ตอนที่แล้วตอนที่ 27 : เพื่อนร่วมทีมที่เหมือนกันกับไฮพีเรียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29 : เวทย์รักษาของแรนช์

ตอนที่ 28 : ได้เวลาแรนช์เอาจริง


ในโลกแห่งภาพฉาย

คลื่นลมแรงพัดเข้ามาจากทางด้านอีกฝั่งของทุ่งหญ้า ส่งผลให้เมฆบนท้องฟ้าซัดตลบออกไปไกล เมฆหนาทึบค่อยๆ เคลื่อนผ่าน ราวกับว่าม่านสีขาวขนาดใหญ่เข้าปกคลุมทะเลแห่งท้องนภา

บรรยากาศบนทุ่งหญ้าเริ่มตึงเครียดทันที ราวกับว่าแม้แต่สิ่งมีชีวิตจำพวกพืชก็ยังรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น

การจู่โจมล้มเหลว และไฮพีเรียนที่ร่อนลงมาอีกครั้ง ดูเหมือนจะมีด้ายแมงมุมที่ทำจากเวทมนตร์อยู่ในมือ เธอใช้มันหยิบกริชหางแมงป่องที่ตกลงไปยังอีกฝั่งไกลๆ กลับคืนมาในทันที

สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเฟอร์ราตที่อยู่ไม่ไกลกลายเป็นมืดมนอีกครั้ง

เขามีเวทมนตร์เล็กๆ ที่สามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องร่ายคาถา

แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น

ตอนนี้มันยังติดคูลดาวน์อยู่

หากเขาไม่สังเกตการเคลื่อนไหวของไฮพีเรียนและแรนช์อย่างระมัดระวัง และถูกพวกเขาสร้างความเสียหายร้ายแรงใส่ มีความเป็นไปได้มากที่สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะชะงักงัน

สำหรับผู้เข้าสอบ.

ตราบใดที่คุณสามารถยืนหยัดได้เป็นเวลาสามสิบนาที

เท่ากับว่าคุณเป็นผู้มีคุณสมบัติ

เสียงลมโกรกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับมือใหญ่ยักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังออกแรงโบกอย่างบ้าคลั่งบนทุ่งหญ้า

ทะเลหญ้าสีเขียวม้วนตัวอยู่ใต้แรงลม ก่อตัวเป็นเกรียวคลื่นหญ้าหย่อมๆ คล้ายกับมหาสมุทรสีเขียวขจี วัชพืชปลิวว่อนไปตามสายลม ส่งเสียงกรอบแกรบเหมือนเสียงคลื่นในทะเล

ร่างเพรียวบางของไฮพีเรียนปรากฏบนทุ่งหญ้า ร่างกายของเธออยู่ในท่าเตรียมพร้อม จุดศูนย์ถ่วงเลื่อนลงต่ำ เธอดูเหมือนงูพิษที่พร้อมจะโจมตีหมายชีวิตท่ามกลางสายลมและทุ่งหญ้า

เธออาจเลือกที่จะขว้างอาวุธในมือของเธอให้กลายเป็นอาวุธลับอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้

เฟอร์ราตรู้ว่านี่คือสิ่งประดิษฐ์ของบรรพบุรุษจากตระกูลอารันซา

ตอนนี้มันตกมาอยู่ในมือไฮพีเรียนและกลายเป็นอาวุธหลักของเธอ

แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งอาวุธชิ้นนี้จะคุกคามเขา

การ์ดเวทมนตร์เกรดสูง แม้ว่าจะมีระดับต่ำ แต่การรับมือกับมันก็ค่อนข้างลำบากเล็กน้อย

……

ในเวลาเดียวกัน.

หน้าจอเวทมนตร์ที่อยู่ตรงกลางห้องประชุมของสถาบันนักปราชญ์ ยังแสดงคุณสมบัติของอาวุธชิ้นนี้ที่สามารถนำเข้าสู่โลกแห่งภาพฉายได้ —

[หางแมงป่องโลกันตร์]

[ประเภท: การ์ดอุปกรณ์]

[เกรด: สีชมพูศักดิ์สิทธิ์]

[ระดับ: 3]

[เอฟเฟ็กต์: เพิ่มโอกาสติดพิษจากการโจมตี เลือดออก อัมพาต ลดการรักษา และอาการผิดปกติอื่นๆ. สามารถใช้มานาเพื่อเรียกเก็บอาวุธจากระยะไกลได้ คูลดาวน์ 3 วินาที. สามารถบรรเทาสถานะติดพิษ สกัดพิษของเป้าหมายและเพิ่มลงในอาวุธได้ คูลดาวน์ 120 วินาที]

[หมายเหตุ: มันคือหางแมงป่องจากนรกปีศาจ]

“ก่อนที่จะได้เริ่มท้าทายโลกแห่งภาพฉาย เกือบทุกคนที่มีการ์ดเวทมนตร์ระดับล้ำค่าหรือสูงกว่านั้นล้วนเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียง”

“มือใหม่คนหนึ่งมีการ์ดเกรดสีชมพูศักดิ์สิทธิ์แถมยังเป็นการ์ดเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหมาะกับตัวเอง ต่อให้กวาดสายตามองดูโรงเรียนต่างๆ ทั่วทั้งทวีปทางใต้ก็เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นภาพเช่นนี้”

อาจารย์ในห้องประชุมมองดูอาวุธในมือของไฮพีเรียนพลางพูดคุยกันอย่างจริงจัง

การ์ดเวทมนตร์เกรดนี้ไม่สามารถประเมินค่าได้เสมอไป

แม้แต่อาจารย์หลายคนก็ยังมีแค่การ์ดสีม่วงล้ำค่าเท่านั้น

การ์ดเวทมนตร์เกรดสูงพิเศษสามารถรับได้โดยการบรรลุความสำเร็จที่สูงมากในโลกแห่งภาพฉายที่แท้จริง

อาจมีผู้สร้างการ์ดบางคนที่สร้างปาฏิหาริย์ได้โดยบังเอิญ

หรือไม่ก็อาจเป็นการ์ดจากยุคโบราณที่ไม่เคยจางหายไปในหน้าประวัติศาสตร์พร้อมกับผู้ถือ แต่ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น

“ไฮพีเรียนมีทั้งความแข็งแกร่งและคุณสมบัติเวทมนตร์ที่สูงมากในเวลาเดียวกัน แต่คุณสมบัติทางจิตและความแข็งแกร่งทางกายภาพของเธอนั้นค่อนข้างต่ำ ซึ่งหมายความว่าเธอไม่สามารถร่ายเวทย์ได้หลายครั้งแถมยังถูกทำลายได้ง่าย ดังนั้นเธอจึงใช้พลังเวทย์ทั้งหมดของตัวเองไปเพิ่มคุณสมบัติความแข็งแกร่งทางกายภาพเพื่อใช้การโจมตีทางกายภาพ”

“นอกจากอาวุธชิ้นนี้ คาถาล่องหน และการ์ดช่วยชีวิต การ์ดที่เหลือของไฮพีเรียนเป็นคาถาเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพเกือบทั้งหมด โดยพื้นฐานแล้วเธอถือว่าเป็นนักฆ่า”

“เมื่อกี้ไฮพีเรียนเกือบจะทำสำเร็จแล้ว”

“ก็ไม่แน่เสมอไป ประสบการณ์การต่อสู้และสัญชาตญาณของเฟอร์ราตถูกกำหนดไว้แล้วว่าเธอยังห่างไกลจากการคุกคามชีวิตของเขา”

เหล่าอาจารย์ที่นั่งอยู่รอบๆ โต๊ะกลมต่างก็พูดคุยสนทนากัน แต่ละคนมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป

“อันที่จริง สำหรับเธอ เธอเหมาะกับนักเวทย์สนับสนุนที่ใช้เวทย์เสริมความแข็งแกร่งมากกว่านักเวทย์ขาวที่เชี่ยวชาญด้านการรักษา”

รองคณบดีรอน ซึ่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะประชุมหลักในห้องประชุม เคาะนิ้วลงบนโต๊ะพลางแสดงความเห็นด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก   

แน่นอนว่าปืนใหญ่แก้ว[1]อย่างไฮพีเรียนไม่ใช่แทงค์ และเธอก็ไม่ต้องการการรักษามากนัก

“และถ้าแรนช์เป็นผู้อัญเชิญ มันก็น่าจะดีกว่า เนื่องจากสิ่งที่อัญเชิญออกมาส่วนมากจะใช้เพิ่มสถานะให้กับทั้งทีมได้”

โดยทั่วไปแล้วในบรรดาการ์ดเวทมนตร์ที่มีระดับเดียวกัน

[การ์ดอัญเชิญ] ใช้มานาสูงสุด [การ์ดคาถา] ใช้มานาปานกลาง และ [การ์ดอุปกรณ์] มักจะใช้มานาต่ำสุด

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม [การ์ดอุปกรณ์] ถึงได้รับความนิยมมากที่สุดในสถาบันอัศวิน

ขีดจำกัดมานาระดับสูงที่มาจากคุณสมบัติทางจิตที่สูงมากของแรนช์นั้นเพียงพอที่จะสนับสนุนให้เขาใช้การอัญเชิญได้หลายครั้ง

แม้ว่าสิ่งที่เขาอัญเชิญออกมาจะมีคุณสมบัติโดยรวมไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนื่องจากพลังเวทมนตร์ต่ำ แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะพกพาการ์ดอัญเชิญประเภทบัฟสถานะทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม

เห็นได้ชัดว่าในขณะนี้ไฮพีเรียนต้องการผู้ช่วยประเภทนี้มากกว่า

“ใช่ น่าเสียดาย”

“เรามาดูกันว่าการ์ดที่เหลือของแรนช์จะมีคาถาสำคัญๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้หรือเปล่า”

อาจารย์ทุกคนในห้องประชุมต่างก็พยักหน้าเมื่อได้ยินความคิดเห็นของรองคณบดีรอน

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าแรนช์จะมีการ์ดเกรดสูงเหมือนไฮพีเรียน แต่พวกเขาเชื่อว่าแรนช์จะต้องมีการ์ดเวทมนตร์อันทรงพลังหรือไม่ก็การ์ดอัญเชิญ ไม่เช่นนั้นคุณสมบัติทางจิตที่สูงและขีดจำกัดมานาระดับสูงของเขาคงจะสูญเปล่า

