ตอนที่แล้วบทที่ 261 : พายุและสึนามิ (6)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 263 : พายุและสึนามิ (7)

บทที่ 262 : พายุและสึนามิ (6)


บทที่ 262 : พายุและสึนามิ (6)

'ฉันต้องการข้อมูลเพิ่มเติม'

ฉันมองไปที่เฟรียซิสที่ยืนนิ่ง ๆ แล้วพูดว่า

“เรื่องความฝันนั้น ช่วยเล่าให้ฉันฟังทั้งหมดได้ไหม…”

[เคลียร์ด่าน!]

[ 'เวคิส(★★★)' 'คาทีโอ(★★★★)' เลเวลอัพ!]

[รางวัล – 170,000 เหรียญทอง เหงือกฉลาม (ระดับต่ำ) X 3]

[ฮีโร่ยอดเยี่ยม – 'คาทีโอ (★★★★)' ]

แสงสว่างเริ่มปกคลุมร่างกายฉัน

'เรื่องราวเกี่ยวกับความฝันของเด็กนั้น'

ฉันยิ้มอย่างขมขื่น

ดวงตาของเฟรียซิสเป็นประกายเมื่อเธอมองดูฉัน

“แสงนั้น…”

“ฉันแค่ต้องกลับไปเตรียมอะไรบางอย่าง สัญญาเรายังไม่สิ้นสุด ดังนั้นไม่ต้องกังวล แล้วฉันจะรีบกลับมา”

“ฮาน คุณจะไม่ถามอะไรหน่อยเหรอ?”

"ไม่ ยังไงทุกอย่างก็เหมือนเดิม”

ฉันไม่ได้มีแรงจูงใจที่จะรักษาทวีปนี้อยู่แล้ว

หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ควรทำภารกิจต่อไปตามปกติ

"เจอกันคราวหน้า"

“อื้อ เข้าใจแล้ว”

เฟรียซิสตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ฉันยิ้มให้เธอเบา ๆ และกลับไปที่ห้องรอ

เมื่อมาถึง ฉันจึงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

เห็นได้ชัดว่าไรก็ได้ได้ไม่ได้เชื่อมต่อเข้ามาในเกม

เนื่องจากภารกิจนี้ใช้เวลานาน เขาจึงไม่สามารถรอดูต่อได้

เวลาปัจจุบันในห้องรอเป็นช่วงดึก

บันทึกเกี่ยวกับการต่อสู้ของคาทีโอจะยังคงอยู่

ฉันยังสามารถกรอภาพภารกิจวนดูซ้ำได้

'หมอนั้นไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ'

เวคิสยิ้มแย้มและมองไปที่คาทีโอ

“อะไร อะไร? พวกนายกำลังทำให้ฉันขนลุกนะ”

“เด็กคนนี้จะเข้าร่วมการฝึกของเราพรุ่งนี้ไหมครับ? ผมคิดว่าเราต้องการรูปแบบที่แตกต่างออกไปในการสู้นะครับ”

สายตาของเวคิสหันมองมาที่ฉัน

ฉันพยักหน้าตอบเขา

“พรุ่งนี้มาที่ห้องรับแขกก่อน 7 โมงเช้า”

“แต่ฉันต้องดูแลเรือเหาะในตอนเช้า…”

“ก็ทำตอนกลางคืนสิ”

เวคิสพูดราวกับไม่มีอะไรสำคัญ

“แบบนี้ก็เรียกว่าทำงานล่วงเวลาแล้วนะสิ! มันแตกต่างจากสัญญาที่คุยกันไว้นะ!”

“สัญญามักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอแหละ”

“เฮ้ ฉันจะไม่ยอมรับการละเมิดสัญญาในครั้งนี้ง่าย ๆ หรอกนะ!”

“นี่จะทำให้ตารางชีวิตนายง่ายขึ้นต่างหาก”

ข้อความที่ไม่ปรากฏชื่อปรากฏขึ้นในหน้าต่างการทำงานของไรก็ได้

[นายท่าน...ตั้งแต่ชั้นที่ 33 คุณสามารถใช้เรือเหาะได้!]

[แนะนำฮีโร่ที่มีอาชีพ 'นักเวทย์' เลือกแท็บอัญเชิญแล้วแตะ 'เรือเหาะ!' ]

[เรือเหาะจะต้องอยู่ในสภาพที่สามารถอัญเชิญได้]

'เรือเหาะ'

เรือเหาะลำดังกล่าวสามารถปรากฏตัวในช่วงหลังของภารกิจได้

นั่นหมายความว่าเรือเหาะทุนนิยมตระตูลโฮนั้นสามารถอัญเชิญในทุกชั้นได้แล้ว

แต่จะอัญเชิญเรือเหาะในชั้นปัจจุบันคงไม่เหมาะสมนัก เพราะลักษณะของด่านที่เราเผชิญอยู่เป็นทะเล

และที่สำคัญ การซ่อมบำรุงเรือเหาะก็ยังไม่เสร็จสิ้นดี

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อคาทีโอเข้าร่วมปาร์ตี้ที่ 1 การฝึกฝนในการจัดทีมก็เป็นสิ่งจำเป็น

ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยกเว้นได้

"อะแฮ่ม"

ฉันกระแอมและพูดต่อ

“คาทีโอ นายอาจจะต้องทำงานหนักขึ้นอีกสักหน่อยนะ”

“บ้าเอ๊ย!”

“ฉันอยากให้นายพักผ่อนเยอะ ๆ อยู่นะ แต่ไม่มีทางเลือกแล้ว เพราะตารางงานที่เราต้องทำ”

“ฉันรู้แล้ว...”

คาทีโอห่อไหล่ของเขา

“เมื่อตารางงานหมดลง ฉันจะให้นายเพิ่มวันหยุดเป็นสองเท่า ฉันสัญญา”

“...ก็ได้ ก็ได้ พรุ่งนี้เช้า 7 โมง ฉันจะไปที่นั่น”

คาทีโอเดินออกไปผ่านรอยแยกของมิติและเวลาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

สมาชิกคนอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ ออกไปเช่นกัน ฉันจ้องไปที่ข้อความบนกระจกเหนือจัตุรัสที่เขียนว่า 'กอบกู้โลก!'

แต่ก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้องพัก ฉันก็ได้พบกับใครบางคนเข้า

“เด็กน้อยนักเวทย์คนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”

ออลก้ายืนรอเราอยู่ที่หน้าจัตุรัส เธอพันผ้าพันคอและเสื้อคลุมที่นายท่านมอบให้แทนที่จะสวมชุดแบบปกติ

“ตามที่เวคิสพูด...เด็กนั้นมีส่วนสำคัญในภารกิจมากเลยงั้นเหรอ?”

"ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่? เธอต้องอยู่ที่ชั้น 3 ไม่ใช่เหรอ? ”

“ฉันลงมาเดินเล่นแล้วพวกนายดันมาถึงพอดี”

“เดินเล่นมาจนถึงชั้น 1 เนี่ยนะ?”

“ก็ใช่นะสิ! แล้วในภารกิจเป็นยังไงบ้างล่ะ? …”

พูดจบออลก้ากางฝ่ามือออก

สายลมพัดผ่านแก้มฉันไปเบา ๆ

“ฉันเองก็ทำได้เหมือนกัน ขอเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้น…”

"ไอเซล"

[ปรากฏตัวล่ะค่าาาาาา!]

ผงนางฟ้าของเธอกระจายไปมาในอากาศและไอเซลล์ก็โผล่ออกมา

ฉันถามไอเซลที่กำลังจ้องมองมาที่ฉันอย่างตั้งใจ

“หินเวทย์เหลืออยู่กี่ก้อน?”

[อืม เหลือประมาณ 7 ก้อนค่ะ]

"เอาให้ออลก้าอันหนึ่งด้วย”

หลังจากนั้นไม่นาน ไอเซลล์ก็นำหินสีดำที่เต็มไปด้วยด้วยพลังงานมาออกจากโกดังเก็บของ

“นี่คืออะไร?”

“หินเวทย์..เธอสามารถใช้มันดูภาพภารกิจได้”

ฉันวางหินไว้ในมือของออลก้า

หลังจากส่งสัญญาณให้ไอเซล รอยแยกของมิติและเวลาก็เปิดออก

“เธอจะรู้ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับเขาเมื่อเธอเห็นมันด้วยตาของเธอเอง”

“มันเป็นภาพตอนที่ฉันไม่อยู่ที่นั่นเหรอ?”

"ใช่"

"งั้นมาดูกันดีกว่าว่ามันเป็นยังไง”

ออลก้าหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเดินเข้าสู่รอยแยกของมิติและเวลาประตูก็ปิดลงทันที

[ 'ออลก้า (★★★)' เริ่มรับชมภารกิจแล้ว!]

ชั้นที่ 32 นั้นค่อนข้างยาวนาน แต่ก็สามารถกรอภาพได้หากต้องการ

เธอคงจะใช้เวลาการประเมินภารกิจประมาณสองสามชั่วโมง ฉันจึงนั่งรอที่ม้านั่งแถวนั้น

ไอเซลกระพือปีกแล้วพูดว่า

[ท่านโลกิไม่ไปนอนเหรอคะ? มันดึกแล้วนะคะ]

“เดี๋ยวฉันก็จะไปพักแล้วล่ะ”

[ท่านโลกิกำกังวลเกี่ยวกับนักเวทย์ไฟคนนั้นเหรอคะ? ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไม! แม้ว่าเธอจะมีพลังมากก็จริง แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ฉันคิดว่านักเวทย์ตัวน้อยนั้นเก่งกว่ามาก]

ฉันไม่ได้ตอบอะไรไอเซลล์

[ผู้หญิงคนนั้นชอบทำตัวเหนือกว่าคนอื่นอยู่เสมอ ตอนนี้เธอไปทำหน้าที่วิจัยแบบนั้นอย่างเดียว มันถูกต้องแล้วล่ะค่ะ หึ หึ หึ!]

ไอเซลหัวเราะออกมาเหมือนคนโรคจิตและหายไปพร้อมกับแสงสว่าง

ฉันนั่งบนม้านั่งพลางกอดอกและครุ่นคิดบางอย่าง

บางครั้งเหล่าฮีโร่จากชั้น 1 ก็ปรากฏตัวและเดินผ่านไป พวกเขาจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

ประตูของรอยแยกเปิดออกด้วยเสียงดังกึกก้อง

“ไง...ศึกษาดีแล้วเหรอ?”

“ยังไม่กลับอีกเหรอ?”

“ฉันนอนไม่หลับ”

“แล้วทำไมนายถึงมานั่งที่นี่?”

ออลก้าดูโทรมอย่างเห็นได้ชัด เธอนั่งลงข้างฉันและพูดขึ้น

“เด็กนั้นน่าประทับใจมาก”

“เขาเป็นนักเวทย์ที่เก่งมากจริง ๆ”

“โลกนี้ไม่ยุติธรรม ตอนที่ฉันอายุเท่าเขาฉันยังไม่ได้เริ่มฝึกเลย”

“นักเวทย์ไม่สามารถตัดสินได้จากรูปร่างหน้าตาของพวกเขาใช่ไหมล่ะ?”

“แต่มันเห็นได้ชัดเลยนะว่าเขายังเด็กมาก”

ออลก้าถอนหายใจออกมาแรง ๆ

“ถ้าฉันรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในอนาคต ฉันจะตั้งใจเรียนมากขึ้นกว่าเดิม”

“ถ้าเธอต้องการต่อสู้ เธอสามารถเข้าร่วมปาร์ตี้อื่นได้นะ…”

“ฉันไม่อยากอยู่ที่ปาร์ตี้อื่น ฉันอยากอยู่ที่นี่”

ออลก้าพูดขึ้น

“ฉันไม่ได้จะยอมแพ้นะ”

“…”

“พรุ่งนี้ฉันจะไปที่สนามฝึก 7 โมงเช้าใช่ไหม? ฉันยังเป็นสมาชิกที่เป็นสมาชิกนักเวทย์อันดับหนึ่งขอห้องรอนี้อีกด้วยนะ ดังนั้นฉันจึงมีโอกาสอยู่ในปาร์ตี้ที่ 1 ต่อ แล้วเจอกันนะ”

ออลก้าจบการสนทนาตามแบบฉบับของเธอ...เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วลุกขึ้น

เธอขึ้นบันไดแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว

'นี่คือสัญญาณบางสิ่งบางอย่าง'

อารอนเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงจริงจังขนาดนั้น

ถ้าออลก้าเปลี่ยนไปเป็นนักวิจัยมันจะง่ายกว่ามาก นายท่านอาจไม่ชอบ แต่ฉันเต็มใจที่จะช่วยผลักดันเต็มที่ และฉันได้เตรียมเหตุผลไว้เรียบร้อยแล้วด้วย

ฉันนึกว่าฉันเข้าใจเรื่องแบบนี้ได้ดี แต่พอเจอเรื่องนี้อีกครั้ง...ฉันคิดว่าบางทีตัวฉันจริง ๆ อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจคนแบบออลก้าและอารอนมากนัก

พอคิดได้ดังนั้นแล้ว ฉันก็ได้แต่ส่ายหัวพร้อมมุ่งหน้าไปที่บันไดเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด