Chapter 287 เซียวจุ้ยจื่อ ปะทะ ชิงหลินเฟิง.
“เป็นไปได้ว่าผู้เยาว์ เซียวจุ้ยจื่อนั่น เป็นอดีตคู่หมั้นของธิดา ผู้โปรดปราณของสวรรค์ ตระกูลมูหรงอย่างงั้นรึ?”
“เป็นเขา ข้าได้ยินมาว่าเมื่อปีที่แล้ว เขาเข้าร่วมประลองยุทธ์สำนักของมนทลชิงหยางได้รับชัยชนะเลิศด้วย.”
“ไม่ใช่ว่าเขากลายเป็นขยะไปแล้วรึ?”
“มู่หริงซินมายังนิกายเซิ่งชวนครั้งนี้ เพื่อมาดูอดีตคู่หมั้นของตัวเองงั้นรึ?”
“ตอนนี้นางเป็นศิษย์สายตรงของนิกายไป๋เหอเซิ่ง นิกายระดับสองไปแล้ว เซียวจุ้ยจื่อเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งระดับเจ็ด ฐานะต่ำเตี้ย แตกต่างกันราวกับสวรรค์กับนรก.”
“บุรุษที่ถูกสตรีทอดทิ้ง น่าอับอายจริง ๆ.”
แม้นว่าผู้ชมชาวยุทธ์จะกล่าวเสียงเบา หากแต่คำพูดดังกล่าว เซียวจุ้ยจื่อย่อมได้ยินชัดเจน ทำให้เขากำหมัดแน่น.
มู่หรงซินที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย.
ปากของคนเหล่านี้ ไม่มีหูรูดจริง ๆ.
เซียวจุ้ยจื่อที่หันหน้าไปมองนาง สายตาที่ขุ่นข้องใจ ราวกับต้องการบอกกับนาง.
ได้ยินรึยัง?
เจ้าในอดีตทำอะไรกับข้าไว้บ้าง.
ใช่แล้ว เจ้ามันไร้เดียงสา ไร้ความรับผิดชอบ.
กับบุรุษที่เปี่ยมศักดิ์ศรีเช่นข้า ถูกคนอื่นเหยียบย่ำซ้ำเติม.
มู่หริงซินที่ไม่กล้าสบตา จนต้องก้มหน้าลง เพราะสายตาที่ไม่แยแสนั่น ทำให้นางรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก.
“ฟู่!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ราวกับนึกอะไรได้.
เจ้าสำนักเคยกล่าวกับข้า เจ้าสูญเสียอะไรไป ก็จงไปนำมันกลับมาด้วยตัวเอง!
เขาสูญเสียศักดิ์ศรีของบุรุษไปนั่นเอง.
แล้วจะจัดการอย่างไร?
สองปีหลังจากนี้เขาจะเดินทางไปยังนิกายไป่เหอเซิ่ง ไปยืนต่อกลุ่มคนผู้สูงส่ง ส่งใบหย่า ประกาศทิ้งนางด้วยตัวเขาเอง!
หากไม่ยอมรับงั้นรึ?
ก็ต้องต่อสู้กัน!
“ศิษย์นิกายเซิ่งชวน ชิงหลินเฟิง.”
ชิงหลินเฟิงที่ขานนามตัวเอง “ข้ารู้สึกเห็นใจเจ้าเป็นอย่างมาก.”
นี่คือความเห็นใจจริง ๆ ไม่ใช่คำเย้ยหยันใด ๆ.
โลกใบนี้ที่บุรุษถือศักดิ์ศรีเป็นใหญ่ ถูกสตรีถอนหมั้นต่อสาธารณะชน มันเป็นการทำลายศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง.
เซียวจุ้ยจื่อที่ยกยิ้มเล็กน้อย เอ่ยออกไปว่า “ที่จริง ข้าต้องขอบคุณสตรีผู้นั้นมาก หากไม่เพราะว่านางถอนหมั้น ข้าในอดีต ข้าเซียวจุ้ยจื่อคงไม่มีวันนี้.”
เขาที่หยุดเล็กน้อย.
“ซูมมมมมมมมม!”
เขาที่กำหมัดแน่น เผยความอหังการออกมา “ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่ได้กลายเป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง!”
ในเวลานั้นเขาที่เผยความอหังการออกมา.
เขาที่ภาคภูมิที่ได้เป็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง เขาที่สามารถยืนขึ้นได้อย่างมั่นคง พร้อมที่จะก้าวข้ามภูเขาที่สูงใหญ่!
จุนซ่างเซียวไม่เคยเห็นเขาเป็นขยะ.
เขาที่คิดว่าสำนักไท่กู่เจิ้งเป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่นสำหรับเขา!
“เริ่มต่อสู้!”กรรมการประกาศ.
“ฟิ้ว!”
มือทั้งสองข้างของชิงหลินเฟิงที่ประทับประสานกัน พลังวิญญาณที่หลั่งไหลออกมาจนเสียงดังหวีดหวิว ก่อนที่จะรวมกันขึ้นที่ด้านหน้าเป็นฝ่ามือที่ทรงพลัง แผ่กลิ่นอายคุกคามออกมา.
ฝ่ามือรวมวิญญาณ!
ในนิกายเซิ่งชวนนั้น วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาระดับสูง ที่มีเพียงศิษย์สายตรงเท่านั้นที่ได้ฝึก!
ฟู่ ฟู่---
ฝ่ามืออากาศ ที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว มีพลังกว่า 100,000 จิน!
“ทรงพลังมาก!”เหล่าผู้ชมชาวยุทธ์อุทานออกมาเสียงดัง.
ทักษะต่อสู้ส่วนมาก สามารถรวมพลังวิญญาณก่อเป็นรูปลักษณ์ได้นั้น อย่างน้อยต้องมีระดับบรรพชนยุทธ์ ทว่าศิษย์สายตรงของนิกายเซิ่งชวนกับทำได้!
ศิษย์พี่ของมู่หรงซินที่เอ่ยกับศิษย์น้อง “ชิงหลินเฟิงไม่ธรรมดา คิดว่าเขาจะสู้อย่างไร?”
โทนเสียงของนางที่ชื่นชมศิษย์นิกายระดับห้ามากกว่า ราวกับว่าตัวเองนั้นสูงส่งเป็นอย่างมาก.
แน่นอนว่านางเป็นศิษย์นิกายระดับสอง ย่อมโอหังเป็นธรรมดา.
อีกฝ่ายที่เคยเป็นอดีตคู่หมั้นของมู่หรงซิน ยิ่งทำให้นางดูแคลนขึ้นไปอีก.
“กึก!”
ฝ่ามืออากาศที่ลอยออกมานั้น เซียวจุ้ยจื่อก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ร่างกายที่โก่งโค้งดังคันศร พลังวิญญาณที่หมุนวนรวมกันที่หมัดขวา.
“ตูมมมมมมมมมม!”
หมัดระเบิดที่ต่อยออกไป เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!
ครืนนนนน!
หมัดเขาที่ต่อยปะทะกับฝ่ามือใหญ่โต อากาศรอบ ๆ โบกพัด ฝุ่นผงสะบัดคละคลุ้งฟุ้งไปทั่วบริเวณ.
กึด กึก กึด!
เซียวจุ้ยจื่อและชิงหลินเฟิงถูกผลักให้ถอยหลังออกมา จนกระทั่งลากครูดออกมาห้าก้าว จึงยั้งร่างกายเอาไว้ได้.
“นี่มัน....”
เหล่าผู้ชมชาวยุทธ์ที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งและศิษย์สายตรงนิกายเซิ่งชวนที่ปะทะกัน คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีพลังเท่ากัน.
หวังตงหลินที่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เด็กคนนี้ แม้นว่าจะมีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นห้า ทว่ากับเป็นอาจารย์ยุทธ์ขั้นสุดยอด!”
เหล่ากลุ่มพันธมิตรที่กลายเป็นโง่งม เห็นเซียวจุ้ยจื่อที่เป็นอาจารย์ยุทธ์ระดับสุดยอด มุมปากของพวกเขาที่กระตุกไปมา.
ระดับสุดยอด ก็หมายความว่าอีกฝ่ายมีรากวิญญาณระดับสุดยอดนั่นเอง!
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง ร้ายกาจถึงเพียงนี้เลยรึ?!
มู่หริงซินที่ดวงตาเป็นประกายเผยความอัศจรรย์ใจออกมา กล่าวออกไปว่า “เขา...รากวิญญาณระดับสุดยอดฟื้นคืนแล้วรึ?”
“เจ้า.”
ชิงหลินเฟิงที่แววตากลายเป็นจริงจัง “แข็งแกร่งมาก.”
“ฟิ้ว!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ใช้ท่าเท้าเหยียบเมฆาพุ่งเข้าไป.
แขนข้างหนึ่งใช้หมัดระเบิด อีกข้างใช้ฝ่ามือสะบั้นขุนเขาพร้อมกัน กลิ่นอายที่ระเบิดออกมานั้น ทำให้อากาศรอบ ๆส่งเสียงหวีดหวิวสายลมที่โบกสะบัด.
ตูมม! ตูมม!
ในเวลานั้น สองอาจารย์ยุทธ์ระดับสุดยอดปะหมัดกันกว่าสิบกระบวนท่า แต่ล่ะกระบวนท่านั้นมีพลัง 100,000 จิน เป็นการโจมตีที่หนักหน่วงรุนแรงมาก.
นับตั้งแต่ต่อสู้ประลองกันมา การต่อสู้ครั้งนี้ถือว่าสุดยอดน่าดูที่สุด.
เพราะว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจ้ง ไม่ได้จบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเหมือนกับการประลองสักที.
เหล่าผู้ชมชาวยุทธ์ที่จ้องมองด้วยแววตาตื่นตะลึง.
พวกเขาที่คิดว่า นิกายเซิ่งชวนที่ส่งศิษย์สายตรงออกมา จะต้องทุบตีศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเพียงฝ่ายเดียว ใครจะคิดว่าผลจะเป็นเช่นนี้ อีกฝ่ายไม่ได้ด้อยกว่าชิงหลินเฟิงเลย!
ในวันนี้.
ผลงานที่น่าเกรงขามของสำนักไท่กู่เจิ้ง ได้ล้มล้างความคิดเดิมของพวกเขาหายไปจนหมด พวกเขา ถูกตบหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า!
ตูมม!
ตูมม!
เซียวจุ้ยจื่อที่ยังคงใช้เพียงหมัดระเบิดและฝ่ามือสะบั้นภูผา.
ตามระดับขั้นพลังบ่มเพาะ แม้นว่าเขาจะด้อยกว่าชิงหลินเฟิงหนึ่งขั้น ทว่าพลังที่ปลดปล่อยออกมานั้นไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย!
และวิชายุทธ์เองก็สมบูรณ์เป็นอย่างมาก.
หมัดระเบิดและฝ่ามือสะบั้นภูผา แม้นว่าจะมีระดับด้อยกว่าทักษะยุทธ์ขั้นสูง ทว่าด้วยการสำเร็จขั้นยอด ทำให้พลังต่อสู้ของเขานั้นทรงพลังมาก!
ตูมม! ตูมม!
การต่อสู้ที่ปะทะกันมากกว่าสิบกระบวนท่าแล้ว ชิงหลินเฟิงที่เวลานี้ถอยห่างออกมาหลายสิบก้าว ใบหน้าของเขาที่อ่อนแรงไม่สู้ดีนัก แขนทั้งสองข้างของเขา ชาเจ็บไปหมด.
ทว่าเซียวจุ้ยจื่อ ใบหน้ากลับยังคงสุขุมไร้ซึ่งอาการใด ๆ.
ความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้นเท่ากัน ทว่ากายเหนือของชิงหลินเฟิงไม่อาจเทียบอีกฝ่ายได้!
“ฟิ้ว!”
ท่าเท้าเหยียบเมฆา!
เซียวจุ้ยจื่อที่พุ่งเข้าไปอีกรอบ พลังของเขาที่ปะทุขึ้นมา เต็มไปด้วยพลังคุกคาม!
“คน ๆ นี้ ต่อสู้ปะทะกันมาหลายกระบวนท่าแล้ว ร่างกายของเขายังทนได้อีกรึ?”
“ชิงหลินเฟิง ดูเหมือนว่ากำลังเก็บพลังเอาไว้ ไม่ผลาญพลังพร่ำเพลื่อ!”
“นายน้อยหลินเฟิง ดูเหมือนว่าจะมีประสบการณ์ยุทธ์มากกว่า.”
ได้ยินคำพูดดังกล่าว จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้ม.
กลุ่มคนโง่.
ความแข็งแกร่งของศิษย์ของข้า ไม่ใช่พวกตาสุนัขเช่นพวกเจ้า จะมีคุณสมบัติมองเห็น.
ความแข็งแกร่งของเซียวจุ้ยจื่อนั้นไม่จำเป็นต้องมีแผนการใด ๆ.
ถึงจะต่อสู้ไม่หยุด ก็ไม่มีทางที่จะเหนื่อยล้าแต่อย่างใด.
ชิงหลินเฟิงที่ดูเหมือนเข้าใจว่า ตัวเองมีพลังวิญญาณมากมาย เก็บรักษาพลังวิญญาณเอาไว้ ปล่อยให้อีกฝ่ายใช้พลังวิญญาณให้หมด จากนั้นชัยชนะก็จะเป็นของเขา.
จากที่เห็นเพียงผิวเผิน.
ดูเหมือนว่าจะวัดที่ปริมาณวิญญาณที่มีอยู่.
ทำให้ชิงหลินเฟิงหลบการโจมตีของเซียวจุ้ยจื่อไม่ใช้ทักษะใด ๆ เขาที่หลบไปมาผ่านไปสิบนาที.
เวลานี้เขากำลังมองหาโอกาสในการโจมตีออกไป.
“ฟิ้ว!”
ชิงหลิงเฟิงที่หลบการโจมตีของเซียวจุ้ยจื่อ ใช้ท่าเท้ากระโดดถอยหลัง จากนั้นก็ลอยขึ้นสูง มือทั้งสองข้างที่ประสานประกบเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ตะโกนออกมาว่า “ฝ่ามือยอดผนึกรวมวิญญาณ!”
“ฟู่ ฟู่!”
พลังวิญญาณที่บ้าคลั่งไหลมารวมกัน ก่อร่างสร้างฝ่ามืออากาศขนาด 5-6 เมตรขึ้นมา พุ่งลงไปยังทิศทางของเซียวจุ้ยจื่อ!