อาจารย์ส่วนมากในสถาบันนักปราชญ์

เอาเข้าจริงตอนนี้พวกเขาก็หวังว่าไฮพีเรียนและแรนช์จะสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้

เนื่องจากมือใหม่สองคนนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีคุณสมบัติที่เพียงพอในการสอบต่อสู้จริงภายใต้สภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยอย่างยิ่ง

ภายใต้สถานการณ์ปกติ มันควรจะเป็นการไล่ล่าและการต่อสู้หลบหนีที่น่าตื่นเต้นพอสมควร

อย่างไรก็ตาม.

หากพวกเขาต้องการเอาชนะเฟอร์ราตผู้อยู่ระดับห้าด้วยการเผชิญหน้า มันก็ยังขาดชิ้นส่วนปริศนามากมายเพื่อให้ได้รับชัยชนะนั้น

อันที่จริงแล้วอาจารย์หลายคนรู้เรื่องของไฮพีเรียนดี

ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น

แต่สถานการณ์การสอบเข้าในวันนี้

มันยังถูกจับตามองโดยผู้มีอำนาจบางคนที่อยู่ด้านบนสุดของอาณาจักรอีกด้วย

ไฮพีเรียนเพียงลำพังจะไม่สามารถเอาชนะเฟอร์ราตได้ แม้ว่าในเวลานี้เฟอร์ราตจะถูกห้ามร่ายคาถาและร่ายเวทย์ก็ตาม

ถ้าต้องการที่จะเอาชนะ

โอกาสเดียวที่จะชนะก็คือปัจจัยที่ไม่แน่นอนอย่างแรนช์!

มันขึ้นอยู่กับว่าเขาจะสร้างโอกาสให้กับไฮพีเรียนได้หรือเปล่า

กุญแจสำคัญคือนอกจากเวทย์รักษาจำนวนมากบนตัวแรนช์แล้ว การ์ดที่เหลืออีกสองสามใบนอกเหนือจากคาถาเงียบงันอย่าง [การสื่อสารที่เป็นมิตร] คือการ์ดอะไร?

หลังจากที่แรนช์นำ [การสื่อสารที่เป็นมิตร] ออกมา

อาจารย์ในห้องประชุมก็กำลังรอให้แรนช์แสดงความสามารถที่แท้จริงของเขา!

...

ทุ่งราบอันกว้างใหญ่ไอเลวิน ภายในโลกแห่งภาพฉายแบบจำลอง

กลางอากาศ เฟอร์ราตยืนตระหง่านราวกับเทพเจ้า จ้องมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าเย็นชา

เขาจำเป็นต้องมุ่งความสนใจไปที่ไฮพีเรียนซึ่งอยู่ใกล้เขามากกว่าและอันตรายกว่า

เขาไม่เพียงแต่ต้องตระหนักอยู่เสมอว่าเมื่อใดก็ตามที่ไฮพีเรียนออกจากสถานะร่างปลอม เธอจะเข้าสู่สถานะล่องหนและโจมตีเขาอย่างรุนแรง แต่เขายังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับแรนช์ที่อยู่ในระยะไกลเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนไหวอีกครั้ง

เฟอร์ราตไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาไม่สบายใจเล็กน้อย

แรนช์ในระยะไกลยังคงมีท่าทางสงบและมั่นคง ราวกับว่าไม่ตระหนักถึงช่วงเวลาวิกฤตเลย

เห็นได้ชัดว่าแรนช์ควรจะเป็นผู้ท้าทาย

และในฐานะผู้คุมสอบบวกกับเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก เฟอร์ราตก็คือผู้ที่ถูกท้าทาย

แต่ตั้งแต่การสอบเริ่มขึ้นจนถึงตอนนี้ สภาพจิตใจของทั้งสองฝ่ายค่อยๆ ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า

ใครกำลังท้าทายใคร?

ไม่ว่าแรนช์จะมั่นใจจริงๆ หรือแค่เสแสร้ง คนประเภทนี้ก็ทำให้เฟอร์ราตรู้สึกโกรธมาก!

(จบตอน)

[1] ปืนใหญ่แก้ว ตัวละครที่มีพลังโจมตีโดดเด่น แต่มีพลังป้องกันต่ำ

แถมให้ แทงค์ คือสายอาชีพโจมตีระยะใกล้ถึงประชิดที่เสียสละพลังโจมตีเพื่อแลกมาซึ่งการควบคุมระหว่างการต่อสู้ที่ทรงพลัง ,ตัวดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์ (ตอนหลังๆ ผมอาจจะเปลี่ยนคำว่าแทงค์เป็นนักรบสายถึก, สายรับการโจมตีนะครับ เนื่องจากถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแปลศัพท์พวกนี้ให้เป็นภาษาไทย ไม่อยากใช้ศัพท์อังกฤษสักเท่าไหร่ แต่อาจจะมีแซมมาบ้างเพราะลืม 555)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด