Chapter 299 สร้างปาฏิหาริย์.
ใครจะคิดว่าเพียงแค่อาวุธจะทรงพลังเอาชนะอีกฝ่ายได้ ต้องไม่ลืมว่าความแข็งแกร่งของอีกฝั่ง มีระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย
ทว่าด้วยการใช้พลังพิเศษวิญญาณปราชญ์ยุทธ์ออกมาก็เท่านั้น!
ไม่ผิด.
กล้าประลองกับข้า คิดว่าตัวเองได้เปรียบแค่เพียงฝ่ายเดียวรึ?
เมื่อไหร่ที่เหล่าจื่อเปิดใช้งานพลังพิเศษ สามารถสังหารได้แม้แต่สัตว์ร้ายอสูรศิลาที่หายากได้ ตอนนี้ข้าอยู่ในระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นที่สองแล้ว คิดว่าจะไม่สามารถจัดการบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายได้อย่างงั้นรึ?
“ฟู่ ฟู่!”
ด้วยจิตวิญญาณของปรมาจารย์กวน ทำให้ดาบของจุนซ่างเซียวที่โจมตีออกมานั้น ส่องประกายแสงสว่างจ้าปกคลุมลานยุทธ์ อำนาจอันเที่ยงธรรมที่หนักหน่วงรุนแรงระเบิดพวยพุ่ง.
แก๊ก แก๊ก แก๊ก----
เสียงแตกร้าวที่แพร่ออกไป สัมผัสได้ราวกับว่าห้วงอากาศแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ!
โอ้วสวรรค์!
แววตาของทุกคนที่ตะลึงงัน จองมองด้วยความหวาดกลัวออกมา.
ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งที่จ้องมองกันและกันด้วยความหวั่นเกรงออกมาด้วย.
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เย่ซิงเฉินที่ตกใจอย่างหนัก.
ร่างจิตวิญญาณด้านหลังของเจ้าสำนักนั่น ทำให้เขาต้องอุทานออกมา “นี่มัน....วิญญาณเทียม(อาติแฟค)?”
อาวุธที่มีเชาว์ปัญชาเป็นของตัวเอง ซึ่งด้านในนั้นจะเป็นที่สถิตของวิญญาณเทียม.
อาวุธประเภทนี้นั้น เหมือนกับสัตว์ร้ายมาตา เพียงแต่รากฐานต่างกัน นี่คืออาวุธที่หาได้ยากยิ่ง ส่วนมากแล้วจะอยู่ในมือของสุดยอดผู้เยี่ยมยุทธ์เท่านั้น!
เจ้าสำนักกลับมี.
เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจต่ออดีตราชันย์รัตติกาลแน่นอน!
“แย่แล้ว!”
เจ้านิกายหวงที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
ริ้วแสงสีเขียวที่พวยพุ่งโจมตีเป็นพื้นที่กว้าง ขัดขวางการหลบหลีกของเขาอย่างสมบูรณ์ ไม่มีพื้นที่ให้หลบเลย!
รัศมีการโจมตีที่กว้าง ขนาดนี้ ไม่มีพื้นที่ใดให้เขาหลบแล้ว!
ความแข็งแกร่งที่ระเบิดพุ่งออกมานั้น ทำให้ทุกคนที่อยู่ไกลออกมายังเย็นยะเยือบที่กลางหลัง พลังที่มากกว่า 600,000 จินแน่นอน.
ไม่สามารถหลบได้!
การโจมตีนี้ ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บเท่านั้น!
พริบตาที่ครุ่นคิด เจ้านิกายหวงก็ตัดสินใจ อย่างถูกต้อง เขาที่ถอยหลัง เพื่อลดแรงปะทะ หาจุดที่มีพลังโจมตีอ่อนลง.
ทว่า....
การหลบของเขาได้ไปที่ขอบลานยุทธ์ ปราณสีเขียวที่เชี่ยวกรากนั้น ไม่ได้อ่อนแอลงเลย แม้แต่จุดเดียว ซ้ำยังทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ.
หากเป็นคนอื่น ย่อมเกิดความสับสน.
ทว่าเขาคือเจ้านิกายเซิ่งชวน กว่าจะก้าวมาถึงระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย ได้ผ่านประสบการณ์เสียเปรียบมามากมาย สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เขายังคงใจเย็นสุขุมตะโกนออกมาเสียงดัง “คันฉ่องสะกดขุนเขา!”
“วูซซซซ!”
ที่ด้านหน้าของเขานั้น ห้วงมิติที่สั่นไหวเลือนลาง กระจกขนาดเท่ากับฝ่ามือปรากฏขึ้น ส่องประกายแสงวับวาว สร้างม่านพลังที่แข็งแกร่งขึ้น!
ต่อหน้าปราณดาบที่น่าหวาดกลัว เจ้านิกายหวงยินยอมเสียสละ ของวิเศษป้องกัน ระดับสูงขั้นต้นทันที.
เหล่ายอดฝีมือแทบจะทุกคน ย่อมมีอุปกรณ์ระดับสูงอยู่กับตัว ทว่าสิ่งที่มีพลังพิเศษนั้นล้วนแต่หากยากกันทั้งนั้น!
“ตูมมมม!”
แสงที่สว่างระยิบระยับ พลังของจิตวิญญาณปราชญ์ยุทธ์ที่แผ่แสงสีเขียว เปี่ยมด้วยทำลายล้าง ปะทะกับม่านพลังป้องกันของคันฉ่องสะยบขุนเขาทันที.
ครืนนนนนน!
เพียงแค่เสี้ยวลมหายใจ ทุกอย่างก็พังทลายลง.
คันฉ่องสยบขุนเขาที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศมืดลง ไร้ซึ่งพลังล่วงหล่นลงไปบนพื้น.
ม่านพลังที่แตกสลาย เจ้านิกายหวงที่ใช้จิตควบคุม เสียการควบคุมไปแล้ว ร่างกายที่ถูกผลักถอยออกไปอีกหลายสิบก้าว ท้ายที่สุดก็หลุดออกนอกเวที ไม่สามารถบังคับร่างกายตัวเองได้เลย พร้อมทั้งพ่นโลหิตออกมาคำโต.
ปราณดาบสีเขียว แม้นว่าคันฉ่องสยบขุนเขาจะสามารถต้านพลังที่หนักหน่วงเอาไว้เกือบหมด ทว่าม่านพลังก็แตกสลายแหลกเป็นเสี่ยง ๆ เช่นกัน.
ทุกคนทั่งนิกายเซิ่งชวนกลายเป็นเงียบกริบ!
เหล่าผู้ชมชาวยุทธ์ที่อ้าปากค้าง แววตาที่ตื่นตกใจอย่างหนัก.
เจ้านิกายได้นำคันฉ่องสยบขุนเขาออกมา ยอดของวิเศษไม่เพียงแค่ถูกทำลาย ยังทำให้เจ้านิกายบาดเจ็บอีก น่ากวาดกลัวเกินไปแล้ว!
“อึก อึก!”
ผู้นำฉินที่อดไม่ได้ ต้องกลืนน้ำลายลงคอ ใบหน้าซีดขาว สั่นสะท้านขนลุกตั้งชูชัน.
เดิมทีแล้ว คนผู้นี้ก็มีไพ่ตายที่ร้ายกาจเอาไว้อยู่แล้ว หากเขาใช้เมื่อครั้งที่อยู่ที่สำนักเห่าฉีล่ะก็ อ๊า ถึงมีเก้าชีวิตก็ไม่พอ!
ผู้นำฉินที่รู้สึกกลัว เข้าไปจนถึงส่วนลึกในใจ.
ดาบที่จุนซ่างเซียวฟันออกไปเมื่อครู่ ทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน หวั่นเกรงไปตาม ๆ กัน!
หม่าหยุนเถิงและหวังตงหลินที่ยืนงงเป็นไก่ไม้.
ชั่วระยะเวลานั้น พวกเขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมเจ้าสำนักจุนกล้ายอมรับการท้าท้าย แท้จริงแล้วก็มีไพ่ตายที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้อยู่นั่นเอง!
แน่นอน.
ทั้งคู่ได้คาดเดาได้เหมือนกันกับเย่ซิงเฉิน.
ดาบยาวมังกรเขียว ภาพเงาที่น่าเกรงขามที่ถูกเปิดใช้งานนั่น ก็คือจิตวิญญาณเทียม!
อาวุธเช่นนี้หายากยิ่งกว่าคันฉ่องสยบขุนเขาซะอีก.
อาวุธที่ถูกเรียกว่าจิตวิญญาณเทียมนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1/10,000 จากสุดยอดของวิเศษที่ปรมาจารย์ค่ายกลสลักลงบนอาวุธเพื่อสร้างของวิเศษขึ้นมา.
“ฟู่ ฟู่!”
ภาพเงาของปรมาจารย์กวนที่ค่อย ๆ หายไป คืนกลับเข้าไปในดาบยาวมังกรเขียว.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้านิกายหวง เจ้าปล่อยให้ข้าชนะแล้ว!”
เมื่อเปิดใช้งานจิตวิญญาณปราชญ์ยุทธ์ เขาได้ผลักให้เจ้านิกายหวงล่วงหล่นลงเวที ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เขาได้รับชัยชนะ!
นอกจากนี้ เพราะว่าเขาแข็งแกร่งขึ้น แม้นว่าพลังพิเศษคืนกลับ เจ้าสำนักจุนก็ไม่เหนื่อยล้าจนกลายเป็นอัมพาตต้องยืนกล้ามเนื้อแข็งเหมือนเมื่อครั้งก่อนด้วย.
“ติ๊ง! สำเร็จภารกิจลับ【กลับแพ้เป็นชนะ】ได้รับแต้มสนับสนุน 500”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนัก : 3705 / 2000.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนักเกิน.........”
“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์ที่สำเร็จภารกิจลับ【กลับแพ้เป็นชนะ】ได้รับรางวัลลับ น้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ระดับสุดยอด ถูกส่งเข้าไปในแหวนเก็บของแล้ว.”
จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม.
กับความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน เขาสามารถเอาชนะบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายได้ ไม่เพียงแค่ได้รับ 500 แต้มสนับสนุน ยังได้รับน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ระดับสุดยอด ทำให้เขารู้สึกยอดเยี่ยมสุด ๆ.
นิกายเซิ่งชวน.
นี่มันแดนสวรรค์ชัด ๆ!
“เฮ้อ.”
เจ้านิกายหวงที่ถอนหายใจ กล่าวพร้อมยกมือประสานไปด้านหน้า “เจ้าสำนักจุนยังหนุ่ม กับร้ายกาจถึงเพียงนี้ เปิ่นจั้วชื่นชมนัก.”
แม้นปากจะเอ่ยด้วยความยินดี หากแต่ภายในใจไม่อยากยอมรับแม้แต่น้อย.
หากสู้กันอีก เขาสามารถใช้อาวุธได้ล่ะก็ เขาย่อมมั่นใจว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้แน่.
น่าเสียดาย ตั้งแต่แรกแล้วเป็นเขาเองที่ได้ประกาศว่าจะใช้มือเปล่า ตอนนี้คงทำได้แค่ยอมให้อีกฝ่ายเท่านั้น.
“จุนโหมวขอลา!”
จุนซ่างเซียวที่ยกมือประสานอก ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป และยังลอบภาวนา “ไม่มีใครขัดแล้วนะ ห้ามมาท้าข้าอีก ตอนนี้ข้าเริ่มจะไม่ไหวแล้ว อ๊าก!”
เขาที่หมดแรงอย่างมาก ไม่สามารถพักเพียงชั่วครู่แล้วจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้.
หากก่อนหน้านี้คนที่ประลองยังเป็นแค่อาวุโส คงจะมีอาวุโสบางคนเสนอหน้าออกมาแน่.
ทว่าตอนนี้ไม่มีอาวุโสคนใหนสู้เขาได้จึงไม่มีใครกล้าออกมาแล้วนั่นเอง.
จุนซ่างเซียวที่นำศิษย์ก้าวออกไปจากสายตาของผู้ชมชาวยุทธ์ทุกคน ขณะที่เขากำลังจะพ้นสายตาของคนอื่น ๆ.
“กึก!”
เสียงเพลงก็ดังขึ้น ดังก้องไปทั่วเทือกเขาเซิ่งชวน.
“♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩ อย่าหาว่าฉันเป็นเพียงแกะ แกะอย่างฉันก็มีมันสมอง วันใหนที่ฉันคึก ฉันก็ไล่คว้าดวงตะวัน..... ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩”
https://www.youtube.com/watch?v=Znd4dNz_nR0
แม้นว่าเพลงจะดูเด็กอนุบาลเป็นอย่างมาก ทว่ากับดูเข้ากับเรื่องในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะว่าพวกเขาที่ก้าวเข้ามาในนิกายเซิ่งชวน จุนซ่างเซียวและศิษย์ ทุกคนต่างก็คิดว่าพวกเขาเป็นเพียงแกะ ที่จะถูกหมาป่าขย้ำ ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะรอดกลับไปได้.
ทุกคนที่ฟังเพลงไม่เข้าใจนัก ทำให้พวกเขาได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไร.
ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมง.
สำนักไท่กู่เจิ้งและนิกายเซิ่งชวนประลองกันไป 74 คู่.
นับตั้งแต่ศิษย์สายนอก ศิษย์สายใน ศิษย์สายตรง อาวุโสไปจนถึงเจ้าสำนัก ด้วยการสามารถเอาชนะได้ทั้งหมด นับได้ว่าครั้งนี้ได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นแล้ว!
คงไม่ต้องบอก.
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปเมื่อไหร่ คงจะกลายเป็นที่กล่าวขานทั่วทุกสารทิศแน่!
ในเวลานี้มีหลายคนที่รู้สึกพึงพอใจที่ได้กลายเป็นพยานบอกกล่าวว่า สำนักระดับเจ็ดได้มาสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นที่นี่แล้ว!
“เออใช่.”
ก่อนที่จะก้าวพ้นประตูหน้า จุนซ่างเซียวที่หยุดชะงักชั่วครู่ กล่าวออกมาด้วยเสียงอันดัง “สำนักไท่กู่เจิ้งของข้า รับสมัครศิษย์ทุกคน หากว่าใครต้องการเปลี่ยนสำนัก!”
ทุกคนที่มุมปากกระตุก.
เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งช่างว่ากล่าวอย่างไร้ยางอาย พูดจายโสโอหังจริงๆ!