Chapter 267 ประเมินระดับ หนึ่ง A
เช้าวันถัดมา.
เจ้าหน้าที่เจาที่นำสมาชิกสองสามคนตามมาด้วย เดินทางมายังสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างรวดเร็ว.
ขณะพวกเขายืนอยู่หน้าประตูด้านใน พวกเขาพบว่าสิ่งก่อสร้างห้องโถงที่สร้างขึ้นด้วยทองและหยก ดูใหญ่โตโอ่อ่า หรูหราน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
นี่คือสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?
หากไม่เพราะว่ามีป้ายสำนักเขียนไว้ว่า “สำนักไท่กู่เจิ้ง”จวีซือเจาคงคิดว่าตัวเองเดินทางมายังสำนักระดับหกอย่างแน่นอน!
จะให้กล่าวล่ะก็ หลังจากหลี่ชิงหยางปรับปรุงครั้งแล้วครั้งเล่า สภาพของสำนักไท่กู่เจิ้งก็ดูยิ่งใหญ่หรูหราเช่นนี้นะเอง.
นอกจากที่นี่เป็นยอดเขาที่ไม่มีใครรู้จัก สิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นเวลานี้ ไม่ต่างจากสำนักระดับหก แม้แต่ดูดีกว่าสำนักเห่าฉีด้วยซ้ำ.
คนของจวีซือเจาที่เวลานี้อ้าปากค้างตื่นตะลึง.
บนลานยุทธ์เวลานี้มีศิษย์หลายร้อยคนที่แผ่กลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา เพียงแค่มองก็รู้ว่าคนเหล่านี้มีระดับศิษย์ยุทธ์!
“จวีซือต้าเหริน.”
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ตื่นตระหนก “ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเหล่านี้ มีระดับศิษย์ยุทธ์หมดเลยรึ?!”
เจ้าหน้าที่อีกคนที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อเช่นกัน “ก่อนหน้านี้สองสามเดือน นี่คือสำนักที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ตอนนี้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร!”
เจ้าหน้าที่ทั้งสองเมื่อวานที่รู้สึกหงุดหงุดไม่พอใจเล็กน้อย.
วันนี้เห็นสิ่งก่อสร้างสำนักไท่กู่เจิ้ง เห็นกลิ่นอายที่สำนักไท่กู่เจิ้งปลดปล่อยออกมา ก็ทำให้พวกเขารู้สึกหน้าชาเล็กน้อย.
จวีซือเจาที่ยังคงใจเย็นเอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนักจุน เพิ่งรับศิษย์มาเมื่อไม่กี่วันก่อน เป็นไปได้ว่ารับระดับศิษย์ยุทธ์กลับมาทั้งหมดอย่างงั้นรึ?”
แม้นว่าน้ำเสียงออกไปเชิงไต่ถามทว่าก็เป็นการบ่งบอกและให้เข้าใจว่า ศิษย์ที่รับเข้ามาจะต้องเป็นระดับศิษย์ยุทธ์ทั้งหมดแน่นอน.
โอ้วสวรรค์!
สามารถที่จะชักจูงระดับศิษย์ยุทธ์มากมายให้เข้าสำนักได้อย่างงั้นรึ?
เมื่อคิดถึงงานรับศิษย์ร้อยสำนักที่เขาชักจูงหลี่ชิงหยางพรสวรรค์อันดับหนึ่งของเมืองชิงหยาง เรื่องที่ตึกจันทร์ดารา คำพูดที่ทำให้เจ้าสำนักในพันธมิตรร้อยสำนักกระอักโลหิตได้แล้ว ก็ถูกนำมายำรวมกัน.
“เจ้าสำนักจุนช่างมีลิ้นทองคำจริง ๆ!”
จวีซือเจาที่มั่นใจว่า ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่มีระดับศิษย์ยุทธ์เหล่านี้ เพิ่งจะถูกรับเข้ามา.
หลี่ชิงหยางที่ไม่กล่าวโต้แย้งใด ๆ ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายตื่นตะลึง จึงไม่ได้เอ่ยอะไร.
“จวีซือเจา.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย “เชิญ.”
จวีซือเจาและพวกที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง.
ขณะก้าวเข้าไป ด้านข้างสัมผัสได้ถึงศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่แผ่กลิ่นอายที่แข็งแกร่งออกมา สตรีที่รูปร่างท่วงท่าสมส่วนงดงาม ร้ายกาจมาก.
ระดับศิษย์ศิษย์เหล่านี้ดูไม่ธรรมดาเลย.
เจ้าหน้าที่ที่ตามจวีซือเจามานั้นรู้สึกตื่นตะลึงครั้งแล้วครั้งเหล่า.
......
ในห้องโถง.
หลังจากศิษย์ของเขาเสิร์ฟน้ำชาแล้ว จุนซ่างเซียวก็เอ่ยออกมาว่า “จวีซือเจา สำนักไท่กู่เจิ้งของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
จวีซือเจาที่ยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า “สำนักของเจ้าสำนักจุนไม่ธรรมดา ประสิทธิภาพของสำนัก เจาโหมวให้ หนึ่งA!”
1 A อย่างงั้นรึ?
เจ้าหน้าที่ที่ติดตามมา ดวงตาเผยความประหลาดใจออกมา.
สมาคมศิษย์นั้นมีหน้าที่จัดระดับสำนัก โดยประเมินจากประสิทธิภาพตามมุมมองของคนประเมินซึ่งมีระดับเป็น ‚A B C D
A สูงสุด D ต่ำสุด.
ในแต่ล่ะระดับ ยังแบ่งออกเป็นสามขั้น.
ยกตัวอย่างระดับ A แม้นว่าจะมีระดับสูงสุด ก็ยังแบ่งออกเป็น หนึ่ง A สอง A และสาม A จากต่ำไปสูง.
จากที่ทำงานร่วมกันมา จวีซือเจาเป็นคนพิจารณา ได้มอบ สามB สูงสุดเท่าที่เคยมีมา.
วันนี้ คาดไม่ถึงว่าจะมอบหนึ่ง A ให้กับสำนักไท่กู่เจิ้ง!
สำนักในมนทลระดับเก้า มีประสิทธิภาพหนึ่งA กระทั่งสำนักเห่าฉีก็ยังไม่สามารถทำได้เลย.
แม้นว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นจะตกใจ ทว่าก็ไม่มีใครกล้าโต้แย้ง.
เพราะว่าจวีซือเจานั้นทำงานมาหลายสิบปี มีคุณสมบัติสูงกว่าคนอื่น การที่เขามอบระดับ หนึ่งA ออกมา ไม่ใช่ว่ากล่าวอย่างเลื่อนลอย.
จุนซ่างเซียวเองก็พอรู้เรื่องมาตรฐานดังกล่าวเช่นกัน.
การได้รับประเมิน“A”ก็ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน ดังนั้นจึงเผยยิ้มยกมือกล่าวออกมาว่า “จวีซือเจาคงไม่กล่าวออกมาอย่างไม่รับผิดชอบหรอกนะ.”
ไม่ใช่ว่าไม่เลว แต่นับว่ายอดเยี่ยมทีเดียว!
การที่สำนักสิทธิ์ประเมินระดับ A หากว่าเป็นสำนักในดินแดนระดับสูงหรือสำนักระดับหก ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไรนัก.
นี่สำนักไท่กู่เจิ้ง?
ไม่ใช่คนของมนทลระดับแปดด้วยซ้ำ ไม่ได้มีพื้นดินและผู้คนที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ และยังเป็นสำนักระดับแปดอีกด้วย!
ผลประเมินระดับ A ของจวีซือเจา หากกระจายไปทั่วยุทธภพจะต้องสร้างความตื่นตะลึงให้กับสำนักต่าง ๆ อย่างแน่นอน.
ในบรรดาดินแดนต่าง ๆ ในแผ่นดินใหญ่ ศักยภาพสำนัก หนึ่ง A แทบจะนับนิ้วได้.
เอ่อ ใช่แล้ว.
สำนักฉีซาน ของเจ้าสำนักเหลียวซางฟางที่จุนซ่างเซียวเพิ่งสังหารไป ก็ได้รับประเมินหนึ่งA เช่นกัน ถือว่าเป็นสำนักที่มีศักยภาพสูงมาก.
จวีซือเจาเอ่ย “ความแข็งแกร่งของศิษย์เจ้าสำนักจุน กลิ่นอายที่น่าเกรงขาม ไม่ใช่ศิษย์ยุทธ์ธรรมดา การที่เจาโหมวประเมิน 1A ไม่ได้กล่าวไร้สาระแน่นอน”
ศักยภาพสำนักดูที่ใหน?
แน่นอนว่าไม่ได้มองที่สิ่งก่อสร้าง ทว่ามองที่ศิษย์ของเขา.
ถึงแม้นว่าสิ่งก่อสร้างจะโอ่อ่าไม่ต่างจากวังหลวง ทว่าหากมีกลิ่นศิษย์เพียงแค่ระดับเปิดชีพจร ก็ไม่มีสิทธิ์ที่ได้ประเมินระดับ B ด้วยซ้ำ.
ในทางตรงข้ามกัน ถึงแม้นว่าสำนักจะสร้างเป็นกระท่อม หากกลุ่มศิษย์มีระดับสูง ก็สามารถนับเป็นสองหรือสาม A ได้.
สำนักระดับแปด มีระดับศิษย์ยุทธ์ 500 คน การประเมินหนึ่งA ตลอดสิบปีที่เขาทำงานมาเพิ่งมีครั้งแรก.
“จวีซือเจา.”
จุนซ่างเซียวที่เปลี่ยนหัวข้อในทันที “เริ่มทดสอบเลยหรือไม่?”
จวีซือเจาเอ่ย “เจ้าสำนักจุน แจ้งศิษย์ของท่านรวมตัวกันที่ลานยุทธ์เพื่อทดสอบได้เลย.”
“ชิงหยาง.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เรียกศิษย์ทั้งหมด ไปตรวจสอบความแข็งแกร่งกับจวีซือเจา.”
“ครับ.”
หลี่ชิงหยางที่จากไป.
เพียงไม่นาน ศิษย์ 550 คน ที่เข้าแถวอยู่ในลานยุทธ์.
จวีซือเจาที่ก้าวออกมาจากห้องโถง เห็นกลิ่นอายที่น่าเกรงขามมากกว่าเดิม เขาที่ลอบคิดในใจ “ความจริงไม่ใช่หนึ่งA อย่างงั้นรึ?”
“จวีซือเจา.”
จุนซ่างเซียวที่ชี้ไปยังแถวด้านซ้าย เอ่ยออกมาว่า “คนเหล่านี้คือศิษย์เปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง โปรดตรวจสอบได้เลย.”
“อืม.”
จวีซือเจาที่นำศิลาทดสอบออกมาจากแหวนมิติ ตั้งไว้ที่ด้านข้างลานยุทธ์.
“ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งขอให้ปลดปล่อยวงแหวนพลังวิญญาณออกมา และทดสอบพลัง ขอเพียงได้ 1500 จิน ก็ถือว่าผ่าน.”
ระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง จะมีวงแหวนวิญญาณ12 วง ปรกติแล้วจะมีพลัง 1500 จินอยู่แล้ว.
“ไป.”
จุนซ่างเซียวโบกมือ.
คนแรกที่ก้าวออกไป หยางกงเสวียน.
เขาที่หยุดที่หน้าเครื่องทดสอบ สูดหายใจลึก ก่อนที่จะยกหมัดต่อยออกไป ใบหน้าที่ดูไม่แยแส ราวกับว่าไม่ได้จริงจังอะไรมากมายนัก.
จวีซือเจาที่ส่ายหน้าไปมา ลอบคิดในใจ “ไม่ตั้งใจเช่นนี้ ไม่กลัวเจ้าสำนักตำหนิรึอย่างไร?”
ตูมมม!
หมัดของเขาที่กระแทกไปยังศิลาทดสอบ ปรากฏตัวเลข 1800 จิน.
นี่มัน......
จวีซือเจาที่งงงวย.
จากนั้น คนต่อไปที่ทำให้เขาต้องตะลึงงัน.
แต่ละคนที่ออกมานั้น ใบหน้าดูไร้อารมณ์เป็นอย่างมาก ทว่าพลังของแต่ละคนนั้นไม่ต่ำกว่า 1800 จินเลย!
หลังจากที่ศิษย์ 50 คนออกมาทดสอบแล้ว จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาว่า “จวีซือเจา ระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสองไม่มีแล้ว แทนทีด้วยระดับศิษย์ยุทธ์ได้ใช่ใหม?”
จวีซือเจามุมปากกระตุก เอ่ยออกมาว่า “แน่นอน.”
“ไป.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ซุยปู่เจี้ยนที่ก้าวออกไป กำหมัดขึ้นต่อยอย่างนุ่มนวล.
ราวกับทุบลงง่าย ๆ ทว่าพลังที่ปรากฏขึ้นนั้นกับมีพลังถึง 3000 จิน!