ตอนที่ 98 แย่แล้วหมอลู่!
ตอนที่ 98 แย่แล้วหมอลู่!
“สมบัติของกบสี่ตานั้นว่ากันว่าเป็นกบที่เกิดการกลายพันธุ์จนทำให้มันมีสี่ตา ดังนั้นมันจึงถูกตั้งชื่อว่าสมบัติของกบสี่ตาสินะ”
ลู่ชางเฉิงจ้องไปที่สมบัติของกบสี่ตาอย่างระวัง
มันคือกบสี่ตาที่มีพิษและสามารถพ่นพิษได้ แต่จางเที่ยนหวู่ได้ผูกปากของกบสี่ตาตัวนี้เอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มันพ่นพิษใส่
เมื่อเห็นแบบนี้ลู่ชางเฉิงจึงนึกถึงเทคนิคลับการเปลี่ยนแปลงสมบัติเส้นตันเถียนทันที
ด้วยความทรงจําของเขาที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาจดจําเทคนิคนี้ได้อย่างละเอียด
ในตอนนี้เขากำลังนึกถึงรายละเอียดของวิธีการใช้ "กบสี่ตา" อยู่
เทคนิคลับการเปลี่ยนแปลงสมบัติเส้นตันเถียนนั้นมีเจ็ดขั้นก็จริง แต่มันไม่จําเป็นต้องเลื่อนตามลำดับ
ตราบใดที่ได้รับสมบัติมีค่าหายากทั้งเจ็ดชนิดและนำมันมาใช้งาน ก็จะสามารถก้าวไปสู่ขั้นถัดไปได้ทันที
สมบัติของกบสี่ตานั้นถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ "กลายพันธุ์" ซึ่งหลังจากใช้งานแล้ว นอกจากจะเกิดการแลกเปลี่ยนเลือดและแทนที่ไขกระดูกและได้พลังเพิ่ม 10 เก๋า เท่านั้น แต่มันยังสามารถทําให้ร่างกายของเขามีภูมิคุ้มกันต่อสารพิษทั้งหมด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก
ลู่ชางเฉิงไม่จึงเสียเวลาไปมากกว่านี้และเริ่มนึกถึงขั้นตอนของเทคนิคลับการเปลี่ยนแปลงสมบัติเส้นตันเถียน โดยเฉพาะ "สมบัติของกบสี่ตา" ซึ่งด้วยความเข้าใจอันน่าสะพรึงกลัวของเขาที่สูงเกิน 600 แต้ม ลู่ชางเฉิงใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการทําความเข้าใจส่วนของ "สมบัติของกบสี่ตา" ได้แล้ว
"เอาล่ะ"
ลู่ชางเฉิงเอื้อมมือไปคว้าสมบัติของกบสี่ตา
ในขณะเดียวกัน เขาก็เฉือนกบสี่ตาตัวนั้นเบาๆด้วยกริช
"แคว่ก"
บาดแผลขนาดใหญ่เปิดขึ้นบนร่างของกบสี่ตาพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมา
ลู่ชางเฉิงได้สร้างบาดแผลที่ฝ่ามือของเขาทันที จากนั้นเขาก็เอามือของเขาไปปิดแผลของกบสี่ตา
หลังจากนั้น ลู่ชางเฉิงเปิดใช้งานเทคนิคลับการเปลี่ยนแปลงสมบัติเส้นตันเถียนอย่างรวดเร็ว
"ฮึ้บบ"
ฝ่ามือของเขาดูดซับเลือดทั้งหมดจากกบสี่ตาอย่างรวดเร็วให้เข้ามาผสมกับเลือดของเขาเอง
จากนั้นภายใต้ผลของเทคนิคลับการเปลี่ยนแปลงสมบัติเส้นตันเถียน พลังลึกลับภายในเลือดของกบสี่ตาก็เข้าสู่ไขกระดูกของลู่ชางเฉิงอย่างรวดเร็ว
"บู้มมมม"
ไขกระดูกของลู่ชางเฉิงเริ่มสั่นสะท้านอีกครั้งก็ที่จะค่อยๆเกิดกระบวนการ "แทนที่" อย่างละเอียด
“การแลกเปลี่ยนเลือดและแทนที่ไขกระดูกได้เริ่มขึ้นอีกแล้วสินะ...”
ลู่ชางเฉิงคุ้นเคยกับความรู้สึกแบบนี้มาก
ถ้าหากเขาจำไม่ผิด นี่จะเป็นการแลกเปลี่ยนเลือดและแทนที่ไขกระดูกครั้งที่สี่
หลังจากนั้นเวลาได้ไหลผ่านไปอย่างช้าๆ
ในพริบตาก็ถึงรุ่งสางแล้ว
"ฟุ้บบ"
ลู่ชางเฉิงได้ลืมตาขึ้น
แม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนหลับทั้งคืน แต่เขากลับเต็มไปด้วยพลังและดูมีชีวิตชีวามาก
เขายื่นมือออกไปข้างหน้าทันทีแล้วจ้องมัน
กบสี่ตาในฝ่ามือของเขาเหี่ยวราวกกับว่าถูกดูดน้ำในร่างกายออกจนหมด นอกจากนี้ก็ไม่มีลมหายใจของกบสี่ตาอยู่อีก
แต่ถึงอย่างนั้น พลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างได้ปรากฏขึ้นภายในร่างกายของลู่ชางเฉิง และตอนนี้ไขกระดูกของเขาก็มีพลังจางๆของกบสี่ตา ซึ่งนั่นก็คือภูมิคุ้มกันต่อสารพิษทั้งหมด!
แน่นอนว่า "ภูมิคุ้มกันต่อสารพิษทั้งหมด" นั้นไม่เกินจริงเลย
แม้ว่าจะมีสารพิษแปลกๆที่ลู่ชางเฉิงยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ก่อนหน้านี้
แต่หลังจากนี้สารพิษส่วนใหญ่จะเป็นอันตรายต่อเขาอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้น 10 เก๋า ความแข็งแกร่งทางกายภาพของลู่ชางเฉิงจึงพุ่งสูงขึ้นกลายเป็น 40 เก๋า!
ตัวเลข 40 เก๋านี้ถือว่าน่ากลัวและทรงพลังอย่างมาก!
หลังจากนั้นลู่ชางเฉิงได้เปิดแผงคุณสมบัติทันที
โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง
ค่าความเข้าใจ: 609 (ความเข้าใจอย่างถ่องแท้)
เทคนิคลับการเปลี่ยนแปลงสมบัติเส้นตันเถียน : ขั้นแรก
วิชาคลื่นสามระลอก : ขั้นที่สอง
เทคนิคลับผลึกโลหิต : เชี่ยวชาญ
วิชามังกรทยาน 9 ขั้น : ขั้นแรก
การเปลี่ยนแปลงเทพเจ้าแห่งมังกร : ขั้นแรก
วิชาเก้าสายฟ้ากลั่นกายา : สมบูรณ์แบบ (บางส่วน)
แผงคุณลักษณะของเขาเต็มไปด้วยเทคนิคและศิลปะการต่อสู้ต่างๆที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของลู่ชางเฉิงได้อย่างรวดเร็ว
“ถ้าหากเทคนิคลับผลึกโลหิตอยู่ในระดับสมบูรณ์แบบ ข้าจะสามารถปรับแต่งผลึกโลหิตได้ทันที หลังจากนั้นพลังของข้าจะสูงถึง 50 เก๋า”
“เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าหากข้าใช้การเปลี่ยนแปลงเทพเจ้าแห่งมังกรขั้นที่สามได้ พลังของข้าจะไปถึงขอบเขตร้อยเก๋าได้อย่างง่ายดาย!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ารวมกับวิชาคลื่นสามระลอก ความแข็งแกร่งของข้าจะไปถึงระดับที่เหนือกว่าที่ข้าจะจินตนาการได้!...”
หลังจากการที่ลองคิดดูเล่นๆ ลู่ชางเฉิงเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยเช่นกัน
เขาได้เข้าสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์โดยที่คิดว่าความคืบหน้าด้านการฝึกฝนของเขาจะช้าลง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขาจะพุ่งสูงขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว และดูเหมือนจะเร็วกว่าตอนที่เขาอยู่ในขอบเขตการปรับแต่อวัยวะด้วยซ้ำ
อาจเป็นเพราะเขาได้วางรากฐานอย่างเหมาะสมในช่วงที่เขาอยู่ในช่วงการปรับแต่งสภาพร่างกายและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างขยันขันแข็งเพื่อเพิ่มค่าความเข้าใจ เขาจึงสามารถรักษาความเร็วในการฝึกฝนเอาไว้ได้หลังจากที่ก้าวไปสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์
“หมอลู่ ท่านผู้นำกําลังเรียกหาท่านค่ะ”
ทันใดนั้น เสียงของสาวใช้ของตระกูลเซี่ยดังออกมาจากนอกประตู ซึ่งฟังดูแล้วค่อนข้างเป็นเสียงที่ดูกังวล
ลู่ชางเฉิงหยุดการฝึกฝนของเขาก่อนที่จะเปิดประตูและถามว่า "มีอะไรงั้นรึ?"
“หมอลู่ ตอนนี้นายน้อยหญิงได้ล้มป่วยลงอีกครั้ง และครั้งนี้กลับดูรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ”
“ท่านผู้นำเลยให้ข้ามาเรียกให้ท่านรีบไปตรวจอาการของนายน้อยหญิง”
"อาการกำเริบรุนแรงขึ้นงั้นรึ?"
ลู่ชางเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เพราะเรื่องแบบนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้!
จากการตรวจโดยละเอียดของเขา อาการป่วยนายน้อยหญิงเซี่ยควรเกือบจะหายขาดแล้ว แล้วมันจะกำเริบขึ้นมาได้อย่างไร?
ดังนั้นลู่ชางเฉิงจึงรีบเดินตามสาวใช้ไปทันที..