ตอนที่ 6 สถานการณ์คับขับ
“คุณชายขอรับ อดทนอีกหน่อยพวกเราก้น่าจะหนีพ้นแล้วขอรับ” เสียงที่ฟังดูแก่ชราและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าได้กล่าวขึ้น เขาควบม้าเต็มที่เพื่อให้พวกมันวิ่งลากรถไปด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่พวกมันจะทำได้ ม้าพวกนี้ก้ไม่ธรรมดา เป็นถึงสัตว์อสูรเลยทีเดียว ถึงจะอยู่ระดับ1ก้เถอะ
“พวกมันเป็นใครกันแน่ ถึงมาไล่สังหารพวกเราตระกูลซูแบบนี้” ชายกลางคนที่วิ่งขนาบข้างชำเลืองกลับไปมองพลางกล่าวออกมา
พวกเขาตระกูลซูจัดได้ว่าเป็นตระกูลระดับสูงในอาณาจักรวูดเสธเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเรื่องพละกำลัง ธุรกิจ อำนาจในอาณาจักร ล้วนสูงส่งทั้งสิ้น
ใครที่จะมาหาเรื่องต้องคิดให้ดี
แต่ตอนนี้พวกเขากำลังถูกไล่ฆ่า!
“จากที่สังเกตพวกมันเหมือนจะมาจากนิกายถัง พวกนี้มันรับงานฆ่าไม่เลือกขอแค่เงินถึง” หนึ่งในคนติดตามที่วิ่งอยู่เอ่ยออกมาหลังเขาสังเกตเห็น อาวุธและเคล็ดวิชาที่คนพวกนี้ใช้เหมือนกับตระกูลถังไม่มีผิด
“เหมือนจะเป็นฝีมือของคนในตระกูลเรานะ” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมาจากในรถม้า เขาคือซูไห่ เป็นคุณชายสามแห่งตระกูลซู ถึงตอนนี้จะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก แต่เขาก้ยังคงวิเคราะห์ออกมาอย่างเยือกเย็น
“ทำไมคุณชายถึงคิดแบบนั้นล่ะ” คนรับใช้คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น
“ก็เพราะการเดินทางมาครั้งนี้ของพวกเรา มีแค่คนบางส่วนในตระกูลเท่านั้นที่รู้น่ะสิ ยิ่งคนนอกยิ่งไม่ต้องไปพูดถึง ไม่มีทางรู้แน่ๆ” ซูไห่ตอบคำตอบออกมาด้วยเสียงราบเรียบ
ใช่แล้ว ครั้งนี้พวกเขาเดินทางมาเป็นการส่วนตัว เพราะคุณชายสามได้ข่าวเรื่องสมุนไพรที่ได้ส่งคนออกไปหาข้อมูลมานานแล้วว่ามีคนพบเจออยู่ในป่าแห่งนี้ แต่ตำแหน่งนั้นค่อนข้างจะลึกเลยทีเดียว พวกเขาจึงได้ส่งผู้ฝึกตนระดับแถวหน้าของตระกูลตามมาด้วยถึงสิบคน รวมกับคนใช้และทหารต่างๆแล้ว ก้เป็นขบวนที่มีคนมากเกือบห้าสิบคนเห็นจะได้
แต่เพราะต้องพบเจอกับการซุ่มโจมตีที่ไม่คาดคิด ตอนนี้พวกเขาจึงเหลือคนอยู่ไม่ถึงครึ่งซะแล้ว คนส่วนใหญ่ที่ตายไปจะเป็นทหารและคนใช้เกือบทั้งหมด ส่วนพวกผู้ฝึกตนแม้จะมีบาดเจ็บกันบ้างแต่ก้ยังไม่มีใครล้มตายไป
“พวกเราน่าจะหนีพ้นแล้วนะ”
หลังหลบหนีกันมาอย่างยาวนาน เสียกำลังคนไปจนเกือบหมด ในที่สุดก้มองไม่เห็นคนที่ไล่ตามพวกเขามาแล้ว ทำให้ตระกูลซูหาที่ปลอดภัยเพื่อจะได้พักกันสักครู่หนึ่ง
ตอนนี้ผู้คนที่เหลืออยู่ก้จะมี ผู้ฝึกตนระดับนักรบ เจ็ดคน จากทั้งหมด สิบคน คนใช้อีกสอง และทหารที่ระดับผู้ฝึกหัดอีกห้าคน รวมกับคุณชายแล้วก้จะเป็นทั้งหมด สิบห้าคน
“เห้อ เหมือนจะรอดแล้วสินะ” ซูไห่อดที่จะระบายลมหายใจออกมาไม่ได้ แม้ภายนอกเขาจะทำเป็นเยือกเย็น แต่มันก็เป็นเพียงการแกล้งทำเท่านั้น เพื่อไม่ให้คนรอบตัวเสียขวัญกำลังใจ
การเดินทางมาครั้งนี้นับว่าขาดทุนอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว สมุนไพรที่ต้องการก้ยังหาไม่เจอ คนรับใช้ที่พามาก้ตายกันไปเป็นเบือ แถมตอนนี้ก้ไม่รู้ว่าจะออกจากป่าแห่งนี้แล้วกลับไปยังตระกูลได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
“จะตามหาสมุนไพรนั่นให้เจอดีไหมนะ ถ้าหามันเจอแล้วเอาไปมอบให้ท่านพ่อได้ มันก้น่าจะช่วยรักษาอาการที่ท่านพ่อกำลังเป็นอยู่ให้หายดีได้” ซูไห่คบคิดอยู่ในใจ
ความจริงแล้วก่อนที่การซุ่มโจมตีจะเกิดขึ้น พวกเขาก้ได้ออกค้นมาสมุนไพรมาเป็นเวลากว่าสามวันแล้ว ด้วยความที่ยิ่งค้นหาก้ยิ่งเข้าป่าลึกไปเรื่อยๆ ประกอบกับเจอการดักซุ่มโจมตีจากทุกทิศทางเยี่ยงนี้
ก็อดคิดไม่ได้ว่า ความจริงเขาถูกหลอกแล้ว
สมุนไพร มันไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกยังไงล่ะ!
“กรอด อย่าให้ข้ารอดไปได้ล่ะ ข้าจะจัดการลากคนที่บังอาจมาทำแบบนี้ออกมาจัดการให้ได้”
ด้วยความเชื่อใจแหล่งข่าว และคนของตัวเองทำให้เขาซึ่งระมัดระวังตัวมาโดยตลอดต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จนได้ พี่น้องอีกสี่คนคงจะดีใจกันไม่น้อยแน่ๆถ้าเขาตายไป
“หยุดดิ้นรนได้แล้ว...” ทันใดนั้นก้เสียงฟังดูไร้ความรู้สึกดังขึ้น พร้อมกับเงาร่างปรากฏออกมารอบบริเวณที่ตระกูลซูกำลังพักอยู่
จบครึ่งแรก
ต่อครึ่งหลัง
สิ้นเสียงดังกล่าว ก็ปรากฏร่างกลุ่มคนเกือบร้อยคนที่ใส่ชุดคลุมสีดำปกปิดใบหน้าโผล่ออกมา แต่ถึงจะปิดบังยังไง อาวุธที่ใช้และเคล็ดวิชามันก้ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของคนตระกูลซูไปได้
“ใครจ้างพวกแกมา ข้าจ่ายให้มากกว่า10เท่าเลย” ซูเกอหลี่ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าของผู้ฝึกตนตระกูลซูกล่าวออกมา
นาทีนี้ขอแค่คุณชายสามรอดไปได้เงินทองล้วนไม่ได้สำคัญเลยสักนิด
“หึหึ..พวกแกคิดว่าจะจ่ายได้รึไงของที่พวกเราได้มัน...”
แต่ยังไม่ทันที่หนึ่งในชายชุดคลุมสีดำจะพูดจบก็มีอีกเสียงขัดเอาไว้ก่อน “หุบปาก!”
“พวกแกอย่าพูดมาก มันจะทำให้เสียแผนได้”
“แต่หัวหน้า ยังไงพวกมันก็ต้องตายกันหมดอยู่แล้ว ดูหน้าพวกมันสิ ทำหน้าซื่อบื้อแบบนั้นแสดงว่าไม่รู้อะไรเลยจริงๆ” ชายคนแรกก้ยังคงกล่าวออกมา
“พวกแกต้องการอะไร บอกมาได้เลย ไม่งั้นพวกเราคงตายกันหมดไปนานแล้ว ที่ข้าพูดนั้นถูกต้องใช่ไหม”
เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกนักฆ่าเอ่ยออกมา ก้ทำให้ซูไห่ฉุกคิดขึ้นมาได้ ความจริงด้วยจำนวนคนนับร้อยแบบนี้พวกเขาทั้งหมดควรจะตายกันไปตั้งนานแล้ว แถมการโจมตีของพวกมันก็เหมือนจะเน้นการผลักดันให้พวกเขาหนีไปตามทางที่พวกมันต้องการ จนมาสิ้นสุดที่ตรงนี้ มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลยที่จะต้องทำแบบนี้ ถ้าพวกมันไม่ได้ต้องการอะไรสักอย่างจากพวกเขา
“ฉลาดแบบนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย” หัวหน้ากลุ่มนักฆ่าตอบกลับมา
“พวกเจ้าไม่จำเป็นจะต้องตาย ขอแค่ทำตามที่ข้าพูดก้พอ”
ผู้คนที่เหลืออยู่ต่างพากันโล่งอกขึ้นมานิดหน่อยเมื่อได้ยินสิ่งที่หัวหน้านักฆ่ากล่าวออกมา อย่างน้อยพวกเขาก้ยังมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ ใครบ้างล่ะที่จะอยากตาย
“ขอแค่พวกเจ้า ทำลายชีพจรลมปราณ แล้วยอมตามพวกข้าไปแต่โดยดี หลังจากผ่านไปสองปี พวกข้าก้จะปล่อยพวกเจ้าให้เป็นอิสระเอง”
“จะบ้ารึไง! ฆ่าข้าเลยดีกว่า” ทุกคนในตระกูลซูต่างเดือดดาลกันหมด การทำลายชีพจรก้เหมือนการตัดอวัยวะสำคัญของพวกเขา นอกจากจะฝึกตนต่อไปไม่ได้แล้ว มันยังกระทบกับส่วนต่างๆของร่างกายทั้งหมด ถึงจะไม่ได้หนักถึงขั้นเสียชีวิตก้ตาม
‘หรือว่า คนที่จ้างพวกมันมา’
‘ไม่สิ ต้องใช่แน่ๆ บัดซบ พวกมันถึงกับเลวทรามกันได้ขนาดนี้’
หลังซูไห่ขบคิดได้สักพัก ก้พอจะรู้ถึงสาเหตุ และ บรรดาคนที่น่าจะเป็นผู้จ้างวานออกแล้ว
“ทุกคน ใจเย็นๆก่อน ข้าว่าข้อเสนอนี้ก้ไม่เลวนะ อย่างน้อยพวกเราก้ไม่ต้องตายกันหมด” ซูไห่กล่าวออกมาเสียงดัง พร้อมกับส่งสายตาให้กับคนที่ยังเหลือรอด
“แล้วพวกข้าจะมั่นใจได้ยังไง ว่าพวกท่านจะไม่กลับคำ” ซูเกอหลี่ที่เข้าใจสิ่งที่คุณชายต้องการจะสื่อจึงรีบรับคำทันที
“พวกเราสามารถทำสัญญากันได้” หัวหน้ากลุ่มนักฆ่ายื่นสัญญาออกมา มันเป็นสัญญาที่ใช้กันทั่วไปในโลกแห่งนี้ ใครที่ผิดคำสัญญาจะถูกฟ้าผ่าตาย
“ก้ได้ เรามาทำสัญญากัน” ขณะที่กำลังพูด ซูไห่ก็ยกมือขวาขึ้นลงสองครั้ง แล้วกำมือ
ตู้ม ตู้ม ตู้ม ตู้ม
ผู้ฝึกตนทุกคนที่เหลือรอด รวมถึงตัวซูไห่ต่างแสดงเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาออกไปทันที
พรึ่บ หลังจากนั้นซูไห่ก็สบัดมือส่งแผ่นจารึกไปรอบทิศ สร้างเป็นโล่ปราการปกป้องพวกเขาเอาไว้ กลุ่มนักฆ่าที่ไม่ทันตั้งตัว ถูกเล่นงานบาดเจ็บล้มตายไปเกือบสามสิบชีวิต
“บัดซบ ทางรอดชีวิตมีให้ไม่เลือก อยากลงนรกนักก้จัดให้” หัวหน้ากลุ่มนักฆ่าโกรธจัด สั่งให้ทุกคนรุมโจมตีทันที
เคล็ดวิชาต่างๆโหมกระหน่ำมาจากทุกทิศทาง แต่โล่ปราการก้ยังไม่เป็นอะไรในตอนนี้ มีเพียงแค่แสดงวูบไหวไปมาเล็กน้อย เพราะนี่เป็นถึงแผ่นจารึกระดับสาม สมบัติชั้นยอดที่ใช้ช่วยชีวิตในยามคับขับที่ตระกูลมอบให้เขาไว้อย่างลับๆ แน่นอนบรรดาพี่น้องของพวกเขาก็น่าจะมีสมบัติที่ได้รับมาเหมือนกัน
‘หวังว่าจะมีคนมาช่วยพวกเราทัน’ ซูไห่ได้แต่คิดในใจ พลางรวบรวมลมปราณก่ออาคมขนาดเล็กที่ไว้ใช้ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ส่งสัญญาณกลับไปยังตระกูลของเขา
อาคมนี้จะต้องวาดบนพื้นดินและตั้งสมาธิให้ดี ไม่อย่างนั้นจะล้มเหลวได้ ไม่เช่นนั้นเขาคงใช้ไปตั้งนานแล้ว
“อย่างที่ผู้ว่าจ้างบอกมาไม่มีผิด เห็นทีจะเลี่ยงไม่ได้แล้ว” เมื่อหัวหน้ากลุ่มนักฆ่ากล่าวจบ มันก้เรียกมีดสั้นสีดำสนิทที่แผ่ออร่าน่าสะพรึงกลัวออกมา แล้วซัดออกไปทันที
เปรี้ยง! แคร่ก
โล่ปราการที่แทบจะไม่เป็นอะไรหลังถูกรุมโจมตีโดยกลุ่มนักฆ่า ถึงกับแตกออกในครั้งเดียว!