Chapter 89 ขอโทษที่ลงมือหนักเล็กน้อย
ที่ด้านหน้าเวทีชำระแค้นประจำเมือง จุนซ่างเซียวและสำนักดาบใหญ่ได้มายังที่นี่.
ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่มามุงดูและพูดคุยเสียงดังอื้ออึง.
“เจ้าสำนักเฉิน มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า เจ้าสำนักจุนจะสู้ได้อย่างงั้นรึ?”
“ในงานรับศิษย์ร้อยสำนัก เจ้าสำนักจุนมีระดับเปิดชีพจรขั้นที่สี่ ไม่ใช่ว่าเอาชนะระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง อาวุโสเหว่ยลงได้หรอกรึ?”
“ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้าไม่ต้องถืออาวุธก็มีพลังมากกว่าหมื่นจินแล้ว ไม่ใช่ระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสองจะนำมาเทียบได้!”
“พูดมีเหตุผล.”
เหล่าชาวยุทธ์ที่พูดคุยกันไปมา ส่วนมากแล้วต่างก็ลงความเห็นว่าเจ้าสำนักดาบใหญ่นั้นเหนือกว่ามาก.
เหล่าเจ้าสำนักคนอื่น ๆ เองก็มาสังเกตการณ์เช่นกัน พวกเขาที่สนับสนุนเจ้าสำนักเฉินอย่างไม่ลังเล แม้แต่เสนอให้ใช้เวทีชำระแค้น เพื่อที่จะข่มเหงจุนซ่างเซียวอย่างทารุณโหดร้าย.
ผู้นำฉินเองก็ยังไม่จากไป เขาที่ยืนอยู่บนที่ไกลออกมาจดจ้องมองไปยังเวทีชำระแค้น.
บนชั้นสี่ของตึกแห่งหนึ่ง.
เซี่ยกวนคุนที่ยืนมือขัดหลังกล่าวออกมาด้วยความสงสัย “คน ๆนี้ไม่ใช่คนโง่ นี่เขาคิดจะประลองกับเฉินถงอย่างงั้นรึ?”
จากน้ำเสียงและสายตา เขาไม่ได้เข้าข้างจุนซ่างเซียวแต่อย่างใด.
เป็นเรื่องที่ธรรมดาเป็นอย่างมาก.
เจ้าสำนักระดับแปด สำนักดาบใหญ่ มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า ถือว่าเป็นยอดฝีมือในมนทลชิงหยางได้.
ส่วนจุนซ่างเซียว?
มีหลายอย่างที่เกินความคาดหมาย แม้นเขาจะสังหารเหว่ยอี้ซี่ แต่เหว่ยอี้ซีก็มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สองหรือสามเท่านั้น.
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางที่กล่าวเสียงเบา “ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยุ่งแล้ว.”
จุนซ่างเซียวที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้า กล่าวออกมาเล็กน้อย “ที่นี่คือเมืองชิงหยาง ไม่ใช่เรื่องยุ่งอะไร เปิ่นจั้วจะทำให้ทุกคนรับรู้ว่าคนพวกนี้ไร้ฝีมือขนาดใหน.”
จุนซ่างเซียว ที่ก้าวขึ้นเวทีชำระแค้น.
“ติ๊ง!”
“เปิดภารกิจสนับสนุน.”
จุนซ่างเซียวที่ยืนนิ่ง เปิดคอนโซลระบบ ภารกิจสนับสนุน เอาชนะเจ้าสำนักดาบใหญ่ เฉินถง 0 / 1 [ภารกิจระดับสูง].
เฉินถง.....
นับว่าเป็นคนที่มีฝีมือ.
แต่ภารกิจสนับสนุน เป็นภารกิจระดับสูง จุนซ่างเซียวที่แววตาลุกโชนขึ้นมาทันที.
สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดตอนนี้นะรึ? คะแนนสนับสนุนไงล่ะ!
เจ้าสำนักเฉินที่กระโดดขึ้นเวทีชำระแค้น กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “เจ้าสำนักจุน ต้องการประลองด้วยหมัดหรือว่าใช้อาวุธ?”
“อะไรก็ได้.”จุนซ่างเซียวกล่าว.
เจ้าสำนักเฉินกล่าวออกมาว่า “สำนักดาบใหญ่ของข้า แม้นว่าจะมีชื่อเสียงด้านการใช้ดาบใหญ่ ทว่าเฉินโหมวก็ไม่ต้องการเอาเปรียบเจ้าสำนักจุน พวกเรามาตัดสินแพ้ชนะกันด้วยหมัดก็แล้วกัน.”
“ตกลง.”
จุนซ่างเซียวที่ไม่มีความเห็นอะไร.
ภายในใจของเขาที่กำลังคิด “ระดับศิษย์ยุทธ์แต่ละขั้นจะยกระดับพลังขึ้น 1000-2000 จิน คำนวณคร่าว ๆด้วยระดับขั้นล่ะ 1500 จิน คำนวนจากระดับเปิดชีพจรไปจนถึงระดับศิษย์ยุทธ์ชั้นที่เก้า ฝ่ายตรงข้ามควรจะมีความแข็งแกร่งไม่เกิน 15,000 จิน.”
ระบบกล่าว “คนผู้นี้มีความแข็งแกร่ง 14,000 จิน.”
จุนซ่างเซียวที่ตกใจและกล่าวออกมาว่า “เจ้ามองเห็นด้วยรึ?”
“อืม.”
“แล้วไม่บอกก่อนหน้านี้ล่ะ ปล่อยให้ข้าคำนวณปวดหัวเลย.”
“โฮสน์ไม่ได้ถาม.”
“......”
จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก เขาที่กล่าวอยู่ในใจ “เช่นนั้นศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้ากับพลังเช่นนี้ จะจัดการเขาก็ไม่ใช่เรื่องยาก.”
จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้น “เริ่มกันได้ยัง.”
“เฉินถง.”
“จุนซ่างเซียว.”
หลังจากที่ขานชื่อกันแล้ว เฉินถงก็กำหมัดแน่น พร้อมกับสูดหายใจลึก เท้าที่กระทืบลงบนพื้น แผ่กลิ่นอายเป็นระลอกคลื่น ทำให้อากาศรอบ ๆ ราวกับกลายเป็นน้ำทะเล สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน.
ควรค่าที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า พลังวิญญาณที่แผ่ออกมานั้นหนักหน่วงรุนแรงกระจายออกไปทั่วลานประลอง.
หลี่ชิงหยางที่จ้องมองอย่างจริงจัง.
ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าสำนักเฉิน หากเปลี่ยนเป็นเขา ไม่เพียงไม่ชนะ อาจจะพ่ายแพ้ภายในวินาทีเดียว.
ซูเซียวโม่และเซียวจุ้ยจื่อเองก็คิดเหมือนกัน.
ความแข็งแกร่งของพวกเขาที่สามารถเอาชนะศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สอง หากแต่ต่อหน้าระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า กับไม่แม้แต่ทนรับแรงกดดันได้ด้วยซ้ำ.
“ขยะ.”
เย่ซิงเฉินที่เอ่ยขึ้นด้วยความเหยียดหยัน.
เมื่อครั้งที่เขาเป็นราชันย์ยุทธ์ขั้นปลาย กับระดับศิษย์ยุทธ์ระดับเก้าไม่แม้แต่อยู่ในสายตา ไม่ต้องใช้พลังวิญญาณด้วยซ้ำ เพียงนิ้วเดียวก็บี้อีกฝ่ายให้ตายได้แล้ว.
เฮ้ย ๆ พี่ชาย.
ยังไม่มองดูความจริงอีกรึ?
ตอนนี้เจ้าไม่ได้มีพลังระดับราชันย์ยุทธ์อีกแล้ว แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปก็จัดการเจ้าได้แล้ว.
ถึงในอดีตจะเป็นเช่นไร แต่กลับมาจุติในร่างคนธรรมดา ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นได้ยากขนาดนี้ ยังคิดอะไรอีก ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้ จะถูกคนอื่นรังแกจนใบหน้าเขียวช้ำไปหรอกรึ?
“ตูมมมมม!”
ไม่นานหลังจากนั้น บนเวทีชำระแค้นก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น!
จุนซ่างเซียวที่ยกแขนประสานป้องกันจากการโจมตีของเฉินถง ร่างกายที่ถูกผลักครูดไปบนพื้นผลักออกมา ราว ๆ หนึ่งก้าว.
“คงจะเจ็บละซิ!”
เอาแขนขึ้นตั้งรับเต็ม ๆ เห็นทำหน้าเหยเก จะต้องเจ็บอย่างแน่นอน.
“เจ้าสำนักเฉินยังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่ด้วยซ้ำ เขาก็ไม่สามารถรับมือได้แล้ว อ่อนแอจริง ๆ.”เจ้าสำนักคนอื่น ๆ ที่กล่าวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน.
พวกเขารู้ดี หากเป็นตัวเองที่มีเพียงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สอง.
กับหมัดของเฉินถงนั้น คงจะลอยกระเด็นไปแล้ว.
ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังไม่คิดว่าตัวเองอ่อนแอ ยังคงโอหัง พร้อมกับกล่าวหยันฝ่ายตรงข้ามแทน เพื่อปกปิดความอ่อนแอของตัวเอง.
“ไอ้หนูนี่อ่อนแอเป็นอย่างมาก ข้าต้องสะกดพลังบ่มเพาะเอาไว้ หากว่ามันกระเด็นตกเวทีไปก่อน แล้วข้าจะสั่งสอนมันได้อย่างไร?”เฉินถงที่วิ่งเข้าหาด้วยความเร็ว หมัดของเขาที่แผ่พุ่งพลังวิญญาณอาบไล้ล้นออกมา ทว่าเขายังคงใช้ความแข็งแกร่งเพียง 50%
เขาไม่ได้ต้องการชนะทันที เพราะท่าทีอหังการของจุนซ่างเซียว เขาจึงต้องการจะสั่งสอนทรมานจุนซ่างเซียวให้หนัก.
“ฟู่ ฟู่!”
หมัดที่เปี่ยมล้นด้วยพลัง แหวกอากาศเสียงดังหวีดหวิว.
จุนซ่างเซียวที่เผยใบหน้าอัปลักษณ์ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างชั่วร้ายมีเสน่ห์ขึ้นมาทันที.
หืม?
หัวใจของเฉินถงที่สั่นไหวเป็นระลอก.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่ก้าวไปด้านหน้า ฝ่ามือขวาที่กำหมัด แขนที่กล้ามเนื้อขยายขึ้นมา พลังวิญญาณที่ไหลไปทั่วแขนดังลั่นเปรี๊ยะๆ.
ฝ่ายตรงข้ามที่กำลังพุ่งมา จู่ ๆ พลังของเขาก็พุ่งสูงขึ้นพร้อมกับต่อยสวนออกไป.
ในเวลานี้ถึงแม้นว่าเฉินถงจะรู้สึกไม่ดี แต่ก็ไม่สามารถหลบได้แล้ว และยังไม่สามารถเพิ่มพลังวิญญาณจำนวนมากออกมาตั้งรับได้ทันด้วย.
“ตูมมมม-”
หมัดที่มีพลังมากกว่าหมื่นจิน กระแทกไปยังท้องของเขา.
พลังโจมตีที่หนักหน่วงรุนแรง กล้ามเนื้อที่รับแรงกระแทก ร่างของเฉินถงโก่งโค้ง ปากที่อ้ากว้าง ดวงตาที่แทบถลนหลุดออกมา.
เจ็บ อ๊าก!!!
“ฟิ้ว!”จุนซ่างเซียวที่ยกมืออีกข้างพร้อมกับทุบลงมาบนหลังของเฉินถง ใบหน้าหัวปักลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง.
“แฮก ๆ!”
เหล่าชาวยุทธ์ที่เวลานี้ต้องสูดหายใจเข้าไป.
เจ้าสำนักจุนที่โจมตีสองครั้ง พลังวิญญาณที่แผ่กระเซ็นไปทั่ว มันแพร่โจมตีไปทั่วเส้นชีพจรและกล้ามเนื้อทั่วร่าง เกรง ว่าอวัยวะทั้งห้าของอีกฝ่ายคงจะเสียหายอย่างหนักแล้ว!
เจ้าสำนักอื่น ๆที่คิดว่าเจ้าสำนักเฉินได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน พวกเขาที่ต้องการเห็นจุนซ่างเซียวถูกทุบทรมาน เวลานี้กำลังยืนมองงงงันเป็นไก่ไม้.
แทบจะในทันที พวกเขาเข้าใจว่า หมัดแรกที่เฉินถงปล่อยออกไปนั้น อีกฝ่ายจงใจเผยความอ่อนแอ เพื่อล่อให้อีกฝ่ายลดพลังโจมตีลงในครั้งถัดไป.
เซี่ยกวนคุนที่ขมวดคิ้วแน่น “การโจมตีสองครั้งนั้น ควรจะมีพลังราว ๆ 15,000จิน นี่เขาก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้าแล้วรึ?”
จุนซ่างเซียวที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่หก ทว่าที่พลังของเขาสูงนั้นเพราะแต่ละขั้นเพิ่มพลังขึ้นถึง 2000 จิน.
จะกล่าวให้ถูกต้อง.
พลังของเขาแต่ละขั้นนั้นสูงกว่ามาตรฐานของชาวยุทธ์ทั่วไปมาก.
เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า หนึ่งเขาใช้วิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็น อีกอย่างก็เพราะเขาใช้ห้องปั้นกล้ามเนื้อ.
เย่ซิงเฉิงที่สามารถมองเห็นได้ กล่าวออกมาอย่างจริงจัง “คาดไม่ถึงเลยว่าคน ๆ นี้จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เกรงว่าแม้แต่ในอดีตเมื่อเปิ่นตี้อยู่ในระดับนี้ ก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้.”
“อั๊ก!”
เฉินถงที่นอนกองบนพื้น กระอั๊กโลหิต ใบหน้ากลายเป็นซีดเซียว.
เมื่อเขาโจมตีอีกรอบ เขาใช้พลังวิญญาณ 50% ฝ่ายตรงข้ามที่เพิ่มพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นสูงโจมตีออกมา มันได้ทะลวงเข้ามาในเส้นชีพจรและอวัยวะทั่วร่างของเขา ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส.
จุนซ่างเซียวที่ย่อตัวลง กล่าวขอโทษ “เจ้าสำนักเฉิน ต้องขออภัย ข้าลงมือหนักไปหน่อย.”
“แก.....”
“ฟิ้ว!”
ขณะอีกฝ่ายจะพูด กับถูกจุนซ่างเซียวจับขาเหวี่ยงออกไปจากเวทีชำระแค้นทันที.
“พรึด โครม!”
เฉินถงที่ลอยออกไปกองอยู่บนพื้นนอกเวที ขณะพยุงกายจะลุกขึ้น แต่แล้วก็ฟุบหมดสติไป.
“ติ้ง! เอาชนะเจ้าสำนักดาบใหญ่ 1 / 1 [ภารกิจระดับสูง].”
“ติ๊ง! ยินดีกับโฮสน์ที่ทำภารกิจสนับสนุนสำเร็จ ได้รับ 50 แต้มสนับสนุน.”
“ติ๊ง! คะแนนสนับสนุนสำนัก: 177 / 500.”
สำเร็จภารกิจลับและภารกิจระดับสูง ทำให้เขาได้แต้มสนับสนุนมาถึง 100 แต้ม เป็นอะไรที่สุดยอดมาก จุนซ่างเซียวที่อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก จ้องมองไปยังเหล่าเจ้าสำนักคนอื่น ๆ พร้อมกับกล่าวยั่วยุออกมาว่า “ใครสนใจที่จะประลองฝีมืออีก?”
……