ตอนที่แล้วChapter 273 สำนักไท่กู่เจิ้ง ความหวังของเมืองชิงหยาง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 275 ผู้พิทักษ์มนทลผู้ลึกลับ

Chapter 274 เข้าสู่ขอบเขตอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่ 8


การได้ประเมินสาม A จุนซ่างเซียวไม่ได้สนใจนัก ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงตั้งใจบ่มเพาะฝึกฝน ทั้งเขาและศิษย์ เต็มไปด้วยความจริงจัง.

ในความเห็นของเขานั้น จะต้องทำให้สำนักไท่กู่เจิ้งเป็นอันดับหนึ่งของทวีปชิงหยุนให้ได้ เพื่อที่จะแก้ไข ระเบิดเวลาที่ผูกดวงวิญญาณของเขาอยู่ นี่คือเรื่องสำคัญที่สุด!

“เฮ้อ.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “เจ้าสำนักเลือกที่อยู่อย่างถ่อมตน ทำให้พลาดโอกาสสร้างชื่อเสียง น่าเสียดายจริง ๆ.”

จุนซ่างเซียวที่ยกชาขึ้นจิบเอ่ยออกมาว่า “เมื่อไหร่ที่สำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเราแข็งแกร่ง จะมีชื่อเสียงตอนใหนก็ได้ ไม่เห็นขาดโอกาสอะไร.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ยออกมาว่า “ความหมายของข้านั้น หากเรื่องที่สำนักพวกเราได้ประเมิน 3A กระจายออกไป ย่อมล่อให้เหล่าผู้เยาว์ที่โดดเด่นมาลงทะเบียน.”

“เป็นเช่นนั้น.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “มีแต่จะเรียกร้องให้สำนักมากมายเข้ามารุมทึ้งพวกเรา.”

หลี่ลั่วฉิวที่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยออกมาว่า “โอ้วเป็นเช่นนี้นะเอง.”

ในทวีปชิงหยุนนั้น คนมากมายล้วนแต่ต้องการท้าทายคนที่แข็งแกร่งกว่า เพื่อพิสูจน์ตัวเอง แม้แต่บ้าคลั่งไม่ยอมหยุด.

เหล่ากลุ่มอิทธิพลที่ต้องอยู่อย่างระมัดระวัง รับคำท้าจากสำนักต่าง ๆ ไม่หยุด เพื่อที่จะทำให้ตัวเองได้ประเมินในระดับสูง.

สำนักไท่กู่เจิ้งที่ได้รับการประเมิน 3A หากเรื่องนี้กระจายออกไป ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน.

มนทลระดับเก้า ได้รับประเมิน 3A อย่างงั้นรึ?

เหล่ากลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ย่อมสงสัย จากนั้นก็จะเดินทางมาท้าประลอง.

สำนักไท่กู่เจิ้งที่เพิ่งแค่เริ่มต้น จำเป็นต้องพัฒนาไปอย่างช้า ๆ หากทุกวันจะต้องรับการประลองกับทั่วทุกสารทิศ จะเอาเวลาใหนไปฝึกฝนกัน.

......

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง เพราะว่าได้การประเมินสามA ทำให้พวกเขาเวลานี้ตั้งใจอย่างเต็มที่ ไม่สามารถเกียจคร้านได้.

ทุกคนในสำนักที่ฝึกฝนและก็ฝึกฝน.

ด้วยเม็ดยาที่เหลือเฟื้อ ไม่ขาดแคลน ดังนั้นจุนซ่างเซียวเวลานี้จึงได้พัฒนาสำนักได้โดดเด่นรวดเร็ว.

สำนักระดับเจ็ดอย่างงั้นรึ?

ทรัพยากรเช่นนี้ไม่มีทางที่จะมีใครทำได้.

ถึงแม้นจะเป็นสำนักระดับหก ก็ยังเทียบไม่ได้เช่นกัน.

จุนซ่างเซียว ผู้ปกครองสำนัก เขาที่ได้รับการยอมรับจากสมาคมรับรองสิทธิ์ เขาจะต้องยกระดับตัวเองขึ้นไม่หยุดหย่อนเช่นกัน.

......

ก่อนหน้านั้นเดือนหนึ่ง.

ตระกูลอ้ายที่ประมูลจบแล้ว.

หลังจากสรุปยอด ประมุขอ้ายก็นำเงินและเมล็ดพันธ์แม้แต่สมุนไพรรวบรวมมาส่งด้วยตัวเอง.

หลังจากที่เขากลั่นเม็ดยามากมาย จุนซ่างเซียวเอ่ยกล่าวออกมาว่า “ข้าคนเดียวคงจัดการไม่ไหว คงต้องมีคนของหอยาคอยจัดแจ้ง ให้ศิษย์ของข้าเป็นคนคอยรับและดูแลแทนดีกว่า.”

สำนักอื่น ๆ เกี่ยวกับจัดการเม็ดยานั้นก็จะมีอาวุโสคอยจัดแจงดำเนินการ.

การให้ศิษย์ของเขาคอยรับและจ่ายยา ซึ่งจะทำให้เขาสามารถบ่มเพาะพลังได้อย่างสงบ.

เพราะว่าสำนักไท่กู่เจิ้งไม่มีตำแหน่งอาวุโสยา ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงคิดที่จะเปิดหอยา และให้คนของหอสมุนไพรคอยจัดแจงเรื่องดังกล่าวชั่วคราว.

แน่นอน.

ด้วยไม่สามารถแจกจ่ายเม็ดยาด้วยตัวเองคนเดียว จึงต้องหาคนช่วยชั่วคราว.

จุนซ่างเซียวที่สร้างกฎเกณฑ์ของตัวเองขึ้น กำหนดระดับ จำนวนเม็ดยารวมวิญญาณของศิษย์แต่ละคนที่จะได้รับในแต่ละเดือนอย่างเข้มงวด.

ส่วนเม็ดยาบูรณะร่างกาย เปิดชีพจรและเม็ดยาผสานวิญญาณ สามารถรับได้ตามปรกติ.

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าศิษย์เข้าใหม่ก็ไม่ต้องมารับยาจากจุนซ่างเซียวเองแล้ว สามารถไปยังหอยาเพื่อรับมันเองได้.

หอยาที่เวลานี้ได้เปิดทำการอย่างเป็นทางการแล้ว.

จุนซ่างเซียวที่วางแผนไว้เช่นกัน รอให้มีแร่เพียงพอสร้างอาวุธได้เป็นจำนวนมาก ก็จะสร้างหอศาสตราขึ้นเช่นกัน เพื่อที่จะให้ศิษย์นำคะแนนสนับสนุนสำนักมาแลกเปลี่ยน.

ลู่เชียนเชียนที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง เอ่ยออกมาว่า “ภายใต้การนำของเจ้าสำนัก ทำให้สำนักเติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ.”

“ควรจะเป็นเช่นนั้น.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

การพัฒนาตลอดหลายเดือน หากไม่เปลี่ยนแปลงพัฒนาเลย ความพยายามของเขาย่อมเสียเปล่า.

“แต่ว่า.”

ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เทียบกับนิกายหลักที่แท้จริง ก็ยังแตกต่างกันลิบลับ.”

จุนซ่างเซียว ”ไม่มีใครกินคำเดียวแล้วอ้วน ดังนั้นไม่ต้องรีบ มันต้องใช้เวลา.

ลู่เชียนเชียนไม่เอ่ยอะไรอีก หันหลังกลับและเดินจากไป.

สตรีผู้นี้ เย็นชาอยู่ตลอดเวลา.

......

ศิษย์ทุกคนที่ได้รับเม็ดยาสนับสนุนอย่างพร้อมเพรียง และเข้าบ่มเพาะในค่ายกลรวมวิญญาณ หรือไม่ก็กลั่นกายเนื้อที่ห้องปั้นกล้ามเนื้อและหอคอยเก็บประสบการณ์.

หลังจากเตรียมการทั้งหมด จุนซ่างเซียวก็บ่มเพาะอย่างตั้งอกตั้งใจ เพื่อตัดผ่านระดับไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่แปด.

น่าเสียดายที่เขตแดนที่สูงขึ้น การยกระดับก็จะยากขึ้น ถึงจะใช้เม็ดยารวมวิญญาณระดับสูง อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน.

การพัฒนาสำนักต้องค่อยเป็นค่อยไป.

การบ่มเพาะเองก็ต้องก้าวไปทีละก้าวอย่างแน่นอน.

จากนั้น อีกหนึ่งเดือนก็ผ่านไป การทดสอบพลังประจำเดือนก็เกิดขึ้น คนที่พัฒนาเร็วที่สุด ก็จะได้รับรางวัลมากมาย.

การเก็บเกี่ยวสมุนไพรชุดที่สี่ก็ได้เวลาเก็บเกี่ยวอีกครั้งเช่นกัน สมาชิกของเหล่าเหว่ยที่เก็บเกี่ยว ก่อนที่จุนซ่างเซียวจะกลั่นเป็นเม็ดยารวมวิญญาณระดับสูงออกมา.

สมุนไพรอย่างน้อย 200,000 ต้นที่ปลูกไปก่อนหน้า ตอนนี้เติบโต ไม่เพียงแค่ได้วัตถุดิบมากมาย ยังช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมของสำนักไท่กู่เจิ้งได้ด้วย.

ครึ่งเดือนหลังจากนั้น.

การเก็บเกี่ยวสมุนไพรอีกชุดก็เกิดขึ้น.

เพราะว่าสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ตอนนี้สมุนไพรกว่า 200,000 ต้น จึงเติบโตเร็วมาก พลังวิญญาณรอบ ๆหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ.

จุนซ่างเซียวที่กลั่นเม็ดยารวมวิญญาณได้อีกกว่า 30,000 เม็ด ก่อนส่งให้กับหอยาเพื่อแจกจ่าย เป็นทรัพยากรยุทธ์สำหรับศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง.

ที่ยอดเยี่ยมที่สุด.

สมุนไพรสองแสนต้นที่เก็บเกี่ยวรอบสองนี้ ส่งพลังวิญญาณลอยคละคลุ้ง ทำให้ยอดเขาสดชื่นเปี่ยมด้วยพลังวิญญาณอย่างชัดเจน.

เหล่าเหว่ยและคนของหอสมุนไพร เริ่มปลูกสมุนไพรชุดที่สามแล้ว.

ขอเพียงมีเงิน สำนักไท่กู่เจิ้งจะเปลี่ยนเป็นสำนักที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังวิญญาณได้แน่นอน.

......

“ฟู่ ฟู่!”

คืนหนึ่งในห้องของจุนซ่างเซียว ขณะเขาบ่มเพาะรวมพลังวิญญาณอยู่นั้น ร่างกายของเขาก็ปลดปล่อยอำนาจฟ้าดินหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ.

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง.

พลังวิญญาณที่หมุนวนไปทั่วร่าง ไหล่บ่าเข้าไปในร่างกาย.

“ซูมมมม!”

เผ้าผมจุนซ่างเซียวโบกสะบัด ดวงตาทั้งสองข้างที่ค่อย ๆลืมขึ้น ส่องประกายแสงวับวาว.

และในที่สุด เขตแดนบ่มเพาะของเขาก็ตัดผ่านไปยังขั้นที่แปด.

เพราะว่าวิชาบ่มเพาะวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นและมีเม็ดยาที่เหลือเฟือ ทำให้ไม่ถึงสองเดือน เขาก็ตัดผ่านอีกระดับได้.

“ตูมมมมมม!”

หมัดของเขาที่ต่อยลงไปยังเครื่องวัด เผยพลัง 110,000 จิน!

“ฮึฮึ.”

ระบบเอ่ย “ความแข็งแกร่งของโฮสน์เวลานี้ นับว่าโดดเด่น พลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับบรรพชนยุทธ์สามัญขั้นที่สองเลย.”

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกไม่พอใจนัก “ถึงจะตัดผ่านระดับ ไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย ก็ยังไม่มีพลังพอที่จะควบคุมดาบยาวมังกรเขียว.”

ระบบเอ่ย “แต่เมื่อตัดผ่านไปยังระดับบรรพชนยุทธ์ ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนี้ จะทำให้โฮสน์ไม่ต้องใช้ยันต์แห่งพลังอีก และมีรากฐานที่มั่นคงในการใช้.”

“อืม.”

หลังจากตัดผ่านระดับแล้ว จุนซ่างเซียวยังคงบ่มเพาะต่อไป.

เขายังรู้สึกช้าเป็นอย่างมาก การจะตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นเก้า เหลือเวลาอีกเพียง 4-5 เดือน.

ก่อนจะเดินทางไปประลองที่นิกายเซิ่งชวน เขาจะต้องตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายให้ได้.

ดูเหมือนว่า....

จุนซ่างเซียวที่โบกมือ “ต้องใช้ศิลาวิญญาณแล้ว!”

เม็ดยารวมวิญญาณ ไม่สงสัยช่วยให้รวมพลังวิญญาณเร็วขึ้น ทว่าการดูดซับพลังวิญญาณจากศิลาวิญญาณ พลังวิญญาณบริสุทธ์กว่า จะทำให้เลื่อนระดับได้เร็วกว่า.

ปรกติแล้ว จุนซ่างเซียวไม่ต้องการใช้ ต้องไม่ลืมว่ามันมีราคาก้อนล่ะ 10,000 เหรียญ เขาไม่ต้องการเผาเงินเล่น!

หากแต่เวลานี้การประลองกับนิกายเซิ่งชวนกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว เพื่อที่จะตัดผ่านไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย มีเพียงแต่ต้องใช้ศิลาวิญญาณเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด