บทที่ 9 : พรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้
บทที่ 9 : พรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้
[ติ๊ง! ทายาทของโฮสต์ได้รับการประเมินว่าเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้, โฮสต์ได้รับรางวัลชิ้นส่วนวิญญาณแบบสุ่ม 5 ชิ้น, ชิ้นส่วนดวงตาศักดิ์สิทธิ์แบบสุ่ม 5 ชิ้น, ยาเม็ดต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด 9 ขวด, ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูงสุด 1 ทักษะ, ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ 2 ทักษะ, พิมพ์เขียวของเหมืองศิลาวิญญาณ, และคะแนนโชคลาภ 200,000 คะแนน!]
เม็ดยาต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด : สามารถช่วยพัฒนาพลังของผู้ฝึกตนในอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์….ยาแต่ละเม็ดมีมูลค่าอย่างมากในตลาดและมีทั้งหมด 9 ขวด โดยแต่ละขวดมี 99 เม็ด!]
[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ได้รับทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูงสุด "คำพิพากษาเมฆาอัคคีสวรรค์!"]
[ขอแสดงความยินดี โฮสต์ได้รับทักษะการต่อสู้ระดับระดับสวรรค์ "วิชาดาบหมื่นธารา" และ "วิชาคมดาบสังหาร!"]
ชิ้นส่วนวิญญาณและชิ้นส่วนดวงตาศักดิ์สิทธิ์: ชิ้นส่วนเหล่านี้หากรวบรวมได้เก้าชิ้นจะสามารถหลอมเป็นสมบัติได้]
[วิญญาณสังเคราะห์และดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะใช้เองหรือมอบให้กับลูกหลาน….ล้วนสามารถพัฒนากายเนื้อของผู้ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม]
…….
เนื่องจากการมอบทักษะการต่อสู้และวิธีการบ่มเพาะให้กับตระกูลเย่ก่อนหน้านี้…..ตอนนี้ความแข็งแกร่งของพวกทั้งตระกูลได้รับการปรับปรุงขึ้นหลายระดับ
“ตอนนี้, ด้วยทักษะการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นมาไหนจะทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ทั้งสองนี้……มีแนวโน้มว่าภายในสิบปี ความแข็งแกร่งของตระกูลเย่จะกลับมาผงาดขึ้นอีกครั้ง”
“ตอนนี้การไล่ตามตระกูลเย่ว์ให้ทัน หรือแม้กระทั่งเหนือกว่าพวกเขานั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป”
“เเถมเหมืองศิลาวิญญาณก็จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของตระกูลเย่ได้โดยตรงในระยะเวลาอันสั้น”
“ศิลาวิญญาณเป็นวัสดุหลักในการหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสีเหลือง แม้ว่าจะไม่สามารถสร้างอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสีเหลืองได้ อย่างน้อยที่สุดมันก็จะเป็นอาวุธระดับสมบัติ”
และด้วยสิ่งดังกล่าว, มันเป็นทรัพยากรที่ไม่เคยมีมาก่อนในตระกูล
เพียงมีเหมืองขนาดสามพันลี้….สำหรับตระกูลเย่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะกลับขึ้นมาผงาดอีกครั้งในระยะเวลาเพียงสิบปี
แน่นอนว่าเมื่อได้รับบอกเล่าจากเย่หวู่ชางถึงเหมืองศิลาวิญญาณ, ผู้อาวุโสทั้งห้าก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และจัดกำลังคนเพื่อเริ่มการขุดแร่ในทันที
สำหรับเย่หวู่ชางที่ว่างอยู่, เขาก็กลับมาฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
…….
จากนั้น, ระยะเวลาครึ่งปีก็ผ่านไปในพริบตา
ตอนนี้เย่จื้อซินอายุได้สองขวบแล้วและเธอสามารถเรียกคำว่า "บิดา" กับคำว่า "มารดา" ได้แล้ว
ส่วนเย่หวู่ชางและเย่ว์รู่ชวงก็ยังคงฝึกฝนต่อไป
ด้วยการอาศัยพลังของเม็ดยาต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์, ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงจุดสูงสุดของขั้นที่เก้าแห่งอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์
ทั้งคู่ได้รู้สึกว่าการฝึกฝนของพวกเขาได้มาถึงจุดสำคัญของการพัฒนาแล้ว, ดังนั้นทั้งสองคนต่างก็มีเหตุผลที่ต้องปรีกวิเวกจากเหล่าผู้คน
[ติ๊ง! ใช้คะแนนโชคลาภ 50,000 คะแนน การฝึกตนของโฮสต์ทะลวงไปสู่อาณาจักรปราการสวรรค์!]
สิ้นเสียงแจ้งเตือนของระบบ, เสียงฟ้าร้องก็ดังก้องมาจากทะเลแห่งจิตสำนึกของเย่หวู่ชาง
ในเวลาถัดไป, เสียงคำรามจำนวนนับไม่ถ้วนก็ดังขึ้นและอนุภาคของแกนทองคำอันไร้ที่สิ้นสุดก็ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมทั้งเสียงคมมีดที่พัดออกมาจากอากาศ, ปราณดาบอันน่าสะพรึงกลัวก็ได้เข้าครอบครองทะเลแห่งจิตสำนึกทั้งหมดที่เขามี
มันแสดงพลังการสะกัดกั้นอันน่าสะพรึงกลัว กลืนกินทุกสิ่งและก่อให้เกิดความวุ่นวายบนโลก
ปราการสวรรค์….ปราการสวรรค์และโลก!
ช่วงเวลานี้ปราการสวรรค์และโลกได้ถือกำเนิดขึ้นในทะเลแห่งจิตสำนึกของเย่หวู่ชาง….ซึ่งมันบ่งบอกว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรปราการสวรรค์โดยสมบูรณ์แล้ว
เเละสิ่งนี้ยังบ่งบอกว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป, พลังการต่อสู้ของตระกูลเย่ได้พัฒนาไปไกลกว่าตอนที่เย่วหวู่ชายยังไม่ได้รับตำแหน่งผู้นำตระกูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวพุ่งทยานขึ้นมาในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขา, หากเขาไม่ได้ตั้งใจจะเก็บซ่อนมันไว้….ทั้งตระกูลเย่คงมีหวังได้สั่นสะเทือนอย่างเเน่นอน
หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก, ในที่สุดเย่หวู่ชางก็ลืมตาขึ้นมา
เมื่อรับรู้ถึงพลังอันมหาศาลของตัวเอง….เขาก็ได้แต่เผยรอยยิ้มด้วยความพึงพอใจ
เมื่อดูคะแนนโชคลาภที่เหลืออีก 150,000 คะแนน, เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่เก็บไว้และเลือกใช้พวกมันทันที
หลังจากใช้คะแนนโชคลาภไปอีก 60,000 คะแนน ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของเขาก็มาถึงระดับความสมบูรณ์แบบเเล้ว
[ทักษะดาบหมื่นธาราของโฮสต์ได้เข้าสู่ระดับความสมบูรณ์แบบแล้ว โฮสต์ได้รับทักษะขั้นสูงสุด "เรือร้อยขับเชี่ยวธารา, ธาราหวนคืนสู่ท้องนที!"]
[เรือร้อยขับเชี่ยวธารา การฟันที่สร้างคลื่นเป็นร้อยคลื่น จำนวนดาบอันไร้ขอบเขตฟาดฟันศัตรู!]
[ธาราหวนคืนสู่ท้องนที: ฟันเพียงครั้งเดียวที่ทลายแม่น้ำนับไม่ถ้วน!]
[ทักษะดาบระดับสวรรค์ของโฮสต์ได้เข้าสู่ระดับความสมบูรณ์แบบ ความเข้าใจเกี่ยวกับเจตนาดาบของโฮสต์ดีขึ้นมาก….ตอนนร้เจตนาดาบของโฮสต์มาถึงขั้นที่สองแล้ว!]
เกือบจะในทันที, ปราณดาบที่น่าสะพรึงกลัวได้ปะทุออกมาจากร่างของเย่หวู่ชาง…..แผ่ขยายทั่วสารทิศ
ในขณะนั้นเย่หวู่ชางมีลักษณะคล้ายกับผู้ฝึกดาบที่ไม่มีใครเทียบได้
ดวงตาของเขาสั่นไหวราวกับคมดาบที่เย็นยะเยือกและเฉียบคมจนสามารถกลืนได้ทั้งโลกา
ร่องรอยปราณดาบได้ปรากฎระหว่างคิ้วของเขา….เเละมันแสดงให้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวของผู้ฝึกดาบที่ไร้เทียมทาน, พร้อมที่จะนำทุกสิ่งในใต้หล้าไปครอง
เย่หวู่ชางผสานออร่าของตัวเองเข้าด้วยกัน และเมื่อเขาสำรวจสถานะของตนเอง
ตอนนี้…พลังการต่อสู้ของเขาได้พุ่งสูงขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
ความก้าวหน้าของเจตนาดาบนั้นน่ากลัวในทุกระดับ
ตามข่าวลือ, ผู้ที่มีเจตนาดาบขั้นที่ห้าสามารถตัดผ่านแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว… เเละทำให้มันหยุดไหลได้เป็นเวลาสามวัน
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่มีเจตนาดาบขั้นที่เจ็ดสามารถผ่าภูผาสูงตระหง่านได้ในดาบเดียว
สุดท้าย, ผู้ที่บรรลุถึงจุดสุดยอดของเจตนาดาบ…..เพียงโจมตีครั้งเดียว, การโจมตีของเขาก็จะทิ้งร่องรอยเป็นเวลานานนับร้อยปีโดยไม่สลายไป
ดังนั้น, เจตนาดาบขั้นที่สองของเย่หวู่ชางนั้นถือว่าน่ากลัวอย่างยิ่งในอาณาจักรปราการสวรรค์
แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงขั้นแรกของอาณาจักรปราการสวรรค์….
แต่ด้วยเจตนาดาบขั้นที่สองที่เขามี, เขาจะสามารถต่อกรกับผู้ฝึกยุทธระดับอาณาจักรปราการสวรรค์ขั้นสูงสุดได้อย่างเเน่นอน
นอกจากนี้, เขายังมีวิชาดาบหมื่นอสูรระดับความสมบูรณ์แบบและวิชาดาบหมื่นธาราระดับความสมบูรณ์แบบอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม, สำหรับเขาเจตนาดาบขั้นที่สองมันยังขาดอยู่อีกนิดหน่อยที่จะเลื่อนไปอีกขั้นได้
โดยไม่ต้องคิด เขามองไปที่คะแนนโชคลาภที่เหลืออยู่และใช้มันโดยตรง
[ใช้คะแนนโชคลาภ 80,000 คะแนน เจตนาดาบของคุณเพิ่มขึ้นเป็นขั้นที่สาม!]
ทันใดนั้น, เย่หวู่ชางก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและกลายเป็นหนึ่งเดียวกันคมดาบ
ตอนนี้, แม้แต่การโจมตีธรรมดาขอวเขาก็สามารถนำไปสู่การทำลายล้างครั้งใหญ่ได้
อย่างไรก็ตาม, ในเวลานี้เขายังคงไม่รู้ว่ามันมีแผนการทำลายตระกูลเย่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างลับๆในอีกสถานที่หนึ่ง
……………