ตอนที่ 1 พลังวิญญาณเต็มขั้นแต่กำเนิด วิญญาณยุทธ์อาวุธชั้นยอด
ณ โลกสีคราม อาณาจักรมังกร เขตปกครองหยางเฉิง โรงเรียนมัธยมหมายเลข 3 ในพิธีการปลุกพลังวิญญาณยุทธ์ของเหล่านักเรียน
“อันซิน พลังวิญญาณโดยกำเนิด ระดับ 2 วิญญาณยุทธ์สัตว์ กระต่าย”
“หลินเหม่ยลี่ พลังวิญญาณโดยกำเนิดของเจ้า ระดับ 0 วิญญาณยุทธ์ของเจ้าคือผ้าเช็ดหน้า”
...
“เกาเฉียง พลังวิญญาณโดยกำเนิด 0 วิญญาณยุทธ์ขยะ แครอท”
“เย่เฉิน พลังวิญญาณโดยกำเนิดระดับ 10 เป็นพลังวิญญาณเต็มขั้นแต่กำเนิด วิญญาณยุทธ์อาวุธ หอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลก!”
ในโรงยิมของโรงเรียนมัธยมหมายเลข 3 ในขณะที่วิญญาจารย์ผู้ที่ทำการปลุกพลังได้ขานประโยคนั้นออกมา เหล่านักเรียนทั้งชั้นปีทุกคนต่างก็ตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
“ให้ตายเถอะ สวรรค์ทรงโปรด ค่าพลังวิญญาณเต็มขั้นแต่กำเนิด! นี่เขาไม่ใช่บุคคลที่สามในโรงเรียนของเราที่เกิดมาพร้อมกับค่าพลังวิญญาณเต็มขั้นแต่กำเนิดงั้นเหรอเนี่ย?”
"ใช่แล้วล่ะ และข้าจำได้ว่าหอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกนี้เป็นวิญญาณยุทธ์ระดับสี่ดาวเลยทีเดียวเลยนะ ที่อยู้ห่างจากระดับสูงสุดเพียงดาวเดียวเองน่ะ โอ้พระเจ้า!"
“ข้าได้ยินมาว่าหอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกนั้นมีพลังจากยมโลกอยู่ด้วย และมันสามารถดูดซับพลังชีวิตของคู่ต่อสู้ได้ มันน่ากลัวมากเลยล่ะ!”
“เย่เฉินคนนั้นดูเหมือนว่าเขาจะมาจากห้อง 5 นะ เขาทำมันได้ยังไงกันล่ะเนี่ย?”
“วู้ว ข้าอิจฉาคนพวกนี้มากเลยล่ะ ทำไมข้าถึงปลุกได้วิญญาณยุทธ์ขยะกันนะ”
ในขณะนี้ สายตาเกือบทั้งหมดต่างมุ่งความสนใจไปที่เย่เฉิน
ท่ามกลางฝูงชน ชายหนุ่มรูปหล่อ ตัวสูงกำลังมีสีหน้ายินดีกับตัวเองด้วยเช่นกัน
18 ปีมาแล้วที่ข้ามายังโลกใบนี้ แม้ว่าจะไม่มีระบบที่ปรากฏออกมาเลยก็ตาม แต่ด้วยค่าพลังวิญญาณเต็มขั้นแต่กำเนิดของข้าและวิญญาณยุทธ์อาวุธสี่ดาวนี้ อนาคตของข้าต้องสดใสอย่างแน่นอนเลยล่ะ
นี่คือโลกที่วิญญาณยุทธ์ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น และมีสัตว์วิญญาณอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ที่นี่ วิญญาจารย์ที่ทรงพลังมากนั้นสามารถได้รับสถานะที่ยอดเยี่ยม และเหล่าลูกหลานของวิญญาจารย์เองก็จะได้รับผลประโยชน์ที่สูงมากด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงาน การรักษาพยาบาล หรือสิ่งอื่น ๆ
ท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงวิญญาจารย์เท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับสัตว์วิญญาณได้
และบรรดาเหล่าผู้คนที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะได้นั้น หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลายแล้ว พวกเขาสามารถทำงานเป็นวิญญาจารย์ได้ในระดับต่ำสุดเท่านั้น
แม้ว่าเย่เฉินจะฝึกฝนร่างกายหนักมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่การตื่นขึ้นของวิญญาณยุทธ์นั้นไม่มีกฎที่ตายตัวเลย
เดิมที เย่เฉินนั้นคิดว่าสิ่งที่เขาต้องทำคือปลุกวิญญาณยุทธ์ขึ้นมาให้ได้ในระดับเพียงดาวดวงเดียว แต่ใครจะคาดหวังว่าเขาจะพบกับความประหลาดใจครั้งใหญ่เช่นนี้ได้
“เย่เฉิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ!”
แม้แต่หลิวตง อาจารย์ประจำชั้นของเย่เฉิน ก็ยังเริ่มแสดงความยินดีกับเย่เฉิน
แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังคงเป็นอาจารย์ของเย่เฉินก็ตาม แต่เย่เฉินนั้นก็มีแนวโน้มสูงที่เขาจะได้เป็นบุคคลผู้ทรงอำนาจในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าต่อจากนี้
เย่เฉินนั้นเกิดมาพร้อมกับพลังวิญญาณเต็มขั้นแต่กำเนิด จะทำให้การฝึกฝนเป็นไปอย่างรวดเร็วอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต
ยิ่งเมื่อรวมกับวิญญาณยุทธ์อาวุธสี่ดาว หอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกแล้ว อนาคตเย่เฉินจะต้องเป็นมหาอำนาจที่จะเขย่าอาณาจักรมังกรและแม้แต่ดาวโลกสีน้ำเงินใบนี้ได้อย่างแน่นอน
บรรดาเพื่อนร่วมชั้นของเย่เฉิน ทุกคนนั้นต่างมองดูเขาด้วยความอิจฉา
สำหรับพวกเขาแล้ว ตั้งแต่นี้ไปเย่เฉินนั้นไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกันกับพวกเขาแล้ว เพราะเขานั้นเกิดมาพร้อมกับพลังวิญญาณเต็มขั้นแต่กำเนิด และปลุกวิญญาณยุทธ์หอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลก
สำหรับคนที่ทรงพลังเช่นนี้ การได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นแค่สักหนึ่งวันก็ถือได้ว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
“พี่ใหญ่เฉิน มาทานอาหารเย็นด้วยกันนะ หลังจากที่พี่ได้ดูดซับวงแหวนวิญญาณแล้วน่ะ”
“พี่ใหญ่เฉิน คืนนี้ผมจะเลี้ยงหนังพี่เอง วันนี้ญาติข้าไม่มาแล้วน่ะ”
“ไปให้พ้นซะ เย่เฉินเป็นของข้า เย่เฉิน ข้าอยากเป็นของเจ้านะ”
หญิงสาวกลุ่มหนึ่งพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหว่านล้อมเย่เฉิน
“อะแฮ่ม หยุดล้อมรอบเย่เฉินกันได้แล้ว”
หลิวตงเป็นผู้ที่ริเริ่มช่วยเหลือเย่เฉิน: "เอาล่ะ ผู้ที่ปลุกวิญญาณยุทธ์ขยะให้กลับบ้านกันไปได้แล้วล่ะ และนักเรียนคนอื่น ๆ ที่เหลือตามข้ามา"
ตามกฎแล้ว หลังจากที่นักเรียนที่ปลุกพลังวิญญาณยุทธ์เสร็จแล้ว ใครก็ตามที่กลายเป็นวิญญาจารย์ก็สามารถดูดซับวงแหวนวิญญาณได้ภายใต้การนำของอาจารย์
ในเวลาไม่นานนัก นักเรียนจากห้อง 5 จำนวน 23 คน ก็มารวมตัวกัน
นักเรียนในชั้นเรียนทั้งหมดมี 50 คน และมีวิญญาณยุทธ์ขยะ 27 คน โรงเรียนมัธยมหมายเลข 3 เป็นหนึ่งในโรงเรียนมัธยมที่สำคัญจากทั้งสามแห่งในเขตปกครองหยางเฉิง ซึ่งรวบรวมเหล่าอัจฉริยะเกือบหนึ่งในสามในหยางเฉิงเอาไว้ นี่แสดงให้เห็นว่าความน่าจะเป็นของการปลุกพลังได้วิญญาณยุทธ์ขยะนั้นน่ากลัวมากเพียงใด
ถ้านี่คือโรงเรียนทั่วไปแล้ว อาจมีคนที่มีวิญญาณยุทธ์ขยะมากถึง 40 คนหรืออาจจะมีมากกว่านั้นในห้องเดียวก็ได้
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเหล่าผู้หญิงจำนวนมากจึงริเริ่มที่จะแสดงความรักต่อเย่เฉินออกมากันเช่นนี้
ความหล่อเป็นเพียงแง่มุมหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือเย่เฉินนั้นมีอนาคตที่สดใสรอเขาอยู่
และด้วยยีนที่ดีเช่นนี้ มีโอกาสถึง 80% ที่พวกเธอคลอดบุตรออกมาจะได้เป็นวิญญาจารย์ สำหรับเหล่าหญิงสาวแล้ว การได้อยู่กับคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเธอได้
...
3 ชั่วโมงต่อมา
ในป่าสัตว์วิญญาณในเขตชานเมืองหยางเฉิง
“นั่นมันหมาป่าโลกันตร์ เย่เฉิน เจ้าจะได้วงแหวนวิญญาณแล้วล่ะ!”
ทันใดนั้นหลิวตงก็พูดออกมาด้วยความยินดี
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่เฉินก็รีบมองไป และห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร สัตว์วิญญาณรูปร่างคล้ายหมาป่าที่มีร่างกายสีดำสนิทกำลังเดินเล่นอย่างสบายใจอยู่
พื้นดินใดๆ ที่มันได้เหยียบย่ำไป ก็ได้ทิ้งควันสีดำไว้ซึ่งเป็นรูปของรอยเท้าสีดำ มันคือหมาป่าโลกันตร์
และหมาป่าโลกันตร์นั้นก็ยังเป็นสัตว์วิญญาณที่เหมาะสมที่สุด สำหรับหอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกจนถึงตอนนี้
“เยี่ยมไปเลย ขอบคุณท่านอาจารย์และทุกคนด้วยนะ” เย่เฉินกล่าว
เพื่อที่จะค้นหาวงแหวนวิญญาณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเขาเองแล้ว หลิวตงจึงตั้งใจอย่างมาก
ในทำนองเดียวกัน เหล่านักเรียนก็ทำได้แค่ทำตามเท่านั้น
“ไม่เป็นไรหรอก เจ้ารออยู่ที่นี่นะ เย่เฉินเตรียมตัวให้พร้อมในการฆ่าหมาป่าโลกันตร์ด้วยล่ะ”
หลิวตงนั้นเป็นมหาวิญญาจารย์ระดับ 26 ด้วยวงแหวนวิญญาณ 2 วง เขาสามารถจัดการกับหมาป่าอายุ 300 ปีนี้ได้อย่างง่ายดาย
แต่แน่นอนว่าในการโจมตีครั้งสุดท้ายนั้นจะต้องกระทำโดยเย่เฉินเท่านั้น
เมื่อหลิวตงดจมตีด้วยวิญญาณยุทธ์ของเขาเพื่อทำให้หมาป่าโลกันตร์หมดสติ เย่เฉินก็ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมาในทันที
"บัซ!"
ก่อนที่วิญญาณยุทธ์จะปรากฏขึ้น ควันสีดำที่น่าสะพรึงกลัวและดูคลุมเครือก็โผล่ออกมาจากร่างของเย่เฉิน
ในความคลุมเครือนั้น แม้แต่เสียงคำรามแปลกๆ ก็ดังออกมาให้ได้ยิน ราวกับว่าเสียงนั้นมันมาจากนรก
นักเรียนหลายคนแอบตกใจ ตามที่คาดไว้พลังของหอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลก ออร่านี้ช่างน่ากลัวเกินไป!
ทันทีหลังจากนั้น ทุกคนเห็นว่ามีหอกยาวประมาณ 2 เมตรอยู่ในมือของเย่เฉินแล้ว ซึ่งมันเป็นสีดำสนิทและดูเหมือนเป็นภาพมายา
เย่เฉินนั้นสูง 1.85 เมตร ซึ่งเขาดูเหมาะกับการถือหอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกนี้เป็นอย่างมาก
ทุกคนต่างมองไปที่ปลายหอกที่แหลมคมของหอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกโดยไม่รู้ตัว ปลายหอกนั้นเป็นสีดำและมีลวดลายสีแดงเข้มอยู่ ลวดลายนั้นดูเหมือนราวกับว่าเป็นลวดลายเลือดที่ยังคงขยับอย่างช้าๆ
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงจ้ามากที่สุด แต่ดวงอาทิตย์ที่สุกใสดังกล่าวนั้นกลับส่องไปที่หอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกโดยที่ไม่มีการสะท้อนใด ๆ เลย!
“ลวดลายสีแดงเข้มนั้นคือแม่น้ำจากนรกหรือเปล่าน่ะ ข้าได้ยินมาว่านี่คือสาเหตุที่หอกศักดิ์สิทธิ์แห่งยมโลกนั้นสามารถดูดซับพลังชีวิตของมนุษย์ได้”
“วิญญาณยุทธ์ระดับสี่ดาวนั้นช่างทรงพลังมาก แค่ข้ามองดูมัน ข้าก็สั่นสะท้านไปหมดแล้วล่ะ”
“ใครจะไม่เป็นแบบนั้นบ้างล่ะ ลวดลายที่ปลายหอกนั้นมันรู้สึกครอบงำจริงๆ เห็นแบบนี้แล้ว... ไม่กล้าที่จะคิดต่อเลยล่ะ”
หลังจากที่ปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมา เย่เฉินก็ถูกห่อหุ้มด้วยควันสีดำจาง ๆ ควบคู่ไปกับหอกสีดำสนิทแล้ว และดูเหมือนว่าเขานั้นจะเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามในยมโลกเลยทีเดียว และให้ความรู้สึกหนาวสุดขั้วแผ่ออกมาเลยทีเดียว