ตอนที่ 28 : ได้เวลาแรนช์เอาจริง
ในโลกแห่งภาพฉาย
คลื่นลมแรงพัดเข้ามาจากทางด้านอีกฝั่งของทุ่งหญ้า ส่งผลให้เมฆบนท้องฟ้าซัดตลบออกไปไกล เมฆหนาทึบค่อยๆ เคลื่อนผ่าน ราวกับว่าม่านสีขาวขนาดใหญ่เข้าปกคลุมทะเลแห่งท้องนภา
บรรยากาศบนทุ่งหญ้าเริ่มตึงเครียดทันที ราวกับว่าแม้แต่สิ่งมีชีวิตจำพวกพืชก็ยังรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
การจู่โจมล้มเหลว และไฮพีเรียนที่ร่อนลงมาอีกครั้ง ดูเหมือนจะมีด้ายแมงมุมที่ทำจากเวทมนตร์อยู่ในมือ เธอใช้มันหยิบกริชหางแมงป่องที่ตกลงไปยังอีกฝั่งไกลๆ กลับคืนมาในทันที
สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของเฟอร์ราตที่อยู่ไม่ไกลกลายเป็นมืดมนอีกครั้ง
เขามีเวทมนตร์เล็กๆ ที่สามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องร่ายคาถา
แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น
ตอนนี้มันยังติดคูลดาวน์อยู่
หากเขาไม่สังเกตการเคลื่อนไหวของไฮพีเรียนและแรนช์อย่างระมัดระวัง และถูกพวกเขาสร้างความเสียหายร้ายแรงใส่ มีความเป็นไปได้มากที่สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะชะงักงัน
สำหรับผู้เข้าสอบ.
ตราบใดที่คุณสามารถยืนหยัดได้เป็นเวลาสามสิบนาที
เท่ากับว่าคุณเป็นผู้มีคุณสมบัติ
เสียงลมโกรกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับมือใหญ่ยักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังออกแรงโบกอย่างบ้าคลั่งบนทุ่งหญ้า
ทะเลหญ้าสีเขียวม้วนตัวอยู่ใต้แรงลม ก่อตัวเป็นเกรียวคลื่นหญ้าหย่อมๆ คล้ายกับมหาสมุทรสีเขียวขจี วัชพืชปลิวว่อนไปตามสายลม ส่งเสียงกรอบแกรบเหมือนเสียงคลื่นในทะเล
ร่างเพรียวบางของไฮพีเรียนปรากฏบนทุ่งหญ้า ร่างกายของเธออยู่ในท่าเตรียมพร้อม จุดศูนย์ถ่วงเลื่อนลงต่ำ เธอดูเหมือนงูพิษที่พร้อมจะโจมตีหมายชีวิตท่ามกลางสายลมและทุ่งหญ้า
เธออาจเลือกที่จะขว้างอาวุธในมือของเธอให้กลายเป็นอาวุธลับอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้
เฟอร์ราตรู้ว่านี่คือสิ่งประดิษฐ์ของบรรพบุรุษจากตระกูลอารันซา
ตอนนี้มันตกมาอยู่ในมือไฮพีเรียนและกลายเป็นอาวุธหลักของเธอ
แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งอาวุธชิ้นนี้จะคุกคามเขา
การ์ดเวทมนตร์เกรดสูง แม้ว่าจะมีระดับต่ำ แต่การรับมือกับมันก็ค่อนข้างลำบากเล็กน้อย
……
ในเวลาเดียวกัน.
หน้าจอเวทมนตร์ที่อยู่ตรงกลางห้องประชุมของสถาบันนักปราชญ์ ยังแสดงคุณสมบัติของอาวุธชิ้นนี้ที่สามารถนำเข้าสู่โลกแห่งภาพฉายได้ —
[หางแมงป่องโลกันตร์]
[ประเภท: การ์ดอุปกรณ์]
[เกรด: สีชมพูศักดิ์สิทธิ์]
[ระดับ: 3]
[เอฟเฟ็กต์: เพิ่มโอกาสติดพิษจากการโจมตี เลือดออก อัมพาต ลดการรักษา และอาการผิดปกติอื่นๆ. สามารถใช้มานาเพื่อเรียกเก็บอาวุธจากระยะไกลได้ คูลดาวน์ 3 วินาที. สามารถบรรเทาสถานะติดพิษ สกัดพิษของเป้าหมายและเพิ่มลงในอาวุธได้ คูลดาวน์ 120 วินาที]
[หมายเหตุ: มันคือหางแมงป่องจากนรกปีศาจ]
“ก่อนที่จะได้เริ่มท้าทายโลกแห่งภาพฉาย เกือบทุกคนที่มีการ์ดเวทมนตร์ระดับล้ำค่าหรือสูงกว่านั้นล้วนเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียง”
“มือใหม่คนหนึ่งมีการ์ดเกรดสีชมพูศักดิ์สิทธิ์แถมยังเป็นการ์ดเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เหมาะกับตัวเอง ต่อให้กวาดสายตามองดูโรงเรียนต่างๆ ทั่วทั้งทวีปทางใต้ก็เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นภาพเช่นนี้”
อาจารย์ในห้องประชุมมองดูอาวุธในมือของไฮพีเรียนพลางพูดคุยกันอย่างจริงจัง
การ์ดเวทมนตร์เกรดนี้ไม่สามารถประเมินค่าได้เสมอไป
แม้แต่อาจารย์หลายคนก็ยังมีแค่การ์ดสีม่วงล้ำค่าเท่านั้น
