ตอนที่ 12 ร้านค้าสารพัด
“ท่านเย่ซี อาหารพร้อมแล้ว” พ่อครัวที่เหลือรอดอยู่ของตระกูลซูส่งเสียงเรียกเย่ซี ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังเหม่ออยู่ต้องหันกลับไปมอง
กองไฟขนาดย่อมถูกก่อไว้ตรงกลาง โดยมีกระโจมล้อมรอบอยู่ทั่วบริเวณ มีหม้อขนาดใหญ่ที่ส่งกลิ่นหอมวางเอาไว้ที่ข้างกองไฟ ดูเหมือนว่าจะเป็นอาหารประเภทต้มหรือะไรสักอย่าง
“ขอบคุณ” หลังรับอาหารมาชายหนุ่มก็กล่าวขอบคุณแล้วแยกไปนั่งกินอยู่ข้างๆฟิช
เมื่อกินอาหารเสร็จก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาเพิ่งได้รับระบบร้านค้ามายังไม่ทันได้ตรวจสอบดูเลยว่ามันคืออะไร
“ระบบร้านค้า” เย่ซีส่งเสียงเรียกในใจ
พลันเบื้องหน้าของเขาก็ปรากฏหน้าจอโปร่งแสงขึ้น ซึ่งเหมือนจะมีแต่เขาคนเดียวที่มองเห็น มีสินค้าให้เลือกซื้อเต็มไปหมด แต่โดยรวมแล้วตอนนี้เปิดให้ซื้อไม่กี่อย่าง
เคล็ดวิชา
1.เซียนก่อสร้าง
ความสามารถ : เมื่อเรียนรู้เคล็ดวิชานี้ ท่านจะสามารถรับงานก่อสร้าง ต่อเติม ออกแบบภายใน ภายนอก ได้ทั้งหมด! ภายในสามภพ สิบโลก ไม่มีใครเก่งไปกว่าท่านแล้ว
ราคา : 150,000 ผลึก
เงื่อนไข : ชื่อเสียง 10,000
2. เซียนขนส่ง
ความสามารถ : เมื่อเรียนรู้เคล็ดวิชานี้ ท่านจะสามารถรับงานส่งสิ่งของได้ทั่วราชอาณาจักร เพียงฝากสินค้ากับท่าน จะเหนือฟ้า ใต้สมุทร ในปล่องลาวา ภพภูมิใด ก็ไปถึง สินค้าถึงมือฉับไว ไม่เสียหายแน่นอน
ราคา : 250,000 ผลึก
เงื่อนไข : ชื่อเสียง 50,000
3.เซียนฝึกสรรพสิ่ง
ความสามารถ : เมื่อเรียนรู้เคล็ดวิชานี้ ท่านจะสามารถรับงานในการฝึกสรรพสิ่ง ไม่ว่าต้องการรูปร่างแบบไหน ท่านก็สามารถฝึกให้ได้ ต้องการใช้มือเปล่าผ่ามิติ? ไม่มีปัญหา! ต้องการใช้แรงกายในการย้ายภูเขา? เรื่องกล้วยๆ! ไม่อยากเป็นแค่ต้นหญ้าคอยรับแสง? งั้นก็เข้ารับการฝึกได้ เจ้าจะกลายเป็นมังกร!
ราคา : 1,550,000 ผลึก
เงื่อนไข : ชื่อเสียง 100,000
ของเบ็ดเตล็ด
1.ป้ายร้าน
ความสามารถ : ช่วยในการดึงดูดสายตาของผู้คน ใครที่เห็นก็ต้องหันมามอง และแน่นอน ไม่มีการเสียภาษีป้ายโฆษณา!
ราคา : 1,000 ผลึก
“มันเกินจริงไปหน่อยมั้ง” หลังจากที่เห็นสิ่งที่วางขายในร้าน เขาก็อดที่จะคิดขึ้นมาไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ตัวเขาก็ซื้อได้แค่ป้ายร้านเท่านั้นแหละ ของอย่างอื่นมันแพงจนเกินไปจริงๆ
“มีของขายแค่สี่อย่าง มีหน้ามาเรียกร้านค้าได้อีกนะ” เย่ซีบ่นออกมา
“เนื่องจากตอนนี้ยังไม่ปลดล็อคเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้มีสินค้าเพียงสี่รายการ ขอให้โฮสตั้งใจในการทำภายกิจ จะมีการปลดสินค้าใหม่ๆในอนาคต จงกลายเป็นเซียนรับจ้างที่มีชื่อเสียงให้ได้” เสียงระบบตอบกลับมาซะยืดยาว
“แล้วชื่อเสียงต้องทำยังไงถึงจะมีเพิ่ม?” เย่ซีถามระบบต่อ เพราะเขานึกไม่ออกว่าอะไรเป็นเงื่อนไขในการเพิ่มชื่อเสียงบ้าง เพราะอย่างตอนนี้เขาก็มีค่าชื่อเสียงอยู่ราวๆ 20 แบบงงๆ
“ค่าชื่อเสียงจะนับจากคนที่รู้จัก ให้การยอมรับ นับถือ รับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวโฮส เท่านั้น โดยจะนับคนต่อคน ไม่มีการเพิ่มซ้ำ”
“แสดงว่าค่าชื่อเสียงตอนนี้คงมาจากพวกตระกูลซูสินะ” ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ เพราะตระกูลซูเหลือคนที่ยังรอดชีวิตราวๆนี้พอดี
“เซียนฝึกสรรพสิ่ง นึกแล้วก็ตลกจริง” เขาอดคิดขึ้นมาถึงความสามารถของเคล็ดวิชาต่างๆไม่ได้ ฝึกหญ้าให้กลายเป็นมังกร นึกแล้วคงตลกพิกล
หลังจากเดินทางมาได้เกือบห้าวัน พวกเขาก็ใกล้จะถึงกำแพงอาณาจักรแล้ว ตลอดการเดินทางไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษ เดินทาง กิน นอน ขายของให้ตระกูลซู เจอสัตว์อสูร เจอกลุ่มโจร ก็จัดการไปตามสมควร ฆ่าบ้าง ปล่อยไปบ้าง
“หยุด! ปล่อยตัวคนมาซะ” แต่แล้วเสียงตะโกนก็ดังขึ้นพร้อมด้วยกลุ่มคนจำนวนมาก กลุ่มคนนี้มีจำนวนนับร้อยเลยทีเดียว
ถึงแม้ระดับสูงสุดจะแค่ระดับสาม ระดับหัวหน้าก็เถอะ แต่ก็ไม่ควรจะประมาทจะดีที่สุด
“พวกเจ้าหมายถึงอะไร?” ด้วยเพราะคราวนี้ชายหนุ่มเบื่อๆเลยให้ฟิชเดินนำหน้าบ้าง เขาจึงเป็นเป้าหมายที่คนกลุ่มนี้พูดด้วยแน่นอน
“ข้าแค่เดินทางมากับคนกลุ่มนี้พวกเข้าเมืองเท่านั้นเอง มีปัญหาอันใด?” ชายหนุ่มถามด้วยความไม่เข้าใจ เขาไปบังคับตระกูลซูตรงไหน พวกตระกูลซูนั่นแหละเป็นคนชวนให้เขาร่วมเดินทางมาด้วยเอง
“เงียบซะ เจ้าคนชั่ว ส่งกลุ่มคนด้านหลังกลับมา” เสียงของผู้อาวุโสสามดังขึ้น เขามีระดับการฝึกตนถึงระดับสาม ขั้นเก้าแล้ว อีกแค่เก้าเดียวก็จะไปถึงระดับสี่
ตัวผู้อาวุโสสามนับได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆของทวีปเลยด้วยซ้ำ มีแค่ไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับเขาได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาก็มองระดับการฝึกตนของชายตรงหน้าไม่ออก ต้องเป็นเพราะว่าชายตรงหน้าของเขามีระดับพลังมากกว่า หรือมีสิ่งวิเศษช่วยปกปิดระดับพลัง หรือเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น ถึงจะเป็นเช่นนี้
ในใจของผู้อาวุโสสามเอนเอียงไปในด้านชายหนุ่มเบื้องหน้ามีสิ่งวิเศษมากกว่า แต่ระดับพลังก็คงไม่ใช่ชั่ว ไม่อย่างนั้นคงนั่งอยู่บนหลังของอสูรระดับสาม ขั้นแปดไม่ได้ ต่อให้เป็นตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะต่อกรกับอสูรที่ขั้นต่ำกว่าได้หรือไม่ เพราะโดยพื้นฐานแล้วอสูรจะมีร่างกาย พละกำลัง ความว่องไว ที่ได้เปรียบผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์เป็นอย่างมาก
“ใจเย็นๆก่อน ท่านผู้นี้เป็นผู้ช่วยชีวิตพวกเราไว้!” ซูไห่ที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาห้ามทันที ทำให้คนของตระกูลซูที่เพิ่งเดินทางมาถึงใจเย็นลงไปทันตา
“คุณชายสาม ท่านปลอดภัยดีนะ” ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้ารีบเดินเข้ามาหาซูไห่ทันที หลังจากสอบถามสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น พวกเขาก็เข้าใจ
“ต้องขออภัยที่เสียมารยาท และขอบพระคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตคุณชายสามเอาไว้” ทั้งสองรีบเดินมาก้มศีรษะขออภัยให้กับเย่ซีทันที
เมื่อปรับความเข้าใจกันได้เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองกลุ่มก็รวมขบวนกัน แล้วเดินทางกันต่อทันที สิ่งสำคัญตอนนี้คือการกลับไปยังตระกูลซะก่อน เรื่องของตระกูลถังที่มาไล่ฆ่า หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง คงต้องไปสืบหาหลังจากกลับไป
ในห้องที่ปิดสนิทแห่งหนึ่ง มีเพียงเทียนเล่มเดียวตั้งอยู่บนโต๊ะ
“ถังซิน ตายแล้วรึ” เสียงราบเรียบดังขึ้น
“ใช่ขอรับ แถมอาวุธระดับราชวงศ์เทียม ก็ถูกเก็บไปด้วย” ชายที่มารายงานตัวสั่นเทาไปหมด เขาคือหนึ่งในนักฆ่าที่หนีกลับมาได้
ชายตรงหน้าของเขาคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ มีลูกน้องหลายคนที่ต้องตายในมือของเขาเพียงเพราะเขาอารมณ์ไม่ดี
“น่าสนใจ... ส่งถังปิงปิง ไปสืบดู ส่วนเรื่องที่ตกลงไว้กับลูกค้า ไปต่อรองราคาเพิ่มซะ” น้ำเสียงของชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“ได้ขอรับ ข้าจะรีบไปจัดการ” หลังรับคำเขาก็รีบออกไปทันที ก่อนที่นายท่านจะเปลี่ยนใจฆ่าเขา
“ถึงกับส่งมือหนึ่งขององกรค์ไปแบบนี้ แสดงว่านายท่านให้ความสนใจมากสินะ”
หลังจากชายที่มารายงานได้ออกไปแล้ว ชายที่ยังอยู่ในห้องก็ได้กล่าวออกมา “คงไม่กระทบกับแผ่นการณ์ของท่านผู้นั้นหรอกนะ ถ้าจำเป็นก็ต้องกำจัดทิ้งให้หมด...”