ตอนที่แล้วChapter 275 ผู้พิทักษ์มนทลผู้ลึกลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 277 อาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย ภารกิจมหากาพย์ที่สาม.

Chapter 276 นึกเผื่อถึงความยากลำบากและอันตรายในช่วงระยะเวลายามสงบ


การดื่มเหล้ากับเจ้าเมืองเซี่ย ทำให้จุนซ่างเซียวเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ของโลกใบนี้มากขึ้น ในวันนี้แม้นว่าสถาการณ์จะดูเหมือนสงบ ทว่ากับมีคลื่นใต้น้ำที่รุนแรง เมื่อไหร่ก็ตามที่สงครามเกิดขึ้น มนทลชิงหยางจะต้องพังทลายย่อยยับลงอย่างแน่นอน.

ภายใต้รังเดียวกัน ไม่มีไข่ใบใหนที่ปลอดภัย?

สำนักไท่กู่เจิ้งอยู่ในมนทลชิงหยาง เมื่อสงครามเกิดขึ้นแน่นอนว่าย่อมต้องได้รับผล ดังนั้นเขาช่วยเจ้าเมืองเซี่ยก็เท่ากับช่วยตัวเอง.

“ข้าต้องการเวลา อ๊าก.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

สำนักของเขาที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น หากว่าเกิดสงครามขึ้น มนทลอื่นโจมตีมนทลชิงหยาง การพัฒนาสำนักของเขาย่อมหยุดชงัก ขอเพียงมีเวลาให้เขาได้แข็งแกร่งขึ้น แน่นอนว่าเขาย่อมสามารถปกป้องตัวเองได้.

ต้องการเวลานานเท่าไหร่?

ยิ่งนานยิ่งดี.

อีกอย่าง จุนซ่างเซียวก็ไม่ต้องการเป็นผู้กอบกู้แต่อย่างใด.

หากว่าสงครามเกิดขึ้น เขาก็ต้องปกป้องเมืองชิงหยางและสำนักตัวเองเท่านั้น ส่วนเมืองอื่น....

อืม เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลอ้าย หากช่วยได้ เขาก็จะช่วยอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน.

ที่จริงเขาต้องการแข็งแกร่งขึ้น ก็เพื่อปกป้องตัวเองเป็นหลัก.

เจ้าสำนักจุนไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเป็นเจ้าโลกแต่อย่างใด เพราะเขาเองก็ชอบอิสระเสรี เพียงแค่เป็นเจ้าสำนักก็ยุ่งพอแล้ว ทำไมต้องปวดหัวกับการแย่งชิงอำนาจไม่หยุดด้วย.

“เจ้าหอลี่.”

ภายในห้องโถง จุนซ่างเซียวเอ่ย “สั่งการให้สมาชิกหอฝนพรำ ซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ จากทุกเมืองกลับมาด้วย.”

สงครามไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับจำนวนคน ทว่ายังขึ้นกับวัสดุอุปกรณ์ด้วย.

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ให้มากที่สุด.

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “การเตรียมสงครามต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก และไม่ใช่ว่าสงครามจะเกิดในเร็ว ๆ นี้ เจ้าสำนักคิดดีแล้วรึ?”

“พวกเราควรนึกเผื่อถึงความยากลำบากและอันตรายในช่วงระยะเวลาสงบ.”

“ตกลง.”

ลี่ลั่วฉิวที่ถูมือขาว ๆ ของนางไปมา กล่าวออกมาว่า “ส่งเงินมาเลย.”

จุนซ่างเซียวที่ส่งแหวนมิติสองวงออกไป.

ลี่ลั่วฉิวที่ขมวดคิ้วไปมา เผยท่าทางงงงวย ทั้งสองวงมีเงินอยู่วงล่ะห้าสิบล้าน “เจ้าสำนักวางแผนที่จะซื้อเยอะขนาดนั้นเลยรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ยื่นวัตถุดิบในการหลอมกระบี่หานเฟิงและอาวุธอื่น ๆ ออกไป กล่าวออกไปว่า “ซื้อตามรายงานนี้ หากรายการใหนไม่มีก็ซื้อแร่อย่างอื่นกลับมาก็แล้วกัน.”

“อืม.”

ลี่ลั่วฉิวที่เรียกงูพิษ และสมาชิกคนอื่น ๆ กระจายเงินออกไป เพื่อซื้อวัตถุดิบทั้งหมดมา โดยส่งพวกเขาไปยังเมืองทั้งแปดของมนทลชิงหยาง.

สมาชิกหอฝนพรำ ที่ได้เรียนรู้ท่าเท้าเหยียบเมฆา ทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพในการเดินทางเป็นอย่างมาก เพียงแค่ 2-3 วันก็สามารถซื้อสินค้ากลับมาได้อย่างมากมาย.

กระบี่หานเฟิง หอกผู้พิชิต และโล่เหล็กกล้า มีแร่สามอย่างที่ต้องใช้ แร่หลายอย่างนับว่าหายากและมีราคาไม่น้อย.

เงินร้อยล้าน ถูกใช้ไปจนหมด.

ในเมื่อเขาต้องเตรียมสงครามในยามสงบ แน่นอนว่าย่อมไม่เสียดายเงินแม้แต่น้อย ขณะบ่มเพาะ เขาก็เปิดฟังก์ชันหลอมอุปกรณ์ สร้างอาวุธขึ้นมา.

ด้วยวัตถุดิบที่ซื้อมาได้ เขาสามารถหลอมกระบี่หานเฟิงได้ 200 เล่ม หอกผู้พิชิต 300 เล่ม.

ส่วนโล่เหล็กกล้า ก่อนหน้านี้ได้แร่จำนวนหนึ่งจากตระกูลเซียว เมื่อหลอมเสร็จแล้วตอนนี้มีอยู่ถึง 700 ชิ้น.

ถึงอย่างไร ก็ยังไม่พอกับศิษย์ของเขาทั้งหมด ที่มีพันคน.

......

เมื่อสงครามเริ่มขึ้น วัตถุดิบจะยิ่งหาได้ยาก ตอนนี้เขามีวัตถุดิบระดับหนึ่งแล้ว จุนซ่างเซียวจึงเริ่มบ่มเพาะต่อไป.

ในช่วงนี้เขาใช้เม็ดยารวมวิญญาณและศิลาวิญญาณ ทำให้การดูดซับพลังวิญญาณได้เร็วขึ้น เพียงหนึ่งเดือนครึ่ง เขาก็ตัดผ่านไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า!

เหลืออีกหนึ่งขั้น ต้องตัดผ่านไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายให้ได้.

กว่าสี่สิบวัน จุนซ่างเซียวใช้ศิลาวิญญาณไปถึง 450 ก้อน เฉลี่ยเกือบวันล่ะ 10 ก้อน.

หากไม่ใช่เพราะเม็ดยารวมวิญญาณ คงจะผลาญศิลาวิญญาณมากกว่านี้.

เขาต้องผลาญเงินวันล่ะ 102,000 เหรียญ เป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงมาก.

การบ่มเพาะแบบเขา ถึงจะเป็นเจ้านิกายขั้นสี่หรือห้า ก็ไม่สามารถทำได้.

ศิษย์สายในของเขา ก็ใช้เม็ดยารวมวิญญาณและศิลาวิญญาณเช่นกัน ทำให้พลังบ่มเพาะเติบโตเป็นอย่างมาก.

เย่ซิงเฉินเวลานี้ก้าวไปถึงระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่สี่แล้ว.

หลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อตอนนี้มีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่สาม.

ส่วนเถียนซีซึ่งมีรากวิญญาณระดับสูง เพราะตัดผ่านระดับเป็นอาจารย์ยุทธ์ช้ากว่าคนอื่น แม้นจะมีศิลาวิญญาณสนับสนุน แต่ก็ตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่สองเท่านั้น.

ในเวลานี้ การประลองกับนิกายเซิ่งชวนใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนี้เหลือไม่ถึงสามเดือนแล้ว หากมีศิลาวิญญาณอย่างพอเพียง คาดว่าจะตัดผ่านไปยังระดับห้าโดยไม่ยากเย็น.

อย่างไรก็ตาม...ตอนนี้ไม่มีแล้ว.

ไม่กี่วันมานี้ เหล่าเหว่ยและหอสมุนไพรก็เก็บเกี่ยวสมุนไพรอีกรอบแล้ว ทำให้มีเพียงเม็ดยารวมวิญญาณที่มีให้ใช้อย่างพอเพียง.

อย่างไรก็ตามเม็ดยารวมวิญญาณก็ถือเป็นทรัพยากรขั้นสูง ช่วยยกระดับได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้นว่าจะต้องใช้เวลามากกว่าเดิมนิดหน่อย.

หากเป็นคนอื่นต้องบอกว่ายิ่งกว่าเหลือเฟือ.

หากว่าชาวยุทธ์คนอื่น ๆ รู้ว่าศิษย์สายในสำนักไท่กู่เจิ้งมีเม็ดยารวมวิญญาณที่ดูดซับพลังวิญญาณได้มากกว่าคนอื่น 10-15 เท่า คงรู้สึกอิจฉาจนพ่นโลหิตออกมาแน่.

และแล้วในวันหนึ่งจุนซ่างเซียวก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ลงเขา เดินทางไปยังเมืองชิงหยาง ใช้เงินไปอีกยี่สิบล้านซื้อศิลาวิญญาณ 2,000 ก้อน เพื่อมอบให้ศิษย์และเขาบ่มเพาะ เพื่อเตรียมประลองกับนิกายเซิ่งชวน.

ประมุขอ้ายที่มอบเงินให้เขาร้อยล้าน ซื้อเมล็ดพันธ์ ซื้อแร่ ซื้อศิลาวิญญาณจำนวนมาก ถือว่ามีพอให้เขาได้ใช้จ่าย.

กล่าวได้ว่าการสนับสนุนของเขานั้นลึกล้ำยิ่งกว่านิกายใหญ่ ไม่เพียงแต่มีระบบ ยังมีเงินอีกมหาศาล จะมีสักกี่นิกายทำได้เช่นเขา?

ทุกคนในสำนัก บ่มเพาะอย่างหนักหน่วง และทุก ๆ เดือนก็จะมีการทดสอบความก้าวหน้าเพื่อรับรางวัลและทุกสามเดือนจะมีประลองเล็ก ๆ ภายในด้วย.

เวลาที่ค่อย ๆ ไหลไปเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนจึงบ่มเพาะได้อย่างสงบ.

จุนซ่างเซียวที่ออกจากห้องบ่มเพาะ มีเพียงแค่ประมุขอ้ายเดินทางมารับส่งทรัพยากร หรือคนของหอสมุนไพรที่เก็บเกี่ยวสมุนไพรมาส่งมอบให้.

......

สองเดือนหลังจากนั้น.

การประลองกันนิกายเซิ่งชวน เหลือเวลาเพียงสิบวัน!

การพูดคุยเรื่องดังกล่าวนี้ยิ่งโหมแรงขึ้นเรื่อย ๆ.

เหล่าชาวยุทธ์มากมายต่างก็สนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แม้แต่สอบถามกันไปมา ว่าสำนักไท่กู่เจิ้งจะออกเดินทางตอนใหน?

คนของพันธมิตรร้อยสำนัก ที่ส่งคนลงจากเขา เพื่อเฝ้ามอง ขอเพียงจุนซ่างเซียวและศิษย์เดินทาง พวกเขาก็เตรียมเดินทางไปยังนิกายเซิ่งชวนเช่นกัน.

เพื่อเชียร์สำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?

เป็นไปไม่ได้.

พวกเขาหวังที่จะไปหัวเราะเยาะ ซ้ำเติมต่างหาก ทุกคนพร้อมที่จะกล่าวหยันอีกฝ่าย เหยียบพวกเขาให้จมฝังดินเมื่อสำนักไท่กู่เจิ้งพ่ายแพ้.

เหตุผลที่ยังไม่ออกเดินทางก่อน เพราะเกรงว่าสำนักไท่กู่เจิ้งจะไม่กล้าเดินทางไปประลอง การเดินทางก่อนอาจกลายเป็นเรื่องเสียเวลาไปก็ได้.

ความปรารถนาของพันธมิตรร้อยสำนักนั้นเรียบง่ายมาก.

หากว่าอีกฝ่ายประลองแพ้ ก็พร้อมจะทับถมกล่าวเย้ย.

แต่หากอีกฝ่ายผิดสัญญาไม่กล้าไป ก็พร้อมที่จะทำลายชื่อเสียงในทันทีเช่นกัน!

ส่วนในเมืองชิงหยาง เจ้าเมืองเซี่ยที่จัดการธุระทั้งหมด เตรียมเดินทางไปเชียร์สำนักไท่กู่เจิ้ง.

และตระกูลอ้ายเองก็เช่นกัน เพราะว่างานประลองใกล้เข้ามาแล้ว พวกเขาไม่ลังเลเลยที่จะเลื่อนการประมูลออกไป.

แม้นว่าคนอื่น ๆ จะไม่สนับสนุนสำนักไท่กู่เจิ้ง แต่เจ้าเมืองเซี่ยและตระกูลอ้าย ยืนข้างเขา เป็นดั่งมิตรแท้ที่หายาก.

เวลานัดหมายใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ.

ภายในมนทลชิงหยางที่ดูคึกคัก แม้แต่คนจากมนทลอื่นก็ยังเดินทางมา.

สำนักระดับแปดท้าทายนิกายระดับห้า เรื่องนี้เป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก พวกเขาย่อมต้องเดินทางไปยังนิกายเซิ่งชวนเพื่อชมเรื่องสนุกแน่นอน.

......

วังเหมี่ยวฮัว พลังวิญญาณที่มากล้นหมุนวนรอบภูเขา.

ซีจิงเสวียน นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่งดงามประดับประดาด้วยดอกไม้ “เจ้าสำนักจุนท้าประลองนิกายเซิ่งชวนเหลืออีกกี่วัน.”

“สิบวัน.”

เหม่ยเอ๋อที่บ่มอุบอิบในใจ นับตั้งแต่งานประมูลหกเดือนที่แล้ว เจ้าวังมักจะเอ่ยถึงสำนักไท่กู่เจิ้งบ่อย ๆ.

“เตรียมตัว.”

ซีจิงเสวียนเอ่ย “เดินทางไปยังนิกายเซิ่งชวน.”

“รับทราบ.”

......

“ศิษย์น้องมู่หรง.”

บนเส้นทางของมนทลแห่งหนึ่ง สตรีสองคนที่กำลังเดินทอดน่องพร้อมพูดคุยกันบนถนนใหญ่ “ได้ยินมาว่าสำนักที่ไม่มีคนรู้จัก ได้ท้าทายนิกายระดับห้า พวกเราจะไปหาอะไรสนุก ๆ ดูดีหรือไม่?”

นางที่เดินตามหลัง จ้องมองศิษย์น้องที่ก้าวเดินนำด้านหน้า เห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายมีสถานะสูงกว่า.

สตรีผู้งดงามอายุ 16-17 ปี เดินอยู่ด้านหน้านาง.

ชุดผ้าแพรสีน้ำเงิน ผิวที่ขาวเนียนราวหิมะ ทรวดทรงที่เพรียวสมส่วน ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโก่งโค้งดั่งใบหลิว แผ่กลิ่นอายความงามที่สูงส่งออกมา.

แน่นอนว่านางคืออดีตคู่หมั้นของเซียวจุ้ยจื่อ มู่หรงซิน!

บนถนน เหล่าชาวยุทธ์ที่ราวกับรับรู้ว่า คนทั้งสองเป็นคนของนิกายไป๋เหอเซิ่ง จึงได้หลบออกไป แม้แต่เผยท่าทางหวาดหวั่น.

“สำนักที่ไม่มีใครรู้จักอย่างงั้นรึ?”มู่หรงซินเอ่ย.

ศิษย์พี่ที่ก้าวตามเอ่ยออกมาว่า “ได้ยินมาว่าสำนักไท่ ไท่อะไรสักอย่าง เอ่อ สำนักมนทลขยะที่มีอดีตคู่หมั้นของศิษย์น้องอยู่ไง.”

“สำนักไท่กู่เจิ้งนะรึ?”

มู่หรงซินที่เงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “การหาประสบการณ์ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว ยังพอมีเวลา อยู่ระหว่างทางกลับ แวะดูหน่อยก็ดี.”

“ศิษย์น้อง.”

ศิษย์พี่หญิงของนางที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตั้งแต่เจ้าเข้าร่วมสำนัก ก็ตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า ยกระดับได้อย่างรวดเร็ว เมื่อไหร่ที่เข้าร่วมประลองยุทธ์สำนัก จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!”

“ศิษย์พี่คิดอะไรอยู่รึ?”มู่หรงซินเอ่ย.

ศิษย์พี่หญิงคนดังกล่าวเอ่ย “ธิดาที่สวรรค์เลือกเช่นศิษย์น้อง จะไปสนใจขยะของมนทลชิงหยางทำไม การที่ถอนหมั้นกันนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว ที่จริง นี่ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมาก.”

มู่หรงซินที่ขมวดคิ้วไปมา “ศิษย์พี่ โปรดอย่าได้เอ่ยถึงเขา.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด