ตอนที่ 95 จวงซี่หนานปรากฏกาย!
ตอนที่ 95 จวงซี่หนานปรากฏกาย!
ริมฝีปากของจางเทียนหวู่เริ่มโค้งงอเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา
ทันใดนั้น เขาได้ผลักฝ่ามือของเขาออกไปอย่างแรงและส่งรูปปั้นหินขนาดใหญ่กลับไปที่เจาหยวนบาทันที
รูปปั้นหินนั้นพุ่งไปถึงด้านหน้าของเจาหยวนบาอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น เจาหยวนบาก็ยื่นมือออกไปเพื่อคว้ารูปปั้นหินเอาไว้
แต่ เมื่อมือของเขาได้สัมผัสกับรูปปั้นหิน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
พลังที่อันน่าสะพรึงกลัวราวกับภูเขาถล่มอย่างท่วมท้นได้พุ่งเข้ามาหาเขาทันที
"ย้ากกกกก..."
จ้าวหยวนบาส่งเสียงร้องออกมา
"กร๊อบ"
รูปปั้นหินนั้นทำลายแขนของเขาจะไม่เหลือซากและทำให้ร่างกายของเขาพุ่งถอยกลับไปกระแทกกับผนังห้องจนร่างแหลก…
ตายสนิท!
เจาหยวนบาในตอนนี้ตายเพราะรูปปั้นหินที่เขาเคยใช้มันเป็นอาวุธ…
ทุกคนที่ได้เห็นฉากนี้ถึงกับตกตะลึง
ตอนนี้พวกเขาเริ่มรู้แล้วว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไป
จางเทียนหวู่จะมีพลังขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
นักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นหรือ?
พวกเขารู้มาว่ากลุ่มวารีทมิฬมีจางเทียนหวู่ที่เป็นเพียงนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะเป็นผู้นำ ซึ่งเขาก็ไม่มีชื่อเสียงมากนักในโลกแห่งการต่อสู้ แต่ตอนนี้เขาแข็งแกร่งมากโดยที่หลายๆคนคาดไม่ถึง เช่นการคว้ากริชบินของหลี่ฮวนได้ด้วยมือเปล่าและใช้รูปปั้นหินขนาดใหญ่เพื่อฆ่าเจาหยวนบา
เรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้ยังไงกัน?
"พวกเจ้าทำได้แค่นี้เองรึ?"
จางเทียนหวู่ส่ายหัวและเดินเข้าไปหาคนอื่นๆทีละก้าว
แต่ในขณะที่เขากำลังก้าวไปข้างหน้า นักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะจากโลกแห่งการต่อสู้ก็ค่อยๆถอยห่างออกไปหลายก้าวโดยพร้อมเพรียงกัน
เห็นได้ชัดว่าจางเทียนหวู่ได้ทำให้พวกเขากลัวไปจนถึงแก่นของกระดูก
“พลังศักดิ์สิทธิ์! เจ้าได้ก้าวไปสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์แล้วงั้นรึ?!” ทันใดนั้นหลี่หวนก็พูดขึ้น
หลี่ฮวนนั้นรู้ดีถึงพลังของกริชบินของตัวเอง
การที่จางเทียนหวู่คว้ากริชบินของเขาได้อย่างง่ายดายนั้นมันผิดปกติอย่างมาก
เมื่อรวมกับข้อเท็จจริงที่ว่า จางเทียนหวู่ได้ใช้รูปปั้นขนาดใหญ่เพื่อฆ่าเจาหยวนบาได้ มันจึงทําให้หลี่ฮวนมั่นใจมากขึ้น
เจาหยวนบาเป็นนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะขั้นสูง ซึ่งมีแค่คนที่แข็งแกร่งกว่าหรือก็คือนักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถเอาชนะเขาได้!
เพราะแม้ว่าเขาจะอยู่ในขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะขั้นสูงแต่ก็ยังห่างชั้นกับนักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์มาก!
“จางเทียนหวู่เป็นนักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์แล้วงั้นรึ? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
"จางเทียนหวู่จะเข้าไปอยู่ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไงกัน?!"
“ถ้าหากจางเทียนหวู่อยู่ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์จริงๆ นั่นหมายความว่าเขาได้กินสมบัติของกบสี่ตาไปแล้วใช่ไหม?”
"แย่แล้ว…แบบนี้แย่แน่ๆ!!"
สายตาของหลายๆคนจับจ้องไปที่จางเทียนหวู่
พวกเขาคิดเป็นอย่างเดียวกันว่า จางเทียนหวู่ได้กินสมบัติของกบสี่ตาไปแล้ว!
สมบัติของกบสี่ตานั้นสามารถเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายได้อย่างมาก ซึ่งทําให้ผู้ที่กินมีภูมิคุ้มกันต่อสารพิษทุกชนิดและมีนส่วนช่วยในการก้าวเข้าไปสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้
ดังนั้นการที่จางเทียนหวู่เข้าไปสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยสมบัติของกบสี่ตานั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
"หลี่ฮวนสินะ?"
“เจ้านั้นสายตาเฉียบคมจริงๆ ใช่..ข้าน่ะได้เข้าไปสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์แล้ว”
“เดิมทีข้าไม่ต้องการเปิดเผยพลังของข้าเร็วขนาดนี้ เพราะข้ายังไม่ได้ทำการกวาดล้างกองกําลังต่างๆในเมืองหยานเฉิง แต่เนื่องจากเจ้าบังคับให้ข้าทำแบบนี้ ข้าจึงไม่มีทางเลือก”
"ฟุ่บบ"
ทันใดนั้น จางเทียนหวู่ก็ใช้เท้าดันตัวเองจากพื้นและพุ่งไปหาหลี่ฮวนทันที
หลี่ฮวนไม่ลังเลแม้แต่น้อยและขว้างกริชหลายเล่มติดต่อกันอย่างรวดเร็ว
"ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว"
กริชบินสามเล่มนั้นโจมตีจากทั้งสามทิศของจางเทียนหวู่ ซึ่งยากที่จะปัดป้องได้
แต่ถึงอย่างนั้นจางเทียนหวู่ก็ไม่ได้สนใจที่จะมองมันเลยด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่สะบัดนิ้วของเขาเบาๆ
"แก๊ง แก๊ง แก๊ง"
เสียงดังๆสามครั้งดังขึ้นขณะที่กริชบินทั้งสามถูกทำลายด้วยการสะบัดนิ้วของจางเทียนหวู่และตกลงสู่พื้น
ในขณะเดียวกัน ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวของจางเทียนหวู่ก็เข้าปกคลุมทั่วทั้งห้องโถงทันที ซึ่งมันทำให้เกิดแรงกดดันอย่างหนักตกสู่ร่างของหลี่ฮวน จนทําให้เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้
"นี่เจ้า..."
หลี่ฮวนอ้าปากค้างแต่พูดอะไรไม่ออกแล้ว
"ตู้มม"
จางเทียนหวู่ต่อยหัวของหลี่ฮวนอย่างรุนแรงจนกลายเป็นเศษเนื้อ ซึ่งทำให้เลือดกระเซ็นไปทั่วห้องทันที
แววตาของจางเทียนหวู่เต็มไปด้วยความดุร้ายและโหดเหี้ยม สายตาของเขากวาดไปหานักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะที่ยังเหลืออยู่
ภายใต้ความหวาดกลัวจากออร่าพลังของเขา นักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตการปรับแต่งอวัยวะทุกคนจึงไม่สามารถขยับร่างกายได้แม้แต่นิ้วเดียว
นี่คือออร่าพลังของขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์โดยแท้จริง!
"โง่เง่า พวกเจ้าทุกคนช่างโง่เง่าเสียจริง!"
“คนโง่เง่าอย่างพวกเจ้ายังต้องการชิงชิงสมบัติของกบสี่ตาจากข้าไปจริงๆงั้นรึ?”
จางเทียนหวู่พูดอย่างเย็นชา
“นายท่าน... นี่หมายความว่าท่านกินสมบัติของกบสี่ตาเข้าไปจริงๆหรือ?” หนึ่งในผู้คุมห้องโถงของกลุ่มวารีทมิฬถามด้วยความประหม่า
“ใช่ ข้ากินสมบัติของกบสี่ตาเข้าไปแล้ว”
“แต่ข้อมูลที่รั่วไหลออกไปนั้นก็เป็นความจริงเช่นกัน เพราะข้ายังมีสมบัติของกบสี่ตาอยู่อีกจริงๆ”
“ไม่มีใครบอกพวกเจ้ารึไงน่ะว่าสมบัติของกบสี่ตาไม่ได้มีเพียงแค่อันเดียวน่ะ?”
หลังจากนั้นทุกคนต่างก็ตกตะลึง
แม้ว่าจะยังมีสมบัติของกบสี่ตาอยู่อีกแต่พวกเขาจะทำอะไรได้?
จะมีใครกล้าหรือสามารถชิงสมบัติของกบสี่ตาไปจากนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์จริงๆหรือ?
ผู้ที่ต้องการชิงมันไปอย่างเจาหยวนบา และ หลี่ฮวน คือตัวอย่างของสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าคิดจะชิงสมบัติของกบสี่ตาไป!
ขณะที่ทุกคนกําลังกังวล ทันใดนั้นเสียงที่ไม่คุ้นเคยก็ได้ยินออกมาจากนอกห้องโถงอย่างแผ่วเบา “มีสมบัติของกบสี่ตาอยู่ที่นี่จริงๆสินะ? ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้จะไม่สูญเปล่าซะแล้ว...”
ด้วยเสียงที่ไม่คุ้นเคยนี้ ชายคนหนึ่งก็เดินออกจากเงามืดและค่อยๆก้าวเข้าไปในห้องโถง
เมื่อเห็นร่างที่ไม่คุ้นเคยนี้ หลายคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย
เพราะจางเทียนหวู่ในตอนนี้เป็นนักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ แล้วยังจะมีใครกล้าชิงสมบัติของกบสี่ตาจากเขาไปอีกได้?
"เจ้าเป็นใครกัน?"
จางเทียนหวู่ชายตาของเขาไปมองร่างที่ค่อยๆก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ
ร่างๆนั้นเข้ามาในห้องโถงและจ้องมองไปที่จางเทียนหวู่โดยตรง
"ข้าคือจวงซี่หนานแห่งเมืองหนานหยาง!"
ชายคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือลู่ชางเฉิงที่ปลอมตัวเข้าสู่บทบาทของจวงซี่หนาน!