ตอนที่ 100 พวกเจ้าบังคับข้าเองนะ
ตอนที่ 100 พวกเจ้าบังคับข้าเองนะ
ลูกศรจำนวนมากพุ่งแหวกอากาศออกมาจำนวนมากปักเข้าที่ร่างของผู้คุมกันขบวรรถม้าของลู่ชางเฉิงทันที
ผู้คุมกันทยอมล้มลงกับพื้นทีละคนโดยที่ยังมีลูกศรปักอยู่บนร่าง
ในพริบตา ก็ไม่ใครที่คุ้มกันรถม้าของลู่ชางเฉิงได้
แม้แต่ผู้พิทักษ์หลิวในตอนนี้มือของเขาก็ถูกลูกศรปักอยู่
อันที่จริงอาการบาดเจ็บแบบนี้ทำอะไรเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อเห็นว่าบาดแผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดํา ร่างกายของผู้พิทักษ์หลิวจึงเริ่มอ่อนแรงและเขาก็ทรุดตัวลงบนพื้น
"นี่มัน…พิษ...เรอะ"
ผู้พิทักษ์หลิวเบิกตากว้างและมองไปด้านหน้าด้วยความไม่เชื่อ
หลังจากนั้นเขาก็ตายจากไป
ใครจะคิดว่าบาดแผลเล็กๆเพียงแค่นี้จะสามารถคร่าชีวิตเขาไปได้?
ลูกศรที่พุ่งออกมานั้นถูกเคลือบไปด้วยพิษที่รุนแรง ซึ่งเป็นสารพิษที่จะเป็นเซลในเลือดให้กลายเป็นพิษ ซึ่งเป็นพิษที่หาได้ยากมาก
ภายในรถม้า การแสดงออกของลู่ชางเฉิงเริ่มเปลี่ยนไป
การโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้เขาไม่สามารถตอบโต้ได้แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม
เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี โดยใช้ลูกศรหน้าไม้เพื่อยิงหน่วยคุ้มครองที่นําโดยนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะ
เมื่อลูกศรหน้าไม้หยุดยิง และกลุ่มคมในชุดสีดำก็ออกไปมาจากป่าไผ่
ผู้นําของพวกเขาคือชายชราและชายหนุ่ม
“ออกมาซะลู่ฉางเฉิง! ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่ตาย!”
ชายหนุ่มคนนั้นตะโกนใส่รถม้า
"หืม?"
"นี่เจ้ารู้จักข้าด้วยงั้นรึ?"
ลู่ชางเฉิงยกม่านในรถม้าขึ้นและก้าวลงไป
เขามองไปรอบๆเพื่อตรวจสอบผู้คนที่อยู่ตรงหน้าเขา
แน่นอนว่าเขาไม่รู้จักคนสวมชุดดําเหล่านี้เลยแม้แต่คนเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังเรียกเขาว่า "ลู่ชางเฉิง" ด้วย ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าพวกเขาไม่รู้ถึงตัวตนของเขาในฐานะ "จวงซี่หนาน"
และเมื่อเป็นแบบนี้ ลู่ชางเฉิงจึงนึกถึงตระกูลเซี่ยทันที
“แน่นอน ข้ารู้จักเจ้าดี ลูกศิษย์ของวู่จิงแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหนานหยาง”
“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสืบทอดวิชาของวู่จิงได้อย่างไร้ที่ติเช่นนี้ เพราะเจ้าได้ทำลายทุกอย่างที่ข้าเตรียมเอาไว้ทั้งหมด!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า นายน้อยหญิงเซี่ยก็คงเป็นของข้าแล้วและทั้งตระกูลเซี่ยก็คงรับใช้นิกายอสรพิษของพวกข้าไปแล้ว!”
“ในเมื่อเจ้าทําลายแผนการของข้า บอกข้าทีว่าข้าสมควรที่จะฆ่าเจ้าหรือไม่?”
ดวงตาของลู่ชางเฉิงหรี่ลงเล็กน้อย "หรือว่าเจ้าคือนายน้อยตัน?"
ชายหนุ่มหัวเราะเยาะ "ฮึๆ ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้แล้วสินะ?"
ลู่ชางเฉิงส่ายหัว “เปล่า ข้าได้ยินมาจากสาวใช้ของนายน้อยหญิงเซี่ยพูดถึงเจ้าเท่านั้น”
“อันที่จริง ไม่ว่าเจ้าจะเป็นนายน้อยตันหรือจากคนจากนิกายอสรพิษมันก็ไม่ได้สําคัญอะไรกับข้านัก เพราะข้าเป็นแค่หมอทั่วไป และมีหน้าที่เพื่อการรักษาและช่วยชีวิตผู้คนเท่านั้น”
“เรื่องของโลกแห่งการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องที่ข้าสนใจ และข้าก็ไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าด้วย”
“ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะรีบกลับไปที่เมืองหนานหยางทันที และจำทำเป็นราวกับว่าข้าไม่เคยได้พบเจ้ามาก่อน ตกลงไหม?”
ในตอนนี้สถานะของลู่ชางเฉิงคือ "หมอ" และยังไม่สามารถแสดงตัวในฐานะ “จวงซี่หนาน” ได้
และถ้าหากเขาลงมือสังหารทุกคนที่นี่ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เหลือร่องรอยเอาไว้เบื้องหลัง
ถ้าหากเขาอยู่ในตัวตนของ "จวงซี่หนาน" เขาก็คงจะฆ่าคนเหล่านี้ไปแล้ว
"ฮึๆๆ โลกสวยจริงนะเจ้าหมอหนุ่ม!"
“เจ้าได้ทําลายแผนการใหญ่ของข้า แล้วเจ้ายังคิดว่าเจ้าจะรอดกลับไปโดยที่ไม่สนอะไรอีกงั้นเรอะ?”
“ข้าจะฟันร่างของเจ้าให้เป็นชิ้นๆ และข้าจะยัดแมลงพิษเข้าไปในสมองของเจ้าและจะทำให้เจ้าต้องทรมานเจียนตาย!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ...”
นายน้อยตันค่อยๆก้าวไปทีหาลู่ชางเฉิงทีละก้าวและค่อยๆดึงดาบเล่มใหญ่ในมือของเขาออกมาด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจบนใบหน้าของเขา
เขาได้ตรวจสอบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าลู่ชางเฉิงในฐานะหมอแห่งเมืองหนานหยางที่มีทักษะการต่อสู้เล็กน้อย แต่อย่างมากที่สุดก็คือขอบเขตการเสริมสร้างเลือดเท่านั้น
ดังนั้น นายน้อยตันจึงยกดาบขนาดใหญ่ในมือขึ้นสูงและฟังลงมาอย่างรุนแรง
"ย้ากกก"
การฟันในครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่แขนของลู่ชางเฉิง โดยตั้งใจจะตัดมันให้ขาดออกจากร่างก่อน
แต่ในขณะที่ดาบขนาดใหญ่กำลังฟันลงมา ลู่ชางเฉิงได้ใช้ฝ่ามือของเขาคว้าดาบเอาไว้อย่างรวดเร็ว
และไม่ว่านายน้อยตันจะออกแรงมากแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะดึงดาบขนาดใหญ่เล่มนั้นออกมาได้
"เป็นไปได้ยังไงกัน?! นี่เจ้า..!!"
ใบหน้าของนายน้อยตันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ลู่ชางเฉิงเป็นเพียงแค่หมอที่แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาเล็กน้อยเท่านั้น
แล้วคนแบบเขาจะคว้าดาบเล่มใหญ่ของเขาด้วยมือเปล่าได้อย่างไร?
ลู่ชางเฉิงเหลือบไปมองนายน้อยตัน จากนั้นจึงกวาดสายตาของเขาไปหาผู้คนในนิกายอสรพิษรอบตัวเขา หลังจากนั้นลู่ชางเฉิงได้ถอนหายใจลึกๆออกมาและพูดว่า "ทําไมพวกเจ้าถึงต้องบังคับให้ข้าฆ่าพวกเจ้าทุกคนด้วยล่ะ?"
เมื่อเห็นแบบนี้ นักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่อวัยวะเพียงคนเดียวในบรรดากลุ่มชายชุดดำจึงมีการแสดงออกทางสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
"รีบหลบลูกศรเร็วเข้า!"
ทันใดนั้น ลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนได้พุ่งเข้าหาลู่ชางเฉิงราวกับห่าฝน
ในขณะเดียวกัน นายน้อยตันก็ทิ้งดาบขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วและต่อยไปที่หัวของลู่ชางเฉิงตรงๆ
"บู้มมมม"
ลู่ชางเฉิงไม่ลังเลอีกต่อไปและปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเขาทันที
พลังฉีและเลือดภายในร่างกายของเขาเริ่มส่งเสียงและระเบิดออกมากลายเป็นเมฆโลหิตทันที
เมฆโลหิตนั้นทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดนที่มันป้องกันด้านของหน้าลู่ชางเฉิงเอาไว้
ลูกศรจำนวนมากของนิกายพิษตกลงมาบนก้อนเมฆโลหิตและกระดอนออกไปทันที ซึ่งไม่มีลูกศรใดสามารถทะลวงผ่านเมฆโลหิตได้เลย
ในขณะเดียวกัน แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวก็เข้าไปกดทับทุกคนในนิกายอสรพิษทันที ซึ่งทำให้ผู้คนในตอนนี้เริ่มตระหนักรู้บางอย่างได้ว่า
"พลังศักดิ์สิทธิ์... นี่มันพลังของขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์!"
นักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะของนิกายอสรพิษมองไปที่กลุ่มเมฆโลหิตเหนือหัวของลู่ชางเฉิงด้วยความหวาดกลัวมากที่สุดในชีวิตของพวกเขา
พลังฉีและเลือดและแรงกดดันที่น่ากลัวเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลู่ชางเฉิงเป็นนักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง!
แต่เท่าที่พวกเขาได้รู้มา เห็นได้ชัดว่าลู่ชางเฉิงเป็นเพียงหมอที่แข็งแกร่งเล็กน้อยเท่านั้น แล้วเขาจะกลายเป็นนักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?
ในขณะนี้ นายน้อยตันที่ยืนอยู่ต่อหน้าลู่ชางเฉิงไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลยแม้แต่คําเดียว
เขากำลังตัวสั่นไปทั้งร่าง
มือที่พุ่งเข้าหาแขนของลู่ชางเฉิงก็ถูกคว้าโดยลู่ชางเฉิงโดยตรงเช่นกัน
"แคว่กก"
ลู่ชางเฉิงดึงแขนของนายน้อยตันออกมาจนขาดด้วยแรงของเขาทันที