บทที่ 10 : นิกายดาบสังหารวารี
บทที่ 10 : นิกายดาบสังหารวารี
มณฑลเมฆาอัศนีเป็นหนึ่งในร้อยมณฑลของราชวงศ์ราชวงศ์ต้าเซี่ย
มันอาจจะไม่ได้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก, ทั้งยังอยู่ไกลจากเมืองหลวงของราชวงศ์ต้าเซี่ย….แต่กระนั้นก็ไม่ใช่มณฑลไม่ควรมองข้าม
ภายในมณฑลนี้มีสี่ตระกูลหลักที่คอยควบคุมทรัพยากรต่างๆ ของมณฑลเมฆาอัศนี
แต่เดิมตระกูลเย่ก็เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลมาโดยตลอด
ในแง่ของความแข็งแกร่ง ตระกูลเย่มักจะปราบปรามอีกสามตระกูลอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการคำนวณที่ผิดพลาดของผู้นำตระกูลคนก่อน ส่งผลให้ตระกูลเย่ทั้งหมดสูญเสียความแข็งแกร่งอย่างมหาศาล
ทุกวันนี้ ตระกูลเย่ได้ตกต่ำลงมาที่สุดในบรรดาสี่ตระกูลหลัก
หากไม่ใช่เพราะความกลัวมรดกตกทอดของตระกูลเย่(พวกอาวุธลับที่ใช้ได้ไม่กี่ครั้ง)และผู้อาวุโสในอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม…..ป่านนี้ตระกูลเย่คงถูกกำจัดไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่ตระกูลเย่ประสบกับการสูญเสียความแข็งแกร่งครั้งใหญ่ ทรัพยากรส่วนใหญ่เเละธุรกิจของพวกเขาก็ถูกเเย่งไปโดยสามตระกูลหลัก และแม้แต่ตระกูลเล็กๆ ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน
โชคยังดีที่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ด้วยความช่วยเหลือของตระกูลเย่ว์และความก้าวหน้าของผู้อาวุโสสองคนที่พึ่งเข้าสู่อาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์….สถานการณ์ของตระกูลเย่จึงค่อยๆมั่นคงขึ้น
แต่ในแง่ของความแข็งแกร่ง ตระกูลเย่ก็ยังอยู่ที่ด้านล่างสุดในสี่ตระกูลหลักอยู่ดี
……..
ณ ขณะนี้ ภายในตระกูลชูหนึ่งในสี่ตระกูลหลัก
ตัวแทนของทั้งสามตระกูลได้มารวมตัวกันที่นี่
ผู้นำตระกูลชูมองไปที่ผู้นำของตระกูลเจียง และผู้นำตระกูลหวังด้วยสีหน้าจริงจัง
“ข้าไม่คิดเลยว่าตระกูลเย่จะเหนียวแน่นขนาดนี้ ใช้เวลาเเค่เพียงสองปี พวกเขาก็จะกลับมั่นคงตามเดิมเเล้ว!” ผู้นำตระกูลชูกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้นำตระกูลชู ผู้นำตระกูลหวังก็ปรากฏความกังวลบนใบหน้าทันที
“ถ้าเป็นแบบนี้ตระกูลเย่จะหาทางมาแก้แค้นเราหรือไม่?” เขาถามด้วยความกังวล
ก่อนหน้านี้, พวกเขาสังหารสมาชิกตระกูลเย่ไปหลายคนในขณะที่เข้ายึดครองทรัพยากร
และเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้นำตระกูลเจียงก็เริ่มจริงจังและกล่าวขึ้นว่า
"ตระกูลเย่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้นมาได้, และมรดกของพวกเขาก็ไม่ควรถูกมองข้าม…..เเถมด้วยการคุ้มครองของตระกูลเย่ว์ มันจะเป็นการยากที่จะกวาดล้างพวกเขาออกไปในคราวเดียว!"
คำพูดนี้มีมูลความจริง
เมื่อร้อยปีก่อนในระหว่างการเปลี่ยนแปลงบัลลังก์ต้าเซี่ย
ตระกูลเย่, ตระกูลเยว่ และตระกูลอื่น ๆ ต่างก็มีส่วนร่วมเพื่อสนับสนุนองค์รัชทายาท
แต่ในท้ายที่สุดองค์รัชทายาทที่พวกเขาสนับสนุนกลับล้มเหลว เเละมันจึงสมผลให้พวกเขาถูกชำระบัญชี
โชคยังดีที่พวกเขาสามารถรักษาสถานการณ์ให้คงที่และบรรเทาความโกรธของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันโดยการชดใช้ด้วยทรัพยากรจำนวนมหาศาลนและเหล่าผู้คนที่บาดเจ็บล้มตายอีกนนับไม่ถ้วน
ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองตระกูลก็ต้องเก็บตัวไม่เผยให้คนนอกเห็น
หลังจากนั้นตระกูลเย่ว์ก็อาศัยคนหนึ่งในตระกูลเข้าร่วมกับพระราชวังและได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้….ซึ่งคนคนนี้ทำให้พวกเขาสามารถกลับมายืนอย่างมั่นคงได้
ในทางตรงกันข้าม ตระกูลเย่ซึ่งเกรงว่าจะทำใฮ่องเต้ไม่พอพระทัย จึงต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัวตามเดิม
โชคยังดี, เนื่องจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลเย่ว์ ตระกูลเย่จึงสามารถพัฒนาได้อย่างเงียบๆ และพอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันของตน
เเต่เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้อาวุโสแห่งตระกูลชูก็เยาะเย้ยขึ้นมาในทันที
“ถ้าเป็นเพียงพวกเราสามตระกูล, พวกเราคงไม่สามารถกวาดล้างตระกูลเย่ออกไปได้…..แต่น่าเสียดายที่ตระกูลเย่ได้ไปแตะในสิ่งที่เขาไม่ควรเข้าเเล้ว!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้นำของทั้งสองตระกูลก็ตกตะลึงและมองมาที่ผู้นำตระกูลชูอย่างสงสัย
เมื่อเห็นเช่นนี้, ผู้นำตระกูลชูก็ไม่ได้ปิดบังข่าวและพูดอย่างตรงไปตรงมา
“พวกเจ้าคิดจริงๆหรือว่าเเค่อาณาจักรลับเเห่งนั้นจะสามารถกำจัดผู้ฝึกตนอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์กว่าหนึ่งโหลของตระกูลเย่ได้?”
“เรื่องนั้นจะต้องเป็นพลังจากคนนอกที่เข้ามาแทรกแซงอย่างเเน่นอน!”
“ในอาณาจักรลับนั่นมีดอกบัวบุษรานพเก้าซึ่งตระกูลเย่ได้มาครอบครอง…..เเต่น่าเสียดายที่ข่าวรั่วไหลออกมาและมันได้ดึงดูดความสนใจของตระกูลอื่นๆ ดังนั้นทุกคนจากตระกูลเย่ที่ไปยังอาณาจักรลับล้วนถูกฆ่าตายทั้งหมด”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้นำทั้งสองตระกูลใหญ่ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
ตระกูลเย่มีบุคคลที่แข็งแกร่งมากมาย, อดีตผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเย่กล่าวกันว่าอยู่ห่างจากการเข้าถึงอาณาจักรปราการสวรรค์เพียงก้าวเดียวเท่านั้น
เเละเพราะอย่างนั้น ต่อให้ไม่จำเป็นต้องบอก….พลังที่สามารถทำลายล้างตระกูลเย่ได้นั้นจะต้องเป็นพลังของผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์อย่างเเน่นอน
ดอกบัวบุษรานพเก้าเป็นสมุนไพรจิตวิญญาณระดับปฐพีขั้นกลางที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
มันสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดของอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรปราการสวรรค์ด้วยอัตราความสำเร็จ 100%
ด้วยสมบัติเช่นนี้, การทำลายตระกูลใดตระกูลหนึ่งเพื่อเเย่งไปครอบครองก็ไม่ถือว่ามากเกินไปนัก
…….
“นิกายใดที่สามารถปราบตระกูลเย่ได้?” ผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังถามด้วยระมัดระวัง
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลชูยกยิ้มเบาๆ และพูดว่า "นิกายดาบสังหารวารี!"
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้นำตระกูลทั้งสองทันที
นิกายดาบสังหารวารีเป็นนิกายที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน
ว่ากันว่าภายในนิกาย, มีผู้ฝึกตนระดับอาณาจักรทะเลศักดิ์สิทธิ์เกือบร้อยคน
นอกจากนี้ยังมีผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ถึงสามคนที่เปิดเผยออกมา
เเละนี่เป็นเพียงสิ่งที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเท่านั้น, ยังมีข่าวลืออีกว่านิกายดาบสังหารวารีมีผู้อาวุโสสูงสุดที่ทรงพลังอย่างยิ่งเเละมีเพียงไม่กี่คนที่เคยได้พบเจอเขา
เเละไม่ว่าข่าวนี้จะจริงหรือไม่ก็ตาม ความเข้มแข็งของนิกายดาบสังหารวารีก็เป็นนิกายที่ไม่อาจดูแคลนได้
ในมณฑลเมฆาอัศนีและพื้นที่โดยรอบ นิกายดาบสังหารวารีเป็นหนึ่งในกองกำลังยักษ์ใหญ่ที่ไม่สามารถแตะต้องได้อย่างแน่นอน
หลังจากที่หายตกตะลึง ผู้นำแห่งตระกูลหวังก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า
"ที่ข้าได้ยินมาถูกต้องหรือไม่, ว่าผู้อาวุโสทั้งสี่ของนิกายดาบสังหารวารีเพิ่งบุกทะลวงจนกลายเป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์….ซึ่งสิ่งนี้ได้เพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขาอย่างมหาศาล"
ผู้อาวุโสแห่งตระกูลชู พยักหน้าและกล่าวว่า "มิผิด เป็นเพราะพวกเขาได้รับดอกบัวบุษรานพเก้าไป….ทำให้เขาสามารถเลื่อนระดับขึ้นมาได้!"
เมื่อได้ยินดังนี้ ผู้นำตระกูลทั้งสองก็เงียบไปทันที
แท้จริงแล้ว ผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์ไม่ควรถูกมองข้าม…แม้แต่ในเมืองหลวง หรือแม้แต่ราชวงศ์ก็ยังให้ความเคารพอย่างที่พวกเขาสมควรได้รับ
การกำเนิดของผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการณ์สวรรค์ถือเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็มองไปที่ผู้นำตระกูลชู ด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ผสมกับความอิจฉาและริษยา
พวกเขาตระหนักดีว่าน้องสาวของผู้นำตระกูลชู เป็นนางสนมของผู้อาวุโสในนิกายดาบสังหารวารี
“ความจริงข้าก็ไม่ได้คิดปกปิด น้องสาวของข้าได้ส่งข้อความมาว่านิกายดาบสังหารวารีตั้งใจที่จะกวาดล้างตระกูลเย่…..ดังนั้น, หากเราสามารถทำลายตระกูลเย่ได้ พวกเราก็จะได้รับความโปรดปรานจากนิกายดาบสังหารวารีอย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้นำตระกูลชู ผู้นำตระกูลหวังและผู้นำตระกูลเจียงก็เงียบลง
“แต่ ตระกูลเย่เป็นพันธมิตรกับตระกูลเย่ว์มาหลายปี….แบบนั้นจะไม่ทำให้ตระกูลเย่ว์ไม่พอใจพวกเราหรอกหรือ”
พวกเขาไม่ควรประมาทความแข็งแกร่งของตระกูลเย่ว์ เพราะตระกูลเย่ว์เองก็พลังที่เทียบได้กับนิกายดาบสังหารวารี
ในฐานะตระกูลอันดับหนึ่งในมณฑลเจียงฮวย, พลังของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่านิกายดาบสังหารวารีเลยสักนิด
เเถมมณฑลเจียงฮวย นั้นยังห่างไกลจากการเทียบเคียงกับเขตล้าหลังอย่างมณฆลเมฆาอัศนี
หากไม่มีผู้ฝึกตนอาณาจักรปราการสวรรค์เป็นแกนหลัง กองกำลังธรรมดาๆ จะไม่สามารถยืนหยัดอยู่ที่นั่นได้เป็นแน่
นิกายดาบสังหารวารีอาจไม่กลัวตระกูลเย่ว์ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าประมาทตระกูลเย่ว์เช่นกัน
เมื่อได้ยินข้อกังวลของทั้งสอง ผู้นำตระกูลชูก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ยดูแคลนในทันที
ริมฝีปากที่โค้งงอเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างตรงไปตรงมา
………………