิบชิ้น มีหนังสือสามเล่ม หินสองก้อน จานเก่าๆหนึ่งใบ ช้อนส้อมหนึ่งคู่ เท่านั้น ของเกือบทุกชิ้นเป็นแค่ของไม่มีค่าทั่วไป ถึงจะดูมีลวดลายและอายุที่มาก แต่ก็ไม่ได้มีค่าอันใดสำหรับผู้ฝึกปราณ

“เจอสักที!” ระบบแจ้งเตือนชี้ให้เห็นว่าหินสองก้อนที่ดูไม่มีค่าอะไรคือสมบัติที่มีค่าอย่างยิ่ง ถ้าดูภายนอกก็เหมือนหินแม่น้ำทั่วไป ดูดำด้านไม่มีค่าอันใด

นัยน์ตามังกรเก้าเคราะห์

ระดับ : เซียน

ความสามารถ : ยังไม่ปรากฏ(ถูกผนึก)

“ท่านลุง หินสองก้อนนี้ราคาเท่าใด” เย่ซีชี้ไปยังหินสองก้อนที่วางเอาไว้แล้วกล่าวถามออกมา

“อา พ่อหนุ่มตาถึงจริงๆ หินสองก้อนนี้เป็นสมบัติตกทอดมาของบ้านข้าเลยนะ ถ้าเจ้าสนใจข้าขายให้อันละร้อยเหรียญทองก็พอ” ชายแก่ยิ้มออกมาเผยให้เห็นปากที่มีฟันเหลือไม่กี่ซี่ของเขา

“แล้วทำไมท่านถึงเอาของที่เป็นสมบัติตกทอดมาขายแบบนี้ล่ะ?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย

“ครอบครัวข้ายากจน ลูกชายกับสะใภ้ข้าก็เพิ่งตายไป เหลือแค่ตัวหลานสาวให้เลี้ยงดู ทุกวันก็ได้แต่อดๆอยากๆ บางวันก็ไร้ซึ่งข้าวกิน ชีวิตข้าต่อให้ตายไปข้าก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่ข้าอยากให้หลานสาวข้าได้สุขสบาย นางเพิ่งจะอายุแค่สิบขวบเท่านั้นเอง” ชายแก่เล่าเรื่องราวพร้อมน้ำตาที่คลอบนใบหน้า

ชายแก่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมบรรพบุรุษของเขาถึงบอกให้เก็บรักษาหินสองก้อนนี้อย่างดี หินสองก้อนนี้ตกทอดมาหลายสิบรุ่นแล้ว พ่อของชายแก่เล่าว่าบรรพบุรุษของตระกูลเขาได้รับสิ่งนี้มาจากเทพเซียนองค์หนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดพวกเขาก็ไม่อาจคำตอบได้ว่ามันคืออะไร ถึงขนาดไปหาตรวจสมบัติหรือจ้างผู้เก่งกาจมาตรวจสอบก็ไม่พบอันใดนอกจากเป็นหินที่แข็งอย่างมากก้อนหนึ่ง เพราะไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายมันลงได้เลยไม่ว่าจะเป็นอาวุธหรือเคล็ดวิชาใดๆ

“ข้าซื้อเอง รวมถึงของทุกอย่างในร้านท่านด้วย ท่านจะได้กลับบ้านไปดูแลหลานสาวของท่านแทนที่จะมานั่งลำบากขายของ” เย่ซีกล่าวออกมา

แต่ขณะที่เขากำลังจะเอื้อมมือไปหยิบหินสองก้อนนั้นก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมาซะก่อน

“หยุด! ถอยออกไปซะ หินสองก้อนนั้นเป็นของข้า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด