ตอนที่แล้วตอนที่ 92 สมบัติของกบสี่ตา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 94 เหนือความคาดหมาย!

ตอนที่ 93 ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ!


ตอนที่ 93 ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ!

"ทะ...ท่านอยากรู้เรื่องอะไรงั้นรึ?" เล่ยซีอองถามด้วยความระวัง

ในโลกแห่งการต่อสู้ ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีคนให้ความเคารพมากเท่านั้น

ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาแม้ว่าจะดูอายุน้อยแต่ก็เป็นถึงนักศิลปะการต่อสู้ในขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง ซึ่งทำให้เล่ยซีอองไม่กล้าแสดงความเย่อหยิ่งออกมา

ลู่ชางเฉิงคลายมือของเขาและถามอย่างใจเย็น “ข้าต้องการรู้ข้อมูลสมบัติของกบสี่ตาทั้งหมด”

“มันเป็นแบบนี้ครับท่าน...”

หลังจากนั้นเล่ยซีอองก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดของสมบัติของกบสี่ตาโดยไม่ปิดบังอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวลือแพร่กระจายไปว่าสมบัติของกบสี่ตาได้ปรากฏขึ้นในเมืองหยานเฉิง

ซึ่งนั้นทำให้ดึงดูดนักศิลปะการต่อสู้จํานวนมากมาที่เมืองหยานเฉิงในทันทีแน่นอนว่ารวมถึงเล่ยซีอองด้วย

เล่ยซีอองต้องการได้รับสมบัติของกบสี่ตาเพื่อเสริมพลังร่างกายของเขา เพื่อทําให้เขามีโอกาสก้าวไปสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์

"แล้วตอนนี้ใครเป็นผู้ครอบครองสมบัติของกบสี่ตาอยู่?" ลู่ชางเฉิงถามอีกครั้ง

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ข้าได้ตรวจสอบกลุ่มวารีทมิฬเมื่อไม่นานมานี้และได้รู้ว่ากลุ่มวารีทมิฬเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งในเมืองหยานเฉิงซึ่งมีความเป็นไปได้มากที่สมบัติของกบสี่ตาจะอยู่กับคนกลุ่มนี้”

“แม้ว่ากลุ่มวารีทมิฬจะยังไม่ได้รับสมบัติของกบสี่ตา แต่พวกเขาก็น่าจะมีข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวกับมันซ่อนเอาไว้อยู่ครับท่าน”

ลู่ชางเฉิงกำลังคิดอย่างจริงจัง

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หันหลังและจากไปทันที

เล่ยซีอองมึนงงไปชั่วครู่ แต่หลังจากนั้นเขาก็ตื่นตัวอย่างเต็มที่เมื่อเขาได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากข้างหูของเขาอีกครั้ง “ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ก่อน ว่าเจ้าควรอยู่ให้ห่างจากสมบัติของกบสี่ตาซะ ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะตายโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้…”

คําพูดของลู่ชางเฉิงดังก้องอยู่ในหูของเขา แต่เล่ยซีอองกลับมองไม่เห็นร่างของเขาด้วยซ้ำ

การแสดงออกของเล่ยซีอองเปลี่ยนไปมาก แต่สุดท้ายเขาก็กัดฟันและพึมพําเบาๆว่า “ฮึๆ ข้าคงวางมือจากสมบัติของกบสี่ตาจริงๆ เพราะมันได้ดึงดูดนักศิลปะการต่อสู้ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์มาอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าหากข้าคิดจะชิงมันจริงๆข้าอาจไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อใช้มันก็ได้…”

แม้ว่าสมบัติของกบสี่ตาจะมีความสําคัญอย่างมากต่อเขา แต่ชีวิตของเขานั้นสำคัญยิ่งกว่า!

ดังนั้นเล่ยซีอองจึงหันหลังจากไปและออกจากเมืองหยานเฉิงไปทันที

เขาตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปยุ่งกับสมบัติของกบสี่ตาอย่างเด็ดขาด!

ส่วนลู่ชางเฉิงที่เห็นว่าเล่ยซีอองออกไปจากเมืองหยานเฉิงแล้ว เขาจึงพยักหน้าเล็กน้อยเพราะดูเหมือนว่าเล่ยซีอองจะไม่ได้โกหกเขา

อันที่จริงเล่ยซีอองนั้นเป็นคนดี ซึ่งลู่ชางเฉิงเองก็ไม่ต้องการให้เขามาเสี่ยงชีวิตเพื่อไล่ตามสมบัติของกบสี่ตา เพราะถ้าหากถึงตอนที่ต้องชิงสมบัติกัน เล่ยซีอองจะเอาชนะเขาได้ยังไง?

"กลุ่มวารีทมิฬงั้นรึ?" แววตาของลู่ชางเฉิงเริ่มเต็มด้วยความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาแล้ว

แต่เนื่องจากตอนนี้เขายังไม่ว่าง ดังนั้นเขาจะหาข้อมูลเรื่องนี้ในตอนเย็นแทน

หลังจากนั้นลู่ชางเฉิงก็ตรงกลับไปที่บ้านพักตระกูลเซี่ย

….

ภายในฐานของกลุ่มวารีทมิฬ หน่วยลาดตระเวนกําลังตรวจสอบพื้นบริเวณโดยรอบทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นภายในฐานหรือภายนอกฐาน กลุ่มวารีทมิฬตอนนี้กำลังตื่นตัวมาก

ทุกวันนี้การใช้ชีวิตของกลุ่มวารีทมิฬนั้นยากลำบากอย่างสุดขั้ว

เนื่องจากข่าวที่แพร่กระจายออกไปว่าสมบัติของกบสี่ตานั้นตกอยู่ในมือของกลุ่มวารีทมิฬ ส่งผลให้นักศิลปะการต่อสู้หลายคนได้บุกเข้ามาโจมตีกลุ่มวารีทมิฬ

ตอนนี้สมาชิกของกลุ่มวารีทมิฬหลายคนได้รับบาดเจ็บ และที่แย่กว่านั้นคือพวกเขาไม่สามารถระบุตัวผู้กระทําได้

เพราะในบรรดาผู้ที่กล้าเข้ามาโจมตีกลุ่มวารีทมิฬส่วนใหญ่เป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงในโลกแห่งการต่อสู้ และพวกเขาก็ไม่ง่ายที่จะรับมือ

“ท่านครับ สมาชิกมากกว่าสิบคนในห้องโถงที่สามของข้าถูกลักพาตัวและจับไปรีดข้อมูลอยู่สามวันแล้ว ตอนนี้สภาพของเขาใกล้จะตายเต็มทีแล้วครับ!!”

“ช่วยด้วยครับท่าน หลี่ฮวนบุกเข้ามาที่ฐานของเราครับ!”

“ท่านครับ ห้องโถงที่สี่ของพวกเราถูกโจมตีครับ!...”

ภายในห้องโถงในฐานใหญ่ของกลุ่มวารีทมิฬ เหล่าผู้คุมห้องโถงหลายคนกำลังรายงานสถานการณ์กับผู้นำของพวกเขา

ผู้นำของกลุ่มวารีทมิฬ “จางเทียนหวู่” ตอนนี้มีสีหน้าเศร้าหมองมากเพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา และกลุ่มวารีทมิฬก็ไม่สามารถรับมือกับนักศิลปะการต่อสู้จำนวนมากได้

"ฟิ้ววว"

ทันใดนั้น กริชบินได้ก็พุ่งเข้ามาและฝังอยู่ในโต๊ะน้ำชาข้างๆจางเทียนหวู่ทันที

การแสดงออกของจางเทียนหวู่เปลี่ยนไปอย่างมาก เขามองออกไปนอกห้องโถงด้วยสายตาที่เย็นชา

ภายนอกห้องโถง ชายร่างผอมในวัยสามสิบที่มีผิวซีดซีดกำลังเดินเข้าไปในห้องทีละก้าว

“หลี่ฮวน นี่เจ้าหมายความว่าอะไรกัน? เจ้าคิดว่ากลุ่มวารีทมิฬของข้าอ่อนแอมากเลยงั้นรึ?!” ใบหน้าของจางเทียนหวู่เริ่มเปลี่ยนไป

หลี่ฮวนส่ายหัวและยิ้มจางๆ “ท่านจาง ครั้งนี้ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย ข้าแค่อยากเห็นสมบัติของกบสี่ตาเท่านั้น ข้าหวังว่าท่านจาง จะสามารถตอบสนองต่อคําขอเล็กๆน้อยๆของข้าได้นะ”

“สมบัติของกบสี่ตางั้นเรอะ? ข้าเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่าสมบัติของกบสี่ตามันเป็นอย่างไร? แต่น่าเสียดายที่สมบัติของกบสี่ตา ไม่ได้อยู่ในมือของข้า!” จางเทียนหวู่รีบปฏิเสธทันที

“ท่านจางไม่สามารถทำตามคําขอเล็กๆน้อยๆของข้าเลยงั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นข้าขอเดินเล่นรอบๆฐานของเจ้าแทนได้ไหม?” หลี่ฮวนมองไปที่จางเทียนหวู่ด้วยรอยยิ้ม

"บังอาจนัก!"

“หลี่ฮวน ที่นี่คือเมืองหยานเฉิงที่ตั้งของกลุ่มวารีทมิฬของข้า อย่าคิดว่าวิชากริชบินของเจ้านั้นแข็งแกร่งมากนัก กลุ่มวารีทมิฬ ของข้าสามารถรับมือกับเจ้าได้โดยที่ไม่เกรงกลัวเจ้าเลยแม้แต่น้อย!” จางเทียนหวู่ตะคอกใส่

หลังจากนั้นจางเทียนหวู่ก็ผายมือของเขาทันที

"ครืน ครืน ครืน"

ทันใดนั้น สมาชิกกลุ่มวารีทมิฬหลายร้อยคนก็เข้ามาล้อมหลี่ฮวนเอาไว้จากทุกทิศทาง

ซึ่งแต่ละคนกำลังถือหน้าไม้และเล็งไปที่หลี่ฮวน

แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ต่ำกว่าขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ แต่พลังของหน้าไม้นั้นก็ถือว่าสูงมาก

“อะไรกัน นี่พวกเจ้ามีกันมากขนาดนี้เลยงั้นรึ? กลุ่มวารีทมิฬนั้นยิ่งใหญ่จริงๆ”

เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังเข้ามาในหูของทุกคนทันที

พร้อมกันนั้น หญิงสาวในชุดสีแดงก็ลงมาจากด้านบนและโปรยผงสีขาวลงบนสมาชิกของกลุ่มวารีทมิฬเบาๆ

"อ๊ากกก..."

"นี่มันอะไรกันน่ะ?!"

"คะ..คัน..คันมาก…ทำไมมันถึงได้ทั้งคันทั้งแสบแบบนี้?!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด