Chapter 85 ข้าไม่อาจควบคุมตัวเอง.
มนทลชิงหยางนั้นมีขนาดใหญ่มาก มีสำนักขนาดใหญ่และขนาดเล็กมากมาย หลายสิบปีก่อนมีการรวมตัวสร้างพันธมิตรขึ้นมา นำโดยสำนักเห่าฉี สำนักระดับหก และมีฉินเห่าหลานเป็นผู้นำรุ่นแรก.
เป้าหมายก็เพื่อสนับสนุนร่วมมือกัน พัฒนาสำนักในมนทลชิงหยางให้เติบโต.
นอกจากจากนิกายระดับสูง ไม่มีใครจะไม่สนใจเข้าร่วม ทุก ๆ สำนักภายในมนทลชิงหยางต่างก็เข้าร่วมและปฏิญาณตนสร้างกฎเกณฑ์ของตัวเองขึ้นมา.
แม้แต่หากมีสำนักใหนไม่เข้าร่วมพันธมิตรร้อยสำนัก ก็จะถูกดูแคลนเหยียดหยันจากสำนักอื่น.
เจ้าสำนักหวังผู้ก่อตั้งสำนักไท่กู่เจิ้งในอดีต ที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่ง ต้องลงทุนไปไม่น้อย เพื่อจะได้เข้าร่วม
ช่างน่าเสียดาย.
ความพยายามมากมายในครั้งนั้นได้สูญเปล่าในครั้งนี้.
เพราะว่ากฎเกณฑ์ร่วมกันของพันธมิตร การทำลายสำนักหลิงชวนของจุนซ่างเซียวเป็นการละเมิด และสร้างความไม่พอใจให้กับสำนักในพันธมิตร.
หลังจากที่ผู้นำพันธมิตรฉินได้ยินข่าว ก็โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.
เขาที่เดินทางไปเมืองชิงหยางเพื่อพบเจ้าเมืองเซี่ยเป็นการส่วนตัว โดยหวังว่าฝ่ายตรงข้ามจะลงมือ หากแต่กลับผิดคลาดที่ให้เขาลงโทษสำนักไท่กู่เจิ้งด้วยตัวเอง.
แม้นว่าจะได้รับการปฏิเสธ ทว่าเขาก็ยังไม่ยอม ด้วยสถานะของผู้นำ จึงได้ตัดสินใจเรียกเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งมาเจรจา.
หลังจากนั้นเขาก็ได้แจ้งไปยังเจ้าสำนัก เรียกตัวประชุมด่วน วางแผนเพื่อที่จะจัดการอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่เหนือกว่า.
เมื่อไม่สามารถใช้กำลังจัดการปัญหานี้ได้ ก็มีแต่ต้องใช้การเจรจาอย่างแยบยลในการจัดการ.
ผู้นำพันธมิตรร้อยสำนักได้เรียกตัวสมาชิกคนอื่น ๆ เพื่อมาสอบสวนเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง และกล่าวหาว่าเขาละเมิดกฎทำลายสำนักหลิงชวน ได้กระจายข่าวว่าเขาถูกเรียกตัวมาสอบสวนที่ตึกจันทร์ดารา ให้กระจายไปทั่วมนทลชิงหยาง.
“เป็นความจริงรึ? พันธมิตรร้อยสำนักลงมือแล้ว!”
“จุนซ่างเซี่ยวเจอปัญหาใหญ่แล้ว มีแต่ต้องได้รับโทษแน่.”
“ในความเห็นของข้า ผู้นำพันธมิตรฉินหวาดกลัวนิกายเซิ่งชวนจะมาชำระแค้น จึงได้ตัดสินใจที่จะลงโทษสำนักไท่กู่เจิ้งซะก่อน.”
“มีเจ้าสำนักอีกตั้งหลายคนที่เข้าร่วมการสอบสวนครั้งนี้ หลังจากนี้สามวัน ข้าคิดว่าพวกเขาจะต้องรวมหัวกันหาวิธีลงโทษอีกฝ่ายอย่างหนักแน่นอน.”
“การสอบสวนนี้เห็นชัด ๆ ว่าได้ตัดสินสำนักไท่กู่เจิ้งไปแล้ว.”
“ใช่ ใช่ นี่จะต้องรวมหัวกันลงโทษสำนักไท่กู่เจิ้งให้ได้แน่ ๆ!”
หลากหลายผู้ฝึกยุทธ์ที่พูดคุยกัน บางคนถึงกับคาดหวังว่าหลังจากนี้สามวัน ว่าพันธมิตรร้อยสำนักจะลงโทษจุนซ่างเซียวด้วยวิธีใหน.
......
สำนักไท่กู่เจิ้ง ห้องโถงหลัก.
หลังจากที่จุนซ่างเซียวกลับมาก็นั่งจมอยู่บนเก้าอี้เจ้าสำนัก พร้อมกับสีคางไปมาครุ่นคิด หลังจากนี้สามวัน เกรงว่า คงเป็นงานชุมนุมเจ้าสำนักแน่ ๆ.”
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางกล่าวเสียงอ่อน “ท่านไปทำลายสำนักหลิงชวนจริง ๆ งั้นรึ?”
“อืม.”จุนซ่างเซียวกล่าว.
หลี่ชิงหยางกล่าวอย่างจริงจัง “สำนักหลิงชวนเป็นหนึ่งในพันธมิตรร้อยสำนัก เจ้าสำนักกำจัดพวกเขาไป แน่นอนว่าจะต้องถูกบังคับให้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวแน่.”
จุนซ่างเซียวลุกขึ้นเดินมา ตบไปที่ไหล่ของเขาและเอ่ยออกมาว่า “มีเรื่องราวมากมายในสำนักให้เจ้าต้องคิดและทำ เจ้ายังคงมีจิตใจห่วงข้า เปิ่นจั้วขอบใจเจ้าจริง ๆ.”
หลี่ชิงหยางที่เผยแววตาตื่นตกใจ ราวกับสังหรณ์ใจไม่ดีนัก.
จุนซ่างเซียวที่กล่าวต่อ “เย่ชิงเฉิงนั้นมีความคิดที่ดื้อรั้น เจ้าเป็นศิษย์พี่รอง ควรจะสอนเขาอย่างเข้มงวด บางทีอาจจะมีเรื่องที่เขาละเมิดทำผิดกฎขึ้นมาก็ได้.”
ก่อนที่จุนซ่างเซียว จะก้าวเดินออกไปด้านนอก.
หลี่ชิงหยางที่ยืนงงอยู่กับที่ ครุ่นคิด “ละเมิดผิดกฎงั้นรึ?”
......
จุนซ่างเซียวที่กลับมาที่พักลานสวนด้านใน เขาที่เริ่มนั่งสมาธิ โคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นดูดซับพลังวิญญาณ.
“ฟู่ ฟู่!”
พลังวิญญาณจากสวรรค์และปฐพีที่ถูกดูดซับเข้ามา ปกคลุมไปทั่วร่างเขาช้า ๆ และค่อย ๆ ซึมหายเข้าไปในร่าง.
พลังวิญญาณที่ไหลผ่านเข้าทุกรูขุมขนทั่วร่างกาย ปกคลุมทั่วเส้นชีพจร และไหลไปรวมที่จุดตานเถียนควบรวมเป็นลมหมุนรวมผสานเข้าไปด้านใน.
ในทวีปชิงหยุนในแต่ละดินแดนยุทธ์ จะมีลักษณ์ที่แตกต่างกัน ในดินแดนศิษย์ยุทธ์ พลังวิญญาณนั้นจะเป็นลมหมุน.
กับลักษณ์ที่แตกต่างกันนี้ ยิ่งมีระดับที่สูงขึ้นพลังวิญญาณก็ต้องบริสุทธ์ขึ้นด้วย และจะทำให้ผู้ฝึกยุทธ์แข็งแกร่งไปอีกขั้น.
หลังจากที่จุนซ่างเซียวตัดผ่านระดับ เขาจำเป็นต้องพัฒนาพลังวิญญาณลมหมุนให้พัฒนาขึ้นไปอีก เพื่อที่จะตัดผ่านระดับไปยังขั้นต่อไป.
หลังจากบ่มเพาะไปชั่วขณะ.
เขาก็ส่ายหน้าไปมาไม่พอใจนัก “รากวิญญาณต่ำย่อมมีขีดจำกัด การจะยกระดับไปยังขั้นต่อไปก็เป็นไปได้ช้า.”
ระบบกล่าว “โฮสนค์ควรจะพิจารณารีเฟรชร้านค้า เพื่อค้นหายาเปลี่ยนพรสวรรค์ระดับกลาง.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่ทำการรีเฟรชร้านค้า.
“ติ๊ง!”
“คะแนนสนับสนุน : 140 / 500.”
เขาที่ใช้แต้มวันละสองแต้มเพื่อเปิดค่ายกลรวมวิญญาณและค่ายกลคุ้มสำนัก.
ในเวลานี้หลังจากที่สินค้าใหม่ในร้านค้าปรากฏขึ้น จุนซ่างเซียวก็เห็นสินค้าชิ้นหนึ่ง “เวทย์เปลี่ยนรูป เครื่องเสียง.”
เขาที่มีความอ่อนไหวกับคำว่าเวทย์เปลี่ยนรูปเป็นอย่างมาก จึงเร่งรีบคลิกตรวจสอบรายระเอียดทันที.
“สินค้า : เวทย์เปลี่ยนรูป เครื่องเสียง.”
“แนะนำ : เป็นอุปกรณ์กระจายเสียงเพลง.”
“ผล : เหมาะสำหรับทำกายบริหารตอนเช้าของศิษย์ หลังจากเปิดเครื่องเสียง จะกระจายเพลงตลกเทวะ ส่งผลต่ออารมณ์คนที่ได้ยินเสียง.”
“ผลลัพธ์พิเศษ : โฮสน์สามารถที่จะล็อกเป้าหมายในพื้นที่ร้อยเมตร เมื่อได้ยินเพลงตลกเทวะจะเป็นการล้างสมอง ทำให้ผู้ที่ได้ยินไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และจะต้องเต้นกายบริหาร.”
“ประสิทธิภาพ : เปิดใช้งานเป็นรายครั้ง.”
“จุดอ่อน เพลงตลกเทวะจะทำการรบกวนจิตใจของผู้ฝึกยุทธ์ ควรจะใช้เดือนละหนึ่งครั้ง เมื่อพลังฝึกตนลึกล้ำขึ้นจะสามารถป้องกันเพลงตลกเทวะจากการล้างสมองได้.”
“ราคา : 10 แต้มสนับสนุน.”
จุนซ่างเซียวกล่าว ”เพลงตลกเทวะล้างสมอง บางทีอาจจะใช้ได้ก็ได้.
เขาที่ตรวจสอบสินค้าอื่น ๆ ก็พบว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย จึงตัดสินใจซื้อเครื่องเสียงดังกล่าวไป.
หลังจากถูกส่งเข้าไปในแหวนเก็บของแล้ว จุนซ่างเซียวก็ทำการรีเฟรชสินค้าอีก ในที่สุดโชคก็เข้าข้างเขา สินค้าน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ เขาที่ตรวจสอบ เป็นสินค้าที่ใช้เปลี่ยนรากวิญญาณขนาดกลาง ราคาของมันมีมูลค่าถึง 50 แต้ม.
“ซื้อเลย.”
“ติ๊ง!”
“โฮสน์ใช้ 50 แต้ม ได้รับน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ 1 ......”
“ติ๊ง!”
“แต้มสนับสนุน: 80 / 500.”
จุนซ่างเซียวที่นำน้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ออกมาทันที ก่อนที่จะเปิดฝา พร้อมกับดื่มอย่างไม่ลังเล รสชาติยังคงอร่อยเหมือนกับน้ำผลไม้ที่กลมกล่อม.
“ติ๊ง!”
“โฮสน์ใช้น้ำยาเปลี่ยนพรสวรรค์ 1 รากวิญญาณได้ถูกปรับเปลี่ยนแล้ว!”
“เปลี่ยนเป็นรากวิญญาณระดับกลาง!”
“โฮสน์ตัดผ่านระดับไปยังระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่หก!”
พรสวรรค์เปลี่ยน ทำให้พลังบ่มเพาะของจุนซ่างเซียวยกระดับด้วย ทว่ายกระดับขึ้นเพียงขั้นเดียวเท่านั้น.
......
หลังจากที่รากพรสวรรค์เปลี่ยนเป็นระดับกลาง การเชื่อมต่อกับพลังวิญญาณในสวรรค์และปฐพีก็จะสูงขึ้น การบ่มเพาะในคืนดังกล่าว ผลลัพธ์ที่ได้ แสดงออกมาอย่างชัดเจน!
“ไม่เลว ไม่เลว.”
เขาที่ลุกขึ้นก้าวออกจากห้อง ด้านนอกดวงตะวันกำลังทอแสง อากาศที่กำลังรับแดดสูดอาการที่สดชื่น.
ขณะที่เขาก้าวออกมายังลานด้านนอก ก็เห็นเซียวจุ้ยจื่อออกมาจากห้องฝึกฝน เหงื่อที่โทรมไปทั่วร่างหายใจหอบ ๆ.
“ขยันขันแข็งดี.”จุนซ่างเซียวกล่าวชม.
ศิษย์หลาย ๆ คนที่ตื่นนอนแปรงฟัน และก้าวเดินมายังลานยุทธ์เพื่อฝึกฝนช่วงเช้าเป็นกิจวัติประจำวัน.
“เร็วเข้า ๆ.”
หลี่ชิงหยางที่ก้าวเดินออกมา ทว่าที่ด้านหลังเป็นเย่ชิงเฉิง ผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นราชันย์รัตติกาลที่ก้มหน้าก้มตา แววตาเผยความเย็นชาออกมา.
“เกิดอะไรขึ้น?”จุนซ่างเซียวกล่าว.
หลี่ชิงหยางกล่าว “เจ้าสำนัก หลังจากที่ศิษย์น้องเย่เข้าร่วมสำนัก ก็ไม่เคยมาฝึกฝนช่วงเช้าเลย ครั้งนี้ข้าจึงไปเรียกด้วยตัวเอง.”
“ชิ.”
เย่ชิงเฉิงที่แค่นเสียงกล่าวในใจ “เปิ่นตี้ที่น่าเกรงขาม ใยต้องมาฝึกฝนตอนเช้ากับพวกสามัญชนที่อ่อนแอด้วย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ซิงเฉิน ข้าคิดว่าเจ้ายังไม่ปรับตัวเข้ากับสำนัก.”
“แปะ ๆ.”
จุนซ่างเซียวที่ปรบมือเรียกทุกคน “เพื่อความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เปิ่นจั้วจะช่วยพวกเจ้าปรับบรรยากาศเอง.”
“ปรับบรรยากาศ?”
ทุกคนที่กลายเป็นงงงวย.
“กึก!”จุนซ่างเซียวที่นำเวทย์เปลี่ยนรูป เครื่องเสียงไปวางไว้บนแท่นของห้องโถง และอุปกรณ์ที่เหมือนดอกเห็ด ถูกนำขึ้นไปติดไว้บนหลังคา จากนั้นก็กล่าวออกมาว่า “นับจากนี้เป็นต้นไป ในการฝึกฝนช่วงเช้า ข้าจะเปิดเพลงที่ยอดเยี่ยมให้พวกเจ้าได้ฟังพร้อมกับฝึกฝน.”
ซูเซียวโม่ที่ก้าวเข้ามาใกล้ มองซ้ายมองขวา กล่าวออกมาว่า “เจ้าสำนัก สิ่งนี้คืออะไรกัน?”
จุนซ่างเซียวไม่ได้อธิบายใด ๆ ออกมา รอให้ศิษย์ชายหญิงออกมากันครบ จากนั้นเขาก็กดปุ่มบนเครื่องเสียง จากนั้นเสียงที่ดังกึกก้องเหมือนกับเสียงปืนใหญ่ก็ดังขึ้น ทันที ลำโพงที่เหมือนดอกเห็ดปล่อยเสียงออกมา.
ขยับหนึ่งครั้ง ขยับสองครั้ง ขยับสามครั้ง......
“มารดามันเถอะ!”
เสียงที่ดังออกมาจากลำโพงมันถูกส่งเข้ามาในหูซูเซียวโม่ มันดังวนไปมา ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ก่อนที่ร่างกายจะเริ่มขยับตาม.
แช่ แวบ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩ แช่ แวบ!
เสียงที่เป็นระลอกคลื่นเหมือนน้ำทะเล สาดซัดกระจายออกไป!
แช่ แวบ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩ แช่ แวบ!
เสียงดนตรีที่เป็นเพลงตลกเทวะระดับสูงก้องไปทั่วลานยุทธ์.
“ปัญญาอ่อน.”เย่ชิงเฉิงที่กล่าวเบา ๆ ออกมา.
ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นท้าวเอวข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งชี้ไปยังเขา กล่าวออกมาเสียงดัง “มา เต้น!”
ดวงตาของเย่ชิงเฉิงหดเกร็ง เขาไม่สามารถควบคุมขาตัวเองได้ มือทั้งสองข้าเองก็ขยับ จากนั้น....เขาก็เต้นไปตามเสียงเพลงที่ดังขึ้นในทันที.
อดีตราชันย์ยุทธ์ที่น่าเกรงขาม อยู่ในลานยุทธ์ กำลังเต้นด้วยความสนุกสนาน บางครั้งถึงกับยื่นมือขึ้น ขยับโค้งเป็นระลอกคลื่นไปทั่วร่างกาย!
ศิษย์ทุกคนที่จ้องมองไปยังเขา ใบหน้าที่เผยความตะลึงงันออกมา.
จากนั้นจุนซ่างเซียวก็ยกมือชี้ไปยังทุกคน กล่าวออกมาเสียงดัง “เด็ก ๆ ออกมาเต้นกัน!”
เสียงของเขาที่ดังก้อง ปกคลุมไปยังศิษย์ทุกคน.
จากนั้น ศิษย์ทั้งหนึ่งร้อยคน เมื่อได้ยินเสียงดนตรีตลกเทวะ พวกเขาก็ต้องขยับตามอย่างควบคุมไม่ได้!
“ศิษย์พี่รอง ร่างกายของข้าควบคุมไม่ได้ อ๊าก!”
“ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้!”
“ฮี่ ฮี่ สนุกจริง!”
“ไม่คาดคิดเลยศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็ออกมาเต้นด้วย อ๊าก!”