176. เรียกคืน กู้คืนและชีวิตเจ้าสำราญ (2/3) (ฟรี)
หนิงซีนึกได้ว่าตั้งแต่วันแรกที่เขามาถึงโลกแห่งโมเอน
เขาจะมุ่งไปที่การเพิ่มระดับ แสวงหาความแข็งแกร่ง
หรือทำภารกิจของเกมให้สำเร็จ อยู่ตลอดเวลา
เขาไม่เคยได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับประเพณีของโลกนี้เลย
ตอนนี้เขาไม่มีอะไรให้ทำ
หนิงซีจึงวางแผนที่จะสัมผัสกับชีวิตอันเรื่อยเปื่อยของชนชั้นสูง
หนิงซีไม่ได้ทำอะไรจต่อไปกับสัตว์อสูรเวทย์ระดับสูงขอบเขตผู้ปกครอง
ที่ยิ่งใหญ่ทั้งแปดบนภูเขาสุดศักดิ์สิทธิ์
เขาจะทิ้งสัตว์อสูรพวกนี้ให้ลีน่าไว้ใช้พัฒนา มันจะเป็นการฝึกให้เธอด้วย
เมื่อคิดได้แล้ว หนิงซีก็กลายร่างเป็นสายฟ้าบินไปยังทวีปโมเอน
อีกสี่ชั่วโมงต่อมา หนิงซีก็มาถึงเทือกเขาเทียนชิง บนทวีปโมเอน
จากนั้นเดินทางอีกหนึ่งชั่วโมง หนิงซีก็กลับมาถึงเมืองโต้วฮวาง
ผ่านแล้วกว่าสองเดือนของการพัฒนา เมืองโต้วฮวางในปัจจุบัน
ไม่ใช่ดินแดนแห่งความชั่วร้ายวุ่นวาย
เหมือนตอนที่หนิงซีมาถึงเป็นครั้งแรกอีกต่อไป
สภาพแวดล้อมที่มั่นคงดึงดูดให้พ่อค้าเดินทางมาทำการค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ เนื่องจากหนิงซีใช้อำนาจควบคุมทรัพยากรนับไม่ถ้วน
ให้มารวมกันสร้างอาวุธแกนเวทย์ที่เมืองนี้ ทำให้เมืองอันเจริญรุ่งเรืองถูกสร้างขึ้น
กำแพงเมืองที่เคยสูงกว่าห้าเมตรได้ขยายจนตอนนี้สูง 30 เมตรแล้ว
เนื่องจากนโยบายความเท่าเทียมกันระหว่างเผ่าพันธุ์ในเมืองโต้วฮวาง
ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันตราบใดที่อาศัยอยู่ในเมือง
ดังนั้น เผ่าพันธุ์จำนวนมากจากที่ราบรกร้างทางเหนือจึงย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่นี่
มีทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์สัตว์ทุกประเภท พวกโนมส์ คนเถื่อน ชนเผ่าเร่ร่อน
และอื่นๆ จำนวนมาก ทุกเผ่าพันธุ์ต่างภูมิใจที่ได้อาศัยอยู่ในเมืองโต้วฮวาง
ภายใต้ภาวะแบบนี้ จำนวนประชากรในเมืองก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ก็มีประชากรเกินห้าล้านคนแล้ว
เดิมทีเมืองนี้ได้รับการออกแบบให้รองรับผู้คนได้มากที่สุดสองล้านคน
และถึงอย่างนั้นก็ถือว่าหนาแน่นมากอยู่แล้ว
ดังนั้นบ้านใหม่และถนนใหม่จึงถูกสร้างขึ้นนอกกำแพงเมือง
พื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองกลายเป็นเมืองชั้นในที่เจริญรุ่งเรืองของโต้วฮวาง
เมืองชั้นนอกที่ขยายใหญ่ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นนอกกำแพงเมือง
โชคดีที่มีที่ราบอยู่รอบโต้วฮวาง ทำให้การขยายไม่ยากนัก
โลกแห่งโมเอนไม่มีตึกระฟ้าใดๆ
การที่เมืองๆหนึ่งมีประชากรมากกว่าห้าล้านคน
ก็นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก
แต่เนื่องจากมีการดำรงอยู่ของหนิงซี ทำให้ปาฏิหาริย์นี้ยังคงดำเนินต่อไป
จำนวนประชากรของเมืองโต้วฮวางก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในอนาคตอันใกล้
เมืองโต้วฮวางจะกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในทวีปโมเอน
เพื่อให้สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในโต้วฮวาง
หนิงซีจึงไม่ได้ใช้เทคนิคสายฟ้าเร้น แต่เลือกที่จะเดินเข้าไปในเมืองแทน
การค้าขายในโต้วฮวาง กำลังเฟื่องฟู
จังหวะของชีวิตในโลกแห่งโมเอนก็ค่อนข้างรวดเร็ว
ทุกคนต่างยุ่งกับการหาเงินโดยหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น
มีผู้คนมากมายบนถนน และทุกคนดูเหมือนจะเร่งรีบ
แต่เมื่อพบหนิงซี ทุกคนก็ยังหยุดและโค้งคำนับให้เขา
ตามแผนยังของที่ว่าการเมืองกำนหดให้
สร้างจัตุรัสขนาดใหญ่ขึ้นในใจกลางเมืองและเรียกว่าจัตุรัสเสรีภาพ
ตรงกลางจัตุรัสมีรูปปั้นสูง 100 เมตร
ไม่ว่าใครจะอยู่ที่ไหนในเมือง ตราบใดที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง
พวกเขาก็จะสามารถเห็นรูปปั้นนั้นได้
รูปปั้นนี้เป็นของเจ้าเมืองหนิงซี
ดังนั้น ผู้คนในเมืองโต้วฮวาง จึงคุ้นเคยกับรูปลักษณ์ของหนิงซี
เมื่อพวกเขาเห็นเจ้าเมืองปรากฏตัวต่อหน้า
ไม่ว่าจะด้วยความเคารพต่อตำแหน่งของเขา
หรือด้วยความขอบคุณอย่างแท้จริงที่เขาสร้างเมืองขึ้น
พวกเขาต่างก็ให้ความเคารพอย่างสูงสุดแก่เขา
เมื่อเดินไปตามถนน หนิงซีก็เห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดูดี
พวกเขาดูเปล่งปลั่ง ใส่เสื้อผ้าสะอาด ทุกอย่างเรียบร้อยดี
และเจ้าหน้าที่เมืองก็ลาดตระเวนในพื้นที่เป็นครั้งคราว
ไม่มีใครกล้าต่อสู้บนท้องถนนอีกต่อไป
ผู้ที่ต้องต่อสู้จะต้องไปที่สนามประลอง
เขาสำรวจร้านค้าริมถนนและพบสินค้ามากมาย
มีอาหารพิเศษที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวน เช่นเดียวกับอุปกรณ์แกนเวทย์ทุกชนิด
ที่ครอบคลุมทุกด้านของเสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่อาศัย และการขนส่ง
ที่สำคัญที่สุดคือมีโรงละครขนาดใหญ่อยู่บนถนนบางสาย
หลายคนจะซื้อตั๋วเข้าโรงละครเพื่อเพลิดเพลินกับการแสดงทุกประเภท
ผู้คนเริ่มมีวัฒนธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตทางวัตถุที่อุดมสมบูรณ์
เมื่อเห็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองเช่นนี้ หนิงซีก็รู้สึกถึงความสำเร็จ
เขาสร้างเมืองนี้ด้วยตัวเอง
เมืองโต้วฮวางเปลี่ยนจากเมืองแห่งบาปที่วุ่นวายไปเป็นไข่มุกแห่งการค้าบนทวีปโมเอน
ทั้งหมดสำเร็จได้ด้วยการชี้นำของหนิงซี
เมื่อเขากลับมาถึงคฤหาสน์ของเจ้าเมือง
ขณะที่หนิงซีนั่งลง สโนวมิสท์ก็รีบวิ่งเข้ามาทันที
เธอรายงานหนิงซีด้วยความตื่นเต้นว่า
“นายท่านท่าน เราได้สร้างอุปกรณ์รวบรวมแสงสตาร์ไลท์ระดับเริ่มต้นขึ้นมาได้หลายร้อยชิ้นแล้ว มันช่วยให้แกนดาวเติบโตของได้เร็วขึ้น!”
เธอกล่าวต่อว่า
“คณะทูตจากต่างโลกได้มาถึงเมืองหลวงของจักรวรรดิแบรดแล้ว โจเซบาได้พบกับพวกเขาแล้วด้วย มีข่าวลือว่าพวกเขาจะบรรลุข้อตกลงกันได้เร็วๆนี้ สหพันธรัฐมีเยลจะช่วยเราผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากของอุปกรณ์รวบรวมแสงสตาร์ไลท์ เราแค่นำมันมาประกอบขึ้นในโต้วฮวางเท่านั้น!”
ถ้าเป็นในอดีต หนิงซีคงจะดีใจมากที่ได้ยินข่าวนี้
ยิ่งไปกว่านั้นเขาคงจะย้ายจิตสำนึกของเขาไปที่สตาร์ฟอลล์
เพื่อตรวจสอบความเร็วในการเติบโตของแกนดาว
แต่หลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะผ่อนคลายในวันนี้
หนิงซีก็ไม่สนใจสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป
เขามองดูสโนว์มิสท์ที่สวยงาม
ผมสีเงินของเธอนุ่มเป็นประกาย ดวงตาโตแวววาว
ผิวหน้าเธอบอบบางมากจนดูเหมือนว่ามันจะปริถ้าเป่ามัน
สายตาที่เธอมองเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
หนิงซีลูบหัวของเธอแล้วพูดว่า
“ข้าอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ในตอนนี้ ะจะได้สัมผัสกับชีวิตสบายๆของจักรพรรดิ เจ้าอยากให้ข้านอนเป็นเพื่อนบนเตียงในคืนนี้ไหม”
หนิงซีแค่อยากหยอกล้อสโนว์มิสท์สักเล็กน้อย
แผนเดิมของเขาคือเริ่มจากอิลยาก่อน