ตอนที่แล้วChapter 296 เจ้านิกายเซิ่งซวน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 298 เจ้ากล้าที่จะต่อสู้กับข้าไหม!

Chapter 297 บรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย ทรงพลังจริง ๆ.!


ซีจิงเสวียนขณะจะก้าวออกไป เตรียมที่จะเอ่ยปากช่วยจุนซ่างเซียว ก็ได้ยินเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้น “เจ้านิกายหวง ไม่จำเป็นต้องสู้วันหลังหรอก ในเมื่อต้องการสู้ ก็สู้ตอนนี้เลย.”

เขา!

ยอมรับการประลอง!

สายตาของทุกคนที่เบิกกว้างกลมโตขึ้นมาในทันที.

เจ้านิกายเซิ่งชวนมีพลังบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย อยู่ห่างจากกษัตริย์ยุทธ์เพียงก้าวเดียวเท่านั้น เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งมีระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นที่สอง กลับกล้ารับการประลอง นี่ไม่ต้องบอกเลยว่ามีความกล้ามากมายขนาดใหน!

ในเวลานั้น.

เหล่าผู้ชมชาวยุทธ์ที่เผยท่าทางชื่นชม.

หากเป็นพวกเขา ไม่ต้องเอ่ยเลยว่ามีพลังบ่มเพาะบรรพชนยุทธ์ขั้นที่สอง ถึงจะเป็นบรรพชนยุทธ์ขั้นเก้าก็ไม่มีใครกล้ารับคำท้าทายบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายหรอก!

หม่าหยุนเถิงและหวังตงหลินที่ต้องการช่วยจุนซ่างเซียวเวลานี้ถึงกับมุมปากกระตุก.

เจ้าสำนักจุนของข้า.

เจ้ายอมรับการประลองของอาวุโสจิน พวกข้ายังพอเข้าใจได้.

ทว่าการยอมรับประลองกับบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายครั้งนี้ บ้าบิ่นไปหรือไม่?!

ทำไม?

เพราะทั้งสองรู้ดี เจ้านิกายเซิ่งชวนนั้นเป็นบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายระดับสุดยอด ความแข็งแกร่งอย่างเดียวก็มากกว่า 450,000 จินแล้ว.

จุนซ่างเซียวที่ปลดปล่อยพลังออกมาก่อนหน้านี้ น่าจะมีพลังอยู่ที่ 350,000 จิน พลังทั้งคู่ต่างกันหนึ่งแสนจิน แล้วจะสู้กันอย่างไร?

บางคนอาจจะคิดว่าเพียงแค่ 100,000 จิน หากแต่ปัญหามันไม่ได้อยู่เพียงเท่านั้น.

อาวุโสจินและเจ้าสำนักจุนมีพลังต่างกันเพียง 20,000-30,000 จิน ผลการต่อสู้ก็แทบบอกได้ชัดเจนว่าใครจะชนะ เวลานี้ห่างถึง 100,000 จิน ก็มีแต่ความพ่ายแพ้ที่รออยู่.

ซีจิงเสวียนที่นิ่งงัน ลูบผมที่ดำเงาของนาง เผยยิ้มพราย “นี่เจ้าสำนักจุนจะสู้งั้นรึ?.”

เหม่ยเอ๋อ “......”

นางที่งงงันไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะบ้าบิ่นถึงเพียงนี้.

ไม่ น่าจะเรียกว่าบ้าคลั่งมากกว่า.

“ชิ.”

ศิษย์ของนิกายไป๋เหอเซิ่งเอ่ยออกมาเบา ๆ “บ้าบิ่น ไม่รู้จักประมานตน.”

เมื่อครั้งจุนซ่างเซียวรับคำท้าอาวุโสจิน นางก็เอ่ยไปแล้วครั้งหนึ่ง น่าเสียดายที่ทำให้นางรู้สึกอับอายกับคำพูดดังกล่าว.

ครั้งนี้เอ่ยกล่าวไม่ประมานตนอีก อธิบายได้ว่านางมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเอาชนะเจ้านิกายเซิ่งชวนได้แน่ นางจึงไม่ลังเลที่จะกล่าวซ้ำอีกครั้ง.

บรรพชนยุทธ์ขั้นที่สองท้าประลองกับยอดฝีมือที่ใกล้จะเป็นกษัตริย์ยุทธ์แล้ว จะคิดอย่างไร ก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้.

เจ้านิกายเซิ่งชวนเอ่ย “เจ้าสำนักจุนรับปากแล้ว อาวุโสนิกายเขาซ่างซานมีความเห็นหรือไม่?”

หม่าหยุนเถิงและหวังตงหลินที่กลายเป็นเงียบงัน.

ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการที่จะถูกรังแกเอง พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้.

“เจ้านิกายหวง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “การต่อสู้ในครั้งนี้ ท่านมีความแข็งแกร่งมากกว่าข้า ไม่รู้ว่าข้าใช้อาวุธได้หรือไม่?”

การต่อสู้กับบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย เขาไม่คิดที่จะชนะได้ด้วยหมัดอยู่แล้ว มีเพียงแต่ใช้อาวุธ ดาบยาวมังกรเขียวเท่านั้น!

เจ้านิกายเซิ่งชวนเอ่ย “เจ้าสำนักจุนสามารถใช้อาวุธได้ เปิ่นจั้วจะใช้มือเปล่า.”

“ตกลง.”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดตอนแรก ว่าพวกเขาต่างใช้อาวุธได้ แต่เจ้าบอกจะใช้มือเปล่าเอง แน่นอนว่าข้าย่อมยินดีน้อมยอมรับ.

จากนั้น.

เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งและเจ้านิกายเซิ่งชวนได้ก้าวไปยังกลางลานยุทธ์.

“เจ้านิกายหวง ยังไงก็เป็นบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย เจ้าสำนักจุนถึงจะใช้อาวุธ แต่ช่องว่างที่ต่างกันนั้น ไม่มีทางที่จะถมให้เต็มได้!”

“นิกายเซิ่งชวนแพ้มากเกินไป ทำให้เจ้านิกายได้แต่ต้องลงมือเอง เพื่อกู้หน้าคืนมาบ้าง!”

“เจ้าสำนักจุน ถึงไม่สามารถชนะได้แต่ก็คงมีชื่อเสียงที่ไม่ธรรมดาแน่.”

ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าเหล่าผู้ชมชาวยุทธ์ที่ดูเหมือนว่าจะเชียร์ฝั่งเจ้าสำนักจุน.

ในทวีปชิงหยุนแห่งนี้ ชาวยุทธ์ย่อมเทิดทูนคนที่แข็งแกร่ง.

สำนักระดับเจ็ดท้าทายนิกายระดับห้า ต่อสู้ 73 ครั้งไม่แพ้เลย กับชัยชนะที่ผ่านมาก็เพียงพอ ที่จะเพียงพอให้พวกเขานับถือได้แล้ว.

ทว่า.

การต่อสู้กับเจ้านิกายเซิ่งชวน เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะชนะ แต่ความกล้าหาญของจุนซ่างเซียวก็ทำให้พวกเขารู้สึกชื่นชมอย่างแท้จริง.

......

บนลานยุทธ์ ขณะที่ทั้งสองประจำที่.

เจ้านิกายหวงเอ่ยกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “เจ้าสำนักจุน เชิญเผยอาวุธของท่าน.”

จุนซ่างเซียวสะบัดมือ ห้วงอากาศที่สั่นไหว ปรากฏดาบยาวมังกรเขียวขึ้นมา.

ใบหน้าของฉินเห่าหรานที่ซีดลงไปทันที รู้สึกคันหลังยิบ ๆ.

ที่สำนักเห่าฉี เขาถูกฟันที่กลางหลังด้วยดาบยาวดังกล่าว ความเจ็บนั่น เขาไม่มีทางลืม!

“เป็นดาบที่ดี.”หม่าหยุนเถิงกล่าวชม.

หวังตงหลินเคยเห็นดาบยาวมังกรเขียวมาก่อน อาวุธนี้จุนซ่างเซียวเอาชนะฉินเห่าหรานมาก่อน ทว่าตอนนี้เขาที่ส่ายหน้าไปมา “ความแข็งแกร่งแตกต่างกันมาก ยากที่จะแทนที่ด้วยอาวุธ.”

“เจ้าสำนักจุน.”

เจ้านิกายหวงเผยยิ้ม “บางทีดาบของท่าน คิดว่ามีคุณภาพไม่ต่ำกว่าอาวุธระดับสูงขั้นสูง.”

ระดับสูงขั้นสูงรึ?

แววตาของทุกคนที่เผยความประหลาดใจออกมา.

เหล่าบรรพชนยุทธ์มีอาวุธระดับสูงขั้นต้นก็ยอดเยี่ยมแล้ว นี่เขามีอาวุธระดับสูงขั้นสูงเลยรึ?!

น่าอิจฉา.

น่าอิจฉาเกินไปแล้ว!

จุนซ่างเซียวเอ่ย “คงเป็นเช่นนั้น.”

เกี่ยวกับดาบยาวมังกรเขียวมีระดับใดนั้นเขาเองก็ไม่รู้ ทว่าระบบเอ่ยว่าเป็นอาวุธที่แข็งแกร่ง มันก็ควรจะแข็งแกร่ง.

หนำซ้ำ.

หลังจากที่เขาตัดผ่านระดับไปยังบรรพชนยุทธ์ขั้นที่สอง การถือจับดาบยาวมังกรเขียวครั้งนี้ รู้สึกเบาสบายเป็นอย่างมาก.

ระบบเอ่ย “ความแข็งแกร่งขั้นต่ำในการถืออาวุธคือ 150,000 จิน ตอนนี้โฮสน์มีความแข็งแกร่ง 330,000 จิน จึงมีพลังเพียงพอที่จะใช้งานได้อย่างเบาสบาย.”

“เจ้านิกายหวง.”

จุนซ่างเซียวที่ถืออาวุธของปรมาจารย์กวน รู้สึกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ลุกโชนขึ้นอย่างรุนแรง “พวกเรามาเริ่มกันเถอะ!”

“เชิญ.”

เจ้านิกายหวงเอ่ย “เปิ่นจั้วให้เจ้าลงมือก่อนหนึ่งกระบวนท่า.”

ใช้มือเปล่า และให้จุนซ่างเซียวเคลื่อนไหวก่อนหนึ่งกระบวนท่า เพื่อบอกให้กับชาวยุทธ์ว่า ตัวเองไม่ได้ใช้พลังที่เหนือกว่าข่มเหงผู้อ่อนแอ.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่ไม่ปฏิเสธ ก้าวออกไปด้วยท่าเท้าเหยียบเมฆา จากนั้นก็ลอยขึ้นสูง พร้อมกับฟันดาบยาวมังกรเขียวลงมา ตระโกนเสียงดัง “สะบั้นเขาหัวซาน!”

เรื่องนี้ปรมาจารย์กวนเคยทำอย่างงั้นรึ????!

ซูมมม ซูมมมม-

ริ้วแสงสีเขียวที่ระเบิดออกมา พลังที่มากกว่า 400,000 จินปะทุกรีดอากาศดังหวีดหวิว!

เป็นความจริง เมื่อจุนซ่างเซียวมาถึงบรรพชนยุทธ์แล้ว พลังที่เพิ่มขึ้น ทำให้กระตุ้นพลังของอาวุธได้รุนแรงขึ้น.

“ซูมมมมมมมมม!”

ริ้วดาบยาวสีเขียวที่สะบั้นอากาศ พัดกวาดออกไปรอบ ๆ คลื่นสนามวายุที่พัดวนกวามดม้วนออกไปอย่างรุนแรง ทำให้ผู้คนรอบ ๆ ตื่นตกใจ.

ดาบเล่มนี้ น่าเกรงขามไปแล้ว!

เจ้านิกายหวงที่ยังคงสุขุม ตะวัดแขนเสื้อออกไป รวมพลังวิญญาณขึ้นกลางอากาศ กลายเป็นหมัดอากาศที่ใหญ่โตพุ่งออกไปทันที.

“ตูมมมมมมมมมมมม!”

หมัดอากาศปะทะกับปราณดาบ ระเบิดหายไปทั้งคู่!

พลังที่สะลายผลักกวาดออกไปรอบ ๆ ทันที คลื่นพลังที่สั่นเขย่าสนาม ไปมา เวทีประลองเกิดเป็นรอยแยก!

“ผ่านกู๋เปิดสวรรค์!”

ในเวลานี้ จุนซ่างเซียวที่ร่อนลงพื้น ง้างดาบฟันออกไปอีกครั้ง พลังที่หนักหน่วงรุนแรงระเบิดออกไปทันที.

กวนอู๋เกี่ยวไรกับผ่านกู๋....เปิดสวรรค์อะไร? พูดไร้สาระ คิดว่าข้าจะทำการเปิดสวรรค์ได้รึไง?!

จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้ฝึกทักษะดาบ ทว่าการฟันของเขาอาศัยพลังอย่างเดียวล้วน ๆ ฟันออกไปด้วยกลิ่นอายจากดาบยาว.

“วีด ซูมมมมม!”

ดาบที่สองที่ปรากฏริ้วแสงสีเขียว ทำให้เจ้านิกายหวงใบหน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน ก่อนที่เขาจะสะบัดฟาดฝ่ามือออกไป พลังวิญญาณรวมตัวกันเป็นม่านพลังป้องกัน.

“ตูมมมมมมมมมมมมมมมม!”

ปราณดาบฟันไปยังม่านพลังป้องกัน สั่นไปมาเล็กน้อยก่อนที่จะพังทลายลง.

“แฮกกก ๆ!”

เหล่าผู้ชมชาวยุทธ์ที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้าไป.

ม่านพลังป้องกันของเจ้านิกายหวงสร้างขึ้น คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกปราณดาบฟันจนพังทลาย นี่มันต้องน่าเกรงขามขนาดไหน!

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่พุ่งเข้าไป เหวี่ยงฟันดาบยาวออกไปอีกหลายครั้ง พร้อมกับตะโกนเสียงดัง “อุ่นเหล้าสังหารฮัวหยง  ทำสาบานสัญญาสามข้อ  ฝ่าห้าด่านสังหารหกขุนพล!”

ตูมมม!

ตูมมม!

ตูมมม!

ปราณดาบที่รุนแรงสามเส้นพุ่งตัดออกไป เจ้านิกายหวงที่สร้างม่านพลังป้องกัน เกิดระเบิดดังลั่นพังทลายลงอันแล้วอันเล่า.

ดาบเล่มนี้ทรงพลังมาก.

หากเอาแต่ป้องกันได้ คงไม่สามารถโจมตีได้เช่นกัน!

เจ้านิกายหวงที่ขยับใช้ท่าเท้าที่ร้ายกาจ อ้อมวนไปด้านหลังจุนซ่างเซียว พลังวิญญาณที่ปะทุดังโหยหวนรวมตัวกัน สร้างฝ่ามือยอดผนึกรวมวิญญาณขึ้นมาในทันที!

ถึงจะเป็นอาวุโสจิน ก็ทำได้แค่รวมพลังสร้างฝ่ามือบนท้องฟ้าเท่านั้น.

หากแต่เจ้านิกาย สามารถสร้างมันขึ้นมาได้เลย ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใด เพราะเขาสำเร็จวิชานี้ขั้นสุดยอดแล้ว!

“ไม่ได้การแล้ว!”

จุนซ่างเซียวไม่มีเวลาให้หลบ ทำได้แค่สร้างม่านพลังผนึกเจี่ยหยินเข้าต้านการโจมตีดังกล่าว.

ตูมมม ----

พลังที่หนักหน่วงกว่า 500,000 จิน เสียงดังกึกก้อง ปะทะม่านพลังป้องกัน จุนซ่างเซียวที่ได้แต่ถือดาบยาวมังกรเขียวถูกผลักให้ถอยออกไปสองสามก้าว.

ในเวลาเดียวกัน เจ้านิกายหวงที่โจมตีซ้ำมาอีกครั้งทันที ฝ่ามือซ้ายขวาของเขาที่ปลดปล่อยฝ่ามือใหญ่ยักษ์ออกมาพร้อมกับ สองยอดผนึกฝ่ามือรวมวิญญาณ.

ตูมมม! ตูมมม!

เจ้าสำนักจุนไม่สามารถยืนให้ตรงได้เลย ม่านพลังของเขาที่สั่นไหวปริแตกพังออกเป็นส่วน ๆ ส่วน พังครืนลง ร่างเขาที่ลากครูดไปกับพื้น ห่างออกไปหลายก้าว กว่าจะยืนให้มั่นคงได้.

มารดาเถอะ.

บรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย ทรงพลังเกินไปแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด