Chapter 87 นั่งก่อนแล้วค่อยพูด.
ผู้นำพันธมิตรฉินที่ได้เช่าตึกจันทร์ดาราทั้งหมด ด้านในไม่มีคนที่ไม่เกี่ยวข้องเลย.
บนชั้นสองมีโต๊ะกลมห้าโต๊ะ โต๊ะหนึ่งตรงกลางและอีกสี่โต๊ะอยู่รอบ ๆ มีโต๊ะตรงกลางที่มีคนนั่งคนเดียว ส่วนโต๊ะรอบ ๆ นั้นมีคนนั่ง โต๊ะล่ะแปดคน.
บนโต๊ะกลมตรงกลางนั้นมีเพียงฉินเห่าหรานที่นั่งอยู่ มือทั้งสองข้างที่วางบนโต๊ะ โน้มพิงด้านหลังเก้าอี้ ดวงตาที่หลับลงรอคอย แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมาเป็นระยะ ๆ.
รอบ ๆ มียอดฝีมือ 32 คน แต่ละคนมาจากแต่ละสำนัก แม้ว่าจะไม่ได้แผ่กลิ่นอายออกมาเท่ากับผู้นำแต่ก็ดูแข็งแกร่งไม่น้อย.
เพราะว่าตัวตนของพวกเขา กลิ่นอายที่แผ่ออกมากระจายล้นออกมานอกตึก.
ในเวลานี้ หากว่ามีคนทั่วไปผ่านมา เห็นค่ายกลและกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากพวกเขาคงตัวสั่นสะท้านไปแล้ว.
“ผู้นำพันธมิตรฉิน.”
ผ่านมานานแล้ว เจ้าสำนักดาบยักษ์อดไม่ได้ต้องเอ่ยปากออกมา “นี่มันจะบ่ายแล้ว เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งยังไม่มาอีกรึ?”
“คิดจะปล่อยให้พวกเรารอเก้ออย่างงั้นรึ?”เจ้าสำนักพยัคฆ์คำรามเอ่ย.
“ไม่มีทาง.”ผู้นำพันธ์มิตรฉินกล่าวอย่างหนักแน่น.
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเซี่ยกวนคุนด้วย เขาไม่มีทางที่จะปล่อยให้เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งผิดคำมั่นแน่.
“ชิ.”
เจ้าสำนักอีกคนที่กล่าวออกมาว่า “การประชุมพันธมิตรเป็นงานสำคัญ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาสาย ดูเหมือนว่า เขาจะไม่ให้ค่ากับพันธมิตรร้อยสำนักเป็นแน่!”
“เขามาเมื่อไหร่ ต้องถามให้รู้เรื่อง นี่เขาไม่รู้หลักปฏิบัติพันธมิตรร้อยสำนักเลยรึ?!”
“เอาล่ะ เจ้าสำนักทุกท่าน หากว่าจุนซ่างเซียวรู้หลักปฏิบัติพันธมิตร เขายังจะทำลายสำนักหลิงชวนอยู่อีกรึ?”
“มารดามันเถอะ มันกำจัดสำนักหลิงเชวน หากว่านิกายเซิ่งชวนตามมาเอาเรื่อง พวกเราไม่ต้องรับหายนะไปด้วยหรอกรึ?”
เหล่าเจ้าสำนักที่พูดคุย เอ่ยกล่าวถึงความชอบธรรมของตัวเองไม่หยุดหย่อน.
จากอารมณ์ของพวกเขา หากจุนซ่างเซียวมาถึงเวลานี้ แน่นอนว่าจะต้องได้รับโทษตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ที่จริงการเห็นสำนักอื่นถูกกำจัดไปไม่ได้ทำให้พวกเขาสนใจแต่อย่างใด แต่สิ่งที่พวกเขาไม่พอใจนั้น เพราะว่าสำนักหลิงชวนนั้นเกี่ยวพันธ์กับนิกายเซิ่งชวน.
นิกายเซิ่งซวน เป็นหนึ่งนิกายที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
ไม่ต้องเอ่ยถึงตัวตนระดับสูง เพียงแค่ศิษย์หลักคนเดียวลงจากเขา ก็สามารถข่มขู่เอาชีวิตพวกเขาได้แล้ว!
ใบหน้าของฉินเห่าหลานที่กลายเป็นเคร่งขรึมจริงจัง.
การจัดประชุมพันธมิตรครั้งนี้ เรื่องแรกคือต้องจัดการเรื่องสำนักหลิงชวน อีกเรื่องคือหาข้อแก้ตัวให้กับนิกายเซิ่งชวน.
“ตึก ตึก ตึก ตึก.”
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงขึ้นบันไดก็ดังขึ้น.
ฉินเห่าหรานและ 32 เจ้าสำนัก ต่างก็จดจ้องมองออกไปเป็นสายตาเดียว แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
จุนซ่างเซียวที่ก้าวขึ้นมา จดจ้องมองคนมากมายด้านหน้าพร้อมกับเอ่ยออกมาว่า “โทษที ข้ายังไม่พร้อม โปรดรอสักครู.”
แล้วนี้แต่งตัวอะไรของพวกมัน.
“กำลังกลัวอยู่งั้นรึ?”
“ชิ เกรงว่ามันจะหวาดกลัวจนไม่กล้าพบกับผู้นำฉิน.”
“ในเมื่อกลัว แล้วไปทำลายสำนักหลิงชวนทำไมกัน!”
“♫♫~♬ ♫~♬ ตึง ตึง ♫♫~♬ ♫~♬...” ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงดนตรีที่ลึกล้ำดังขึ้นไหลผ่านก้องอยู่ในหูทุกคน ทำให้เหล่าเจ้าสำนักที่ยืนขึ้น สายตาจ้องมองไปยังอีกฝั่ง อ้าปากค้าง.
เสียงดนตรีบรรเลงที่ดังก้องเหมือนกับเสียงดนตรีเปิดฉากที่เร่าร้อนปลุกใจ จุนซ่างเซียวสวมชุดคลุมขนสัตว์? ปากคาบบุหรี่มวนโตก้าวออกไปด้วยลีลามั่นคง.
การแสดงนี้ ดูไม่เลวเลย!
หลี่ชิงหยาง ซูเซียวโม่และเซียวจุ้ยจื่อก้าวตามไป.
ในเวลานี้ชุดของพวกเขาก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน พวกเขาที่สวมชุดสูทสีดำทั้งตัว และยังสวมแว่นตาดำ ราวกับกลุ่มของนักทวงหนี้!
ส่วนอดีตราชันย์ยุทธ์เย่ซิงเฉินที่ใบหน้าไม่สู้ดีนัก เดินตามมาห่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ.
มารดาเถอะ.
เสียเกียรติมาก น่าอายชะมัด!
และหลังจากดนตรีตลกเทวะจบช่วง ก็เปลี่ยนเป็นคำร้อง “อย่ามองฉันเหมือนแกะ......”
ที่มุมปากของจุนซ่างเซียวกระตุกและเอ่ยออกมาว่า “ปิด.”
กึก.
เครื่องเสียงถูกปิด ทุกคนที่กลายเป็นเงียบงัน.
ฝ่ายตรงข้ามผู้นำฉินและ 32 เจ้าสำนัก ดวงตาเบิกกว้างกลมโต แววตาแทบถลนออกมา ราวกับเห็นผี.
จุนซ่างเซียวที่ขยับไหล่ไปมา.
หลี่ชิงหยางที่ก้าวไปด้านหน้า ก่อนที่จะจับเสื้อขนสัตว์ของเจ้าสำนักให้กับคืนตำแหน่งเดิม.
“ฟู่!”
จุนซ่างเซียวที่พ่นควันบุหรี่เป็นวงกลม กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “ผู้นำพันธมิตรฉิน โต๊ะใหญ่ขนาดนั้น กับไม่มีเก้าอี้เตรียมไว้ นี่ไม่เข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ยุทธภพหรืออย่างไร?”
เจ้าสำนักหมัดเหล็ก ระดับเก้า ที่เอ่ยกล่าวออกมาเล็กน้อย “สำนักไท่กู่เจิ้ง คู่ควรจะมีที่นั่งอย่างงั้นรึ?”
ความจริงที่นั่งได้เตรียมเอาไว้แล้ว แต่ถูกเขานำออกไปอย่างจงใจ.
กับเรื่องดังกล่าว เจ้าสำนักคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นด้วยกับเขา.
ไม่ต้องบอกเลยว่าควรให้สถานะหรือไม่? ลำพังการกำจัดสำนักหลิงชวน ผิดกฎพันธมิตร ก็ไม่คู่ควรที่จะตีตัวเทียบพวกเขาแล้ว.
“จุ้ยจื่อ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เคลื่อนเก้าอี้.”
“ครับ.”
เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวออกไป.
เจ้าสำนักหมัดเหล็กที่กดที่นั่งเอาไว้ กล่าวออกมาว่า “คิดจะแย่งเก้าอี้ให้เจ้าสำนัก สิ่งนี้คือสิ่งที่ศิษย์อย่างเจ้าคู่ควรรึ?”
เหล่าอาวุโสจากสำนักอื่น ๆ ที่จับจ้องมองด้วยความสนใจ.
เจ้าสำนักหมัดเหล็กนั้นมีชื่อเสียงที่หมัดแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า มือของเขาที่กดเก้าอี้ไว้ ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งไม่มีทางที่จะเคลื่อนมันได้.
“โปรดเอามือออกไปด้วย.”เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย.
เจ้าสำนักหมัดเหล็กที่กำหมัด กล่าวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน “ต่อหน้าเจ้าสำนัก เจ้า......”
“ฟิ้ว!”
หมัดของเซียวจุ้ยจื่อที่เหวี่ยงออกไปในทันที ความแข็งแกร่งของกายเนื้อที่แหวกสายลม ความเร็วไม่ได้มากมายนัก หากแต่มั่นคงพัดฉีกอากาศพุ่งออกไป!
เจ้าสำนักหมัดเล็กที่ใบหน้าเปลี่ยนสี ยกมือขึ้นป้องกันเอาไว้.
“ตูมมมม!”มือของเจ้าสำนักหมัดเหล็กที่รู้สึกราวกับถูกค้อนเหล็กขนาดใหญ่ทุบลงมา เขาที่ปลดปล่อยพลังรับ ทว่ากลับถูก กระแทกลอยกระเด็นออกไปนอกหน้าต่างในทันที.
......
ที่ด้านนอกตึกจันทร์ดารามีผู้คนมารวมตัวกันอยู่ กำลังพูดคุยกันเสียงดัง พวกเขาที่เงยหน้าขึ้นไปมองบนชั้นสอง หน้าต่างที่แตกระเบิดออก มีคนที่ลอยกระเด็นออกมา ทันใดนั้นพวกเขาแทบตาถลนออกมา.
มารดามันเถอะ.
เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งเพิ่งมาถึง พันธมิตรก็เริ่มเลยรึ?
เริ่มแล้ว สู้กันแล้ว!
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มากมายที่กำลังจ้องมอง ทันใดนั้นก็งงเป็นไก่ไม้ เพราะว่าคนที่ร่วงลงมาจากชั้นสองนั้นไม่ใช่คนของสำนักไท่กู่เจิ้ง แต่เป็นเจ้าสำนักหมัดเหล็ก.
“อ๊าก....กล้าทำร้ายข้า!”
......
ภายในตึกจันทร์ดารา ที่กลายเป็นเงียบงัน
เหล่าเจ้าสำนักหลากหลายคนที่จ้องมองไปยังเซียวจุ้ยจื่อด้วยความงงงัน ขณะแย่งเก้าอี้กลับไป พร้อมกับส่งมอบให้กับเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง จากนั้นเขาก็กลับตำแหน่งเดิม กล้ามเนื้อแขนขวาของเขาที่เผยออกมานั้น ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
ทรงพลังแข็งแกร่ง!
“คน ๆนี้ ไม่ใช้พลังวิญญาณแม้แต่น้อย ด้วยพลังของกายเนื้อ ถึงกับสามารถต่อยระดับศิษย์ยุทธ์ลอยออกไป น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”เย่ชิงเฉิงที่ลอบอุทานด้วยความตกใจ.
จุนซ่างเซียวที่นั่งลงอย่างสบายใจ มือของเขาที่คีบบุหรี่ ขวายกไขว่ห้าง กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “สุภาพบุรุษและสภาพสตรี เปิ่นจั้วมาตามนัดหมายแล้ว.”
“โครม!”
เจ้าสำนักดาบใหญ่ที่ทุบลงบนโต๊ะเสียงดัง คำรามออกมาด้วยความโกรธ “จุนซ่างเซียว งานประชุมพันธมิตร ศิษย์ของเจ้ากระทำเกินไปแล้ว เจ้ายังเคารพกฎพันธ......”
ในเวลานั้นเสียงข่มขู่ที่เบาลงในทันที.
เพราะว่าเจ้าสำนักจุน ถือปืนพกอินทรีทะเลทรายในมือ ก่อนที่จะชี้ออกไป กล่าวออกมาว่า “นั่งก่อนแล้วค่อยพูด.”
เจ้าสำนักคนอื่น ๆ ถึงกับใบหน้าเปลี่ยนสี.
ต้องไม่ลืมว่าเกี่ยวกับสำนักหลิงชวนที่ถูกทำลายไป พวกเขาได้ยินเรื่องหนึ่งมา เกี่ยวกับการตายของเหว่ยอี้หนู นั่นก็คือแสงสีเงินจากอาวุธลับ.
สามารถสังหารผู้ฝึกยุทธ์เปิดชีพจรขั้นที่ 12 ในทันที อาวุธลับนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก.
เจ้าสำนักดาบใหญ่ที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ทว่าก็ค่อย ๆ เงียบและนั่งลง.
“ทำได้ดี.”
จุนซ่างเซียวที่เก็บปืน และยังคงพ่นควันบุหรี่ ปู้น ๆ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อนี่คือการประชุม มีคำพูดอะไร ก็รีบกล่าวออกมา?”
ผู้นำฉินที่ยังคงสุขุม กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม “เจ้าสำนักจุน สำนักหลิงชวนเจ้าเป็นคนทำลายอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ผิด.”
จุนซ่างเซียวไม่ได้ปฏิเสธ.
ผู้นำพันธมิตรฉินที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา “มันเป็นข้อห้ามพันธมิตร การที่เจ้าทำผิดกฎเช่นนี้ ควรจะรู้ไม่ใช่รึ?”
“รู้.”จุนซ่างเซียวตอบกลับ.
ผู้นำพันธมิตรฉินที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนมืดมน “เจ้าสำนักจุน ทำไมคิดจะต่อต้านพันธมิตรอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวที่ย่อเอว นำศอกขึ้นพิงขา ค้ำคาง กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เพราะว่าเป้าหมายของสำนักไท่กู่เจิ้ง หากมีใครหาเรื่องข้า ข้าก็จะตอบกลับไป ตาต่อตาฟันต่อฟัน.”
“......”
หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆที่มุมปากกระตุก.
นี่เจ้าสำนัก คิดจะเปลี่ยนเป้าหมายสำนัก ทุกวันเลยอย่างงั้นรึ? อ๊าก!