บทที่ 261 : พายุและสึนามิ (6)
บทที่ 261 : พายุและสึนามิ (6)
และเมื่อฉันขึ้นไปบนดาดฟ้า เฟรียซิสก็ดึงเชือกที่พันไว้เหนือราวบันไดออกมา
ริมฝีปากของเธอเม้มแน่นเป็นเส้นตรง
ดวงตาของเธอมีความประหลาดใจและความสับสนผสมปนเปกันไปหมด
ผมสีเงินของเธอยาวขึ้นเล็กน้อย และตอนนี้เธอสวมชุดเดรสที่เรียบง่าย
ฉันมองไปรอบ ๆ เรือ
มันใหญ่เกินที่จะเรียกว่าเรือใบ แต่มันกลับไม่มีคนให้เจอเลย
มีชายคนหนึ่งกำลังดูใบเรืออยู่ที่ท้ายเรือ
“พวกคุณทำให้ฉันประหลาดใจครั้งแล้วครั้งเล่าเลยนะคะ...”
เฟรียซิสพูดด้วยเสียงแผ่วเบา
เจนน่าหัวเราะช้า ๆ และพูดด้วยความประหม่า
“เอ่อ สวัสดีค่ะ”
“อะไรกัน ทำไมเธอถึงพูดเป็นทางการแบบนั้นล่ะ…ฮึ?!”
“เราเข้าไปพักผ่อนกันข้างในกันดีกว่า”
เนเรสซ่าลากคาทีโอเข้าไปในเรือ
“นายมากับฉัน”
“ฉันก็ควรออกไปเหมือนกันใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว มันจะเป็นภาระสำหรับเจ้าหญิงเอานะถ้าเราซักถามเธอพร้อมกันในคราวเดียว ใช่ไหมล่ะ?”
สองคนพยักหน้าให้กันแล้วเข้าไปข้างใน
บนดาดฟ้า มีเพียงฉันกับเฟรียซิสเท่านั้นที่ยังคงอยู่
ความเงียบเข้าปกคลุมบรยากาศนี้ทันที และฉันก็เริ่มพูดขึ้นมาก่อนว่า
“ฉันควรจะเข้าไปด้วยไหม? ฉันเองก็ง่วงนอนแล้ว”
เฟรียซิสพ่องแก้มของเธอเล็กน้อย
"จะไปจริงเหรอ?! ฉันมีคำถามมากมายที่จะถาม แบบพวกคุณมาอยู่บนเรือในทะเลได้ยังไง? แล้วก็พวกคุณพบที่ตั้งของเรือนี้ได้ยังไง? เป้าหมายของพวกคุณในครั้งนี้คืออะไร?!”
“มันคือภารกิจ”
เฟรียซิสมองมาที่ฉันเพื่อต้องการคำอธิบายแบบละเอียด แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
เอาจริง ๆ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง อยู่ ๆ มันกลับกลายเป็นแบบนี้ในขณะที่ทำภารกิจ เมื่อฉันเงียบเฟรียซิสก็ถอนหายใจออกมา
“ฉันคิดว่าฉันจะไม่ต้องรบกวนคุณในครั้งนี้แล้วเสียอีก…?”
“ตอนที่เราพบกันครั้งแรก เธอยังขอให้ฉันช่วยอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนไปล่ะ?”
“ตอนนั้น…ฉันไม่รู้ว่ามันจะอันตรายขนาดนี้ สหายของคุณหลายคนเสียชีวิตไปเพราะฉันไม่ใช่เหรอ?”
"...."
“ฉันไม่อยากเป็นภาระ”
“มันไม่ง่ายอย่างที่คิดสินะ”
เฟรียซิสคอตก
'เป็นแบบนั้นเองสินะ'
ดูเหมือนว่าเธอรู้สึกเป็นภาระของเรา
ฉันบอกเธอว่าไม่ต้องกังวลเพราะเราไม่ได้ทำเพื่อเธอ แต่เมื่อเห็นท่าทางของเธอแล้วเรื่องนี้มันไม่ง่ายสำหรับเธอเลย
“แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหน?”
“คุณมาโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอ?”
เฟรียซิสมองมาที่ฉันราวกับว่าเธอไม่อยากจะเชื่อ
เป็นอีกครั้งที่ฉันไม่มีคำตอบให้เธอ
“เราอยู่ในทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีป รู้จักกันในชื่อทะเลแห่งอนันต์…”
"เข้าใจแล้ว อย่าบอกนะว่าสิ่งที่เธอตามหามันคือกุญแจอีกแล้วเหรอ? ”
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตอบ
"…ใช่"
“อันแรกเป็นทะเลทราย อันที่สองคือทะเล การเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมค่อนข้างสุดโต่งเลยทีเดียวนะ”
เฟรียซิสอธิบายเหตุการณ์หลังชั้นที่ 30 ให้ฟัง
หลังจากเอาชนะรูปปั้นได้กุญแจกลับมา และได้รับการยอมรับจากตระกูลแอสซิสแนสว่าเป็นของแท้ เธอก็ได้รับการสนับสนุนสำหรับการค้นหากุญแจต่อ
“เรือลำนี้ฉันยืมมา เช่นเดียวกับกะลาสีเรือคนนั้น”
ชายผู้ที่กำลังปรับใบเรือมองมาทางเราก่อนที่จะทำงานต่อ
“และฉันได้เงินมาก้อนหนึ่งด้วยนะ ฉันวางแผนที่จะจ้างทหารรับจ้างบนเกาะใกล้เคียง ด้วยสิ่งนี้ฉันคงจะสามารถหากุญแจได้โดยไม่ต้องขอให้คุณช่วย”
“แล้วถ้าสัตว์ประหลาดเหมือนเมื่อก่อนปรากฏตัวล่ะ?”
เฟรียซิสกระแอ่มเบา ๆ
“ช่างเถอะ เราจะส่งพวกคุณกลับไปที่ท่าเรือเองค่ะ…”
“ไม่จำเป็นไปหาทหารรับจ้างหรอก อย่าเรียกหาใครเลย มันไม่จำเป็น...”
"แล้ว…"
“เพียงบอกทางเรา เราจะจัดการส่วนที่เหลือให้เอง”
สถานการณ์คล้ายกับชั้นที่ 30
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือการเปลี่ยนแปลงสมาชิกในปาร์ตี้ที่ 1
“ยังใจแข็งเหมือนเดิมเลยนะคะ”
เฟรียซิสยิ้มอย่างขมขื่น
“ขอโทษด้วย มันเป็นเพราะเราไม่สามารถปฏิเสธภารกิจของเราได้...ไม่ว่าเธอจะต้องการยังไงก็แก้ไขอะไรไม่ได้หรอก”
“ถ้าภารกิจคือการฆ่าฉันล่ะ?”
“ฉันจะต้องทำมัน เว้นแต่...ฉันอยากจะตายเองถึงจะปฎิเสธมันได้”
ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ฉันคงจะเสียใจมาก แต่ฉันได้เตรียมพร้อมสำหรับทุกสิ่งแล้ว
ไม่มีการรับประกันว่าภารกิจจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นหรือเอาชนะสัตว์ประหลาดเสมอไป
“ใช้ได้เลยนะคะ...”
เฟรียซิสวางกระเป๋าหนังใบเล็กลงที่พื้นและค้นหาบางอย่างในนั้น
เหรียญทองเปล่งประกายผ่านช่องเล็กของกระเป๋า
“นี่คือของมีค่าทั้งหมดของฉัน ฉันจะจ้างคุณเป็นทหารรับจ้าง..และฉันไม่ได้หน้าหนาพอที่จะไม่ตอบแทนคุณด้วย”
“เราไม่ต้องการมัน”
“อย่าทำให้ฉันรู้สึกละอายใจได้ไหมคะ?”
ถ้างั้นฉันจะไม่ปฏิเสธ ฉันยื่นมือไปรับเหรียญทองจากเธอ
[การเจรจาสำเร็จ!]
[ 'ฮาน (★★★)' ได้รับ 10,000 เหรียญทองจาก NPC พิเศษ 'เฟรียซิส' ]
'10,000 เหรียญทองเลยแหะ'
ในพิกมีอัพ มันไม่ใช่เงินที่มากมายอะไร
แค่ซื้อรูปปั้นม้าสองตัวก็หมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ฉันตัดสินใจรับมันเอาไว้
“…คราวนี้ฉันคงจะต้องพึ่งคุณอีกครั้ง”
เฟรียซิสยื่นมือออกมาด้วยท่าทางที่ดูอึดอัดเล็กน้อย
เมื่อฉันรับเหรียญนั้นมา มือของเธอก็สั่นเล็กน้อย
“ปกติแล้วคุณเรียกฉันว่ายังไงนะคะ…?”
"เด็กน้อยนะเหรอ?"
“เรียกฉันว่าฟรีย่าเถอะ ฉันจะเรียกคุณด้วยชื่อของคุณเช่นกัน”
"ฟรีย่า…"
“มันเป็นชื่อเล่นของฉัน ฉันอยากให้เรียกแบบนี้มากกว่านะคะ..ฮาน”
เธอยิ้มบาง ๆ
'อืม'
ก็ได้อยู่หรอก มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรมากมาย
หลังจากนั้นเฟรียซิสก็ได้เล่ารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงเวลาของเธอในทะเล
ในตอนแรกเธอวางแผนที่จะแวะไปที่เกาะโจรสลัด ที่นั้นเต็มไปด้วยทหารรับจ้างเพื่อหาลูกเรือ แต่เมื่อเราเข้ามาช่วยเธอ แผนนั้นก็ไม่จำเป็น
เธอจึงตัดสินใจมุ่งหน้าตรงไปยังตำแหน่งของกุญแจ
“และอีกอย่าง…เกี่ยวกับกุญแจ”
"บอกฉันมา"
“ถ้าเรารวบรวมกุญแจทั้งหมดได้แล้ว…ก็จะสามารถใช้มันเปิดประตูสู่มิติที่สูงกว่าได้”
ฉันตัวแข็งทื่อกับคำพูดของเธอ
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉัน เฟรียซิสก็กระพริบตาหลายครั้ง
“ทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?”
“มันชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ? ก็เพื่อปกป้องทวีป…”
“มิติที่สูงกว่าเกี่ยวข้องกับการปกป้องทวีปยังไง?”
"…นั่นคือ"
เฟรียซิสดูเหมือนไม่แน่ใจในตัวเอง
ฉันขมวดคิ้ว แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการที่จะคิดให้ลึกซึ้งเกินไป แต่ก็มีแง่มุมที่เข้าใจยากมากเกินไปในภารกิจ
"ฉันเห็นมันในความฝัน…"
“ทุกสิ่งเห็นได้ในความฝัน มันไม่ง่ายเกินไปหน่อยเหรอ?”
ในความฝันของเฟรียซิส เธอเห็นพวกเราต่อสู้
เธอยังมองเห็นอนาคตที่มีแต่การทำลายล้างและตัดสินใจกอบกู้ทวีปนี้
ทว่ามันจำเป็นต้องใช้กุญแจเพื่อเปิดประตูสู่มิติที่สูงกว่า
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้...ภารกิจเกือบทั้งหมดก็เชื่อมโยงกับเธอ
เราพบเธอบนชั้นที่ 15 25 30 และชั้น 20 นั้นมีภารกิจในการปราบผู้นำของกองกำลังที่ไล่ล่าเธอ
'แล้วการทำแบบนี้จะช่วยทวีปได้ยังไง?'
ชั้น 5 และ 10 เป็นการป้องกันการโจมตีของก็อบลิน เป็นเพียง 2 ชั้นเท่านั้นที่ภารกิจค่อนข้างคล้ายกัน
บนดาดฟ้าที่ลมแรงพัดมาเหลือเพียงฉันกับเธอเท่านั้น
คนปรับใบเรือก็หายไปแล้ว
“…ไม่พอใจอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ไม่หรอก ฉันแค่กำลังคิดบางอย่างเท่านั้น”
ฉันปิดปากของฉันแน่น
ฉันรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด
'ฉันต้องการข้อมูลเพิ่มเติม'
ฉันมองไปที่เฟรียซิสที่ยืนนิ่ง ๆ แล้วพูดว่า
“เรื่องความฝันนั้น ช่วยเล่าให้ฉันฟังทั้งหมดได้ไหม…”