ตอนที่ 254 เหนือมนุษย์ในหลอดทดลอง(ฟรี)
ตอนที่ 254 เหนือมนุษย์ในหลอดทดลอง
พริบตาที่เปิดประตูและก้าวขาเข้าไปตอนนั้นเองพวกเขาก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่ามีนักวิจัยคนหนึ่งกำลังเดินมาทางพวกเขาพอดี ทั้งสองฝ่ายต่างมองหน้ากันด้วยความมึนงง
ฝ่ายนักวิจัยทำหน้างง ๆ ไม่เข้าใจ เพราะเขาจำได้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นคือหัวหน้านักวิจัยชวิน แต่ว่าอีกฝ่ายบอกจะกลับไปนอนพักไม่ใช่เหรอ
‘เดี๋ยวก่อนทำไมถึงมีหมอกอยู่ด้านหลัง’ นักวิจัยพบกับความผิดปกติในทันทีและเตรียมแจ้งเตือนทุกคนในทันที
“แย่แล้ว!” ลุคใบหน้าเย็นชาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วพุ่งเข้าไปโจมตีใส่นักวิจัยอย่างไม่ออมแรง แต่เขากลับพบว่าพริบตาที่การโจมตีสัมผัสกับนักวิจัยตัวของนักวิจัยกลับทะลุออกไปทางด้านหลัง
พลังพรสวรรค์!
นักวิจัยไม่รอช้ารีบใช้พลังพรสวรรค์ร่างทะลุกำแพงวิ่งหนีออกไปอีกห้องในทันที
คามิลไล่ตามไป แต่ก็ถูกกำแพงขวางเอาไว้ พร้อมกันนั้นอยู่ ๆ ก็มีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นมา
“พวกมันรู้ตัวแล้ว เอายังไงดีตามไปไหม”
“นักวิจัยคนนั้นมีพลังพรสวรรค์เสียเวลาเปล่า เราควรรีบตามหาเจนและอีลิกให้เจอก่อน” ลุคตอบกลับไป
คามิลเห็นด้วยก่อนจะเสนอให้แยกกันไปค้นหาและให้กลับมาที่นี่ในอีก 3 นาที ซึ่งจะทำให้พวกเขาเหลือเวลา 2 นาทีเพื่อใช้หลบหนี
โดยรวมแล้วตอนนี้มีเวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้น
ลุคเห็นด้วยกับแผนการนี้ แต่ก่อนอื่นเขารีบทำลายสแกนส่งผลให้ล็อกของประตูเสียหายและไม่สามารถเปิดปิดได้ นี่จะช่วยยื้อเวลาให้กับทั้งสองคนชั่วคราว และเส้นทางออกนั้นแน่นอนว่าเป็นช่องลม
การค้นหาช่องลมจากด้านนอกเสียเวลาเกินไป ทำให้เขาไม่ได้ใช้แผนลอบเข้ามาทางช่องลมจากทางด้านนอก แต่เมื่อเข้ามาด้านในแล้วการหาช่องลมก็ง่ายมาก แค่เข้าไปในช่องระบายอากาศด้วยร่างหมอกสัมผัสถึงทิศทางของเครื่องฟอกอากาศและทางที่ล้มเข้ามาก็สามารถหาทางเข้าได้แล้ว ต่อให้ถูกปิดด้วยระบบป้องกันไว้แค่ระเบิดมันออกไปก็พอ
ในเมื่อวางแผนทางหนีแล้วก็แยกกันค้นหา
ลุคไปยังเส้นทางที่ปะติดปะต่อไว้ในภาพสะท้อนความทรงจำของนักวิจัยที่โดนฝันร้ายคนนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อจัดการพวกที่ขวางทางด้วย ส่วนคามิลนั้นแทรกตัวหายไปในช่องลม เคลื่อนไหวไปตามลิฟต์แต่ละชั้น
“น่าจะทางนี้ หืมมีพวกนั้นมาขวางไว้”
ด้านหน้าของลุคมีนักวิจัยติดอาวุธ อย่าลืมว่านักวิจัยทุกคนนั้นเป็นเหนือมนุษย์ต่อให้จะไม่ได้มีประสบการณ์ต่อสู้แบบพวกฮันเตอร์ แต่ว่าก็ยังมีความสามารถในการต่อสู้อยู่ดี
จากที่สัมผัสเขาตรวจสอบมีระดับ C 4 ระดับ B 1 คน รวมแล้วเป็น 5 คน แต่ที่ทำให้เขาระวังนั้นคืออาวุธในมือของพวกนั้นมันกลับเป็นปืนรูปร่างแปลก ๆ
มันคือปืนยิงพลังงานเข้มข้นสูง ลุคสัมผัสได้ว่าต่อให้เป็นร่างหมอกก็ได้รับบาสเจ็บถ้าโดนยิงด้วยปืนนั้น
ปัง!
ปืนจากหนึ่งในนั้นยิงเข้าใส่ลุค จังหวะเดียวกันตัวของลุคก็สร้างน้ำออกมาเป็นร่างเงาน้ำพุ่งออกไปรับการโจมตีจากพื้นนั้นไว้
โพ๊ะ!
ร่างเงาน้ำแตกสลายเหมือนลูกโป่งน้ำ แต่ไม่นานก็ปรากฏร่างเงาน้ำอย่างต่อเนื่องออกมาวิ่งเข้าไปไม่หยุด อีกฝั่งตกตะลึงกับภาพที่เห็น
ทุกคนพากันยกปืนขึ้นยิงใส่ร่างเงาน้ำต่อทันที แต่ลุคก็สังเกตเห็นว่าต่อให้จะทรงพลังกว่าปืนพิฆาตมอนสเตอร์ แต่ระยะการยิงกลับมีการหน่วงเวลาอยู่เล็กน้อยจากการชาร์จพลังงาน
เข้าไปเรื่อย ๆ ลุคส่งร่างเงาน้ำเข้าไปไม่หยุดเช่นกัน ขณะที่ตัวเขาเองก็วิ่งตามร่างเงาน้ำไปติด ๆ จากทางด้านหลัง ส่วนใหญ่ร่างเงาน้ำที่ออกหน้าไปรับการโจมตีคือร่างระดับต่ำ ส่วนร่างระดับ B นั้นวิ่งตามหลังร่างเงาอื่น ๆ ไป
ร่างเงาในระดับต่ำตายไปก็ไม่เสียหาย เพราะสามารถฟื้นคืนขึ้นมาได้ตลอดเวลาจากร่างเงาน้ำในระดับ B
หลังจากนั้นไม่นานนักวิจัยเหล่านั้นก็พบว่าไม่อาจจะฆ่าให้ตายได้ แถมตอนนี้ร่างเงาน้ำได้เข้ามาประชิดตัวแล้ว
จากการต่อสู้ระยะไกลเลยเป็นการต่อสู้แบบประชิดตัว
ลุคแทบไม่ต้องออกแรงร่างเงาน้ำก็สังหารอีกฝ่ายไปจนหมด แถมเขายังเก็บเกี่ยวไอเทมร่างพรสวรรค์ได้หนึ่งชิ้น แต่กลับทำให้ลุครู้สึกแปลกใจกับไอเทมที่ได้
“คุณได้รับไอเทมร่างพลังพรสวรรค์ดวงตาแยกส่วนระดับ B (ไม่สมบูรณ์) ผลพิเศษสามารถแยกชั้นของสิ่งที่มองได้”
พลังพรสวรรค์นี้คล้ายกับความสามารถที่พัฒนาแล้วของไอเทมหินตาแดงที่สามารถมองทะลุวัตถุกายภาพได้ แต่ว่าระยะการมองของพลังพรสวรรค์นี้กลับน้อยกว่ามาก แน่นอนว่ามันกลับมีความสามารถอื่นมาทดแทนนั้นคือเวลาที่มองแยกส่วนสามารถมองทั้งด้านหน้าและด้านหลังของวัตถุได้ เรียกว่าจากทุกมุมมองของวัตถุที่ต้องการจะมองแบบแยกส่วน
ตัวอย่างเช่นถ้าต้องการมองแบบแยกส่วนร่างกายมนุษย์คนหนึ่งก็เหมือนการมองดูภาพสามมิติที่สามารถมองได้จากทุกมุมมองย่อยายเปิดเข้าออกได้
นี่คือหนึ่งในความสามารถที่ใช้สำหรับการวิจัยที่ทรงพลังอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
แต่ก็ทำให้ลุคงงงวยอยู่ไม่น้อยกับคำว่าไม่สมบูรณ์ นี่เป็นครั้งแรกที่ลุคได้เห็นมันและเขาก็ไม่เข้าใจด้วยว่าเพราะอะไร ได้แต่เก็บความสงสัยและรีบเดินหน้าต่อ
ไม่นานหลังจากนั้นลุคก็ลงไปยังชั้นถัดไปและเจอเข้ากับกลุ่มของนักวิจัยเหนือมนุษย์อีก
ในพื้นที่ส่วนที่สองตอนนี้ไม่มีใครเป็นภัยคุกคามของลุคได้นอกจากตัวตนระดับ A หรือเหนือกว่านั้น แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยให้พวกนี้มาหยุด เพราะเวลาเขาเหลือไม่มากแล้ว ยังมีอีกหลายชั้นที่ต้องหาให้เจอว่าเจนและอีลิกอยู่ที่ไหน
ลุคจัดการสังหารพวกนั้นทิ้งโดยที่อีกฝ่ายแทบไร้ความสามารถในการตอบโต้
เขายังได้เก็บเกี่ยวไอเทมร่างพลังพรสวรรค์ใหม่มาอีกสองชนิดด้วยกัน
“คุณได้รับไอเทมร่างพลังพรสวรรค์ฟื้นฟูพลังงานระดับ C (ไม่สมบูรณ์) ผลพิเศษสามารถฟื้นฟูพลังงานของร่างกายกลับมาได้ในทันทีต่อหนึ่งวัน”
“คุณได้รับไอเทมร่างพลังพรสวรรค์ปรับเปลี่ยนกล้ามเนื้อระดับ C (ไม่สมบูรณ์) ผลพิเศษสามารถควบคุมกล้ามเนื้อและเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างสมบูรณ์”
ไอเทมร่างพลังพรสวรรค์ที่ปรากฏคำว่าไม่สมบูรณ์ขึ้นมาอีกสองชิ้นแล้ว ทำให้ลุคยิ่งสงสัยเข้าไปอีกว่านี่มันคืออะไรกันแน่
จนกระทั่งเขาจัดการอีกกลุ่มหนึ่งลงไปได้และได้รับไอเทมร่างพลังพรสวรรค์มาอีกครั้ง
“คุณได้รับไอเทมร่างพลังพรสวรรค์ดวงตาแยกส่วนระดับ C (ไม่สมบูรณ์) ผลพิเศษสามารถแยกชั้นของสิ่งที่มองได้”
คราวนี้ถึงกลับทำให้ลุคต้องหยุดชะงักและเบิกตากว้างมองดูด้วยความตื่นตะลึง
“เป็นไปได้ยังไง ไอเทมร่างพรสวรรค์ซ้ำกัน ไม่มีทางเป็นไปได้” สิ่งแรกที่ลุคคิดได้คือปฏิเสธ แต่แล้วเขาก็โยนความคิดนั้นทิ้งไปและกลับมาคิดว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่
จนเขามาเป็นคำว่าไม่สมบูรณ์ด้านหลังของไอเทมก็เหมือนจะคาดเดาบางสิ่งได้ แม้จะไม่รู้ว่ามีวิธีการหรือหลักการอะไร แต่เขาคิดว่าพลังพรสวรรค์ถูกแบ่งออกไปเป็นหลายส่วนให้กับหลายคนได้ครอบครอง
หลังจากเขาสังหารหนึ่งในนั้นพอเปลี่ยนเป็นไอเทมร่างพลังพรสวรรค์มันจึงปรากฏคำว่าไม่สมบูรณ์
แม้จะตื่นตกใจกับสิ่งที่ค้นพบ เพราะการแบ่งพลังพรสวรรค์ออกเป็นหลายส่วนให้กับหลายคนได้ครอบครองได้ทำลายความเข้าใจต่อพลังพรสวรรค์ทั้งหมดของเขา
แต่ลุคก็ไม่มีเวลามาคิดมันในตอนนี้ เพราะเหลือเวลาอีก 1 นาที ก่อนจะถึงเวลานัด ในตอนนั้นเองคามิลก็โผล่ออกมาข้าง ๆ ลุค เพราะเส้นทางที่ทั้งสองไปนั้นเป็นทางที่โผล่มาเจอกันทันที
ห้องเก็บตัวอย่างทดลองแบ่งแยกพลังพรสวรรค์
“ห้องนี้มันคืออะไร” คามิลมองด้วยความงุนงง
“ไว้อธิบายทีหลัง” ลุคไม่ได้อธิบายสิ่งที่เจอ เพราะเวลาไม่พอ ตอนนี้เขาใช้ตัวตนที่ได้มาเปิดเข้าไปห้อง พอเข้าไปภาพตรงหน้ากลับทำให้ทั้งสองตกตะลึงและสั่นเทาไปทั้งตัว
ปรากฏว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้านี้กลับเป็นร่างมนุษย์หลายสิบร่างที่ถูกใส่ไว้ในหลอดทดลองและมีสายยางจำนวนมากเสียบต่อเข้ากับร่างกายของพวกเขา
แถมจากสัมผัสของทั้งสองคนคนเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่
“ทุกคนเป็นเหนือมนุษย์กันหมด ที่มันการทดลองมนุษย์กับเหนือมนุษย์” คามิลเผยแววตาโกรธ เพราะภาพตรงหน้ามันโหดร้ายเกินไป
ลุคมองผ่านทุกคนไปเรื่อย ๆ จนไปเจอกับหลอดทดลองที่อยู่ด้านในสุด
เขาเอ่ย “อีลิก!”
คามิลรีบมองตาสายตาของลุค ก่อนจะเห็นว่าหลอดทดลองสุดท้ายนั้นมีร่างอวบอ้วนที่ดูคุ้นตาอยู่ ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นอีลิก
“อีลิก!”
คามิลไม่สนใจรีบวิ่งเข้าไปที่หลอดทดลองสุดท้าย ก่อนจะมองหาวิธีการปล่อยอีลิกออกมา
ตอนนั้นเองก็มีนักวิจัยหนุ่มคนหนึ่งที่สวมแว่นตาสีเงินออกมาพร้อมกับแท็บเล็ตในมือที่แสดงข้อมูลของหลอดทดลองต่าง ๆ และระบบควบคุมในห้องนี้
“เดี๋ยวพวกคุณเป็นใครกัน”
คามิลหายตัวไปปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายก่อนจะบีบคือแน่นในทันที
“ปล่อยเขาออกมาซะ!”
“ไม่ได้ นั้นคือ อัก!...” นักวิจัยหนุ่มกำลังปฏิเสธ แต่ว่าพอโดนบีบคือแน่นเข้าก็รู้ว่าถ้าไม่ทำตามอีกฝ่ายได้ฆ่าตนจริง ๆ แน่
นักวิจัยหนุ่มรีบกดและเลือกหลอดทดลองของอีลิกอย่างร้อนรน ก่อนจะเปิดมันออก ทันใดนั้นแสงรอบ ๆ หลอดทดลองก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่น้ำจะเริ่มลดลง
คามิลไม่สนใจนักวิจัยหนุ่มสะบัดมือโยนอีกฝ่ายทิ้งไปด้านข้างก่อนจะเข้าไปหาอีลิกที่ในตอนนี้หลอดทดลองเปิดออกมาแล้ว ก่อนจะรับตัวน้องชายของตัวเองไว้
เธอพบว่าอีลิกยังคงมีสติอยู่ ชายหนุ่มมองมาที่คามิลด้วยแววตาเจ็บปวดและเสีย
ต่อมาอีลิกเหมือนจะหายใจไม่ออก คามิลมองดูก็รีบดึงเอาท่อที่ต่อเข้ากับปากของอีลิกออกทำให้ชายหนุ่มกลับมาหายใจได้และสำลักน้ำอยู่สองสามครั้ง
“พี่เป็นพี่จริง ๆ ด้วย” อีลิกกล่าวด้วยความยินดี
“อีลิกเจนอยู่ที่ไหน” ลุครีบเข้ามาถาม เพราะเขามองดูรอบ ๆ แล้วกลับไม่พบน้องสาวของเขา
“เจนถูกพาตัวไปแล้ว”
“ใครพาไป”
“ผมไม่รู้ แต่ทุกคนเรียกเขาว่า แซมสัน”