บทที่ 262 : พายุและสึนามิ (6)
บทที่ 262 : พายุและสึนามิ (6)
'ฉันต้องการข้อมูลเพิ่มเติม'
ฉันมองไปที่เฟรียซิสที่ยืนนิ่ง ๆ แล้วพูดว่า
“เรื่องความฝันนั้น ช่วยเล่าให้ฉันฟังทั้งหมดได้ไหม…”
[เคลียร์ด่าน!]
[ 'เวคิส(★★★)' 'คาทีโอ(★★★★)' เลเวลอัพ!]
[รางวัล – 170,000 เหรียญทอง เหงือกฉลาม (ระดับต่ำ) X 3]
[ฮีโร่ยอดเยี่ยม – 'คาทีโอ (★★★★)' ]
แสงสว่างเริ่มปกคลุมร่างกายฉัน
'เรื่องราวเกี่ยวกับความฝันของเด็กนั้น'
ฉันยิ้มอย่างขมขื่น
ดวงตาของเฟรียซิสเป็นประกายเมื่อเธอมองดูฉัน
“แสงนั้น…”
“ฉันแค่ต้องกลับไปเตรียมอะไรบางอย่าง สัญญาเรายังไม่สิ้นสุด ดังนั้นไม่ต้องกังวล แล้วฉันจะรีบกลับมา”
“ฮาน คุณจะไม่ถามอะไรหน่อยเหรอ?”
"ไม่ ยังไงทุกอย่างก็เหมือนเดิม”
ฉันไม่ได้มีแรงจูงใจที่จะรักษาทวีปนี้อยู่แล้ว
หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ควรทำภารกิจต่อไปตามปกติ
"เจอกันคราวหน้า"
“อื้อ เข้าใจแล้ว”
เฟรียซิสตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ฉันยิ้มให้เธอเบา ๆ และกลับไปที่ห้องรอ
เมื่อมาถึง ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
เห็นได้ชัดว่าไรก็ได้ได้ไม่ได้เชื่อมต่อเข้ามาในเกม
เนื่องจากภารกิจนี้ใช้เวลานาน เขาจึงไม่สามารถรอดูต่อได้
เวลาปัจจุบันในห้องรอเป็นช่วงดึก
บันทึกเกี่ยวกับการต่อสู้ของคาทีโอจะยังคงอยู่
ฉันยังสามารถกรอภาพภารกิจวนดูซ้ำได้
'หมอนั้นไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ'
เวคิสยิ้มแย้มและมองไปที่คาทีโอ
“อะไร อะไร? พวกนายกำลังทำให้ฉันขนลุกนะ”
“เด็กคนนี้จะเข้าร่วมการฝึกของเราพรุ่งนี้ไหมครับ? ผมคิดว่าเราต้องการรูปแบบที่แตกต่างออกไปในการสู้นะครับ”
สายตาของเวคิสหันมองมาที่ฉัน
ฉันพยักหน้าตอบเขา
“พรุ่งนี้มาที่ห้องรับแขกก่อน 7 โมงเช้า”
“แต่ฉันต้องดูแลเรือเหาะในตอนเช้า…”
“ก็ทำตอนกลางคืนสิ”
เวคิสพูดราวกับไม่มีอะไรสำคัญ
“แบบนี้ก็เรียกว่าทำงานล่วงเวลาแล้วนะสิ! มันแตกต่างจากสัญญาที่คุยกันไว้นะ!”
“สัญญามักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอแหละ”
“เฮ้ ฉันจะไม่ยอมรับการละเมิดสัญญาในครั้งนี้ง่าย ๆ หรอกนะ!”
“นี่จะทำให้ตารางชีวิตนายง่ายขึ้นต่างหาก”
ข้อความที่ไม่ปรากฏชื่อปรากฏขึ้นในหน้าต่างการทำงานของไรก็ได้
[นายท่าน...ตั้งแต่ชั้นที่ 33 คุณสามารถใช้เรือเหาะได้!]
[แนะนำฮีโร่ที่มีอาชีพ 'นักเวทย์' เลือกแท็บอัญเชิญแล้วแตะ 'เรือเหาะ!' ]
[เรือเหาะจะต้องอยู่ในสภาพที่สามารถอัญเชิญได้]
'เรือเหาะ'
เรือเหาะลำดังกล่าวสามารถปรากฏตัวในช่วงหลังของภารกิจได้
นั่นหมายความว่าเรือเหาะทุนนิยมตระตูลโฮนั้นสามารถอัญเชิญในทุกชั้นได้แล้ว
แต่จะอัญเชิญเรือเหาะในชั้นปัจจุบันคงไม่เหมาะสมนัก เพราะลักษณะของด่านที่เราเผชิญอยู่เป็นทะเล
และที่สำคัญ การซ่อมบำรุงเรือเหาะก็ยังไม่เสร็จสิ้นดี
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อคาทีโอเข้าร่วมปาร์ตี้ที่ 1 การฝึกฝนในการจัดทีมก็เป็นสิ่งจำเป็น
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยกเว้นได้
"อะแฮ่ม"
ฉันกระแอมและพูดต่อ
“คาทีโอ นายอาจจะต้องทำงานหนักขึ้นอีกสักหน่อยนะ”
“บ้าเอ๊ย!”
“ฉันอยากให้นายพักผ่อนเยอะ ๆ อยู่นะ แต่ไม่มีทางเลือกแล้ว เพราะตารางงานที่เราต้องทำ”
“ฉันรู้แล้ว...”
คาทีโอห่อไหล่ของเขา
“เมื่อตารางงานหมดลง ฉันจะให้นายเพิ่มวันหยุดเป็นสองเท่า ฉันสัญญา”
“...ก็ได้ ก็ได้ พรุ่งนี้เช้า 7 โมง ฉันจะไปที่นั่น”
คาทีโอเดินออกไปผ่านรอยแยกของมิติและเวลาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
สมาชิกคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ ออกไปเช่นกัน ฉันจ้องไปที่ข้อความบนกระจกเหนือจัตุรัสที่เขียนว่า 'กอบกู้โลก!'
แต่ก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้องพัก ฉันก็ได้พบกับใครบางคนเข้า
“เด็กน้อยนักเวทย์คนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
ออลก้ายืนรอเราอยู่ที่หน้าจัตุรัส เธอพันผ้าพันคอและเสื้อคลุมที่นายท่านมอบให้แทนที่จะสวมชุดแบบปกติ
“ตามที่เวคิสพูด...เด็กนั้นมีส่วนสำคัญในภารกิจมากเลยงั้นเหรอ?”
"ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่? เธอต้องอยู่ที่ชั้น 3 ไม่ใช่เหรอ? ”
“ฉันลงมาเดินเล่นแล้วพวกนายดันมาถึงพอดี”
“เดินเล่นมาจนถึงชั้น 1 เนี่ยนะ?”
“ก็ใช่นะสิ! แล้วในภารกิจเป็นยังไงบ้างล่ะ? …”
พูดจบออลก้ากางฝ่ามือออก
สายลมพัดผ่านแก้มฉันไปเบา ๆ
“ฉันเองก็ทำได้เหมือนกัน ขอเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้น…”
"ไอเซล"
[ปรากฏตัวล่ะค่าาาาาา!]
ผงนางฟ้าของเธอกระจายไปมาในอากาศและไอเซลล์ก็โผล่ออกมา
ฉันถามไอเซลที่กำลังจ้องมองมาที่ฉันอย่างตั้งใจ
“หินเวทย์เหลืออยู่กี่ก้อน?”
[อืม เหลือประมาณ 7 ก้อนค่ะ]
"เอาให้ออลก้าอันหนึ่งด้วย”
หลังจากนั้นไม่นาน ไอเซลล์ก็นำหินสีดำที่เต็มไปด้วยด้วยพลังงานมาออกจากโกดังเก็บของ
“นี่คืออะไร?”
“หินเวทย์..เธอสามารถใช้มันดูภาพภารกิจได้”
ฉันวางหินไว้ในมือของออลก้า
หลังจากส่งสัญญาณให้ไอเซล รอยแยกของมิติและเวลาก็เปิดออก
“เธอจะรู้ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับเขาเมื่อเธอเห็นมันด้วยตาของเธอเอง”
“มันเป็นภาพตอนที่ฉันไม่อยู่ที่นั่นเหรอ?”
"ใช่"
"งั้นมาดูกันดีกว่าว่ามันเป็นยังไง”
ออลก้าหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเดินเข้าสู่รอยแยกของมิติและเวลาประตูก็ปิดลงทันที
[ 'ออลก้า (★★★)' เริ่มรับชมภารกิจแล้ว!]
ชั้นที่ 32 นั้นค่อนข้างยาวนาน แต่ก็สามารถกรอภาพได้หากต้องการ
เธอคงจะใช้เวลาการประเมินภารกิจประมาณสองสามชั่วโมง ฉันจึงนั่งรอที่ม้านั่งแถวนั้น
ไอเซลกระพือปีกแล้วพูดว่า
[ท่านโลกิไม่ไปนอนเหรอคะ? มันดึกแล้วนะคะ]
“เดี๋ยวฉันก็จะไปพักแล้วล่ะ”
[ท่านโลกิกำกังวลเกี่ยวกับนักเวทย์ไฟคนนั้นเหรอคะ? ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไม! แม้ว่าเธอจะมีพลังมากก็จริง แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันคิดว่านักเวทย์ตัวน้อยนั้นเก่งกว่ามาก]
ฉันไม่ได้ตอบอะไรไอเซลล์
[ผู้หญิงคนนั้นชอบทำตัวเหนือกว่าคนอื่นอยู่เสมอ ตอนนี้เธอไปทำหน้าที่วิจัยแบบนั้นอย่างเดียว มันถูกต้องแล้วล่ะค่ะ หึ หึ หึ!]
ไอเซลหัวเราะออกมาเหมือนคนโรคจิตและหายไปพร้อมกับแสงสว่าง
ฉันนั่งบนม้านั่งพลางกอดอกและครุ่นคิดบางอย่าง
บางครั้งเหล่าฮีโร่จากชั้น 1 ก็ปรากฏตัวและเดินผ่านไป พวกเขาจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
ประตูของรอยแยกเปิดออกด้วยเสียงดังกึกก้อง
“ไง...ศึกษาดีแล้วเหรอ?”
“ยังไม่กลับอีกเหรอ?”
“ฉันนอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมนายถึงมานั่งที่นี่?”
ออลก้าดูโทรมอย่างเห็นได้ชัด เธอนั่งลงข้างฉันและพูดขึ้น
“เด็กนั้นน่าประทับใจมาก”
“เขาเป็นนักเวทย์ที่เก่งมากจริง ๆ”
“โลกนี้ไม่ยุติธรรม ตอนที่ฉันอายุเท่าเขาฉันยังไม่ได้เริ่มฝึกเลย”
“นักเวทย์ไม่สามารถตัดสินได้จากรูปร่างหน้าตาของพวกเขาใช่ไหมล่ะ?”
“แต่มันเห็นได้ชัดเลยนะว่าเขายังเด็กมาก”
ออลก้าถอนหายใจออกมาแรง ๆ
“ถ้าฉันรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในอนาคต ฉันจะตั้งใจเรียนมากขึ้นกว่าเดิม”
“ถ้าเธอต้องการต่อสู้ เธอสามารถเข้าร่วมปาร์ตี้อื่นได้นะ…”
“ฉันไม่อยากอยู่ที่ปาร์ตี้อื่น ฉันอยากอยู่ที่นี่”
ออลก้าพูดขึ้น
“ฉันไม่ได้จะยอมแพ้นะ”
“…”
“พรุ่งนี้ฉันจะไปที่สนามฝึก 7 โมงเช้าใช่ไหม? ฉันยังเป็นสมาชิกที่เป็นสมาชิกนักเวทย์อันดับหนึ่งขอห้องรอนี้อีกด้วยนะ ดังนั้นฉันจึงมีโอกาสอยู่ในปาร์ตี้ที่ 1 ต่อ แล้วเจอกันนะ”
ออลก้าจบการสนทนาตามแบบฉบับของเธอ...เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกขึ้น
เธอขึ้นบันไดแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
'นี่คือสัญญาณบางสิ่งบางอย่าง'
อารอนเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงจริงจังขนาดนั้น
ถ้าออลก้าเปลี่ยนไปเป็นนักวิจัยมันจะง่ายกว่ามาก นายท่านอาจไม่ชอบ แต่ฉันเต็มใจที่จะช่วยผลักดันเต็มที่ และฉันได้เตรียมเหตุผลไว้เรียบร้อยแล้วด้วย
ฉันนึกว่าฉันเข้าใจเรื่องแบบนี้ได้ดี แต่พอเจอเรื่องนี้อีกครั้ง...ฉันคิดว่าบางทีตัวฉันจริง ๆ อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจคนแบบออลก้าและอารอนมากนัก
พอคิดได้ดังนั้นแล้ว ฉันก็ได้แต่ส่ายหัวพร้อมมุ่งหน้าไปที่บันไดเช่นกัน