การ์ดเวทมนตร์เกรดสูงพิเศษสามารถรับได้โดยการบรรลุความสำเร็จที่สูงมากในโลกแห่งภาพฉายที่แท้จริง
อาจมีผู้สร้างการ์ดบางคนที่สร้างปาฏิหาริย์ได้โดยบังเอิญ
หรือไม่ก็อาจเป็นการ์ดจากยุคโบราณที่ไม่เคยจางหายไปในหน้าประวัติศาสตร์พร้อมกับผู้ถือ แต่ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น
“ไฮพีเรียนมีทั้งความแข็งแกร่งและคุณสมบัติเวทมนตร์ที่สูงมากในเวลาเดียวกัน แต่คุณสมบัติทางจิตและความแข็งแกร่งทางกายภาพของเธอนั้นค่อนข้างต่ำ ซึ่งหมายความว่าเธอไม่สามารถร่ายเวทย์ได้หลายครั้งแถมยังถูกทำลายได้ง่าย ดังนั้นเธอจึงใช้พลังเวทย์ทั้งหมดของตัวเองไปเพิ่มคุณสมบัติความแข็งแกร่งทางกายภาพเพื่อใช้การโจมตีทางกายภาพ”
“นอกจากอาวุธชิ้นนี้ คาถาล่องหน และการ์ดช่วยชีวิต การ์ดที่เหลือของไฮพีเรียนเป็นคาถาเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพเกือบทั้งหมด โดยพื้นฐานแล้วเธอถือว่าเป็นนักฆ่า”
“เมื่อกี้ไฮพีเรียนเกือบจะทำสำเร็จแล้ว”
“ก็ไม่แน่เสมอไป ประสบการณ์การต่อสู้และสัญชาตญาณของเฟอร์ราตถูกกำหนดไว้แล้วว่าเธอยังห่างไกลจากการคุกคามชีวิตของเขา”
เหล่าอาจารย์ที่นั่งอยู่รอบๆ โต๊ะกลมต่างก็พูดคุยสนทนากัน แต่ละคนมีความคิดเห็นแตกต่างกันไป
“อันที่จริง สำหรับเธอ เธอเหมาะกับนักเวทย์สนับสนุนที่ใช้เวทย์เสริมความแข็งแกร่งมากกว่านักเวทย์ขาวที่เชี่ยวชาญด้านการรักษา”
รองคณบดีรอน ซึ่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะประชุมหลักในห้องประชุม เคาะนิ้วลงบนโต๊ะพลางแสดงความเห็นด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
แน่นอนว่าปืนใหญ่แก้ว[1]อย่างไฮพีเรียนไม่ใช่แทงค์ และเธอก็ไม่ต้องการการรักษามากนัก
“และถ้าแรนช์เป็นผู้อัญเชิญ มันก็น่าจะดีกว่า เนื่องจากสิ่งที่อัญเชิญออกมาส่วนมากจะใช้เพิ่มสถานะให้กับทั้งทีมได้”
โดยทั่วไปแล้วในบรรดาการ์ดเวทมนตร์ที่มีระดับเดียวกัน
[การ์ดอัญเชิญ] ใช้มานาสูงสุด [การ์ดคาถา] ใช้มานาปานกลาง และ [การ์ดอุปกรณ์] มักจะใช้มานาต่ำสุด
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม [การ์ดอุปกรณ์] ถึงได้รับความนิยมมากที่สุดในสถาบันอัศวิน
ขีดจำกัดมานาระดับสูงที่มาจากคุณสมบัติทางจิตที่สูงมากของแรนช์นั้นเพียงพอที่จะสนับสนุนให้เขาใช้การอัญเชิญได้หลายครั้ง
แม้ว่าสิ่งที่เขาอัญเชิญออกมาจะมีคุณสมบัติโดยรวมไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนื่องจากพลังเวทมนตร์ต่ำ แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะพกพาการ์ดอัญเชิญประเภทบัฟสถานะทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม
เห็นได้ชัดว่าในขณะนี้ไฮพีเรียนต้องการผู้ช่วยประเภทนี้มากกว่า
“ใช่ น่าเสียดาย”
“เรามาดูกันว่าการ์ดที่เหลือของแรนช์จะมีคาถาสำคัญๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้หรือเปล่า”
อาจารย์ทุกคนในห้องประชุมต่างก็พยักหน้าเมื่อได้ยินความคิดเห็นของรองคณบดีรอน
พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าแรนช์จะมีการ์ดเกรดสูงเหมือนไฮพีเรียน แต่พวกเขาเชื่อว่าแรนช์จะต้องมีการ์ดเวทมนตร์อันทรงพลังหรือไม่ก็การ์ดอัญเชิญ ไม่เช่นนั้นคุณสมบัติทางจิตที่สูงและขีดจำกัดมานาระดับสูงของเขาคงจะสูญเปล่า
อาจารย์ส่วนมากในสถาบันนักปราชญ์
เอาเข้าจริงตอนนี้พวกเขาก็หวังว่าไฮพีเรียนและแรนช์จะสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้
เนื่องจากมือใหม่สองคนนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีคุณสมบัติที่เพียงพอในการสอบต่อสู้จริงภายใต้สภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยอย่างยิ่ง
ภายใต้สถานการณ์ปกติ มันควรจะเป็นการไล่ล่าและการต่อสู้หลบหนีที่น่าตื่นเต้นพอสมควร
อย่างไรก็ตาม.
หากพวกเขาต้องการเอาชนะเฟอร์ราตผู้อยู่ระดับห้าด้วยการเผชิญหน้า มันก็ยังขาดชิ้นส่วนปริศนามากมายเพื่อให้ได้รับชัยชนะนั้น
อันที่จริงแล้วอาจารย์หลายคนรู้เรื่องของไฮพีเรียนดี
ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น
แต่สถานการณ์การสอบเข้าในวันนี้
มันยังถูกจับตามองโดยผู้มีอำนาจบางคนที่อยู่ด้านบนสุดของอาณาจักรอีกด้วย
ไฮพีเรียนเพียงลำพังจะไม่สามารถเอาชนะเฟอร์ราตได้ แม้ว่าในเวลานี้เฟอร์ราตจะถูกห้ามร่ายคาถาและร่ายเวทย์ก็ตาม
ถ้าต้องการที่จะเอาชนะ
โอกาสเดียวที่จะชนะก็คือปัจจัยที่ไม่แน่นอนอย่างแรนช์!
มันขึ้นอยู่กับว่าเขาจะสร้างโอกาสให้กับไฮพีเรียนได้หรือเปล่า
กุญแจสำคัญคือนอกจากเวทย์รักษาจำนวนมากบนตัวแรนช์แล้ว การ์ดที่เหลืออีกสองสามใบนอกเหนือจากคาถาเงียบงันอย่าง [การสื่อสารที่เป็นมิตร] คือการ์ดอะไร?
หลังจากที่แรนช์นำ [การสื่อสารที่เป็นมิตร] ออกมา
อาจารย์ในห้องประชุมก็กำลังรอให้แรนช์แสดงความสามารถที่แท้จริงของเขา!
...
ทุ่งราบอันกว้างใหญ่ไอเลวิน ภายในโลกแห่งภาพฉายแบบจำลอง
กลางอากาศ เฟอร์ราตยืนตระหง่านราวกับเทพเจ้า จ้องมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าเย็นชา
เขาจำเป็นต้องมุ่งความสนใจไปที่ไฮพีเรียนซึ่งอยู่ใกล้เขามากกว่าและอันตรายกว่า
เขาไม่เพียงแต่ต้องตระหนักอยู่เสมอว่าเมื่อใดก็ตามที่ไฮพีเรียนออกจากสถานะร่างปลอม เธอจะเข้าสู่สถานะล่องหนและโจมตีเขาอย่างรุนแรง แต่เขายังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับแรนช์ที่อยู่ในระยะไกลเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนไหวอีกครั้ง
เฟอร์ราตไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เขาไม่สบายใจเล็กน้อย
แรนช์ในระยะไกลยังคงมีท่าทางสงบและมั่นคง ราวกับว่าไม่ตระหนักถึงช่วงเวลาวิกฤตเลย
เห็นได้ชัดว่าแรนช์ควรจะเป็นผู้ท้าทาย
และในฐานะผู้คุมสอบบวกกับเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก เฟอร์ราตก็คือผู้ที่ถูกท้าทาย
แต่ตั้งแต่การสอบเริ่มขึ้นจนถึงตอนนี้ สภาพจิตใจของทั้งสองฝ่ายค่อยๆ ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า
ใครกำลังท้าทายใคร?
ไม่ว่าแรนช์จะมั่นใจจริงๆ หรือแค่เสแสร้ง คนประเภทนี้ก็ทำให้เฟอร์ราตรู้สึกโกรธมาก!
(จบตอน)
[1] ปืนใหญ่แก้ว ตัวละครที่มีพลังโจมตีโดดเด่น แต่มีพลังป้องกันต่ำ
แถมให้ แทงค์ คือสายอาชีพโจมตีระยะใกล้ถึงประชิดที่เสียสละพลังโจมตีเพื่อแลกมาซึ่งการควบคุมระหว่างการต่อสู้ที่ทรงพลัง ,ตัวดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์ (ตอนหลังๆ ผมอาจจะเปลี่ยนคำว่าแทงค์เป็นนักรบสายถึก, สายรับการโจมตีนะครับ เนื่องจากถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะแปลศัพท์พวกนี้ให้เป็นภาษาไทย ไม่อยากใช้ศัพท์อังกฤษสักเท่าไหร่ แต่อาจจะมีแซมมาบ้างเพราะลืม 555)