Chapter 283 ชนะห้าสิบเกมติดต่อกัน.

ผู้นำฉินและพวก เวลานี้ใบหน้าที่บิดเบี้ยวอัปลักษณ์ขั้นสุด.

พวกเขาที่วางแผนมาเพื่อหัวเราะเยาะอีกฝ่าย ทว่าศิษย์นิกายเซิ่งชวนที่ราวกับเรียงแถวกันมาแพ้ ไม่มีโอกาสให้เยาะเย้ยอีกฝ่ายแม้แต่คนเดียว!

แผนการที่วางไว้ ล้มเหลวไม่เป็นท่า!

ยิ่งคิดถึงคำเย้นหยันของสำนักไท่กู่เจิ้ง ใบหน้าของเขาถึงกับแดงซ่าน.

ต้องไม่ลืมว่า หากเปลี่ยนเป็นเขา ศิษย์สายนอกของเขา 30 คนต่อสู้กับศิษย์สายนอกนิกายเซิ่งชวน ชนะให้ได้สักสามคนก็คิดว่าโชคดีแล้ว!

“เจ้าวัง.....”

เหม่ยเอ๋อที่ยืนอยู่ไกลออกมา มุมปากกระตุก “สำนักไท่กู่เจิ้งชนะ 20 คนแล้ว.”

ในความคิดของนาง ต่อสู้ 30-40 คู่ นิกายเซิ่งชวนต้องชนะทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย หากแต่เวลานี้มันกับพลิกกลับกลายเป็นอีกฝั่งซะได้.

ซีจิงเสวียนที่เผยยิ้ม เอ่ยออกมาว่า “ศิษย์เจ้าสำนักจุนยอดเยี่ยมมาก.”

“กึก.”

หวังตงหลินที่มุมปากกระตุก เอ่ยออกมาว่า “ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งร้ายกาจเกินไปแล้ว 20 คู่ไม่แพ้เลยรึ?”

หม่าหยุนเถิงก็ยากจะสงบใจได้เช่นกัน ต้องไม่ลืมว่า ถึงจะเป็นนิกายเขาซ่างซานของตัวเอง ก็ยากจะชนะอีกฝั่งได้เด็ดขาดเช่นนี้ได้.

การประลองยังคงดำเนินการต่อไป.

หลินเจียงหางและศิษย์คนอื่น ๆ ยังคงเอาชนะได้อย่างง่ายดาย

หนึ่งปีมานี้ แม้นว่ารากวิญญาณจะไม่ได้เปลี่ยน ทว่าด้วยทรัพยากรและการฝึกร่างกาย ทำให้พวกเขามีพลังเทียบได้กับศิษย์ระดับสูงกันทั้งหมด!

หมายความว่าอย่างไร?

อธิบายได้ว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งสามารถมีพลังเทียบเท่ากับเหล่าพรสวรรค์ระดับสูง โดยที่ไม่ต้องมีรากวิญญาณระดับสูงเหมือนคนเหล่านั้น ด้วยการฝึกอย่างขันแข็งและทรัพยากรที่พวกเขามีเพียงพอย่อมสามารถถมช่องว่างเหล่านั้นได้.

ยิ่งพวกเขาเติบโตขึ้นเท่าใด จะยิ่งน่าเกรงขามขึ้นเท่านั้น.

ไม่น่าสงสัยเลยว่าอาวุโสจากสมาคมรักษาสิทธิ์มอบการประเมิน 3A ให้กับสำนักไท่กุ่เจิ้ง.

ความแข็งแกร่งอ่อนแอของสำนัก ไม่สามารถตัดสินได้เพียงคนไม่กี่คน แต่ตัดสินจากคนทั้งหมด!

เม็ดยาบูรณะร่างกาย ห้องปั้นกล้ามเนื้อ ค่ายกลรวมวิญญาณ หอคอยเก็บประสบการณ์ ทรัพยากรมากมาย ตลอดจนวิชายุทธ์ชั้นยอด เหล่านี้ที่ช่วยยกระดับศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งให้แข็งแกร่ง.

นิกายเซิ่งชวนนะรึ?

แม้นว่าจะดูสูงส่งน่าเกรงขาม ทว่าด้วยคนมากมายของพวกเขา ทรัพยากรย่อมมีจำกัด ไม่มีทางที่จะแบ่งปันให้ศิษย์สายนอกได้ใช้อย่างพอเพียง.

ศิษย์สายนอกหากต้องการกลายเป็นคนสำคัญ ต้องขยันพยายามที่จะกลายเป็นศิษย์สายใน ถึงจะได้รับทรัพยากรที่มากขึ้น.

ศิษย์สายนอกของพวกเขามีรึ? จะสามารถเทียบกับศิษย์สายนอกสำนักไท่กู่เจิ้งได้?

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง!

แม้นว่าจะเป็นสำนักที่ใหม่ เกิดมาได้เพียงปีกว่า ๆ.

ทว่าทรัพยากรที่จุนซ่างเซียวมอบให้ศิษย์ เหล่าสำนักที่มีอายุหลายร้อยปีคงทำได้แค่มองตราปริบ ๆ!

ความแตกต่างนี้ ไม่มีทางเทียบกันได้เลย.

ศิษย์สายนอกนิกายเซิ่งชวน หลายคนที่มีพลังบ่มเพาะที่เหนือกว่า บางคนอาจจะรับมือได้ 20-30 กระบวนท่า แต่ท้ายที่สุดก็พ่ายแพ้อยู่ดี.

กล่าวได้ว่า.

ศิษย์สายนอกของนิกายเซิ่งชวนเป็นดั่งหมูในอวย!

ตูมมมมม!”

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่เอาชนะศิษย์สายนอกนิกายเซิ่งชวนอีกคน ภารกิจเอาชนะศิษย์สายนอกก็เสร็จสิ้น เวลานี้เอาชนะได้สามสิบคนแล้ว.

“ติ๊ง! เอาชนะศิษย์สายนอกนิกายเซิ่งชวนสำเร็จ ภารกิจสมบูรณ์ 20%  โฮสน์ได้รับแต้มสนับสนุน 400 แต้ม.”

“ติ๊ง! แต้มสนับสนุน........”

วิ้ง วึ้ง.

ภารกิจมหากาพย์ครั้งก่อนสำเร็จ 20% ได้รับแต้ม 200 ครั้งนี้ได้ 400 แต้ม นี่มันสุดยอดไปแล้ว.

จุนซ่างเซียวที่ยกมือประสาน “อาวุโสจิน ต่อสู้ 30 คู่แล้ว การประลองระหว่างศิษย์สายนอกพอแค่นี้ดีหรือไม่?”

“ยัง.”

อาวุโสจินที่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “สู้ต่อ!”

30 คู่ไม่ชนะแม้แต่คนเดียว จะให้เอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน.

ต่อสู้ต่อไป จะให้อีกฝ่ายบอกว่าชนะรวดได้อย่างไร อย่างน้อยต้องเอามาให้ได้สักสิบคน เพื่อรักษาหน้าตัวเองไว้บ้าง!

ท้ายที่สุด?

ซือหม่าจงต้า ซุยปู่เจี้ยน หลินเจียงหางและอีกหลายคนที่ออกไปต่อสู้ ศิษย์สายนอกของนิกายเซิ่งชวนที่พ่ายแพ้อย่างราบคาบ.

“ตูมมม!”

ฝ่ายตรงข้ามที่ลอยโด่งออกไปโดยลี่ซางเทียน ด้วยท่าเท้าเหยียบเมฆาเขาที่เหินอยู่บนอากาศร่อนลงพื้นอย่างสง่างาม.

จากนั้น.

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งก็ชนะ 50 คน.

“ติ๊ง! ศิษย์เอาชนะศิษย์สายนอกนิกายเซิ่งชวน สำเร็จเกินมาตรฐาน ภารกิจมหากาพย์สำเร็จ 30% โฮสน์ได้รับแต้มสนับสนุน 200.”

“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุน........”

จุนซ่างเซียวที่แอบตกใจ ก่อนที่จะเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เดิมที ก็มีภารกิจที่ซ่อนไว้หากชนะเกินโควตาด้วยสินะ.”

......

ขณะที่ลี่ซางเทียนเตะอีกฝ่ายกระเด็น ร่อนลงพื้นอย่างสง่างามนั้น เหล่าผู้ชมที่เวลานี้กลายเป็นโง่งมไปเลยเหมือนกัน.

ชนะ 50 คน ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง จบลงแล้ว.

นิกายเซิ่งชวน พ่ายแพ้ทั้งหมด.

ใครจะคิดว่านิกายระดับห้า จะถูกสำนักระดับเจ็ดทุบตีพ่ายแพ้หมดรูปเช่นนี้!

อาวุโสจินเวลานี้กำหมัดสั่นระริก ๆ หากไม่เพราะว่ามีผู้ชมมากมาย เวลานี้เขาคงกลายเป็นบ้าไปแล้ว!

หม่าหยุนเถิงและหวังตงหลิงที่เงียบไปเช่นกัน.

สำนักไท่กู่เจิ้งทรงพลังเกินไปแล้ว แม้แต่พวกเขายังตื่นตะลึง.

“ศิษย์น้อง.”

ศิษย์พี่ของมู่หรงซินที่กล่าวด้วยความจริงจัง “เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”

พลังของศิษย์นิกายนางเอง นางก็มั่นใจว่าจะเอาชนะนิกายระดับห้าได้เหมือนกัน ต้องไม่ลืมว่านางอยู่ในนิกายระดับสอง.

ทว่าที่นางเห็นเวลานี้สำนักระดับเจ็ด กับชนะนิกายระดับห้าได้อย่างราบคาบ เรื่องเช่นนี้ไม่เห็นกับตา คงยากจะเชื่อ!

นี่เพียงการต่อสู้ของศิษย์สายนอกเท่านั้น.

ทว่าสำนักไท่กู่เจิ้งที่ราวกับตบหน้าเหล่าผู้ชมที่กล่าวหยันดูแคลนพวกเขาก่อนหน้านี้จนหน้าหงายไปตาม ๆ กัน.

“สู้อีก!”อาวุโสจินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “อาวุโสจิน สำนักไท่กู่เจิ้งของข้ามีคนไม่มากนัก จะให้สู้ไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ ดูจะเอาเปรียบกันหรือไม่?”

เดิมทีเขาวางแผนที่จะส่งศิษย์ออกไปต่อสู้ 53 คนเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ที่นำมานั้นเพื่อมาเชียร์เท่านั้น หากให้สู้ต่อไป ไม่มีทางที่จะเพียงพอ ให้รับมือฝ่ายตรงข้ามที่มีศิษย์หลายพันคนได้.

“เอาเป็นว่า.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ส่งศิษย์สายในออกมาต่อสู้เลย.”

ศิษย์สายนอกควรจะพอได้แล้ว ภารกิจลับก็เสร็จแล้ว เวลานี้ให้ศิษย์สายในออกไปจะดีกว่า ต้องไม่ลืมว่าเขาต้องทำภารกิจมหากาพย์ให้สำเร็จ.

“ตกลง!”

อาวุโสจินที่เห็นด้วย ทว่าขณะกำลังออกคำสั่งนั้น.

ชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีเขียว ก้าวออกมาที่กลางลายุทธ์ เขาที่ก้มหน้าตลอดเวลา ทว่าร่างกายของเขาที่สั่นขยุกขยิก.

ในเวลานั้น.

เขาที่เงยหน้าจ้องมองออกไปยังจุนซ่างเซียว “จุนซ่างเซียว เจ้ายังจำข้าได้หรือไม่?”

“เอ๊ะ?”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมาว่า “เจ้า...เจ้าคนชุดเขียวที่ลวนลามศิษย์หญิงใหญ่ของข้าที่นอกเมืองชิงหยางอย่างงั้นรึ?”

ศิษย์สำนักไทกู่จิ้งถึงกับตื่นตระหนกขึ้นมาทันที.

โอ้วสวรรค์!

ใครกันที่หาญกล้าลวนลามศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่เย็นชาคนนี้ มันจะใจกล้าเกินไปแล้ว.

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว.”

ไต่ลู่ที่ชี้นิ้วไปยังกลุ่มของศิษย์สายในที่แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขาม แววตาเผยความเย็นชาออกมา “ส่งศิษย์ของเจ้าออกมาต่อสู้กับข้า!”

“....”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “แล้วเจ้าต้องการสู้กับใครล่ะ?”

“ชิ.”

ไต่ลู่ที่กล่าวออกมาด้วยความอหังการ “ส่งคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาเลย ข้าจะทุบมัน บอกให้ทุกคนได้รู้ นิกายเซิ่งชวนไม่ใช่สถานที่สำนักขยะเช่นเจ้า จะยั่วยุได้!”

ต้องไม่ลืมว่าสำนักของเขาที่พ่ายแพ้ไป 50 คน ไต่ลู่ที่ตระหนักได้ถึงโอกาส ที่จะแสดงผลงานต่อหน้าอาวุโสจิน.

บางทีจบการต่อสู้ครั้งนี้ หากเขาเผยความสามารถออกมาได้นั้น อาจได้เป็นศิษย์สายตรง ได้รับทรัพยากรมากมาย ไม่ต้องให้เขาออกไปดิ้นรนด้านนอก!

อิ อิ อิ!

จุนซ่างเซียว จุนซ่างเซียว!

เจ้าและศิษย์ของเจ้า จะเป็นเพียงหินรองเท้าให้ข้าได้ก้าวผ่าน!

“แข็งแกร่งที่สุด?”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิด.

ในเวลานั้นเย่ซิงเฉินที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าสำนัก ในเมื่อเขาต้องการเจอคนที่แข็งแกร่งที่สุด ศิษย์ยินดีที่จะออกไปต่อสู้ เพื่อดับความอหังการของเขา.”

หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อและคนอื่น ๆ ที่มุมปากกระตุก.

ศิษย์น้องเย่ ถึงพลังเจ้าจะมากกว่าคนอื่น ไม่ต้องกล่าวถึงศิษย์พี่ใหญ่ใหญ่ ทว่าช่วยรักษาหน้าพวกเราหน่อย!