ตอนที่ 101 ได้เวลาสลับบทบาท!
ตอนที่ 101 ได้เวลาสลับบทบาท!
“อ้ากกกกกกกกก...”
นายน้อยตันส่งเสียงร้องอันโหยหวนและน่าสังเวชออกมาอย่างดัง
"ดะ...ได้โปรด…ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด"
นายน้อยตันเอามือปิดแขนของเขาโดยที่ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของเขาได้หายไปจนหมด
ลู่ชางเฉิงพูดอย่างใจเย็นว่า “ข้าได้ให้โอกาสเจ้ามาหลายครั้งแล้ว ถ้าเจ้าปล่อยข้าไปเรื่องมันก็จบแล้วแท้ๆ”
“น่าเสียดายที่เจ้าได้เลือกแบบนี้และมันบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้าแทน”
"ดังนั้นก็จงรับผลที่เจ้าเลือกซะเถอะ"
ลู่ชางเฉิงยื่นมือออกไปพร้อมกับใช้วิชาดาบเส้นด้ายหนึ่งเส้นที่ลอยออกมาจากระหว่างนิ้วของเขา
"ฉึกก"
ดาบเส้นด้ายแทงทะลุคอของนายน้อยตันทันที
นายน้อยตันอ้าปากค้างแต่ไม่มีเสียงออกมาแม้แต่นิดเดียว
"ฉูดดดดๆ"
นายน้อยตันล้มลงกับพื้น หลังจากที่กระตุกอยู่สองสามครั้ง เขาก็แน่นิ่งไป
ลู่ชางเฉิงผายมือของเขา
เมฆโลหิตขนาดใหญ่ได้เปลี่ยนเป็นดาบเส้นด้ายจํานวนมากราวกับห่าฝนและพุ่งเข้าใส่กลุ่มชายชุดดำของนิกายอสรพิษทันที
"ฉึก ฉึก ฉึก"
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะที่เหลือรอดเพียงคนเดียวกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยเข่าเดียว
ไม่ใช่ว่าเขารอดตาย แต่นี่เป็นความตั้งใจในของลู่ชางเฉิงเอง
เพราะมีบางอย่างที่เขาต้องสอบถาม
ลู่ชางเฉิงก้าวไปด้านหน้าเพื่อมาหานักศิลปะการต่อสู้ที่กำลังคุกเข่าและถามว่า "นิกายอสรพิษกําลังวางแผนล้มล้างตระกูลเซี่ยงั้นรึ?”
“ชะ..ใช่ พวกเรานิกายอสรพิษได้ตั้งเป้าไปที่การค้าเกลือของตระกูลเซี่ย พวกเราต้องการควบคุมตระกูลเซี่ยให้ได้อย่างสมบูรณ์และให้พวกเขาผลิตยาเม็ดอสรพิษให้กับนิกายอสรพิษ องเรา”
"แล้วใครกันที่เป็นต้นคิดเรื่องแบบนี้?"
"ผู้อาวุโสผู้มือขวาของท่านผู้นำและท่านผู้นำของข้า"
“ท่านผู้นำของข้า เจาวู่จีเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่ท่านผู้นำไม่ได้เป็นคนคิดเรื่องนี้ และคนที่คิดและวางแผนเรื่องนี้อย่างแท้จริงคือผู้อาวุโสผู้มือขวาหวังเฟิง มือขวาของท่านเจาวู่จี”
ลู่ชางเฉิงหรี่ตาเล็กน้อย
นักศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์รึ?
เขารู้ดีว่านิกายอสรพิษนั้นน่าเกรงขาม แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าหนึ่งในผู้อาวุโสผู้มือขวาของพวกเขาจะอยู่ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสงสัยว่าผู้อาวุโสผู้มือขวาคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน
"แล้วผู้อาวุโสผู้มือขวาของเจ้าอยู่ในขอบเขตสิบเก๋าหรือขอบเขตร้อยเก๋า?"
ลู่ชางเฉิงถามอีกครั้ง
“ข้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจมากนัก เพราะขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ในนิกายนั้นเป็นความลับสุดยอด และข้ารู้เพียงว่าผู้อาวุโสผู้มือขวานั้นทรงพลังมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาได้วางแผนการหลายอย่างในนิกาย ซึ่งผู้อาวุโสผู้มือขวาส่วนใหญ่จะเป็นคนวางแผนในเรื่องต่างๆและไม่ค่อยเคลื่อนไหว”
จากนั้นลู่ชางเฉิงจึงถามถึงฐานที่มั่นของนิกายอสรพิษในเมืองหยานเฉิง
อีกฝ่ายก็ตอบคําถามของลู่ฉางเชิงแต่โดยดี
“เจ้าให้ความร่วมมือดีมากก็จริง แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
“ข้ารู้แล้ว ถ้าจะฆ่าข้าก็ทำให้ข้าตายให้เร็วที่สุดด้วยเถอะ”
นักศิลปะการต่อสู้คนนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา เขารู้ดีว่าลู่ชางเฉิงกําลังซ่อนพลังที่แท้จริงของเขาเอาไว้และรู้ดีด้วยว่าลู่ชางเฉิงไม่สามารถไว้ชีวิตเขาไปได้
ดังนั้นเขาจึงต้องการหลีกเลี่ยงความทรมานก่อนที่เขาจะตายเท่านั้น
"จัดให้ตามคำขอ"
ลู่ชางเฉิงปล่อยดาบเส้นด้ายแทงทะลุหัวใจของคู่ต่อสู้ทันที
นักศิลปะการต่อสู้คนนั้นล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว
ลู่ชางเฉิงมองไปรอบๆซึ่งตอนนี้ป่าไผ่นั้นเต็มไปด้วยศพ และไม่มีคนอื่นนอกจากเขาที่ยังมีชีวิตอยู่เลยสักคนเดียว
แม้ว่าจะไม่มีใครรอดตาย แต่เขาได้เปิดเผยตัวเองแล้วในครั้งนี้
ตราบใดที่ผู้คนจากนิกายอสรพิษได้รู้ว่าคนที่พวกเขาส่งมาได้ตายไปแล้ว พวกเขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าลู่ชางเฉิงเป็นคนที่ฆ่าพวกเขา
เพราะการที่ทุกคนที่นี่ตายหมดยกเว้นลู่ชางเฉิง แม้แต่เด็กสามขวบก็ยังรู้ว่านี่มันแปลก
“ฮึๆๆ ดูเหมือนว่าข้าคงต้องเข้าสู่บทบาทของจวงซี่หนานซะแล้วสินะ?”
“ผู้กอบกู้จวงซี่หนานที่บังเอิญได้พบกับวายร้ายจากนิกายอสรพิษที่กำลังทำร้ายหมอลู่ชางเฉิงและทำการกวาดล้างเหล่าวายร้ายหลายสิบคนจากนิกายอสรพิษ”
ลู่ชางเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “จวงซี่หนาน เข้ามาแทรกแซงเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจึงดึงดาบของเขาออกมาช่วย เอาล่ะแบบนี้น่าจะไปได้สวย!”
เพราะถึงยังไงก็ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่า 'จวงซี่หนาน' จะเข้ามาแทรกแซงเพื่อช่วยลู่ชางเฉิงจริงๆ
ดังนั้นลู่ชางเฉิงยังคงปรับแต่ง "เรื่องราว" ต่อไป
“จวงซี่นาน ดูหมิ่นนิกายอสรพิษและแทรกซึมเข้าไปในนิกายเพียงลําพัง ก่อนที่จะสังหารผู้นำนิกายอสรพิษและสังหารผู้อาวุโสมือขวาของนิกายอสรพิษ ก่อนที่จะทําลายฐานของนิกายอสรพิษในเมืองหยานเฉิง”
ดวงตาของลู่ชางเฉิงเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
“นี่แหละสมบูรณ์แบบ!”
ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ชางเฉิงยังสามารถทําให้มันดีกว่านี้มากขึ้นได้ โดยปล่อยทำให้เมืองหยานเฉิงทั้งเมืองได้รู้ถึงการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ระหว่าง จวงซี่หนาน และ นิกายอสรพิษ
เพราะตอนนี้ชื่อของ 'จวงซี่หนาน' ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหนานหยางแล้ว
แม้ว่านิกายอสรพิษจะเข้ามาตรวจสอบในภายหลัง พวกเขาก็จะมุ่งเน้นไปที่ 'จวงซี่หนาน' เท่านั้น และไม่มีอะไรสาวไปถึงลู่ชางเฉิงได้
เมื่อคิดได้แบบนี้ ลู่ชางเฉิงจึงเข้าไปในป่าไผ่ทันที หลังจากที่จัดการตัวเองอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง เขาได้แปลงโฉมและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและเข้าสู่บทบาทของจวงซี่หนาน!
“เอาล่ะ ต้องรีบสักหน่อยแล้ว”
ลู่ชางเฉิงไม่รีรออีกต่อไปและมุ่งหน้ากลับไปที่เมืองหยานเฉิงทันที
แต่ครั้งนี้เขาได้เปลี่ยนตัวตนของเขา
หลังจากที่ออกมาจากเมืองหยานเฉิง เขาคือหมอลู่ชางเฉิง และตอนนี้เข้ากำลังกลับไปที่เมืองหยานเฉิงในบทบาทของจวงซี่หนาน!